โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ
ช่วงนี้อยากดู Parasite หนังเกาหลีที่นานๆ จะกลับมาสร้างกระแสในบ้านเราได้ ผมเป็นแฟนหนังของบองจุนโฮ ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ แต่ไม่มีเวลาดูครับ เลยมาเขียนถึงหนังเกาหลีติดเรทกันบ้างในยุคที่หนังจากแดนโสมบุกตลาดจริงจังกัน
หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า Happy End ออกฉายปี 1999 ผลงานกำกับของ จุงจีวู และมีจำหน่ายในรูปแบบโฮมวิดีโอลิขสิทธิ์ในบ้านเรา ถ้าสมัยก่อนเดินตามซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ลดราคาแผ่นหนัง ก็จะซื้อได้ในราคา 20-50 บาท
ไม่ใช่หนังเกาหลีเรื่องแรกที่เคยดู แต่เป็นครั้งแรกที่เพิ่งทราบว่า เฮ้ย หนังเกาหลีใต้โป๊สะบัด แถมหาซื้อได้ในราคาขายไม่แพงอีกต่างหาก (ลองจินตนาการว่าสมัยก่อนการซื้อแผ่นหนังลิขสิทธิ์ หลายเรื่องเราไม่ทราบชะตากรรมได้เลยว่าจะมีแผ่นโมเสคมาบังตอนไหน)
Happy End เป็นหนังปีเดียวกับ Shiri หนังเกาหลีใต้ที่ทำเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเริ่มบุกตลาดต่างประเทศจริงๆ จังๆ ทำให้หนังในช่วงปีไล่เลี่ยกันนั้นเริ่มเข้าฉายในไทย บ้างก็ลงแผ่นในบ้านเรา หลังจากที่ก่อนนั้นหนังเกาหลีใต้หน้าตาเป็นไง แทบไม่มีใครรู้จักเลย หากเคยอ่านประวัติด้านนี้มาบ้างจะทราบว่าเกาหลีใต้เคยมียุคทองในการสร้างหนังแต่เพราะปัญหาทางการเมือง ทำให้มีการเซ็นเซอร์หนัง วงการหยุดพัฒนา บางเรื่องถูกทำลายทิ้ง จนมายุค 90s วงการหนังถึงได้ถูกฟื้นฟูขึ้นอีกครั้ง ทั้งการส่งเสริมคนทำหนังหน้าใหม่ การให้โควต้าฉายหนังเกาหลีในประเทศ และการให้ทุนจากภาครัฐ
ที่เกริ่นมาซะนานเพราะ บองจุนโฮ ผู้กำกับ Parasite ก็มีหนังแจ้งเกิดช่วงนี้เช่นกันนั่นคือ Barking Dogs Never Bite ในปี 2000 นับเป็นกลุ่มผู้กำกับรุ่นใหม่ และกลุ่มนักแสดงที่หลายคนยังคงมีบทบาทมาจนถึงปัจจุบัน
ผู้กำกับ จุงจีวู เองหลังจากทำหนังเรื่องนี้ซึ่งอยู่ในกลุ่มหนังทำเงินปี 1999 ก็มีหนังติดเรทที่ได้รับการพูดถึงในออนไลน์บ้านเรามากกว่าคือ A Muse (หนังปี 2012) ซึ่งเราจะหาโอกาสนำมาเขียนถึงต่อไป
หนังปี 1999 เรื่องนี้เปิดเรื่องมาอย่างชวนตกใจ เพราะเดินเรื่องไม่ถึง 1 นาที ชายหญิงคู่หนึ่งที่ฝ่ายเคาะประตูเรียกทำทีว่ามีธุระจะคุยด้วย แค่เข้าห้องก็ฟัดกันนัวเนีย กอดจูบแสดงฉากรักกันอย่างเร่าร้อน ชนิดที่ว่าถ้าดูในโรง เข้าช้านิดเดียวก็อาจอดดูฉากนี้แล้ว
ไม่ใช่กอดจูบ เผลอนิดเดียวทั้งคู่ก็ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้ากันเปลือยเปล่า เผยให้เห็นกันเกือบทุกส่วนสัด ถ่ายการกอดรัดของฉากเซ็กส์ซีนในระยะประชิด แม้จะเป็นแค่การแสดง แต่ก็เป็นแสดงฉากร่วมรักที่ชวนตื่นเต้น สมจริงอย่างยิ่ง
ก่อนหนังจะเผยว่าชายหญิงทั้งคู่เป็นชู้รักกัน โบรา เป็นสาวทำงานที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่ เธอมีชู้กับอดีตคนรักหน้าตาคมคาย อิลบอม ขณะที่ชีวิตคู่ของเธอนั้นหมดเยื่อใยกับสามีไปแล้ว
มินกี สามีของเธอมีชีวิตที่ย่ำแย่ เขาตกงาน กลายเป็นภาระกับภรรยา ทำหน้าที่เลี้ยงลูกน้อยไปวันๆ ช่วงกลางวันเดินเตร็ดเตร่ในสวนสาธารณะ หานิยายโรแมนซ์อ่าน พร้อมๆ กับความสงสัยเคลือบแคลงภรรยาที่แหนงหน่ายเขาอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
ฉากเซ็กส์ระหว่างโบราและชู้รักยังมีให้เห็นกันอีกสองฉาก แต่เซ็กส์ที่เร่าร้อนเมืื่อมันถูกใช้อย่างสมเหตุสมผลในภาพยนตร์ อารมณ์ความรู้สึกในฉากคล้ายเดิมนั้นก็เปลี่ยนไป
จากที่เรารู้สึกวาบหวิวไปกับฉากเหล่านั้น เราก็สัมผัสได้ถึงจิตใจที่ต้องการหาสิ่งมาเติมเต็มชีวิตที่หายไปของหญิงสาวที่ไม่ใช่ความรัก ความรู้สึกผิดต่อสามีและลูกที่นับวันจะยิ่งมากขึ้น ไปพร้อมๆ กับอารมณ์ความเจ็บปวดเคียดแค้นของฝ่ายชายที่แปรเปลี่ยนให้ฉากเซ็กส์เหล่านั้นมีความกดดันเพิ่มขึ้นทุกขณะ...ก่อนหนังจะจบลงอย่างน่าสลดผิดกับชื่อเรื่อง
ชอยมินซิค / จูจินโม และ จอนโดยอน สามนักแสดงหลักยังคงมีงานในหนังและซีรี่ส์เกาหลีจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ จอนโดยอน นักแสดงนำหญิงของเรื่องซึ่งในขณะที่เล่นนั้นเป็นดารามีชื่ออยู่แล้ว การรับบทในหนังเรื่องนี้นับเป็นการเล่นฉากโป๊เปลือยครั้งแรก(ก่อนจะตามมาในอีกหลายเรื่อง) เธอได้รับการยกย่องในฐานะนักแสดงสาวเจ้าบทบาทที่รับบทได้หลากหลาย และหนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกข้อพิสูจน์ความสามารถดังกล่าว ไม่แปลกที่ต่อมาเธอจะได้รางวัลการแสดงระดับนานาชาติอีกหลายครั้ง รวมถึงนักแสดงนำหญิงจากเทศกาลหนังเมืองคานส์
แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะสะดวกดาย ฉากเซ็กส์ที่ถือว่าแรงเอาการสำหรับดาราเกาหลี ย้อนกลับไปยี่สิบปีก่อนนิตยสารซุบซิบของที่นั่นก็เขียนนินทาเธอเกี่ยวกับฉากของหนังเรื่องนี้อย่างเสียๆ หายๆ จน จอนโดยอนเผยว่าเธอเองถึงกับจิตตกไปพักใหญ่ เมื่อผู้กำกับจุงจีวู ทำเรื่อง The Muse ในปี 2012 และฉากเซ็กส์ที่แรงไม่แพ้กันกับนักแสดงหน้าใหม่ คิมโกอึน เธอก็มาให้กำลังใจ และเตือนถึงผลกระทบตรงนี้ ซึ่งโชคดีที่นักแสดงสาวหน้าใหม่ไม่ได้ประสบปัญหาเช่นเดียวกับเธอ
Happy End เป็นหนังอีโรติคดราม่าทริลเลอร์ ที่นอกจากจะสะท้อนความเปลี่ยนแปลงในสังคมเกาหลีใต้ ผู้ชายอาจไม่ได้เป็นผู้นำครอบครัว ผู้หญิงแบกภาระหาเลี้ยง สังคมที่ความเจริญในเมืองใหญ่อาจทำให้ชีวิตถลำลึกสู่การกระทำที่ผิดต่อคนที่รัก
รวมถึง จอนโดยอนที่พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ต้องเป็นคนสวยคมคาย บุคลิกแบบสาวข้างบ้าน หากเข้าใจบทบาทตัวละครอย่างลึกซึ้ง รู้จักการดึงเสน่ห์จากภาษากาย ตัวละครของเธอก็ดูสวยและเย้ายวนขึ้นมาได้อย่างนไม่น่าเชื่อจริงๆ !
"โป๊ศาสตร์" พิศวาสความรู้คู่กามารมย์