Skip to main content

หนึ่ง ::

รั ฐ ส ภา แ ห่ ง ม หา ป ระ ชา ช น ส ยา ม
นั่ งจิบดื่ม น้ำข้าวกล้องงอก ณ ใต้ถุนสูง บ้านไม้ชายทุ่ง ต.หนองจ๊อม อ. สันทราย ดินแดนข บ ถ พ ญา ผา บ
แห่งล้านนาอิสระเชียงใหม่ในอดีต

เสียงนกนานาชนิดร้องเพลงขับกล่อม สายลมทิศใต้โชยพัดมา ที่นี่ท้องฟ้าเปิดกว้าง มองเห็นได้รอบทุกทิศ

...
ภูเขา และ ทะเลเมฆ งามตา ด้วยอารมณ์ฉ่ำบาน จึงอยากเขียนเรื่องการเมืองแลกเปลี่ยนกับท่านผู้อ่านอีกคราหนึ่ง
ให้ชื่นฉ่ำบานไปด้วย

ต้ อ ง ยอมรับว่า นับตั้งแต่การปฏิวัติ 2475 โดยคณะราษฏร์มาจนถึงปัจจุบันนี้มี * ควา ม ขั ด แ ย้ งเรื่อยมา และนับวันยิ่งรุนแรง สลับซับซ้อนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ... สีของเสื้อ , ระบบเผด็จการพลเรือนรัฐสภาทุนนิยมสามานย์สุดโต่ง(ต้องเรียกันแบบนี้แม้จะอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง! ) , ระบบเผด็จการศักดินาอมาตยาธิปไตยจอมปลอม , หรือระบบเผด็จการฟัสซิสม์ท๊อปบูททหาร ฯลฯ

เรา มิต้องการให้มีความขัดแย้งที่งี่เง่า (หรือขัดแย้งให้น้อยลง) ไม่อยากให้ประชาชนสยามประเทศสมมุติต้องเกลียดชัง เข่นฆ่ากัน เราเสียเลือดเนื้อชีวิตมามากมายหลายคราแล้วอย่างน่าเศร้าสลดหดหู่ ฯลฯ ข้าฯ จึงขอเสนอทางเลือกหนึ่ง ว่าด้วยเรื่อง " การเมืองใหม่" ( โอ้ ลัลลลาลล์ กรุณาโปรดอย่าพึ่งเบือนหน้าหนี ถ่มถุย หรือเข้าใจผิด เพราะการเมืองใหม่ที่ข้าฯคิดนี้ มิใช่ตรงกับที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เสนอดอก หรือเราจะเรียกการเมืองใหม่นี้ว่า... " การเมืองที่ก้าวหน้า " ก็ไม่ผิด คือ ...

( 1 )

ถ้าเป็นการเมืองในระบบรัฐสภา ฉันเสนอให้มีทั้งการเลือกตั้ง และการแต่งตั้ง (โปรดอย่าเพิ่งบืนปากเพราะทั้งนี้มันไม่เหมือนกะ การแต่งตั้งดังที่ผ่านๆมา)

...
การเมืองใหม่นี้ เราอาจใช้อัตราส่วน 50 ต่อ 50 เปอร์เซนต์ ก็ได้หรือ 60 ต่อ 40 หรือ 40 ต่อ 60 ก็ได้ สมมุติเลือกตั้งทางตรง 50 % แต่งตั้งโดยภาคประชาชน ก็ต้อง 50 %

- - -
สำหรับ ภา ค ป ระ ชา ช น การแต่งตั้งต้องไม่ให้มาจาก ชนชั้นปกครอง รัฐบาล ชนชั้นศักดินาอมาตยาธิปไตย
หรือพวกข้าราชการชั้นสูงดังที่ผ่านๆมา แต่ จะต้อง แ ต่ ง ตั้ งมาจาก กกลุ่มประชาชนต่างๆในสยามปประเทศนี้เท่านั้น !
ไมว่าจะเป็นประชาชนชนชั้นวณิพก ขอทาน หญิงบริการ คนจนหมอนหมิ่น คนพิการ กระเทย เกย์ ตู๊ด ทอม ดี้ คนสลัม คนหาเช้ากินค่ำ ชาวประมง กรรกร ชาวนา คนต่ำต้อยที่ถูกหยามหมิ่น (ทำไมเขาจึงต่ำต้อยวะ คร๊าบ ? ) พ่อค้า แม่ขาย พนักงาน คนทำมาหากินเรื่องผับ บาร์ หรือ จะเป็นตัวแทนกลุ่ม กวี ศิลปิน นักคิด นักเขียน ฯลฯ ก็ได้ (ถ้าหากต้องการเป็น ) ฯลฯ

- - -
ประชาชนกลุ่มชนสยามเหล่านี้ จะเลือกตั้งตัวแทนในหมู่ของพวกเขาเอง รัฐและคนอื่นๆ อย่ามา ".ใส่เกือก" ยุ่งก็แล้วกัน ...แล้วเขาจะส่งตัวแทนของพวกเขาเข้าไปนั่งในรัฐสภาผู้แทนอันทรงเกียรติ (เวลาพวกส.. อภิปราย เกริ่นเรื่องทรงเกียรตินี้ ท่านผู้อ่านอยากจะอ๊วกและขากถุยส์ บ้างไหมคะร๊าบ ? ) อย่างสง่าผ่าเผย เทียมเท่ากับ ประดา ส.. และ ส.. ในส่วนที่ซื้อเสียงมานั่งสลัวสลอนทั้งหลาย ฯลฯ

นี้ คือ การเมืองใหม่ในระบบรัฐสภา การเมืองใหม่แบบนี้เท่านั้น จึงจะเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองใหม่
...
การเมืองที่ก้าวหน้า

( 2 )


ในส่วนการเมืองภาคประชาชนในสยามประเทศ ไมว่าจะเป็นชนชั้นผู้ถูกกดขี่
... รากเหง้า รากหญ้า และผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลาย ฯลฯ ก็ต้องดำเนินการเคลื่อนไหวต่อไป มิให้รัฐบาล รัฐสภามาผูกขาด ลักไก่ออกกฏหมายมาทำลายทรัพยากรธรรมชาติ

รากเหง้าวิถีชีวิตของมหาประชาชนชาวสยาม และโปรดจดจำไว้ให้ดี ... พ วก อวิ ช ชา ความคิดทุนนิยมโลกาวินาศสามานย์สุดโต่ง และพวกอภิสิทธิชนเผด็จการทุกสายพันธุ์ ฯลฯ โปรดจำและเข้าใจไว้ให้ดีว่าประชาชนชาวสยามที่บรรลุธรรม เขาช่วยปกป้องคุ้มกลาหัว พวกเธอ และ ลูก หลาน เหลน โหลน หลีด ลี้ ฯลฯ

ในอนาคตของพวกเธอผู้อวิชชา ในอนาคต ตวย โลกร้อนขึ้นทุกทีแล้วเน้อ พวกมนุษย์อวิชชาที่นับถือวัตถุเงินตราเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ทั้งหลาย !

กา ร เ มื อ ง ภา ค ป ระ ชา ชน ทุกกลุ่ม ทุกองค์กรพึงประสานหนุนช่วยกัน (รวมทั้งผสานกับตัวแทนที่มาจากการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง ตลอดจนข้าราชการผู้มีจิตสำนึกรักความถูกต้องเป็นธรรม ตลอดจนผู้รักธรรมทั้งปวง ฯลฯ ) ร่วมต่อสู้ด้วยกันทุกเครือข่าย ทุกองค์กร ฯลฯ ลีลาการต่อสู้ ก็มีทั้ง ... มีกระบวนท่า ไร้กระบวนท่า ฯลฯ กำหนดยุทธศาสตร์ - ยุทธวิธีให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของสังคมที่ดำรงอยู่ ต่อสู้ทุกรูปแบบทั้งแยกหมู่ - แยกกันตี - รวมกันตี ฯลฯ ตั้งฐานที่มั่นของตัวเองให้มั่น ( ตัวอย่างรูปธรรม เช่น กรณีพี่น้องบ่อนอก - หินกรูด ประจวบฯ ที่รวมกันต้านโรงไฟฟ้า, พี่น้องชาวเชียงของ - เชียงราย ต้านประเทศสังคมนิยมคอมมิวนิสต์จอมปลอม "จีน" ที่จะมาระเบิด เกาะ แก่ง ลำน้ำ ของ - โขง , พี่น้องชาวสะเอียบ แพร่ ต่อต้านการจะสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น, หรือพี่น้องมุสลิมบ้านครัว ต่อต้านการสร้างทางด่วนตัดหัวใจพี่น้อง ฯลฯ ดังนั้น ภาคประชาชนจึงหนีไม่พ้นที่จะต้องสำแดงพลัง รวมหมู่ ชุมนุม เดินขบวน สู้ทั้ง ใต้ดิน บนดิน ทุกกระบวนท่า ฯลฯ

สอง ::

ถา ม ใ จ เ ธ อ ผู้ ง ด งา ม ?

- - -
กา ร เ มื อ ง ใ ห ม่ ... กา ร เ มื อ ง ที่ ก้า ว ห น้าแบบนี้จะเป็นไปได้หรือไม่ ? ... นอกจากขึ้นอยู่กับประชาชนชาวสยามแล้วก็อาจขึ้นอยู่กับท่านพวกกลุ่มเผด็จการอภิสิทธิชนทุกสายพันธุ์ ตลอดจนกลุ่มการเมืองหลากสีสันทั้งหลาย ฯลฯ ที่ได้เอ่ยมาข้างต้นว่า พวกท่านจะหาญกล้ายอมรับใน version แบบนี้ไหม ? ที่พวกท่านเองปากก็พร่ำบ่นโหยหาประชาธิปไตยที่แท้จริง ! ( วาทกรรม ..ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่เอามาหลอกกันนั้น ไสส่ง โยนทิ้งลงนำครำ น้ำเน่าไปเถิดประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องแกงกินได้ กินอิ่ม นอนอุ่น(ใจ) เคารพในสิทธิแห่งความเป็นมนุษย์โดยเท่าเทียมกัน เอื้ออาทรต่อกัน ฯลฯ

- - -
แบบนี้ยอมรับได้ไหม? ถามใจจิตวิญญาณแห่งเธอผู้โหยหาประชาธิปไตยที่แท้จริง!!!

- - -
แต่ถ้าไม่ยอมรับ ก็ ต้องขึ้นอยู่กับ มั น ส ม อ ง มื อ ตี น ใ จ ของม ว ล มหา ป ระ ชา ช น ชา ว ส ยา ม ที่พึงต้อง ไ ข ว่ ค ว้า เ อา เ อ ง !!!

* หมายเหตุ : ถึ ง อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งนี้ เป็นระยะผ่านช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ทางการเมืองของประชาชนสยาม และ มนุษยชาติที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว ความขัดแย้งย่อมนำไปสู่การพัฒนา โลก สังคม ชีวิต ให้ดีขึ้น ฯลฯ ความขัดแย้งอาจมีการ ห ลั่ ง เ ลื อ ดกันบ้าง(ซึ่งเราเองก็ไม่ต้องการเห็นความสลด หดหู่ใจ เช่นนี้ ) หากคู่ขัดแย้งคิดว่า เป็น ศั ต รู กัน ... แต่ถ้ามนุษย์ได้อ่าน ได้รับฟัง ข้อคิด ปรัชญา ศาสนา ที่ดีงาม ฯลฯ ก็อาจจะทำให้จิตวิญญาณมนุษย์ เกิด บ ร ร ลุ ธ ร ร ม ได้ เลิก ยึดมั่น ถือมั่น ในกิเลศ ตัณหา โลภ โกรธ หลง อหังการ์ (ในทางที่ไม่ถูกต้อง) รู้จักปลดปล่อยวาง รู้ว่าจะไปเป็นศัตรูกันไปทำไม? เมื่อเราเป็นเพื่อนร่วมโลก เกิด แก่ เจ็บ ตาย เดียวกัน ดำรงอยู่ในโลก เอก ภพ จักรวาล เฉกกัน

...
เมื่อคิดเช่นนี้ได้
มนุษย์ก็จักเป็นมิตรสหายกัน
ความขัดแย้งก็จะกลายเป็นความขัดแย้งในหมู่ มิ ต ร
มนุษย์ก็ยิ่งจะช่วยกันคิดค้น พัฒนา สร้างสรรค์ สังคม โลก ชีวิต ฯลฯ ให้งดงามยิ่งๆขึ้นไป เมื่อ มนุษย์ หันหน้ามา โอบกอด จุมพิต กัน

...
แต่ ตราบใดที่ยังมีมนุษย์อวิชชาผู้ ก ด ขี่ ขู ด รี ด เอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ตราบนั้น มนุษย์ ก็มิอาจจัก โอบกอด จุมพิต กันได้ และ แน่นอน ตราบนั้น ค วา ม รั ก ค วา ม สา มั ค คี ค วา ม ส มา น ฉั น ท์ก็มิมีวันเกิดขึ้น เ ป็ น จ ริ ง ไ ด้ โ ด ย เ ด็ ด ขา ด !!!

--------------------------------------------------

เขียนต่อจากครั้งก่อน ที่ดูสื่อสารไม่ชัดเจนนัก ก็เลยถูกถล่ม แต่ครานี้ ก็ถล่มข้าพระพุทธเจ้าได้ กรุณาท่านผู้อ่านช่วยติติง วิพากษ์วิจารณ์ได้เต็มที่  จักเป็นพระคุณยิ่ง , คับ

 



 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
( ๑ )     เ พ ล ง อ รุ ณอ รุ ณ รุ่ ง  อั น รั ง ร อ งแสงทองส่องงามผ่องหล้าเกื้อชีพ เกื้อชีวาคุณค่าหนอ  งดงามนักโอ... เ พ ลง รุ่ งอ รุ ณ ฉ า ยพริ้มพราย  พร้อมพรักโ ล ก นี้ มี ค ว า ม รั กงามประจักษ์มอบแด่เพื่อนมนุษยชนดอกไม้ ผี เสื้อแมลงปอ   ระเริงร่าวิหค   นกกา  ทุกแห่งหนรำร้องบทเพลงฉ่ำกมลล่วงหลุดพ้นจิตอัตตา สว่างชีวัน
แสงดาว ศรัทธามั่น
แสงดาว ศรัทธามั่น
“เมื่อความรักเรียกร้อง...จงเดินตามเธอไปฯ”เมื่อสงครามเพรียกหาขอเราจงปฏิเสธมันฯ เมื่อความเขลาขลาดเกาะกุมจิตใจเรา...จงขับไล่มันออกไป !เมื่อความยุติธรรมเรียกร้องดวงใจจิตวิญญาณเธอ...จงแกร่งงามฯ
แสงดาว ศรัทธามั่น
สารคดี : เคยคิดบ้างไหมว่า ตัวเองเป็นคนเสียสละ ?ว นิ ดา : (นิ่งคิดครู่หนึ่ง) ...เรื่องนี้ไม่ค่อยคิดเท่าไร ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ใช่เรื่องว่าใครคนใดคนหนึ่งต้องเสียสละ คนอื่นเขาก็เสียสละ คนที่ทำงานกับเราเสียสละทุกคน จริงๆแล้ว ชาวบ้านเป็นผู้เสียสละ เขาถูกขับไล่ ถูกเวณคืนเพื่อสร้างเขื่อน ไม่อย่างนั้นเราก็ไมมีน้ำ ไม่มีไฟฟ้าใช้ เรามีโอกาสมากกว่า เราก็ช่วยเขา มีแรงพอจะช่วยเขาได้ เราก็ช่วย ดิฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้เสียสละไม่ได้คิดว่าเป็นนักบุญ หรือ แม่พระ และก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นหญิงเหล็ก คนอื่นเขาเหล็กกว่าดิฉันเยอะดิ ฉั น เ ป็ น ค น ธ ร ร ม ดา  เ พี ย ง แ ต่ ดิ ฉั น…
แสงดาว ศรัทธามั่น
เดินทัพทางไกลไปตามทาง ‘พะโด๊ะ มานซาห์’Long March with “Pado Manza Lapha” ‘พะโด๊ะมาซา ลา พา’หัวใจจิตวิญญาณ์ท่านสะอาดสดใสต่อสู้เพื่อวิถีชีวิตแห่งพี่น้องชนเผ่าเต็มหัวใจเพื่อชีวีงามอำไพ ตราบนิรันดร์
แสงดาว ศรัทธามั่น
ที่ รั ก ... โ อ้ ... My Belovedเก็บ กอด รั ก ที่ ง ด งา ม แห่งเราไว้ใน ค วา ม ท ร ง จำ... ฉั น ข อ โ ท ษถ้า เ ธ อ ถามไถ่ และ เ ธ อ โทรฯฉั น มิได้ตอบรับสายฯฉันขอโทษ... โปรดอย่าได้เคืองโกรธ ฉั น เลยโ อ ... My Beloved !!!เ ธ อ เห็นไหม?ตะวัน เดือน ดาว ยังคงสาดฉายผีเสื้อ แมลงปอ หิ่งห้อย งามพริ้มพราย เริงรำร่ายดวงใจแห่ง รั ก เรียงรายรำร่ายฟ้อน..." ชี วี ชี วา แห่ง รั ก ง ด งา ม แล้ว !!..... โ ป ร ด อ ย่าไ ด้ โ กรธ เคือง ฉั น เลยโ อ้... My Belovedโ อ ... เก็บกอด รัก แห่งเราผองไว้ในความทรงจำอันงดงามตราบนิรันดร์แสงดาว ศรัทธามั่นปลายฤดูหนาวที่มีฝนพรำ , 26 กพ. 51บ้านร้านขายเนื้ออิสลามช้างคลาน เชียงใหม่…
แสงดาว ศรัทธามั่น
“ความรักคือการให้”เป็นดวงใจ สะอาดพิสุทธิ์ สดใสสรวงสวรรค์แห่งรักย่อมเริงระบำงามเรืองไรเพียงเราไซร้  อย่าไร้ซึ่งชีวิตจิตวิญญาณ์เรื่อง…รัก เรื่อง Sex ...ฤา? คือสามัญธรรดาไร้ชนชั้นเพียงหัวใจนั้นรู้รักโลกชีวีกันเถิดหนาเมื่อกลองดวงใจร่ำรัวร้องดังขึ้นบ่งบอกชีวาจึงบรรลุธรรมว่า...โลกเอกภพจักรวาลนี้ ล้วนมีรัก...จักดำรงรัก...ส่วนตน+ส่วนตัว...หรือรักโลกแสงแดด-สายลมโชยโบยโบกหวานฉ่ำนักผีเสื้อ-แมลงปอเริงระบำบทเพลง พริ้มทายทักชีพชีวันจึงประจักษ์ว่าโลกนี้ยังงดงาม!Oh…My BeLoved!...ศานติภาพแห่งรักมนุษยชาติตระหนักว่ารักนี้งามวาบหวามเถิด โอบกอดรักกันไว้ทั่วเขตคามนิยามรักย่อมยั่งยืนนาน-งดงามเป็นนิรันดร์...We…
แสงดาว ศรัทธามั่น
คืออาจารย์ ..”อานันท์  กาญจนพันธุ์”งามรังสรรค์จิตวิญญาณมิเคยหลอกลวงลื่นไหลสู้เพื่อโลกชีวิตเพื่อความเป็นไทสู้ด้วยหัวใจเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน แห่งชีวี...เป็นนักคิดนักเขียน นักวิชาการกล้า แกร่ง หาญ นั้นเหลือที่พร้อมรำฟ้อนสู้เพื่อพี่น้องชนเผ่า ณ ปฐพีแล สู้ เพื่อ ผู้ถูกกดขี่... นิรันดร์ไป“ของหน้าหมู่” คือวิถีชีวิตของส่วนรวมโลกบวมบิดเบี้ยวก็ด้วยเพราะจิตวิญญาณมิเคยหยิบยื่นให้มี อวิชชาบ้าบอดในหัวใจ จึ่งทำลายโลกชีวิตธรรมชาติ พินาศพลัน...อาจารย์”อานันท์”และผองเพื่อนนักวิชาการจึงเหิญหาญ มิดูดายร่วมสร้างสรรค์ร่วมคิด – ร่วมรบ – ร่วมสู้ – ร่วมผูกพันโอ.. โลกเอกภพจักรวาล พร้อมใจกัน...…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพประกอบจาก http://www.flickr.com/photos/poakpong/2074673141/ ... โ ล ก นี้ก็เป็นฉันนี้เองบรรเลงเพลงรัก - ชัง – โฉดชั่วช้าทั้ง ง ด งา ม เ ริ ง ร่า พริ้มชีวาหลอมวิญญาณ์ โอบกอดรักงามแอบอิงมิได้พร่ำเพ้อ รันทด ฤา โศกศัลย์ด้วยเรานั้น ณ เพลานี้ ดวงใจนิ่งต่อชีวิต ต่อสัจธรรม ต่อความจริงกับชีวีทุกสิ่ง ย่อมเป็นไปน้อมรับรู้ เรียนรู้ ด้วยวิถีปัจเจกจักรวาล เอกภพ โลก ขับเคลื่อนไหวพราวเส้นทางช้างเผือก พริ้มอำไพโอบกอดดวงใจเพื่อนมนุษยชาติ พิลาสพลันพริ้วบทเพลงพริ้งเพราะเสนาะขับขานกล่อมพลังจักรวาลสู่โลก สู่สรวงสวรรค์ทั้งด่ำดิ่งลึกสู้ห้วงมหหานรก ห้วงโลกันตร์ไร้คืนวัน ไร้กาลเวลา ไร้ถิ่นที่พริ้มเพลงรักงดงาม…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพประกอบจาก : http://www.flickr.com/photos/poakpong/2074330653/ มนุษย์ไยรุนแรงทำบาปกรรมกับเพศแม่ ?อันมีพระคุณให้กำเนิดแด่เธอในทุกที่เพศแม่งามคุณค่าล้ำชีวีจิตวิญญาณวิถีแม่งามอำไพตะวันเดือนดาวพราวพร่างฟ้าทางช้างเผือกบนนภา กระจ่างแจ่มใสเริงระบำรำร่ายฟ้อนงามเรืองไรอวยพรชัยให้เพศแม่สุขสบายดีโอ ! สกุณา ผีเสื้อ แมลงปอ เริงรำฟ้อนระเริงร่อนอวยพรชัยให้สุขีโลก เอกภพ จักรวาล เริงรำฟ้อน โอบกอดชีวีคารวะเพศแม่ ณ วันนี้ ตราบนิรันดร์แม่แห่งโลก + แม่แห่งลูกสายลมโชยโบยโบกจิตสุขสันต์แม่แห่งลูก + แม่แห่งโลกพร้อมใจกัน ร่วมสร้างสรรค์สังคมใหม่ให้เป็นจริง !!!ต้นฤดูหนาว, พฤศจิกายน , ๒๕๕๐ , ล้านนาอิสรา , เจียงใหม่.
แสงดาว ศรัทธามั่น
พ.ร.บ.ความมั่นคงมั่นคงของใคร?ของเผด็จการทหาร ?ของเผด็จการรัฐสภาจอมปลอมของเผด็จการข้าราชการศักดินาฯลฯ...ฯลฯ...ฯลฯ
แสงดาว ศรัทธามั่น
สหาย " รั กไ ห ม ว ง ศ์ ล้า น นา " คับ อ้ายฯ ส่งใบโอนมาให้ที่อ้ายรักไหม กรุณามอบภาพวาดเดือนตุลาฯ มาให้อ้าย เป็นภาพที่อ้ายชอบมากๆ , คับ ..... หากบังเอิญ เกิดฟลุ๊คเมื่อใด จักโอนมาให้ครบในทันทีเลย แต่ตอนนี้ขอเดือนละห้าห้อยก่อน (เพราะอ้ายเป็นมหาโจรห้าห้อย - - - HA ฮา ฮ่า) อ้ายฯ ส่งบทกวีที่เขียนถึงแม่อุ๊ย "พูนศุข พนมยงค์" ไปให้ อ้าย "สุชาติ สวัสดิศรี" แล้ว คงจะลงตีพิมพ์ใน เนชั่น คอลัมน์ "สิงห์สนามหลวง" ไม่ช้านี้....  อ้ายชอบแม่อุ๊ย "พูนศุข พนมยงค์" ที่เขียนพินัยกรรม ก่อนตายว่า ... ไม่ขอรับเกียรติยศใดๆ ทั้งสิ้น" ช่างคมเฉียบขาดนัก ... ท่านปรีดี พนมยงค์ และท่านผู้หญิงพูนศุขฯ…