Skip to main content



ลมหวนมาอีกแล้ว …

ลมหวน ชวนให้คิดถึงความหลัง พะวังจิตคิดขื่นขมระทมใจ ตัวใครเป็นคนผิด อยากถามนัก รักไย ไยจึงกลับดังลมหวน ใกล้เรา กล่าวถ้อยในที่รัก เจ็บนัก พอถึงอื่นกลับคืนคำ มาทำชิด สนิทใหม่ ใครจะเชื่อ เบื่อแล้วไยจะมารักกลับคืน” (เพลง “ลมหวน”)

\\/--break--\>

๓ ก.. ๒๕๕๒ ครบรอบ ๘ ปี วันคืนสู่ดินของอ้ายจรัล มโนเพ็ชร

ศิลปิน Ballad แห่งล้านนา ผ่านมา ๘ ปีแล้ว แต่ผู้คนยังรำลึกถึงอ้ายฯอยู่ คงมิใช่เกินเลยที่จะพูดว่า “จรัล มโนเพ็ชร คือศิลปินล้านนายิ่งใหญ่ที่หมู่เฮาภาคภูมิใจ อ้ายนำเอาบทเพลงแห่งประเทศล้านนาออกสู่สาธารณะ-สู่สากล กลิ่นอายแห่งล้านนายังติดตราตรึงใจแด่ผู้ฟังนิรันด์มา

อุ๊ยคำ, ของกิ๋นบ้านเฮา, คนสึ่งตึง, รางวัลแด่คนช่างฝัน, สาวมอเตอร์ไซค์ ฯลฯ” เราเสพสมแล้วปีติใจนัก

เฮามาร้องเพลงอ้ายจรัล มโนเพ็ชรกันเถิด

อุ๊ยคำคนแก่ ท่าทางใจดี ลูกผัวบ่มีเป๋นดีเอ็นดูล้ำ ฯลฯ”

ของกิ๋นบ้านเฮา เลือกเอาเต๊อะนาย ฯลฯ”

ตั๋วอ้ายเป็นคนสึ่งตึง มีสองสลึงปายแหมซาวห้า ฯลฯ”

อย่ากลับคืนคำเมื่อเธอย้ำสัญญา อย่าเปลี่ยนวาจาเมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป ให้เธอหมายมั่นคงแล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร เดินทางไกลอย่าหวั่นไหวใครขวางกั้น มีดวงตะวันส่องเป็นแสงสีทอง กระจ่างครรลองให้ใฝ่ปองและสร้างสรรค์ เมื่อดอกไม้แย้มบานให้คนหาญสู้ไม่หวั่นคือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่ให้เธอ...บนทางเดินที่มีขวากหนาม ถ้าเธอคล้ามถอยไปฉันคงเก้อ ฉันยังพร้อมช่วยเธอเสมอ เพียงตัวเธอไม่หนีไปเสียก่อน จะปลอบดวงใจให้เธอหายร้าวราน จะเป็นสะพานให้เธอเดินไปแน่นอน จะเป็นสายน้ำเย็นดับกระหายยามโหยอ่อน คอยอวยพรให้เธอสมดังหวังได้นิรันดร์”

(เพลงอมตะนิรันดร์ “รางวัลแด่คนช่างฝัน” ว่ากันว่าอ้ายจรัลฯ แต่งให้นักสู้อุดมการณ์หลังการลุกขึ้นสู้ของประชาชนคราเหตุการณ์ ๔ตุลาฯ ๑๖ อ้ายจรัลฯแต่งเพลงโดยไม่ใช้สูตรสำเร็จรูปประเภทลุกขึ้นสู้, เลือดต้องล้างด้วยเลือดอะไรทำนองนี้ แต่ทว่าความหมายล้ำลึก งดงามและทรงพลังยิ่งนัก)

เพลงนี้ไม่รู้นะฉันคิดว่า อ้ายจรัลฯ เอาหางปลาไม (หางปลากระเบน) เคาะเฆี่ยนตีประดาพวกที่เคยมีอุดมการณ์เพื่อประชาชนมาก่อน แลมาบัดนี้พวกนั้น...พวกเขาเป๋นจาใด๋พ่องเจ๊า ???


การ ตาย ก็คือ การ ตาย คือ ก า ร ห ม ด ทุ ก ข์

เคยมีคนสัมภาษณ์อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี นานมาแล้วว่า…

อาจารย์คิดว่า… คำจำกัดความของ ธีรยุทธ บุญมี คืออะไร ?”

อ้าย ธีรยุทธฯ ตอบว่า…“ธีรยุทธ บุญมี คือ ความทุกข์”

ฉันรู้สึกอินในคำตอบนี้มาก ใช่แล้ว คนเรานั้นหากกำเนิดมาแล้วไร้ซึ่งพลังชีวิต จิตวิญญาณอิสระแล้วก็สักแต่ว่าอยู่ไปวันๆ (stay go day day) สักแต่ว่าอยู่เป็นคนเท่านั้นเองไปจนตาย บ่ได้เรียกร้องใครๆ เน้อ ปี้น้อง นายเหย …


การ ตาย คือ การ ห ม ด ทุ ก ข์

อ้าย “จรัล มโนเพ็ชร” ห ม ด ทุ ก ข์ แล้ว !

เอ๊า…หมู่เฮามาฮ่วมฮ้องเพลงกับอ้ายจรัลฯ กั๋นเต๊อะ ๑


รำลึก ๘ ปีแห่งการคืนสู่อ้อมอกอันอบอุ่นแห่งแม่พระธรรมชาติของอ้าย “จรัล มโนเพ็ชร” ศิลปินพื้นบ้านผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนาประเทศอิสระ


ปลายฤดูฝน, ล้านนาอิสระ, เจียงใหม่,
๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๒.

 

**ภาพประกอบจาก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=chettapat&date=16-09-2008&group=1&gblog=30

 

 

 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
ดูกร... ภราดา ...  ภราดร ...  โปรดอย่าได้  ฉงนฉงายค ว า ม ห ม า ย ชี วี  เพลานี้ณ  ที่ซึ่ง  มนุษยชาติ  โ อ บ ก อ ด ป ฐ พีณ ที่ซึ่ง เวลานี้  เ ธ อ มี รั ก ป ร ะ จั ก ษ์ ใ จรั ก มิ ต้อง ฝัน ... รั ก  นั้นคือ รั ก จ ริ ง !“ ค ว า ม รั ก นั้ น ยิ่ ง ใ ห ญ่ ”เริงรำร้อง  เที่ยวท่องไปสู่จุดหมายปลายทางแห่ง   เ พ ล ง รั ก นิ รั น ด ร์ณ ที่นี่ ... ที่นั่น ... ที่โน่น! นั้นมี  รัก!เราผ่อนพักชีวา  รั ก รั ง ส ร ร ค์เ มื่ อ  วิ ญ ญ า ณ  แห่ง  รั ก  โ อ บ ก อ ด กันโ ล ก = น ร ก – ส ว ร ร ค์  เป็นฉันใด  มิ…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพจาก แฟ้มข่าวประชาไท(๑) Excellent Life Rhythm(เป็นจังหวะชีวิตที่แสนวิเศษนัก)ปลายฤดูฝน – ต้นฤดูหนาวแสง สี เสียง แห่งแม่พระธรรมชาติ อันเป็นรากเหง้า แห่งวิถีชีวิตเพื่อนมนุษยชาติ ช่างงดงาม หลากสีสันนัก!--- ดวงตะวัน ดวงดาว เดือนเสี้ยว –- กลางฤดูปลายฝน ต้นหนาว-- ฯลฯ --- ฯลฯ --- ฯลฯ---เริงระบำ รำร่ายฟ้อนเป็น Rhythm… เป็นจังหวะดนตรีแห่งสีสัน ช่างงดงามนักExcellent Life Rhythmเป็นจังหวะชีวิตที่แสนวิเศษนัก!“ Life is Very Beautiful”ชีวิตช่างงดงามนัก หากโครงสร้างสังคม สามานย์ เปลี่ยนแปลง(๒) หมดเวลาของคุณแล้ว!Hello!พณฯหัวเจ้าท่าน คมช.หมดเวลาของคุณแล้ว!อย่าสืบต่ออำนาจต่อไปอีกเลย!อย่าเผด็จการฟัสซิสม์…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ล ม ห น า ว เ ห นื อ พั ด โ ช ย ม ายามต้องไล้ผิวกายร้อน ที่รุ่ม ก็ คลายกลิ่นอาย เหมันตฤดู มิรู้เลือน น ก น้ อ ย ๆ สีเหลืองเรืองเรื่อโบยบินทุกแหล่งหล้ามิรู้หนโผร่อนจับเกาะกิ่งก้านต้นมะขามสนามหลวง – สนามราษฎร์ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว – ตามไล่ทักทายกันโ อ ... ก็นานนักแล้วซิหนอที่พวกเจ้ามิได้มาพบกัน! ณ เบื้อง ฟ้าบนด ว ง ต ะ วั น สาดแสงแรงกล้า น ก พิ ร า บ ข า ว พราวอันมิถ้วนนับสะพรึบสะพรั่ง โบยบิน ฉวัดเฉวียน เวียนว่อน ... ราวจักข่ม คคนานต์พราวปีกขาว สะพรึบสะพรั่ง โบยบิน ฉวัดเฉวียน เวียนว่อนเริงรำร่อนจับเกาะกอดโดมแดนธรรม... ธ ร ร ม ศ า ส ต ร์โ อ !...…
แสงดาว ศรัทธามั่น
(1)จักรวาลอวยพรชัยณ ยามราตรีกาลดวงดาวเดือนพราวพร่างบนทุ่งฟ้าวิบ วิบ วับ วับ เปล่งประกายทอแสงเจิดจ้าอวยพรชัยแด่โลก ชีวิต!แล ณ ยามอรุณรุ่งดวงตะวันสาดแสงสีทองส่องโลกหล้าวิหคนกกามวลสรรพสิ่ง – สรรพชีวี...เริงระบำรำร่ายฟ้อนอวยพรชัยแด่ผองเพื่อนมนุษยชาติ!ณ คืนวันแห่งการสัปประยุทธ ต่อสู้ด้วยอหิงสา ศานติวิธีพี่น้องม่าน พี่น้องชนเผ่าทั้งผอง...แล สตรีเหล็ก “ออง ซาน ซูคยี”รวมทั้งผองเพื่อนพี่น้องร่วมโลกร่วมแผ่นดินแห่งดาวโลกดวงนี้ต่างคล้องแขนร่วมเดินทางเปล่งร้องขับขานบทเพลงแห่งชัย...ชัย...ชัย...ชัย ! ดูรา...ภราดา...ภราดายลดูด้วยประกายดวงตาปลื้มปิติ...ดูซี...ดูซี...“มองดูความจริงซี”พระคุณท่าน แม่ชี...…