Skip to main content

เมื่อคืนฉันฝันถึงเธอ ฉันมักจะฝันถึงเธอเสมอเวลาที่เราอยู่ไกลห่าง เธอยังเหมือนเดิม ส่งเสียงแจ้ว ๆ ไถ่ถามสิ่งต่าง ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น

เธอคือเด็กน้อยน่ารักที่สุด ความรู้สึกของเธอ หัวใจของเธอ ฉันรู้จักดีที่สุด แม่ของเธอคิดถึงเธออยู่นะสาวน้อย พ่อทางใจน้ำตาคลอขณะพับเสื้อกระโปรงตัวจิ๋วของนกน้อยต้อยตีวิด ส่วนพี่สาวที่ชอบข่มขู่ดุว่า แต่ก็ถลาไปปกป้องน้องยามมีภัยบ่นอยู่นั่นแล้วว่า คิดถึงเธอเหลือเกิน

ใครจะรู้สึกถึงดินฟ้าได้เท่าเจ้านกน้อย สำหรับเธอแล้ว ก้อนกรวดที่พบตามพื้นดินหรือในลำธารสวยเสียจนต้องเก็บมาพินิจ เช่นเดียวกับลูกปัด ลูกแก้ว พลาสติกหรือพลอยเทียมราคาถูก ต้นไม้ดอกไม้ แมลงตัวเล็ก ๆ นกและกระต่ายป่า สำหรับเธอแล้วช่างน่าอัศจรรย์ เธอถึงกับกำชับทุกคนว่า อย่าลืมเตือนเมื่อถึงเวลาดู สารคดีสัตว์โลก รายการโปรด

 

 

18_06_1

 


แม่ก็เหมือนแม่ทุกคนนั่นแล้ว ลูกเอ๋ย มีสายตาไว้มองเจ้าเพียงผู้เดียว มีหัวใจไว้ให้ลูกคนเดียว ในสายตาของแม่แล้ว ลูกของตัวงามน่ารักที่สุด คำพูดคำจาของลูกเหมือนน้ำทิพย์ชื่นใจ กิริยาพาทีของลูกก็ฉะอ้อนฉอเลาะพาจิตใจหวั่นไหว


แม่รักลูก เจ้าปิ๊ดตะลิวน้อย รู้ว่าพ่อของเจ้าก็เช่นกัน ลูกเล็กของแม่นั้นย่อมรักทั้งแม่และพ่อ เขาพูดขึ้นด้วยความไม่เดียงสา อยากให้พ่อกับแม่แต่งงานกัน ลูกจะได้ไม่ต้องเดินทางไป ๆ มา ๆ นี่คงเป็นความปรารถนาของเด็กทุกคนในโลก แม่ขอโทษ ขอโทษนะลูกรักที่แม่ไม่อาจทำเช่นนั้นได้
...


เกตากูสคงเหงา มันเคยมีเจ้าขี่เล่นสมมติเป็นม้า เรียกชื่อใหม่มันไม่ยอมหัน น้ำตาลหมาดอยต่างหากคร้าบไม่ใช่เกตากูส กับเจ้ากะทิ หมาพันธุ์ทาง ของขวัญวันเกิดของลูก ไม่มีใครพาพวกมันไปวิ่งเล่นตอนเย็น แสงแดดยามพลบที่ออกสีเหลือง ทำให้ฟ้า ภูเขาและต้นไม้สวยสว่างนั้นแสนงาม เมื่อมีลูกน้อยในชุดนักเรียนอนุบาลของแม่เดินกวัดแกว่งหางเปียมาตามถนน


18_06_2


แม่ยังไม่ลืมสัญญาจ้ะว่า เราจะเข้มแข็ง ไม่ร้องไห้ แม้ว่าอาจเศร้าและคิดถึงกัน แม่บอกตัวเองว่า ฉันจะทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง จะหยุดพักหายใจหายคอเพื่ออาบน้ำ กินข้าว กวาดบ้านนิดหน่อยเท่านั้น แม่บอกลูกว่า เวลา
5-6 เดือนน่ะไม่นานหรอก ขอเพียงลูกมีความสุขกับเพื่อนใหม่ โรงเรียนใหม่ แข็งแรง เบิกบาน แจ่มใส ได้พบสิ่งดี ๆ น่าสนใจ ได้เล่น ได้ฝึกฝนเรียนรู้ทุกวัน หนึ่งเทอมก็จะผ่านไปชั่วพริบตา เราจะมาพบกันอีกครั้ง ภูเขายังรอลูกอยู่ รวมทั้งต้นไม้ใหญ่และท้องฟ้ากว้าง ๆ ของหนู บ้านสวนของเรา ต้นหญ้าโตพรวดพราด แต่ป๊ะป๋าก็สะพายเครื่องตัดหญ้าตระเวนตัด ขาดก็แต่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น เขาตัวเล็กบอบบาง แต่ร่าเริงแจ่มใส ยิ้มแย้มอยู่เสมอ บางวันรดน้ำต้นไม้ บางวันไล่จับแมลง ครั้งหนึ่ง เก็บก้อนหินรูปหัวใจมาให้แม่สุดที่รัก


กลางคืน แม่ไม่ลืมมองดาวเลย ตามที่เราสัญญากัน มองไปที่ดาวและเห็นความรักของแม่อยู่ในนั้น แม่ส่งความรัก ความคิดถึง ความห่วงใยมาทุกคืน ในแสงดาวมีอ้อมกอดของแม่ เมื่อหัวใจเรานึกถึงกัน เรารู้สึกถึงความรัก รู้สึกถึงอีกคนเหมือนอยู่ใกล้ ๆ


แม่ใกล้จะอ่านนิทาน คาราวานนางฟ้า
* บทต่อไปให้ฟังแล้วล่ะ ลูกรออยู่หรือเปล่า? อดใจนิดหนึ่งนะจ๊ะ แม่ต้องรีบทำงานให้เสร็จตามเวลา ดูเหมือนคอมพิวเตอร์จะดูดทั้งเรี่ยวแรงและเสียงของแม่ไป เพราะแม่รู้สึกเหนื่อยจนพูดไม่ออก แต่มีเรื่องตื่นเต้นจะบอก เจ้านกน้อย แม่ไม่ใช้วิธีอัดเทปคาสเซ็ตแล้วล่ะ แต่จะใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยกว่านั้น บันทึกเสียงลงเป็นแผ่นซีดีได้เลย แล้วลูกรู้อะไรไหม นิทานที่เราเล่าสู่กันฟังแค่สองคนจะกระจายไปถึงเด็กคนอื่นด้วย แจกให้ใครก็ได้ที่เขาอยากฟัง หัวใจเล็ก ๆ ของลูก เวลาเผื่อแผ่ เมตตา รักและให้อภัยจะกว้างใหญ่ไปถึงทุกคนในโลกได้ จำไว้นะจ๊ะ เวลาโกรธหรือเอาแต่ใจ หัวใจจะหดแคบลง แล้วลูกก็คือคนแรกที่ไร้สุข


ตอนนี้ที่บ้านของเรา นอกจากหญ้าแล้ว ดอกไม้ยังพากันออกดอกหอม ป๊ะป๋าชวนแม่ดูดอกไม้ทุกเช้า ให้แม่ทายว่า วันนี้หอมดอกอะไร สายหยุด เกดถวา มหาหงส์ หรือว่ากระดังงา สายน้ำผึ้งของลูกมีตุ่มช่อดอกอ่อนเรียงรายเต็มกิ่ง อีกไม่นานก็จะบานสะพรั่ง ลูกกลับมาอีกครั้ง แม่คงทำม้านั่งที่นอกชานแล้ว ลูกจะได้นั่งเล่นสำราญใจ มีดอกไม้ชนิดใหม่ที่กำลังจะออกดอกครั้งแรกในปีนี้ด้วย คือ ชบาสีม่วงใกล้ประตูรั้ว ต้นนี้มาจากยอดดอย พิเศษสุดเลยนะสีนี้


...
แม่อยากชี้ชวนให้เจ้าดู


เรากำลังทยอยปลูกต้นไม้ดอกไม้เพิ่ม เพราะเรียนรู้แล้วว่า สายฝนจะดูแลต้นไม้ได้ดีที่สุด ถึงแม้หน้าหนาวกับร้อนอันแล้งและยากลำบากจะรอท่าอยู่ก็ตาม แม่กำลังพยายามแบ่งเวลาระหว่างเขียนและแปลหนังสือ ทำงานบ้านกับการลงดิน แม่ยังเหมือนเดิมจ้ะ ไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไปไหน คิดถึงหนู ไม่เศร้า และยิ่งจะมีความสุข ถ้ารู้ว่าลูกเบิกบานเริงร่า แม่จะไม่ยอมเศร้า เพราะมันอาจทำให้ลูกน้อยของแม่เศร้าตามไปด้วย แม่เชื่อ สำหรับคนที่รักกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราใกล้ชิดกันยิ่งกว่าใครที่ร่วมชายคาแต่เหินห่าง


นางฟ้าคุ้มครองลูกอยู่นะจ๊ะตัวเล็ก พวกเขาคือเพื่อนของแม่เอง แม่ฝากเขาดูแลลูกเองแหละ แล้วแม่จะเขียนมาใหม่นะจ๊ะ สุดที่รัก
(ถ้าลูกอ่านถึงตรงนี้ ให้นึกถึงเพลงที่แม่ร้องกล่อมในรถตามไปด้วย)


.................


ไม่กี่วัน ลูกโทรศัพท์มา ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว บอกแม่ว่า ตอนนั่งอยู่ในห้องเรียน หนูฝากความคิดถึงมากับก้อนเมฆที่ลอยผ่านหน้าต่างด้วย ลูกร่าเริงเบิกบาน มีความสุขกับเพื่อนใหม่ โรงเรียนใหม่ และท่องบทอาขยานให้แม่ฟังยืดยาว


*
วรรณกรรมเยาวชนเรื่อง คาราวานนางฟ้า (The Fairy Caravan) ของ บีทริก พอตเตอร์ (Beatrix Potter) สุทธิ โสภา แปล

 

 

บล็อกของ รวิวาร

รวิวาร
เธอ*ควานหาเสียงซึ่งไม่ใช่ตัวเธอ ไม่ได้มีอยู่ในตัวเธอ เรียกหามันด้วยกระบวนการ วิถี แนวทางแห่งศาสตร์การแสดง จวบจนกระทั่งเสียงที่เปล่งออกมานั้นกลับกลาย ไม่ใช่เธออีก เธอควานหาพายุพยาบาท ไฟแค้น โศกนาฏกรรมบีบคั้นหัวใจชนิดที่ทำให้คลั่ง ซึ่งเธออาจไม่ประสบเท่านั้นในชีวิต โยกย้ายมันจากอากาศ ผ่านความเจ็บช้ำของผู้คน ระเบิดมันออกภายในร่าง จนกระทั่งปรากฏผ่านแววตา สีหน้า ท่วงทีกิริยาทุก ๆ ทาง
รวิวาร
ก็เพราะในชีวิตมีความเศร้า หรือชีวิตมีอีกชื่อเรียกว่า ทุกข์เศร้า คนจึงรานร้าว ดิ้นรนแสวงหา และเสียดทานภายในไม่หยุดหย่อน... จนกว่าจะปลดเปลื้องถึงอิสรภาพได้นั่นละกระมัง คุณน้อยคิดว่าอย่างนั้นไหม? ... สวัสดีปลายพฤษภาค่ะ
รวิวาร
 หัวใจของฉันไม่อาจแยกขาดจากร่าง ร่างกายที่กระทำการโดยปราศจากดวงใจขับเคลื่อนไปชั่วครู่ชั่วยาม ระหว่างดำเนินกิจกรรมนั้นไม่รู้สึกตัว ถูกครอบงำเต็มเปี่ยม มุ่งหน้าสู่ทิศทางที่ปรารถนา หยุดนิ่งทันทีเมื่อถึงที่หมาย "ฉัน" มีอยู่ในมิติกว้างใหญ่ ใช่เพียงแค่กาย-องคาพยพอิ่มหิวหลับนอน อยากคลายหายอยาก ไม่รู้หรอกว่าวิญญาณคืออะไร แต่รับรู้ได้ถึงความรู้-รู้สึกลึกล้ำ ส่วนหัวใจนั้นมีอยู่แน่แท้ หัวใจที่ทำให้ความรู้สึกดื่มด่ำ วาดรูป แต่งเพลง เขียนบทกวี มองเห็นความงามของสรรพสิ่ง งามที่ปวดร้าวในโลกแห่งความเป็นจริง งามบริสุทธิ์หล่อเลี้ยงในธรรมชาติ งามประณีตวิจิตรจากศิลปะ งามปัญญาแห่งธรรม
รวิวาร
น้ำ เราต้องการน้ำกันมากเหลือเกิน ทั้งน้ำดื่ม น้ำอาบ น้ำใช้ น้ำเย็น ๆ ใสสะอาด หอมหวานชื่นใจ น้ำใต้ดินเจือกลิ่นแร่ กรวดทราย หวานหอมแตกต่างกันไปแต่ละที่บนโลก ไม่จืดสนิท หรือแปร่งปร่าเช่นน้ำดื่มจากขวดหรือน้ำประปา ...
รวิวาร
ปีเก่ากำลังตายจาก ปีกาลใหม่คล้อยเคลื่อนมา นำหน้าด้วยขบวนทวยเทพ เทพีสงกรานต์ผู้สาดน้ำชะโลก ล้างแล้งด้วยพายุฤดูร้อน มนุษย์รับช่วงขัดถูบ้านเรือน ซักผ้า ชำระคราบไคลในวันสังขารล่อง...
รวิวาร
ตั้งหลักสมัครสมานกับผืนดิน (2552)มกราฯ : วุ่นรับแขกหลายคณะ ไม่เกิดฉันทะพอที่จะจับจอบกุมภาฯ : อา...โกยหญ้า ขุดดินขึ้นมากอบกำ ในที่สุดก็ผูกสัมพันธ์กันอีกครั้ง เราและผืนดินสำรวจสวนไม้ผล -มะม่วง หลังจากรดน้ำสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยขี้วัวและคลุมโคนต้นด้วยเศษหญ้า ไชโย! มะม่วงมหาชนกอายุ 3 ปีที่โรงรถติดลูกจิ๋วหลิวน่ารัก ต้นข้างห้องนอนเชนแตกยอดอ่อน สุขภาพดีขึ้น-ต้นหม่อน (มัลเบอรี) ออกลูกเยอะกว่าปีที่แล้ว ลูกโตขึ้นด้วยถึงแม้จะไม่เท่าต้นแม่ที่ตัดกิ่งมาปักชำ เราใส่ปุ๋ยพรวนดินเหมือนกับต้นอื่น ๆ ระหว่างรดน้ำก็คุย ขอบคุณ และชื่นชมเขาไปด้วย ปิดเทอมนี้ น้องธารคงได้เอื้อมเด็ดใส่ตะกร้าใบน้อย-มะยม,กะท้อน เพิ่งปลูก…
รวิวาร
สรุปผลแผ่นดินโดยสังเขป (2551) ผลผลิตที่โดดเด่นที่สุด : ลำไยจำนวน : ประมาณ 15 ต้น (เคยนับแต่จำไม่ได้แน่ชัด)
รวิวาร
 ฉันรอเหมือนต้นไม้ต้นนั้น เหมือนสิงห์ดักซุ่ม เหมือนกระต่ายน้อยรีรอระแวดระวังต่อหน้าแปลงผัก เหมือนเหยี่ยวบินวนกราดดวงตาแหลมคมจากฟ้าสูง ความปรารถนามีอยู่ทุกวินาที บางครั้งราวกับความคลั่งไคล้ใหลหลงในอันที่จะเนรมิตสิ่งต่าง ๆ มองต้นไม้ที่ปลูก ฉันตัดสินใจไม่ได้ว่า ระหว่างการเขียนระบายสิ่งอัดอกกับหยิบจอบพรวนดิน อันไหนสั่นไหวแรงกล้ากว่ากัน แต่กับหนังสือนั้น ยกประโยชน์ให้จำเลย ด้วยถือว่ามันเป็นรองการเคลื่อนไหว หายใจ เช้า อ่านหนังสือจบหนึ่งเล่ม ดื่มกาแฟ เข้าห้องน้ำ ฉันอ่านไปครึ่งเล่ม แล้วจะเป็นไร หากจะอ่านอีกครึ่งที่เหลือ ระหว่างรอสายยางให้น้ำ
รวิวาร
น้ำตาล ไม่ใช่น้ำตาลที่เข้าคู่กับกะทิแล้วรวมตัวกับฟักทองหรือกล้วยน้ำว้ากลายเป็นแกงบวดหอมมัน แต่มันคือหมาน้อยตัวหนึ่งซึ่งสามารถเสกฝนได้ หากฝนที่โปรยปรายเป็นสายจากตัวนั้นเป็นห่าหมัด ไม่ใช่สายน้ำเย็นฉ่ำ มันเป็นสุนัขจร ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ปรากฏตัวขึ้นบนถนนสายเล็ก ๆ ทอดสู่หุบเขาผาแดง ลูกหมาสีน้ำตาลพองฟูเดินต้วมเตี้ยมอยู่ตรงขอบถนนจวนเจียนจะถูกเฉี่ยวชน ผู้ซึ่งจะกลายเป็นนายของมันกระโดดผลุงลงจากกระบะหลังซึ่งสมัครพรรคพวกนั่งกันอยู่หลายชีวิต โอบอุ้มมันขึ้น จากนั้นไม่กี่นาทีฝูงมนุษย์ก็พากันกระถดหนีไปกองอยู่มุมเดียว ด้วยเกรงกลัวฝนสีดำแสนคันจากลูกสุนัขน้อย
รวิวาร
เช้านั้นไม่เหมือนเช้าอื่น ๆ แต่เป็นวันที่กะทิ ลูกหมาน้อยต้องจดจำไปชั่วชีวิต นายหญิงของมัน ผู้ซึ่งตะก่อนร่อนชะไรเคยตื่นแต่เช้าตรู่ เดี๋ยวนี้เมื่อไม่มีภาระดูแลลูกหญิงน้อยเริ่มตื่นสายขึ้น กะทิเองก็เช่นกัน ก็อากาศหนาวออกอย่างนั้น กว่าตะวันจะโผล่พ้นม่านหมอกก็สายโด่ง นอนซบพี่หมี ตุ๊กตาสีน้ำตาลขนฟูเพื่อนเก่าที่เด็ก ๆ ยกให้ อุ่นสบายกว่าถึงจะสาย แต่อากาศยามเช้ายังยะเยือก เย็นสบาย แทนที่นายหญิงจะถือสายยางไปรดน้ำต้นไม้ เธอกลับฉวยย่ามม้งใบน้อย ทำท่าจะออกไปข้างนอก กะทิลุกขึ้น ส่งเสียงเห่าบอกน้ำตาลทันที ‘ปะ เราไปวิ่งไล่ตามมอเตอร์ไซค์กันดีกว่า ดูซิว่า วันนี้เธอจะไปทางไหน เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา…
รวิวาร
หากใครคิดว่าที่นี่มีเพียงนกน้อยเสียงใส สัตว์โลกน่ารักและวิวงาม ๆ นั้น เขาเข้าใจผิดแล้ว จริงอยู่ นกน้อยสารพันขานรับอรุณ ปลุกเราแต่เช้า ดุเหว่าร้องเสียงใสเวลาใกล้รุ่ง บ่าย นกทุ่งส่งสำเนียงเจื้อยแจ้ว ไพเราะจนไม่ต้องง้อดนตรีของมนุษย์ เย็น เมื่อแดดแสดงลีลาเหนือขุนเขา อีกาพร่ำร้อง กาๆ กระปูดร้องปูด ๆ เตือนพลบ บางวันเหยี่ยวร้องบนฟ้าสูงไกล วู๊ ๆ เสียงใสเหมือนเด็กน้อย ขณะนกกินปลาตัวใหญ่สีขาวบินโฉบต่ำ ๆ ลิ่วลงหาปลาในสระ
รวิวาร
ทั้งเสียงไวโอลิน หนังสือและหลายสิ่งที่ชีวิตเก็บเกี่ยวตกค้างอยู่ภายในทำให้รู้สึกปวดร้าว ปวดแบบแปลบ ๆ หนึบ ๆ และร้าวรอนราวกับหัวใจบอบบางเหลือแสน ความเศร้าอันอ่อนหวาน ไม่อาจหักห้ามบังคับ ทุกคราวที่ไวโอลินโหยไห้หวนหาของซีเคร็ตการ์เดนแว่วดังขึ้น ขณะเปิด บัลซัคกับสาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน1 หน้าสุดท้าย หนังสือที่เขียนโดยคนสีไวโอลิน คลอด้วยเสียงไวโอลิน หัวใจร่วงร้าวโดยไม่ตั้งใจ ขยับตัวไม่ได้ เบื้อใบ้ ปากปิดสนิท