เย็นลมเหนือพัดโชยผ่านกิ่งไม้ เย็นเยียบเย็น
ตะวันโผล่พ้นฉายแสงเช้าละมุนอุ่นอ่อน
หากชีวิตหลายชีวิตโหยหา หวนหาความงามครั้งเก่าก่อน
แม้ผ่านนานหลายนาน กี่เดือนปี ความหลังยังคงกรุ่นกลิ่นหอม
นิ่งฟังสิ- -คล้ายยินเสียงนางฟ้าครวญเพลงแว่วมาแต่ไกล
ยังจดจำภาพเธอติดตาอยู่เสมอนะนางฟ้า
เธอผู้มีดวงตาสุกใสในวัยเยาว์ฝัน
แก้มเธอเปล่งปลั่งดั่งดอกไม้สีชมพูแย้มผลิหวาน
งามแสนงามในนามของความรัก
ที่เธอโปรยปรายแจกจ่ายให้ทุกคนคราพบเห็น
ยัง เป็น อยู่ เช่นนั้นใช่ไหม...นางฟ้า
จากเช้า สู่บ่าย ล่วงลับเย็น
ยามตะวันอำลาลับขอบเขาตะวันตก...ในเงียบนั้น
เรามองเห็นแสงงามอยู่กลางทุ่งเมฆฝัน
ยังระบำร่ายรำฝันอยู่อย่างนั้นเช่นเดิมอยู่ใช่ไหม...นางฟ้า
เหมือนมืออันอ่อนนุ่มของเธอกำลังถือพู่กันระบัด
ปาดป่ายแต้มแต่งสีระบายทุ่งเมฆพราวหลากสีสัน
อา...นางฟ้าตัวน้อย... ฉันยังมองเห็นเธอ...
นางฟ้าสีขาวผู้ระบายสีแห่งทุ่งเมฆฝัน.
หมายเหตุ : ผมอ่านบทกวีชิ้นนี้ในเช้าวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ณ สุสานหลิ่งกอก ซ.วัดอุโมงค์ เมืองเชียงใหม่
เนื่องในวันครบ 7 ปีรำลึกการจากไปของ น้องพอวา รัตนภิมล
สนใจ ทดลองฟังบทกวีในเสียงเพลง ชุด ‘นางฟ้าสีขาวกับรอยเท้าพระจันทร์’
ของ ‘สุวิชานนท์ รันตภิมล’ สดๆ ร้อนๆ ได้ที่... http://non.banleng.com