Skip to main content

 

ฤดูนี้เป็นฤดูตามหาดอกไม้ ฉันยอมรับกับตัวเองเมื่อสำรวจผืนดินแล้วพบว่า ที่หัวใจใฝ่หาคือมวลมาลีสวยสด มากยิ่งกว่าพืชผัก ผุดขึ้นก่อนปากท้องคืออาหารตาอาหารใจ เถอะน่า ติดตามหัวใจไป ใช่จะละทิ้งร่างกายเสียเมื่อไหร่ ผักบุ้งปลูกแล้ว รวมทั้งผักชี กุยช่าย แคต้น กะเพราขาว กระเพราแดง ผักชีฝรั่ง มะกรูด มะนาว แมงลัก ถั่วพูที่เพาะไว้ในกระถางแอบเลื้อยไว ๆ เมล็ดน้ำเต้าที่น้องสาวเก็บมาฝากจากสวนพันพรรณของพี่โจน จันใด แตกใบ แต่ตกเป็นอาหารหอยทาก
\\/--break--\>

ฝนล่ามาแล้วไป หลังพรำพรมจนพื้นดินชื้นฉ่ำ ตกก่อนจันทร์เต็มดวง ไม่เลิกไม่ซาอยู่สี่ซ้าห้าวัน ได้ฤกษ์อีกรอบแล้ว ฉันร่ายบัญชีออกล่าหาดอกไม้ ยาวเหยียดเป็นหางว่าว คุณนายตื่นสายสีเหลืองได้มาวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ขอปันจากหน้าร้านค้า ผ่านสวนข้ามไร่นา ได้ดอกยี่โถ กับดอกไม้ไม่รู้จักชื่อเหลือง ๆ เรืองอุไร เย็นนี้ กลับจากจ่ายตลาดริมขัวน้ำปิง หัวโค้งทางเข้าบ้าน เจ้าเฒ่าเขียวที่จอดทิ้งเพราะขาดน้ำมันมีหนูแอบเข้ามาทำรัง มีราจุดสีดำแต้มตามเบาะระหว่างวันสายฝนพาเราไป ฉันขอเจ้าที่เจ้าทางแล้วเด็ดดึงพวงแสดริมถนน เจ้าของสวนไม่อยู่ เขาเป็นคนเมือง มาแล้วไป เสียงโวยวายดังจากเบาะหลัง "ขโมย ๆ" ชิชะ แม่ลูกสาวตัวดี

 

  

 

 

ต้นไม้นั้นแบ่งปันกันได้ ตัดก้าน ตอนกิ่ง ทาบตา เพาะเมล็ด ทำอะไรต่อมิอะไรแต่ต้นแม่ก็ยังอยู่ สุขสบายดีเหมือนเก่า ชีวิตไม่ได้พรากจาก เรามาแลกเปลี่ยนต้นไม้กันดีกว่านะ ไม่ต้องซื้อหา เธอมีดอกนั้น ฉันมีดอกนี้ อยากได้อะไรก็มาเด็ดไป หรือรอต้นอ่อนงอกใหม่ใต้ต้นเก่า ขอเพียงเราอดใจรอ ขอเพียงเฝ้าดู เมื่อเธอรดน้ำให้ปุ๋ย ฟ้า ฝน ดวงตะวันและฤดูกาลก็จะทำหน้าที่ของมัน กี่วันก็คอยได้ กี่คืนก็เฝ้ารอ ได้มองดูเขาเติบใหญ่ จวบจนถึงวันเบ่งบาน

 

ซอมพอฝักแก่จากบ้านสวนธรรมชาติที่ฉวยใส่ย่ามงอกมาชื่นใจแล้วต้นหนึ่ง ชะเง้อดูกระถางทุกวัน รอดพ้นเงื้อมมือหอยทากแน่ รอแค่ให้โตอีกซักหน่อย จะปลูกเจ้าไว้ ให้ดอกสีส้มทาบทาผนังสีเหลืองแก่ จริตราคะนั้นไม่เหือดหายง่าย ๆ อีกหนึ่งที่หมายตาหมายใจ จากบ้านผ่านลาดเนินสูงต่ำ สลับมุมมองขุนเขาสวยจับตา พร้อมนาขั้นบันได หนทางไปบ้านถ้ำมีซอมพอเหลืองและชมพูรออยู่ เหลือเพียงวันดี ๆ สำหรับผ่านทาง เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ปีนี้หรือไม่ก็ปีหน้า หัวใจผูกพัน ไม่จางคลายจากเธอ

 

แล้งที่ผ่าน ว่านสี่ทิศทั้งหลายหรุบคืนดิน รวมทั้งดอกพฤษภา ฉันมองหาบ้านบานสะพรั่งด้วยดอกไม้ขาวไม่เจอ เขาเคยปลูกว่านสี่ทิศสีขาวเป็นแนวยาวริมรั้ว รู้หรือไม่ ที่ฉันคลั่งไคล้ติดตามหา เพราะเขากลีบใหญ่ หอมหวนยวนใจยิ่งกว่าลิลลี่มีราคา

 

 

ฝนพรำอ่อน ๆ แล้วหยุด หยุดแล้วแต่ยังตั้งท่าขณะอยู่ในตัวอำเภอ เมืองอันเล็กน่ารัก ผู้คนทายทักด้วยอัชฌาศัย ฉันเพลินคุยกับบรรณารักษ์ บริจาคพร้อมกับยืมหนังสือเล่มใหม่ อูว โน่นไง ดอกบัวดินสีเหลืองสดใส เฝ้ามองเขามาสามปีแล้ว บัวดินที่สายฝนปลุกเรียก ใบเขียวๆ เรียวๆ ลำต้นแบบบาง ชูช่อเบ่งบานพร้อมเพรียงคราวใดเหมือนเด็กเล็ก ๆ ยืนเข้าแถวรื่นเริง ครุ่นคิดด้วยปรารถนา จะทำอย่างไรดี ประตูบานนั้นมักปิดอยู่เสมอ จากลานปูนถึงตัวบ้านมองไปไม่เห็นใคร ปีนี้ตั้งใจไว้ จะฝ่าฟันไปถึงเธอให้จงได้ หลายวันก่อน ฉันย้ายบัวดินสีชมพูจากกระถาง แบ่งออกหลายกอ ส่วนหนึ่งใส่ถุงดำใบเล็ก ๆ เตรียมไว้ แปลกมากนักหรือที่จะตากหน้าไปขอดอกไม้จากคนไม่รู้จัก ประหลาดพิลึก ไม่น่าไว้ใจไหม ถ้ามีใครแปลกหน้ามาเคาะประตู ไม่ได้ขอเฉย ๆ จะให้ซื้อก็ได้ เราจริงใจ แถมยังมีดอกไม้ไปแลก ก็บัวดินสีชมพูไง

 

ที่ร้านขนมจีน เราได้คุณนายตื่นสายและแพรเซี่ยงไฮ้ ตายายบอกให้แบ่งไป ปักชำง่ายๆ ไม่ตายหรอกลูก เดี๋ยวก็แตกยอดต่อชีวิต วันนี้เบ่งบานเต็มที่สมใจ เย็นย่ำก่อนทำอาหาร สองคนช่วยกันทำสวน เยลโลว์ไอริสเด็ดมาแช่น้ำ แยกอะเมซอนใส่ในแก้วกาแฟบิ่น ๆ ไว้ ใกล้มืดแล้ว แต่ยังทันตัดกิ่งหม่อน ชำไว้หลายๆกิ่ง ปลูกหลายๆต้น จะได้พอทำแยม มือเหนียว ๆ ของสายน้ำผึ้งและพวงครามนั้นให้ใช้มีดตัด ย้ายกอราตรีไปริมรั้วเสีย กลิ่นหอมแรงไม่ดีต่อปอด ส่วนกิ่งที่เหลือ ชำไว้ฝากมิตร

 

ต้นไม้มากมายกำลังเดินทางมา หัวใจพองโตเมื่อรับทราบข่าว สีสันจะกระจายทั่วสวน ใครบ้างล่ะหนอไม่ชมชอบดอกไม้

บุปผชาติทำให้ใจสดชื่น ลดความกร้าวกระด้าง ดอกไม้ทำให้หายป่วย ช่วยให้คนเป็นคนดี ไม่เชื่อลองอ่านติสตูดู

 

ที่ฉันออกไล่ล่า ฝักคูนที่ฉันเก็บมา ทานตะวันป่าที่ได้มาโดยไม่คาดฝัน มันจะเติบโตสวยงามเพียงใด จะบานทาบทาเป็นฉากหน้าขุนเขาเหมือนที่จินตนาการไหม บัวตองกับดอกเสี้ยวนั้นได้มาจากค่ายเยาวชนบ้านยางปู่โต๊ะ พร้อมไม้ป่าแปลกประหลาดอีกมากมาย วาดภาพต้นไม้เหมือนเด็กฝันถึงขนม ยังมีมากและอีกมากเหลือเกิน ทั้งผลไม้ ดอกไม้ อีกไม่กี่วันน้องสาวจะนำดอกไม้สีม่วงมาให้แล้ว อินทะนิลกับชงโค รวมทั้งทองกวาว รานีสีเพลิงแห่งท้องทุ่ง กับหางนกยูง ดอกไม้แห่งธรรมศาสตร์ที่ฉันรัก

 

ไปด้วยกันกับฉันไหม ยังองค์กรน่ารักเพื่อนของเรา ขอปันดอกไม้จากชาวมะขามป้อมเขา พุทธรักษาดอกแดงพอมีอยู่ แต่เขามีสีชมพู กับคล้าน้ำและพรรณไม้อื่น เราจะเอาอะไรไปฝากเขาดี ต้นที่เขาไม่มี เขาคงยินดีกับหมู่ผกา

 

ทีละต้น ๆ นะ วันละนิดละน้อย ค่อยๆ เพาะ ค่อย ๆ ปลูก ฝนกำลังจะมา ฝนจะโปรยปรายลงมาระลอกแล้วระลอกเล่า นี่ล่ะฤดูเพาะหว่าน เราควรสุขสำราญกับการบำรุงเลี้ยง ดอกไม้ทั้งหลายจะนำพาไปสู่ที่ใด ดอกไม้ไม่นำพาไปที่ใด แต่ละดวงดอกคือความประทับใจ มีความฝัน ความทรงจำแห่งวันวัย มีการเดินทาง เรื่องเล่า ที่มา เมื่อเธอพิศมองดอกไม้นั้นยิ่งกว่าดอกไม้ มวลมาลีที่เบ่งบานสดใสทำให้ใจสุขชื่น ไม่ว่าคน นก ผีเสื้อหรือแมลง แหละหากเธอแวะเวียนมา ฉันจะจัดสำรับดอกไม้รอท่า หุงข้าวสวยสีม่วงอัญชัญ แกงส้มดอกแค ผัดดอกโสนสีเหลือง กับเด็ดดอกข่าขาวอ่อนซ่านซ่ามาให้เธอชิม

 

 

บล็อกของ รวิวาร

รวิวาร
ฉันคงเคยทำคุณความดีมาบ้างกระมัง จึงได้รับน้ำใจไมตรีมากมายเพียงนี้ ... เธอมาพร้อมกับมิตรภาพแสนอบอุ่น รอยยิ้ม เสียงเพลง เสียงหัวเราะ และเสียงแจ้วๆ กับการกระโดดโลดเริงร่าของเด็ก ๆ เพื่อนทุกคนมาเยี่ยมเราที่ตูบตีนดอยพร้อมด้วยความมั่นคงทางอาหาร จากจิตใจที่ห่วงใยและยอมรับในวิถีที่เราเป็น รอยต่อระหว่างปี มีขนมมากมายในบ้าน เครื่องดื่ม กาแฟ ของฝากของแห้งที่แทบจะไม่มีที่เก็บ เรานำกาแฟสดแสนอร่อยของฝากจากเพื่อนมาชงเลี้ยงเพื่อนทุกคน ทั้งที่มาค้างและผ่านทางแวะเยือน ข้าวปลาอาหาร ขนมนมเนยนั้นนำมาปิ้งย่างแบ่งปันกันกิน หุย... ของที่เธอนำมานั้น มันมากจนฉันรู้สึกว่าน้ำใจของเธอ(…
รวิวาร
เด็ก ๆ คือคนตัวเล็กที่แสนงาม ในบรรดาผู้มาเยือน เด็กน้อย สาม สี่ ห้าหรือหกขวบ คือแขกที่ทำให้ผู้เหย้าอย่างเราสดใส มีความสุข เราไม่รู้ตัวเลยว่า ได้กลายเป็นลุงป้าตายายที่เฝ้าจดจ่อรอคอยการมาเยือนของลูกหลานเสียแล้ว หนูมายาเพิ่งมาและกลับไป หนูนานาเข้าโรงเรียนแล้ว แต่อีกไม่นานพ่อกับแม่ของเธอก็จะมาเยี่ยมเยือน แล้วเมื่อปีใหม่มาถึง หนุ่มน้อยพีพี หลานน้อยตัวขาวแก้มยุ้ยก็จะมาหา เดาได้เลย เขาต้องพาน้องกุ๊กกิ๊ก ตุ๊กตาแมวน้ำตัวเก่าขะมอมขะแมมมาด้วย น้องกุ๊กกิ๊กที่เปื้อนน้ำลาย และเจ้าของเที่ยวยื่นไปชิดจมูกใคร ๆ พร้อมกับคำยืนยันจากปากแดงย้อยว่า ‘หอมนะ ๆ หอมไหมล่ะ?’  
รวิวาร
ความรักยกเราขึ้น ติดปีกเหนือทุกข์ในปรากฏการณ์...ความรู้สึก เราคือผู้คนแห่งความรู้สึก ความเครียดเต็มสองแผ่นหลังไม่เบาบางด้วยการคิดพิจารณา จิตใจมีกำลังเมื่อ ความรักหลั่งไหลมา ความหวังเรืองรองตามติด เรื่องราวยากยิ่ง เหมือนไร้ทางออกดูเล็กน้อยลง ขอบคุณที่มีความรัก ขอบคุณที่มีคนรัก ขอบคุณที่โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า รัก ฉันขอขอบคุณจากหัวใจสำหรับใครคนหนึ่งซึ่งอยู่เคียงข้างและมอบความรักกว้างใหญ่ให้แก่ฉันเสมอ รักอดทนและรอคอย รัก ขัดเคือง ไม่พอใจ หากยังรีรออยู่ เงี่ยหูฟังคำอธิบาย อดทนทำความเข้าใจ เพราะเชื่อมั่นในเนื้อแท้ บนพื้นผิวของความกราดเกรี้ยว ทะเลาะเบาะแว้ง…
รวิวาร
ความรู้สึกหนึ่งไหลวนอยู่ภายใน ขับเคลื่อนเราอยู่ เหมือนสายโลหิตแห่งความปรารถนา ... เธอมา นั่งอยู่ตรงนี้ เขามาและจากไป คนกลุ่มใหญ่ผ่านมาแล้วผ่านไป จังหวะบรรเลงแตกต่าง นึกถึงสิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจ มันคืออะไรหนอ หลายคนเขียนหลายสิ่ง... สร้างงาน พวกเขาเรียกมันว่า การทำงาน แต่เธอ เธอไม่รู้เลยว่า วันแต่ละวัน เช้าแต่ละเช้า สิ่งซึ่งไหลเวียนอยู่ อึดอัด กระสับกระส่าย ดิ้นรนและปรารถนา หาหนทางหลั่งไหลนั้นคืออะไร เธอไม่รู้ เธอเฝ้าแต่รอคอย พล็อตต่าง ๆ มีอยู่ สมองไม่เคยหยุดเรียบเรียง วางแผนความคิด แต่แล้ว เจ้าสิ่งนั้น ที่บงการอยู่ข้างในไม่เคยเออออไปกับการกำหนดสั่งการ เธอพยายาม เงี่ยฟัง…
รวิวาร
ฤดูหนาวนำความสุขมากมายเหลือจะกล่าว สายลม ก้อนเมฆ ท้องฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป โลกอบอวลด้วยสีสันและกลิ่นหอมอย่างใหม่ ไม่ทันไร หน้าหนาวเวียนมาอีกครั้ง เสียงหมอกกลั่นเป็นน้ำค้างหยดเปาะแปะลงบนใบไม้ เสียงลมแห้ง ๆ กรูเกรียวผ่านทุ่ง ฉันอยู่ที่นี่จนกระทั่งฤดูกาลเวียนมาครบรอบแล้วหรือนี่ งานเขียนขนาดย่อมสองสามชิ้นทำให้ลืมกาลเวลา เราหยุดกิจกรรมกับผืนดินไปตั้งแต่กลางฤดูฝน หญ้าดวงดาวแห่งอัฟริกา (อัฟริกันสตาร์) หญ้าคอมมิวนิสต์ โตพรวดพราด สูงท่วมหัว เมื่อมองมุมกว้างจากถนน สวนรอบข้างดายหญ้าโล่งเตียน แต่ที่ล้อมรอบบ้านหลังคาเขียวซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวนี้คือ กองทัพต้นหญ้า…
รวิวาร
ดอยหลวงเชียงดาว แนวเทือกทิวหินปูนสูงต่ำเหยียดตัวมาจากหิมาลัย หากผ่านเมืองไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฝาง จู่ๆ จะพบขุนเขาก้อนทื่อผุดขึ้นจากขอบฟ้าตะวันตก แต่หากหยุดแวะเชียงดาว เมืองน้อย ๆ สัญจรไปตามทิศทางแตกต่าง รูปลักษณ์ที่ประจักษ์ต่อสายตาจะเปลี่ยนไป ขุนเขาลูกนั้น บนก้อนที่ดูเป็นมวลเดียวกัน จากทางเลี่ยงเมืองหรือตำบลแม่นะ ดอยหลวงแยกตัวให้เห็นเป็นสามยอด ดังคำเรียก ขาน ‘ดอยสามพี่น้อง’ เลี้ยวซ้ายมาทางตูบตีนดอย บ้านทุ่งละคร ภูเขาเผยโฉมหน้าอีกเสี้ยวหนึ่ง ไม่แยกยอดเด่นชัด แค่พอแลเห็น แล้วหากเดินทางวกย้อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เที่ยวน้ำพุร้อน บ้านยางปู่โต๊ะ ขุนเขาชะโงกง้ำ ก้มหน้ามาใกล้…
รวิวาร
ตลาดแห่งนั้นเงียบ เป็นระเบียบและเย็นฉ่ำ ไม่มีคนขายนั่งประจำอยู่หลังกองสินค้า มีเพียงพนักงานเก็บเงินคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ประตูทางออก เสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ กล่อมเกลาบรรยากาศ ข้าวของมากมายเรียงรายอยู่บนชั้นสูง ยืนเข้าแถวราวกับทหาร ระหว่างชั้นแต่ละชั้นเกิดช่องลึกยาว พอเหมาะพอเจาะสำหรับเด็กๆ เล่นซ่อนหา... เรามาจากโลกข้างนอก ออกมาจากพาหนะคู่ชีพบุโรทั่งที่คอยรับใช้มาอย่างซื่อสัตย์ จึงไม่กล้าบ่นที่แอร์ไม่เย็น และฝนสาดเปียกปลายผมเพราะกระจกหน้าต่างไม่อาจปิดสนิท (... ขอบคุณนะที่พาไปทุกที่ ไม่รู้เจ้าจะน้อยใจหรือเปล่าที่บางครั้งฉันก็แอบฝันถึงรถคันใหม่อยู่เหมือนกัน)
รวิวาร
การผ่อนพักอันยาวนาน มืดและเงียบสงบ ในวงล้อมของหมู่ไม้ ได้ยินเสียงสัตว์เล็กๆ และการไหวตัวใต้พื้นดิน... ฉันอยู่ที่นั่น แน่นิ่ง ไม่ไหวติง หยุดมหาสมุทร สายน้ำ สายลมในตัว โลกกำลังต้องการการหลับใหล ความคิดหยุดลงชั่วขณะ เอียนเหลือแล้วกับสิ่งต่างๆ ที่ตนแสดงออก ความคิด โครงการ คำพูด เหน็ดเหนื่อยกับความกระตือรือร้น และการกระทำฉับไวต่อเนื่องไม่ยอมหยุด นอนอยู่บนผืนดิน เงียบสงัดจากความคิด ไหลเลือน ละลาย ชำระ ปล่อยให้สารพัดสิ่งพวยพุ่งทะลักกลับคืนแหล่ง โลกไม่ต้องการอะไรจากฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องพ่นตัวเองออกสู่โลก ออกข้างนอกมากไปแล้วจำต้องหวนกลับคืนสู่ภายใน เข้าจัดการกะเกณฑ์ วางแผนมากไป…
รวิวาร
กาดก้อมเย็น มีเหตุต้องเข้าไปในหมู่บ้าน ฉันสตาร์ทมอเตอร์ไซค์อยู่นาน สลับกับคอยไล่หมา ในที่สุดรถก็วิ่งฉิว สายลมปะทะใบหน้าแสนสดชื่น อากาศยามเย็นเป็นสุข ถนนหักเลี้ยวทอดหาชุมชน เราเป็นคนของหมู่บ้านนี้แหละ บ้านทุ่งลั๊วะคอน (ทางการเรียก ทุ่งละคร) เป็นโดยสำมะโนครัว แต่ไม่ค่อยรู้จักใครเพราะอยู่ห่างออกมา ถนนสายน้อยพาไปพบสะพาน จากนั้นผืนโลกก็ลาดลงเป็นที่ลุ่ม หัวใจปริ่มสุขขึ้นฉับพลัน ผืนนาเขียวขจี กิ่งก้านสาขาของต้นไม้กลางนางามเด่น ขับด้วยแถวทิวต้นข้าว เถียงนาเล็ก ๆ ดุจที่พำนักอันสมถะสงบสุข กอดอกเทียนสีม่วงขาวชมพูพราวบานอยู่ใต้ร่มตะขบริมลำธาร หันมองกลับไป…
รวิวาร
'กาดนัด'วันอังคารเป็นวันที่ใครหลายคนในเมืองนี้รอคอย ฉันเองยังติดนิสัยเขียนรายการข้าวของไว้ล่วงหน้า ทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ว่าใกล้วันนัดหมายประจำสัปดาห์แล้ว เรานั่งกุกกักอยู่ที่โต๊ะทำงานหลังจากเด็กๆ ไปโรงเรียนในตอนเช้า มองไปยังถนนทอดยาว เห็นมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านเป็นระยะ มีถุงใส่ของหลายใบแขวนเป็นพวงที่มือจับและตะกร้า...กาดนัดเชียงดาว ถึงนั่งอยู่บ้าน ฉันก็นึกภาพออกและจำได้ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เร็วหน่อย พ่อบ้าน ตื่นเร็ว วันนี้เราจะไปตลาดนัดกัน สัปดาห์นี้ขาดอะไรบ้างเอ่ย พริกแห้งเม็ดเล็ก กะปิ กระเทียม กุ้งแห้งซื้อไว้แล้วจากเจ้าท้ายถนนเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้จะซื้อหอยดองแม่กลองของเขาดีไหมนะ ยำหอยดอง…
รวิวาร
เดือนบางเดือน สัปดาห์บางสัปดาห์ผ่านไปราวเมฆล่องลม เจ็ดแปดวันสั้นๆ หากแต่บรรจุด้วยเรื่องราวและผู้คนแน่นขนัด ขณะบางเดือน เรานั่งอยู่ติดเก้าอี้ จมจ่อมกับภาระหน้าที่แทบไม่ได้ก้าวพ้นเขตรั้ว เรียกมันว่า ‘สัปดาห์แห่งผู้มาเยือน’ มีผู้คนแวะเวียนมาทุกวันโดยมิได้นัดหมาย กะทันหัน ฉับพลันเสียจนกระทั่งไม่มีเวลาถอยหลัง ผงะ หรือนึกหงุดหงิดใจว่า...แขกเหรื่ออะไรนักหนา วันที่หนึ่ง วันที่สอง และสามสี่ ตามมาอีกจนเลยแปด เมื่อจิตใจตระหนักได้ เราพากันหัวเราะ อ้อ นี่ละหนอ ความบังเอิญที่ควบคุมไม่ได้ ชีวิตจัดส่งมา พ้นความคาดเดา นอกเหนือการจัดการ
รวิวาร
มันไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้า การแต่งหน้า เนื้อตัวเท่านั้น แต่รวมถึงการเข้าไปในสถานที่อย่างร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลอดจนการโอภาปราศรัย.... หิ้วกระเป๋าเข้าที่พัก กล่องสี่เหลี่ยมครอบลงบนพื้นดินชื้นแฉะ มีพรุน้ำอยู่ข้างใต้ กล่องเก่า ๆ ที่ผุเน่าไปทีละน้อยด้วยไอชื้นจากผืนดิน และการคายน้ำของใบไม้ชายป่าที่รุกล้ำเข้ามาเรื่อย ๆ เกิดรอยแยกที่ผนัง เหล่าแมลงสาบพล่านยั้วเยี้ยยามดึกขณะผู้พักพิงหลับใหล งูเงี้ยวเขี้ยวขอ จิ้งจกตุ๊กแกและหนู ซุ่มซ่อนจับจ้องจากรู โพรงบนผนัง ขื่อคาและเพดาน ไม่ว่าจะทำอย่างไร ๆ พื้นโลกก็คือหิน ดิน ทราย น้ำ ฝุ่น โคลน เราเพียงนำวัตถุเรียบแข็งโปะทับ ทาบแผ่นกระเบื้องหลากสีลงบนพื้น…