Skip to main content

เล่าอดีตเว็บวันวาน
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ

เว้นระยะเรื่องเว็บไซต์ไปนาน ขอกลับมาด้วยเว็บในตำนานที่สารภาพว่าผมเองก็ไม่ได้ติดตามตลอด เป็นการบอกเล่าจากความทรงจำ และบทความของคนอื่นประกอบกั

ในช่วงที่ธุรกิจเว็บไซต์ของบ้านเราเริ่มตั้งไข่ เป็นโลกที่คนส่วนใหญ่ในประเทศยังมองว่าเป็นของแปลกใหม่ และไม่ค่อยได้ใช้อินเทอร์เน็ต ได้แต่รู้จักผ่านข่าวบ้าง คนเล่ามาบ้าง อินเทอร์เน็ตที่เปิดผ่านโมเด็มความเร็วยังช้าจนสุดจะทน (แต่ก็ทนได้เพื่อข้อมูลสำคัญ และสำหรับบางคนเพื่อภาพโป๊สักภาพ) คนเล่นส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มนักศึกษา และคนทำงานที่ต้องข้องเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เป็นหลัก

ช่วงเวลาราวปี ค.ศ.1997-1999 ที่เว็บต่างๆ ของไทยเริ่มกำเนิดเป็นกลุ่มต่างๆ ขึ้น ก็ได้กำเนิดเว็บอโคจรในตำนานที่ยังมีคนพูดถึงมาจนทุกวันนี้นั่นคือ "หลุดโลก"(Lhudlok.net)

จุดเด่นที่สำคัญมากในยุคนั้นของหลุดโลกคือการเป็นเว็บบอร์ดที่แรกๆ ในยุคที่กระดานข่าวนับเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยมากอย่างหนึ่งในการทำเว็บไซต์ ต้องยอมรับว่าเว็บบอร์ดของหลุดโลกมีผู้ใช้ในปริมาณที่สูง และมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่คนเข้ามากเข้าก็ล่ม แถมยังเปิดให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์ข้อความหยาบคาย ด่าทอกันได้อย่างค่อนข้างอิสระ

พูดถึงการใช้คำหยาบคาย เชื่อว่าคงมีคนไม่น้อยที่สงสัยแน่ๆ ว่ามันแปลกพิสดารยังไง ? -- ในยุคที่ทุกคนก็บ่นกันด้วยคำหยาบๆ ผ่านเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ หรือบอร์ดฟุตบอลกันเป็นปกติ ต้องย้อนไปยังในช่วงเวลานั้น หากใครได้เคยใช้เว็บพันทิป.คอม ก็จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจน เพราะเว็บพันทิปยังเข้มงวดเรื่องการตั้งกระทู้ การตอบมาก ใครที่ตั้งกระทู้ หรือตอบผิดกฎ ใช้คำหยาบก็จะถูกลบซึ่งแม้จะลดความเข้มงวดดังกล่าวลงไปแล้วในปัจจุบัน แต่ก็เป็นกฎที่พันทิปหนึ่งในกระดานข่าวยอดนิยมของไทยยังยึดถือมาตลอด ผิดกับบอร์ดหลุดโลก เราสามารถเห็นคนตั้งกระทู้ใช้คำหยาบ กู มึง เหี้ย ห่า คำหยาบทางเพศ เรื่องเล่าแบบโรคจิต การโพสเรื่องเสียวที่แต่งขึ้นเองในบอร์ดเหล่านี้โดยไม่ได้มีการแบ่งหมวดหมู่ เรียกได้ว่ามันคือสถานที่รวมของความไร้ระเบียบ โลกด้านมืดในสังคมออนไลน์ไทยราวกับสุกี้หม้อรวมที่ใส่ทุกอย่างลงไปในนั้น

ดังคำแนะนำก่อนเข้าเว็บบอร์ดโดยผู้ใช้นามแฝง "พระเจ้า" ว่า...

สหรัฐผู้ให้กำเนิดInternet ได้ระบุว่า Website คือเขตการนำเสนอเสรี แต่ทั้งนี้ ผู้ให้บริการ จะต้องมีการกำหนดนโยบาย (policy), ข้อตกลง (agreement) และ ขอบเขตของการให้บริการ (term and condition) ระหว่าง ตัวผู้ให้บริการ และ ผู้ใช้บริการ ทางสหรัฐได้บ่งบอกไว้ชัดเจนแล้วว่า ผู้ที่จะใช้บริการ จะต้องยอมรับในกติกาของผู้ให้บริการ ทุกเงื่อนไข และ ทำตามโดยเคร่งครัด โดยกติกาของผู้ให้บริการ สามารถนำมาใช้อ้างในกรณีเกิดข้อพิพาทได้

ที่นี่คือ "หลุดโลกบอร์ด" หรือ "เขตปลอดสุภาพชน" จะมีคำไม่เหมาะสม ถ้าท่านรับไม่ได้ โปรดกลับออกไป จุดประสงค์ ของ Webmaster ทำที่นี่ขึ้นมา เพื่อให้เพื่อนๆ ที่เหน็ดเหนื่อยจากเรียนและทำงาน ได้ระบายครับทั่น!!! ที่นิ่เป็นพื้นที่พิเศษ ที่มี แนวคิดเฉพาะแบบ แต่ละสังคมย่อมไม่เหมือนกัน ทางเราไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ต่อความเสียหายใดๆทั้งสิ้น ที่จะเกิดขึ้นใน สถานที่นี้ ข้อ ความทั้งหมดไม่สามารถใช้อ้างอิงถึงบุคคลใดๆได้ สำหรับผู้ที่เข้าไปชมแล้ว เกิดมีความคิดไม่ตรงกับเรา หรือรับ ไม่ได้ โปรดเข้าใจว่า คุณได้ยอมรับข้อตกลงแล้ว จึงไม่มีสิทธิที่จะโต้แย้ง หรือ มีความคิดต่อต้าน แต่จงคิดว่าโลกนี้มันมีอะไร ที่แตกต่าง ดั่งเช่นนิทานนี้

Once upon a time.... มีชายคนนึง เป่าปี่ ได้ไพเราะมาก เมื่อเดินเป่าปี่ผ่านไปยังบ้านใคร ก็จะมีผู้คนออกมาเต้นรำ ด้วยเสมอ ครั้นชายหูหนวกคนหนึ่ง เดินผ่านมา เห็นชาวบ้านเต้นรำกัน ก็นึกว่าคนพวกนี้บ้ากันหมด แล้วก็เดินจากไป.....

ตราบใดที่ท่านคลิก Enter เพื่อเข้าไปใช้บริการ หลุดโลกบอร์ด "เขตปลอดสุภาพชน" เราจะถือว่าท่านได้ยอมรับกฎกติกาของ สถานที่แห่งนี้ (ซึ่งเป็นกฎกติกาสากลที่ใช้กันทั่วโลก) โดยจะไม่มีข้อโต้แย้งภายหลัง...

...

ถึงจะเป็นเว็บที่คนพูดถึงในด้านลบ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าความนิยมของบอร์ดสูงลิบลิ่ว เผลอๆ ในบางช่วงได้รับความนิยมกว่าเว็บบอร์ดพันทิปเสียอีก ดูได้จากภาพ "หม้อสุกี้" และการ "รีเฟรช" หน้ากระดานข่าว

"หม้อสุกี้" หรือ "หม้อไฟ" คือภาพสัญลักษณ์แทนกระทู้ที่ได้รับความนิยม มีพูดมาโต้ตอบสนทนาในปริมาณที่มากพอ ซึ่งนับว่าโดดเด่นในสมัยนั้น และกระทู้ที่ได้รับความนิยมก็มีหลากหลายประเด็น ตั้งแต่เรื่องเพศ หรือถกเถียงกันในเรื่องบันเทิง การเมือง หากใครสนใจตามหม้อสุกี้เหล่านี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการอ่านจนไม่เป็นอันทำงานทำการ

และหากใครเคย "รีเฟรช" หน้ากระดานข่าวของบอร์ดหลุดโลกจะพบความน่าทึ่งว่าหน้าเว็บมีกระทู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นเร็วมาก ผ่านไปไม่กี่สิบนาที กระทู้ใหม่ๆ ก็มาแทนกระทู้หน้าเก่าจนหมด

กระทู้ที่กลายเป็นมุขทะลึ่ง เถื่อนๆ ในตอนนั้นหลายมุข หลายคำหยาบสุดครีเอทีฟยังสืบต่อมาจนทุกวันนี้ เช่น ไอ้หน้าหนัง Hee, เด็กเห่อ [moi], เว็บขี้เท่อ ส่วนกระทู้ที่ผู้เขียนจำได้จะมี อาทิ

ดักเหี้ย จะมีขาประจำที่โพสต์หลอกว่ามีภาพหลุดจากพี่สู มือกลองในตำนาน(เคยเป็นข่าวแอบถ่ายนักเรียน) ชุดใหม่ พอเข้าไปก็โดนด่าว่าไอ้เหี้ย ไอ้โรคจิต บ้างมีภาพตัวเงินตัวทองเป็นของกำนัล จนเป็นที่มาของวลีสุดฮิตว่า "ดักเหี้ย"

โจร นามแฝงของคนที่ชอบหนังเอวีแนว[ชำเรา] ชอบโพสต์ภาพจากหนังเอวีตระกูล ซึ่งในอดีตไม่ได้มีเยอะเหมือนทุกวันนี้ พร้อมๆ กับเขียนเรื่องเสียวแนวดังกล่าว บ้างอ้างอิงชื่อดาราที่มีตัวตนอยู่จริง

บางคนเล่าเรื่องเป็นซีรี่ส์ต่อเนื่องทุกวันราวกับคนเป็นโรคจิตอยากระบายเรื่องของตน ที่อ้างว่าแอบหยิบแคร์ฟรีของคนในบ้าน หรือในห้องน้ำหญิงมาสูดดม

เป็นต้น

ว่ากันว่าหลายคนที่ตั้งกระทู้พวกนี้มาจากวงการนักเขียน ครีเอทีฟ ที่ปัจจุบันหลายคนเป็นนักเขียนชื่อดัง บางคนเช่น "จ่า..." จากเพจ D... A... ก็หยิบยืมชื่อ และภาพโปรไฟล์ ชาร์ลส แมนสัน ของคนในบอร์ดนี้มาใช้

หนึ่งในกระทู้ที่แสดงให้เห็นว่าคนมาเล่นเว็บบอร์ดนี้หลายคนไม่ใช่โรคจิต หรือคนหื่นกาม เพียงด้านเดียวก็คือกระทู้ด่าโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อหนึ่ง เนื่องจากเป็นโฆษณาที่ดูจบผู้ชมส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ จนถึงขั้นมีคนที่ทำงานครีเอทีฟโฆษณาตัวนี้มาชี้แจงในบอร์ดหลุดโลกว่าเจตนาต้องการโจมตีระบบเซ็นเซอร์ทำให้โฆษณาไม่ผ่านเสียที แต่โดนคนในบอร์ดตอกกลับด้วยเหตุผลต่างๆ ไปจนกระทู้ที่พูดถึงเหตุการณ์ทางการเมืองในอดีต แม้ไม่ได้คุยกันเป็นสาระจริงจัง แต่ก็มีหลายคนนำเสนอมุมมองนอกตำราเรียนให้ผู้ใช้บอร์ดได้อ่านพอสังเขป

หากจะอธิบายเว็บแห่งนี้จุดเหมือนสถานที่ปลดปล่อยของผู้คนบนโลกออนไลน์ เหมือนไปเดินท่องราตรีย่านที่เป็นแหล่งอโคจร บางคนชอบอยากลองประสบการณ์ใหม่ๆ ก็เดินไปยังซอกซอยหนึ่งตามแต่รสนิยม แต่ส่วนใหญ่เดินเพื่อพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูง หาคนคุยอย่างเป็นกันเองไม่ต้องพูดจาสุภาพกัน มึงมาพาโวยกันได้ คล้ายเป็นประสบการณ์สนุกผ่านเส้นสีเทาๆ

อย่างไรก็ตามสุดท้ายเว็บแห่งนี้ก็มีการแบนและลบกระทู้ ผ่านการร้องเรียนไปยังเว็บมาสเตอร์ที่ถูกเรียกว่า "เว็บขี้เท่อ" และทีมงานที่คอยทำหน้าที่ดูแลเว็บบอร์ดที่เรียกว่า "ทีมบี" โดยเฉพาะกรณีที่ดังสุดคงไม่พ้นการที่ "บก...." นักกิจกรรมทางสังคมที่ร้องเรียนเว็บไซต์แห่งนี้กรณีที่มีภาพ...ทางเพศของเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีการโต้เถียงกันผ่านทางเว็บพันทิป กับเว็บหลุดโลก ก่อนที่เว็บจะกลายเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ และโดนปิด และย้ายหลายครั้ง เช่นย้ายในชื่อซับโดเมนว่า ....com.lhudlok พร้อมๆ กับความระมัดระวังที่มากขึ้นเป็นเงาตามตัว หลายกระทู้เมื่อถูกลบ ผู้ใช้หลายรายก็แยกตัวไปสร้างเว็บบอร์ด หรือเว็บไซต์กันเองตามแต่รสนิยมของแต่ละคน เช่น บอร์ดซังกะบ๊วย บอร์ดโจรหลุดโลก ฯลฯ

ในอีกด้านคงปฏิเสธไม่ได้ว่าความรุ่งเรืองของบอร์ดหลุดโลกเกิดขึ้นในยุคที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นรูปธรรม การเกิดขึ้นของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือกระทรวง ICT ในปี ค.ศ.2002 (ปี พ.ศ.2545) มีการนำประเด็นการปิดเว็บโป๊ และเว็บอโคจรออกสื่อโทรทัศน์ โดยเฉพาะกับรายการ "ถึง...ถึง..." ส่งผลให้บอร์ดหลุดโลกถูกเพ่งเล็งมากกว่าแต่ก่อน ตัวบอร์ดหลังจากย้ายหนีก็เสื่อมความนิยมลงเรื่อยๆ และถูกปิดอย่างถาวรในช่วงหลังรัฐประหารปี 2549 ทิ้งไว้เพียงตำนานที่ถูกเล่า และมุขบางมุขที่เล่าสืบกันมาในออนไลน์เท่านั้น

อ้างอิง
https://web.....org/web/20010203152100/http://.../
https://www.facebook.com/.../posts/.../
https://prachatai.com/journal/2009...1

ภาพจาก
https://pantip.com/topic/34796582

"โป๊ศาสตร์" พิศวาสความรู้คู่กามารมย์

 

บล็อกของ กลุ่มนักโป๊ศาสตร์

กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิกูฉะดะยูอิ อุเอฮาระ โชคชะตาของเอวีหน้าเหมือนดาราดัง
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิกูฉะดะFaleno + โทรุ มุรานิชิ
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะหากจะนับว่าหนังเรื่องไหนได้รับการยกให้เป็นหนังอีโรติก หรือพิงค์ฟิล์มเรื่องแรกของญี่ปุ่น คำตอบคือผลงานของ ซาโตรุ โคบายาชิ ในปี 1962 ที่ชื่อว่า 肉体の市場(Nikutai no Ichiba) หรือ Flesh Market ที่อาจตั้งชื่อไทยได้ว่า "ตลาดโลกีย์"
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
 ฮิโตมิโตกูฉะดะ
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ.
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ.
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ..
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ(ขึ้นต้นชื่อเรื่องอาจทำให้เข้าใจผิด ปัจจุบันเธอหายแล้วนะครับ).