Skip to main content

ชวนมากินกันต่อดีกว่า

 

คราวนี้กินถั่วงอกผัดเห็ดสามอย่างค่ะ ดูเป็นอาหารธรรมดา ๆ นะคะ แต่พิเศษก็ตรงที่ เป็นอาหารที่ประกอบด้วยเห็ดสามอย่างนะคะ ความจริงแล้วอาหารเห็ดสามอย่างที่กินเป็นยานี้ เขาว่าหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันเป็นดีค่ะ แต่ไม่เป็นไรใช้น้อย ๆ เราเน้นความอร่อยด้วยค่ะ

ที่พิเศษคือถั่วงอกเพาะเองค่ะ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ วันหนึ่งฉันไปเที่ยวบ้านเพื่อน ได้คุยกับคนทำงานที่บ้านของเขา ชายหนุ่มเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนเขาทำงานโรงงานเพาะถั่วงอกค่ะ เขาเล่าได้น่ากลัวมาก น่าสยอง เพราะเขาให้ทั้งฮอร์โมน ให้ปุ๋ย ให้สารฟอกขาวด้วย

 

แค่ถั่วงอกอะไรกันนักกันหนา”

ฉันพูดอย่างขำ ๆ มันต้องใช้กันขนาดนั้นเชียวหรือ เขาบอกว่าถ้าไม่ทำอย่างนี้จะทำให้ถั่วไม่อวบอ้วน ไม่ขาวสวย ไม่น่ากิน ไม่กรอบสด

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่กินอาหารถั่วงอกฉันก็กินด้วยความไม่สบายใจนัก เพราะคิดถึงอวบขาวนี้แหละ หลังจากนั้นฉันก็พยายามหลีกเลี่ยงการกินถั่วงอกแต่ถั่วงอกก็ติดกับอะไรต่ออะไรเสมอ เช่นว่า ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีนน้ำยา ขนมจีนน้ำเงี้ยว ผัดไทย เป็นต้น

 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปเที่ยวกาดงัว (ตลาดวัว) อีกชื่อหนึ่งคือตลาดทุ่งฟ้าบด เป็นตลาดโบราณที่มีขายทุกอย่าง อายุของตลาดนี้ครบห้าสิบปีพอดี ตลาดเปิดในปี 2502 แรกเริ่มเดิมทีเป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนวัวควาย แต่เดี๋ยวนี้ก็ยังอยู่ด้านหลังสุดของตลาด



โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบกาดแบบนี้เป็นพิเศษ กาดที่อยู่บนดิน ขายของแบบเข้าถึงเลือกคลำได้ ต่อราคากันได้ ถ้าวันเสาร์ไหนอยู่บ้านฉันก็ขอตื่นเช้าไปเดินกาดงัว ยิ่งเดินคนเดียวยิ่งสบาย เพราะจะได้เดินไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบร้อน

 

ตลาดงัวมีทุกวันเสาร์ แต่เสาร์นี้พิเศษมีรายการไทยมุงมาถ่ายทำสารคดี ออกอากาศช่องไทยทีวี ฉันเดินตามกล้องเพราะเพื่อนที่ถูกรับเชิญไปอยากได้ภาพนิ่ง

 

ฉันมาที่นี้หลายครั้งแล้วแต่ก็ยังตื่นตาตื่นใจเพราะเดินไม่เคยทั่วสักที วันนี้รายการไทยมุงนัดตรงที่ขายมอเตอร์ไซค์มือสองซึ่งก็ไม่เคยไปเหมือนกัน มีรถหลากหลายมาก ที่แต่งไว้สวย ๆ ก็มี ออกจากขายมอเตอร์ไซค์ก็เดินกันไปเรื่อย ๆ กล้องไปไหนไปนั่น แต่ที่ฉันหยุดซื้อในวันนี้คือถั่วงอกค่ะ เขามีวิธีเพาะถั่วงอกที่น่ากินยิ่งค่ะ

 

ซื้อแล้วขอวิธีทำมาด้วย ขอวิธีทำมาแล้วก็ยังงง ๆ อยู่ว่า ระหว่างตาข่ายกับกระสอบอันไหนอยู่ก่อนอยู่หลัง โชคดีที่เพื่อนซึ่งเป็นพิธีกรรับเชิญรายการไทยมุงสนใจด้วย วันต่อมาเพื่อนไปซื้ออุปกรณ์มาพร้อม เริ่มจากตาข่ายและกระสอบ

ตัดตาข่าย กับกระสอบเท่า ๆ กัน ชั้นที่หนึ่งคือตาข่าย ชั้นที่สองคือกระสอบ ชั้นที่สามคือตาข่ายอีก เอาใส่ลงไปในตะกร้า ถั่วเขียวแช่โรยลงไปให้ทั่ว แล้วเอาไปปิดไว้อย่าให้แสงเข้า และต้องรดน้ำทุกวัน พอมันงอกออกมารากมันจะแทงลงไปในกระสอบ คราวนี้เมื่อเราจะกินก็ตัดรากทิ้งได้เลย


ฉันได้โอ่งเก่าก้นรั่วมาสองใบ จึงเอาตะกร้าเพาะถั่วงอกใส่ลงในโอ่ง เปิดดูรากของมันเมื่อรดน้ำ ดีใจที่เห็นรากมันค่อย ๆ แทงลงไปด้านล่างเพื่อหากระสอบ

 

คราวนี้ฉันก็ได้ถั่วงอกที่ไม่อวบแต่หัวโต เอาละคราวนี้ถึงตอนที่ทำอาหารกินกันแล้ว


ผัดถั่วงอกเห็ดสามอย่าง เพื่อล้างพิษในร่างกาย
เริ่มกันที่กระทะ น้ำมันเล็กน้อย ตอกไข่ลงไป ดูว่าไข่ใกล้สุก ตามลงไปด้วยเห็ด พอเห็ดสลบ คราวนี้เป็นทีของถั่วงอก ตามลงไปติด ๆ เพิ่มรสเผ็ดตามสูตรคนกินเผ็ดด้วยการทุบพริกขี้หนูลงไปสักห้าหกดอก ใครกลัวเผ็ดก็ไม่ต้อง ปรุงรสสักนิดด้วยซีอิ้วขาวเห็ดหอม

ถึงเวลามากินกันเถอะ

 

 

 

 

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
“รู้สึกว่า ปีนี้ ไม่ค่อยจะมีความสดชื่น รื่นเริง  ความรื่นเริงและความสุขดูเหมือนจะหายไป ลุงรู้สึกเช่นนั้นไหม”ลุงว่า ใครมันจะมารื่นเริงอยู่ได้ในสถานการณ์เมืองไทยเป็นเช่นนี้ หมายความว่า น่าจะมาจากการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศ โดยเฉพาะการเมืองที่สับสนและดูไม่กระจ่างใส  เป็นความเครียดทางสังคม เครียดจากการปกครองโดยทหารที่ลึกลงไป และเข้าใจว่า แม้จะยอมรับก็ยอมรับแบบหวานอมขมกลืน และยิ่งเครียดเข้าไปอีกเมื่อมีการเลือกตั้งในช่วงใกล้ปีใหม่ ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นของฝ่ายไหนก็ไม่น่าจะทำให้ใครสบายใจได้ เมื่อประชาชนถูกแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนมากขึ้น…
แพร จารุ
  ฉันรู้สึกว่ามันเป็นช่วงปีใหม่ที่ไม่รู้สึกสดชื่นนัก ดูเหงา ๆ วังเวง ในท่ามกลางงานเลี้ยงรื่นเริงที่มีอยู่และเป็นไปตามวาระของมัน ความรู้สึกอย่างนี้มันอยู่ลึกลงไปแต่ฉันสัมผัสได้อย่างเย็นเยียบจริง ๆ ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้สึกหรือไม่ หรือว่าฉันรู้สึกอยู่คนเดียว ว่าเป็นปีใหม่ที่ไม่มีความรื่นเริงอยู่จริง มันหดหู่อยู่ภายในหัวใจอย่างไรไม่รู้ คล้ายรู้สึกว่า ความเศร้ามารอคอยเคาะประตูอยู่หลังบ้าน... หลังจากงานรื่นเริงจบลงฉันถามตัวเองหลายครั้งว่าความรู้สึกนี้เป็นจริง หรือว่าฉันกำลังจะป่วยด้วยอาการกลัวหรือกำลังจะเป็นโรคซึมเศร้า อะไรทำให้ฉันคิดอย่างนั้น หรือเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจของตัวเอง…
แพร จารุ
ฉันได้รับหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า อาหารบ้านฉัน  เป็นสูตรอาหารพื้นถิ่น ของกินจากป่าหลังบ้าน และที่สำคัญกว่านั้น เขียนว่าอร่อยไปถึงหัวใจ “ฉันเติบโตมาจากอาหารที่หลังบ้าน เธออยากรู้ไหมว่า อาหารบ้านฉันอร่อยแค่ไหน  เธอไม่ต้องกลัวหรอก บ้านฉันมีอาหารมากมาย กินกันอย่างไม่หมด” หนังสือเล่มนี้ มีผู้ร่วมดูแลหรือผู้ร่วมทำงานด้วย เขาคือ ธนภูมิ อโศกตระกูล เป็นคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญด้านอาหาร โดยเฉพาะอาหารสุขภาพ การกินอยู่แบบง่าย ๆ เช่น จานอร่อยปลอดเนื้อ มหัศจรรย์แห่งเต้าหู้ เจไม่จำเจ เป็นต้นธนภูมิ อโศกตระกูลเขาเล่าว่า “ได้เข้ามาเที่ยวในแม่เหียะใน เมื่อประมาณสองปีที่แล้ว…
แพร จารุ
“หนาวไหม หนาวหรือยัง”“หนาวแล้ว เชียงไหมหนาวแล้ว”“ฉันจะไปเชียงใหม่”บทสนทนาหนึ่ง ที่เราได้ยินได้ฟังอยู่เสมอ รายงานข่าว ขณะนี้ยอดดอยอากาศหนาวมาก โดยเฉพาะดอยสูงอุณหภูมิติดลบแล้ว เกิดน้ำค้างแข็ง มีคำถามว่า นักท่องเที่ยวหรือคนที่จะมาเชียงใหม่ควรได้รับรู้ข่าวคราวอะไรบ้างนอกจากว่า หนาวแล้วหรือหนาวกี่องศา ชายคนหนึ่งพูดขึ้นในยามบ่าย เขาพูดต่อว่า ถ้าอยากให้คนอื่นที่มาเที่ยวเชียงใหม่ รู้ว่าเขาควรจะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลเมืองและรักเมืองนี้ เราต้องให้ข่าวสารเขามากกว่านี้  เราควรต้องทำงานกับสื่อให้มากว่านี้  เขาเป็นหนึ่งในคนทำงานภาคีฯการมุ่งเน้นให้คนเชียงใหม่ดูแลเมืองเชียงใหม่…
แพร จารุ
มีเพื่อนผู้หวังดีส่งเมลมาว่า ให้เขียนเรื่องดี ๆ เพื่อเมืองเชียงใหม่บ้าง ทำไมถึงมองไม่เห็นความงามของเมืองบ้าง  ฉันจึงเขียนบทความชิ้นนี้ขึ้นมา               1ถ้ามองลงมาจากฟ้า เราจะเห็นเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ตรงกลาง มีป่าดอยสุเทพอยู่ทางตะวันตก มีแม่น้ำปิงไหลผ่านทางตะวันออก  ช่างเป็นเมืองงดงามที่สมบูรณ์ เล่ากันว่า เดิมทีผู้คนในเมืองนี้อยู่กันอย่างสงบสันติ แต่แน่นอนเมืองที่ดีงามเช่นนี้ ย่อมมีผู้คนต้องการ เข้ามาอยู่มาครอบครอง โดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติบนดอยสูง หลายร้อยปีต่อมา เมืองเชียงใหม่เติบโตอย่างรวดเร็ว…
แพร จารุ
ขอบอกก่อนว่า เป็นเรื่องเล่าที่ไม่มีสาระอะไรเลย เล่าเรื่องนี้ เพราะวันพิเศษเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ถือว่า เป็นการผจญภัยในดินแดนที่รื่นรมย์เลยทีเดียวฉันจะเรียกเขาว่า แขกพิเศษ เพราะเป็นการมาเยือนแบบไม่คาดคิดมาก่อน และต่างมาในวันเดียวกันด้วย อีกทั้งไม่ได้นัดหมายมาล่วงหน้า ต่างมาแบบตั้งตัวไม่ติดทั้งนั้น แขกคนที่หนึ่ง เขาเดินทางมาด้วยรถมอเตอร์ไชค์ มาถึงก่อนที่เจ้าของบ้านจะทันตื่น ได้ยินเขาส่งเสียงตะคอก เจ้าสองตัวแม่ลูก ที่ทำหน้าที่เฝ้าบ้าน มันเห่าเสียงแหลมเล็กตามแบบของหมาเล็ก และยังเยาว์ ฉันว่าคนเลี้ยงหมาทุกคนไม่ชอบให้ใครตะคอกหมา และยินดีที่มีคนรักหมาของตัวเอง…
แพร จารุ
ไม่รักไม่บอก  เออ...เหมือนมีใครมาพูดอยู่ข้างหู บอกว่า ฉันรักเธอนะจึงบอก แต่ว่าเรื่องที่ฉันจะบอกนั้น เธออาจไม่ชอบ เธออาจจะโกรธฉัน  แต่ที่ฉันต้องบอกเพราะว่า ฉันรักเธอและปรารถนาดีต่อเธอจริง ๆ “ฉันไม่บอกไม่ได้แล้ว”ถึงตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกรำคาญใจ พูดพร่ำอยู่ทำไม อยากบอกอะไรก็บอกมาเถอะ ใช่...ไม่รักไม่บอกค่ะ เป็นชื่อหนังสือเล่มเล็ก ๆ บาง ๆ มีการ์ตูนน่ารักๆ เปิดไปหน้าแรก ผู้เขียนบอกว่า ที่ทำหนังสือเล่มนี้ เพราะว่า ความสัมพันธ์ของมนุษย์เป็นเรื่องน่ารัก มีเรื่องดีงามที่เขาค้นพบอยู่มากมาย เขาเล่าถึงเรื่อง เด็กชายคนหนึ่ง ตามแม่ไปซื้อของที่ร้านเกษมสโตร์ เขากินไอศกรีมรอแม่…
แพร จารุ
เรื่องขยะ ๆ มันโดนใจใครต่อใครหลายคน หลังจากที่เขียนเรื่อง แปดสิบบาทกับผู้ชายริมทางรถไฟ และในเรื่องมีขยะ ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แพร จารุ
“สุชาติ สวัสดิ์ศรี” ยืนล้วงกระเป๋าเสื้ออยู่ริมทางรถไฟ ในขณะที่รถไฟกำลังมา  เป็นภาพปกหนังสือ ฅ คน ที่ทำให้ฉันต้องนับเงินในกระเป๋าให้ครบแปดสิบบาท ความจริงหนังสือเขาไม่แพงหรอก เพียงแต่ว่า เงินสำหรับบ้านฉันมันหายากมาก หรือจะเรียกให้ถูกก็คือฉันไม่ค่อยหาเงิน ดังนั้นเมื่อไม่หาเงินก็ต้องใช้เงินน้อย ๆ หรือไม่ใช้ไปเลยถ้าไม่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ แม้ว่าการจะซื้อหนังสือถือเป็นความจำเป็นหนึ่ง แต่ก็ต้องเลือกอย่างพิถีพิถันในเนื้อหา ดังนั้น ถ้าร้านไหนห่อพลาสติกอย่างดีเปิดไม่ได้ ก็ผ่านเลย หนังสือเล่มนี้ก็ห่อพลาสติกอย่างดีเหมือนกัน แต่ก็รีบซื้อ  เพราะทั้งรถไฟและคุณสุชาติ  สวัสดิ์ศรี…