Skip to main content

@ ไอ้เหี้ย … ไอ้ห่า… ไอ้ควาย ไอ้ ชาติหมา ฯลฯ” เสียงคำด่านี้ เราได้ยินมานมนาน จากอารมณ์ และ ปาก ของสัตว์มนุษย์ที่เรียกว่า… ค น


ฉั น คิดว่า เพื่อนสัตว์ร่วมชีวิตโลกของเราเหล่านี้ เขาก็มีวิถีชีวิตของเขาเอง และเขาก็ยังประโยชน์แด่แผ่นดินด้วย ให้พวกมนุษย์ผู้มีสองขา สองตีน ยืนตรงตั้งฉากกับท้องฟ้าที่เพรียกขาน ยกย่องตัวเองว่า “เป็นสัตว์ประเสริฐ”


- - - น้องเหี้ย เขาก็มีวิถีชีวิตของเขา กินอาหารที่เหลือทิ้งบ้าง ฯลฯ ดูแลความสะอาดให้มนุษย์อวิชชา … หกเจ็ดปีมาแล้ว ฉันและเพื่อนกวี นักคิด นักเขียน ศิลปิน คนเพลง ฯลฯ ทั่วทุกภาค ได้มีโอกาส ไปเยือนเกาะบูบู (จังหวัดกระบี่ เป็นเกาะของ อ้าย “ วินัย อุกกฤษณ์” หรือ “วารี วายุ” กวี นักคิด นักเขียน และเป็นผู้แต่งเพลง “นกสีเหลือง” อันลือเลื่อง ให้กับวงดนตรี “คาราวาน” หลังเกิดเหตุการณ์ลุกขึ้นสู้กับเผด็จการทหหาร ถนอม – ประภาส - ณรงค์ กิตติขจร ฯลฯ เมื่อเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖) ตามคำเชิญชวนของศิลปินผู้ประสานงาน คืออ้าย “อาจารย์ถนอม ชาภัคดี” และผองเพื่อนศิลปินฯลฯ เราพากันไป อ่านบทกวี วาดภาพ เล่นดนตรี เล่นน้ำทะเลที่ชายหาดกันที่นั่น ประทับใจมาก ดีแล้วที่ (โกเอียด … อ้ายวินัย อุกกกฤษ์ )เป็นเจ้าของเกาะธรรมชาติ ณ ที่นั่น เพราะทำให้เกาะมีชีวิตชีวาตามธรรมชาติ มิใช่ให้นายทุนบางคน บางกลุ่ม บางพวกมาปู้ยี่ปูยำ ดังเช่นเกาะทั่วๆ ไปที่เรารับรู้เห็นกันอยู่แล้ว ฯลฯ … ) - - -


เรือแล่นไปไหน ไกลถึงเกาะบูบู พี่รับเจ้ามาอยู่เกาะบูบู นะสาวน้อย…กำไลใส่วงแขน แหวนนั้นของใครๆ ฯลฯ’’ (ขอโทษคับ จำได้ไม่หมด ใครจำได้กรุณาช่วยต่อเติมให้ท่านผู้อ่านด้วย ขอบพระคุณคับ… นี่คือเพลง “บู บู” ที่อ้ายวินัย อุกกฤษณ์ แต่งไพเราะมาก เป็นท่วงทำนองรองเง็งแห่งทะเลอันดามัน … แต่ถ้าให้ข้อมูลผิดเรื่องจังหวะท่วงทำนอง ก็ขอโทษด้วยคับ”)


    - -
    ณ ที่นี่ ฉั น เห็นเพื่อนสัตว์ที่มนุษย์เรียกพวกเธอ “เหี้ย มากมาย เลื้อยคลาน วิ่งกันไปมาอย่างมีความสุข ใต้ร่มไม้อันร่มรื่น แห่งเกาะอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ … อ้ายเอียด …วินัย อุกกฤษณ์ ปล่อยให้เพื่อนสัตว์อยู่กินตามสบายเลย ฯลฯ


- - -
ส่วนพี่ ควาย นั้นไม่ต้องสาธยายให้มากเรื่อง พี่เขาไถนาให้พี่น้องชาวนา ทำนาให้เรา … สัตว์มนุษย์กิน แถมไม่พอพี่เขาก็ยังอุทิศชีวิตให้พวกมนุษย์เอามาทำ ลาบควายอร่อยเหาะแห๋ม ตวย ทำซกเล็ก ทำหนังควายจี่อีกด้วย ทุกอย่างที่พี่เขาอุทิศชีวี ล้วน แสนจะลำ อร่อยทั้งนั้น ฯลฯ แล้วไปอวิชชาดูถูก ว่า พี่ควายทำไม? ( ก้อ ฉงนฉงาย แปลกใจ ที่ทำไมไม่มีใครด่าน้องงัวว่า”ไอ้วัว” วะ? )


    - - เอ๊า ตานี้มาถึง น้องหมา เขาก็มีวิถีชีวิตของเหล่าพวกเขา มีประโยชน์ต่อคน … เอาไว้เฝ้าบ้าน เห่าขโมย คนที่รักหมาเลี้ยงหมาก็ได้ชื่นชม แก้เหงา(ยกเว้นพวกมนุษญ์ที่เลี้ยงตามแฟร์ชั่น เบื่อแล้วก็ใจบาป ปล่อยให้เขาเป็นหมาจรร่อนเร่ไปตามถนนน่าเวทนา เดินโทงโทงคุ้ยเขี่ยหาอาหารที่จะแสนเขียมยากตามถังขยะ ดีไม่ดีคนใจบาปเหล่านี้ก็เอาหมาแมวไปปล่อยที่วัดเป็นภาระให้ตุ๊เจ้าอีก…เราเลี้ยงสัตว์ก็เหมือนเราเลี้ยงลูกของเรา เน้อ มีเมตตาต่อเขา เลี้ยงจนเขาตายนั่นแหละ ตายก็เอาไปฝังดิน (เรื่องมีเมตตาต่อหมา แมว นี้ ต้องไปอ่าน ใน blog ของ “น้องมูน” ในประชาไทนี่แหละ ชื่อว่า “บ้านสี่ขา” เธอเลี้ยงทั้ง หมา แมว เป็นจำนวนมากร่วมกับพระคุณแม่ของเธอ)


- - - เจ้าพวกสัตว์มนุษย์นี่แหละตัวสำมะคัญ นอกจาโหดร้ายเอารัดเอาเปรียบกันแล้ว ก็ยังทำลายรากเหง้าวิถีชีวิต ทำลายแม่พระธรรมชาติ แห่ง โลก เอกภพ จักรวาล สรรพสัตว์ สรรพสิ่ง สรรพชีวิต ฯลฯ(โลกร้ อ น มากแล้ว เน้อ มนุษย์ที่คิดอหังการ์ว่าตัวเองดีเลิศประเสริฐศรี) ทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) มีคุณประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ มองไม่เห็นองค์รวมที่ต้องดำรงอยู่ มีความคิดแบบแยกส่วน ไม่มองเห็นความสัมพันธุ์ของสรรพสิ่งสรรพชีวิต นับถือวัตถุเงินตราเป็นดุจพระเจ้าองค์ใหม่ ฯลฯ


. . . เพื่อนสัตว์มนุษย์คน “สุดที่รักเอย” - - - ขอฮัมเพลงให้ฟังซักท่อน เป็นเพลงที่ร้องโดย “ชรินทร์ งามเมือง (นันทนาคร)” หรือ “สุเทพ วงษ์กำแหง” ก่ จำ บ่ ค่อยได้แล้ว ชื่อเพลงคือ “สุดที่รักเอย” ที่ขึ้นต้นว่า… “สุดที่รักเอย คำนี้ผมเพิ่งเคย จะเอ่ยกับคุณ โปรดได้เมตตาการุณย์ เพราะรักคุณ … ฯลฯ’’ (ท่อนต่อไปจำไม่ได้แล้ว เรื่องเพลงเก่าๆ ต้องขอให้ “ครูถนอมรัก เดือนเต็มดวง” ร้องให้เราฟัง เพราะครูมีความจำแม่นและมีเสียงไพเราะด้วย ครูเขาชอบร้องเพลงมาก โดยเฉพาะตอนเป็นหนุ่มโสดสุดหล่อ ครูเขาชอบร้องเพลงจีบสาวๆ สาวใดฟังแล้ว หูตู๊บ เล๊ย … H a H a )


. . . เพื่อนสัตว์มนุษย์ “สุดที่รักเอย” นี่ถ้า “เหี้ย, หมา, ควาย” เพื่อนร่วมโลกของเราพูดได้ เขาก็พูดด่าตอบแบบจิ๊กโก๋ จิ๊กกี๋ ปากซอย ทำนองว่า… “ธ่อโว๊ย ไอ้สัตว์คน กูไม่ได้ชื่อว่าเหี้ย ควาย หมาดอก มึงเสือกไปตั้งชื่อให้กูเอง แม่มมม โครตงี่ง่าวหว่ะ กูก็ขอด่าไอ้พวกสัตว์มนุษย์หน่อย กูเป็นตัวตนของกูแบบนี้ กูบ่ มีชื่อดอกโว๊ย ปัดโธ่ ไอ้สัตว์คน” เพื่อนร่วมโลกของเราก็คงจะด่ากลับแบบนี้ แต่เขาพูดสื่อกับสัตว์คนบ่ได้…ถ้าสัตว์คนฟังออกแล้ว พณ หัวเจ้าทั่น จะห นา วววววววว …


- - - ที่ข้าพระพุทธเจ้า เอาเรื่องนี้มาพูด เพราะมันแว๊บขึ้นมาในสมองความคิด และก็อยากพูดมานานแล้วว่า สัตว์มนุษย์คนที่คิดโมเมเอาเองว่าตัวเองเป็นสัตว์อันประเสริฐ เหนือกว่าสรรพชีวิตอื่นๆ (ที่แท้ ทุกๆสรรพชีวีมีชีวิตศักดิ์ศรีเหมือนกันหมด ขี้เหม็นเหมือนกันหมด เพื่อนสัตว์บางชนิดขี้ยังไม่เหม็นเท่าเพื่อนสัตว์มนุษย์เลย ทำไมพวกมนุษย์อวิชชาคิดได้เพียงแค่เนี๊ยะ มันน่าอาย ช้าง ม้า วัว ควาย เหี้ย หมู หมา กา ไก่ นก หนู ฯลฯ บ้าง)


. . . อ ยา ก จะขอเชิญชวนทุกๆท่านช่วนกันบัญญัติศัพท์คำด่ามนุษย์ด้วยกันใหม่ โดยไม่ต้องให้สัตว์ผู้มีพระคุณต่อมนุษย์เรามาเกี่ยวข้อง ใครพอบรรลุธรรม รู้แจ้ง เห็นจริง ฯลฯ ก็ได้โปรดกรุณาเป็นวิทยาทานให้ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด …รู้ไหม? เพื่อนสัตว์ต่างๆ ที่เราดูถูกนั้น เขาฟังภาษาเรารู้เรื่องและเขารำคาญเขาก็ด่าพวกเราทุกวี่วันอยู่แล้ว เพียงแต่เขาสื่อเป็นภาษาคนบ่ได้ เราไม่ได้ยิน ไม่รู้เรื่องดอกจ้า เพราะเราฟังภาษาและคำด่าของเขาไม่ออก


- - - “ตถาตา อาเมน อิสลามมาลากุม สาธุ ฯลฯ’’ @


ปลายฤดูหนาว, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒

บ้านชายทุ่ง ตำบลหนองจ๊อม (ดินแดนขบถพญาผาบ) อำเภอสันทราย,
ล้านนาอิสระ, เจียงใหม่ .

 

 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
ฉั น นั่งคุยกับ อ. เปี๊ยก(เพื่อนร่วมชีวิตกับสุดสะแนน) ใต้ร่มต้นมะปราง ลิ้นจี่ ลำใย ฯลฯ ณ ร้าน - บ้าน "สุดสะแนน" ฉั นมักมาพำนักที่นี่เสมอด้วยความกรุณาของผองเพื่อนพีน้องสุดสะแนน ดังที่ฉั น เคยเขียนว่า ที่นี่เป็นป่าในเมือง รายล้อมด้วย ตึก คอนโด เกสต์เฮ้าส์ ฯลฯไก่ชนรูปร่างสง่างามคุ้ยเขี่ยหาอาหารใต้ร่มไม้กะ อ.เปี๊ยก ที่ผูกเปลนอนใต้ร่มไม้ ไก่ชนตัวนี้รอดชีวิตมาได้ เพื่อนๆจะเอาไปต้มกิน แต่ "อ.คิง" เอามาที่สุดสะแนน ก่อนที่เพื่อนๆจากเชียงของ, เชียงราย จะมาบ้าน "อ้ายต้อม และ พี่กบ" ที่สันทรายแม่โจ้, เชียงใหม่....เพื่อนๆ จากเชียงของคือผู้ที่ปกป้องรักษารากเหง้าวิถีชีวิตให้กับโลก แผ่นดิน…
แสงดาว ศรัทธามั่น
เ ดื อ น - ดา ว งามแจ่มฟ้าลาวัณย์แ ร ม - เรืองรองพลันบรรเจิดจ้าป ระ กา ย - เดือนดาวแห่งคืนวันดับวูบ แล้วเฮยเ รื อ ง - เรื่อเหลืองอร่ามแล้วอาบโลก งามนิรันดร์ ฯน้ อ ง ชา ย....ยินข่าวเจ้ากลับคืนสู่ผืนดินข่าวคราวจากผองเพื่อนแห่งล้านนาฉัน งงงวย และใจหายต่อมา... เริ่มเข้าสู่ห้วงภวังค์จิตสมาธิ* " ต ถา ตา .... มันเป็นไปเช่นนั้นเอง "
แสงดาว ศรัทธามั่น
(1) ธ ร ร ม ชา ติบ่า ยในห้วงฤดูฝนนี้ ณ "สุดสะแนน"ฟ้าครื้มเมฆ ใบไม้ไม่ไหวติง ผีเสื้อยังคงเริงรำร่อนดูดดื่มเกสรดอกไม้ ไก่แจ้บางตัวคุ้ยเขี่ยหาอาหาร บางตัวก็พักผ่อนไซร้ขนนอนหลับ แม่ไก่ที่นี่มีสามสี่ครอก งดงามนักน่าขำและงดงามไก่แจ้ครอกหนึ่งมีแม่สองตัวช่วยกันเลี้ยง ถาม "อ้ายฮวก"เจ้าของร้านสุดสะแนนเธอบอกว่า "แม่ไก่สองตัวช่วยกันฝัก" งดงามมากเลย... ผีเสื้อสีน้ำเงินบินมาเกาะที่แก้วน้ำฉันฉันนั่งอยู่ใต้ร่มไม้มะม่วงอันร่มรื่น มดแดงมาเกาะที่แขนฉันฉันค่อยๆจับเขาไปปล่อยเกาะที่ร่มมะม่วง
แสงดาว ศรัทธามั่น
 (1)พรรษาราตรีพรรษาฤดูฉันนั่ง ณ ลานโล่งกว้างแห่งเมืองใหญ่ยามราตรีนี้ทุ่งฟ้าดูมิสดใสด้วยเมฆฝนทว่า...เป็นครรลองของธรรมชาติที่เป็นไปเช่นนั้นเอง“ตถาตา”
แสงดาว ศรัทธามั่น
( 1 ) พ ลิ้ ว โ ผ แ ล โ อ บ ก อ ดอรุณรุ่ง ฉันนั่งใต้ร่มไม้มะม่วง ณ ที่นี่มีต้นไม้พันธุ์ไม้หลากหลาย ฯลฯทั้งไม้ดอก ไม้แดก ( หมานถึงกินได้ ) เช่น มะม่วง มะปราง ลิ้นจี่ตาขบ ฯลฯ ที่นี่ ถือว่า เป็นป่าในเมือง มีความร่มรื่น มี นก หนูแมลง กระรอก ผีเสื้อ แมลงปอ กบ เขียด ปาด อึ่งอ่างคางคก และไก่แจ้ ฯลฯ ขณะฉันเดินออกกำลังกาย รับแสงตะวันยามเช้าไก่แจ้หลายตัวก็เริงรำย่ำย่างมาหาฉัน ฉันรู้ว่าเขาต้องการอะไรฉันรีบเดินไปเอาข้าวสาร ณ บ้าน - ร้านนี้ มาโปรยปรายให้พวกเธอบ้ า น - ร้านนี้ล้อมรอบไปด้วย ตึก คอนโด ด้านทิศตะวันออก กำลังสร้าง ตึก คอนโด ฉันคำนวณความสูงไม่ต่ำกว่าสิบชั้น...โอ้ ...นกกระจอกมาแล้ว…
แสงดาว ศรัทธามั่น
*1  เรียวนิ้ว บรรเลง เพลง บลูส์ กีร์ต้า     เรียวปาก พริ้ม ฮาร์โมนิการ์ขับขาน*2  กลอง บองโก้ บรรเลง เพลงรัก ฉ่ำชื่นบาน     โอบกอดโลก สุข สราญย์เบิกบาน ชีวี     สาก มือ นิ้ว ด้าน  ด้าน เหนี่ยว ไกปืน      ผงาดยืน สาดกระสุนใส่ ในทุกที่ *3  ระเบิดบาป กระสุนบ้า ณ เพลานี้      ถล่มโลก ให้ป่นปี้ ด้วย ไ ฟ ส ง ค ร า ม*4   เธอ “ผิวปากเป็นบทเพลงแห่งความคิดถึง”      เพราะรักจึงจิตวิญญาณ – หัวใจ มิอาจห้าม     …
แสงดาว ศรัทธามั่น
Up fighting together for "FRIEND OF BURMA" and give power heart hug for.......FRIEND SENDING  STRENGTH TO NAGIS VICTIMS"พ ลั ง ใ จและโอบกอดแด่การ ลุ ก ขึ้ น สู้ของพี่น้องชนเผ่า และป ระ ชา ช น ชา วพ ม่า (มิใช่ชนชั้นปกครองรัฐบาลเผด็จการทหารฟัสซิสม์มิยันม่าร์) และพี่น้องที่ถูกพายุนากิส โหมซัดกระหน่ำทำให้ต้องตายนับแสนๆ คนและสูญหายอักนับหมื่นคน******
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพประกอบจาก http://www.flickr.com/photos/poakpong/2301645201/  ..... เ พ ลง ROCK ผสานเพลง เ ร ก เ ก้"บอบมาเล่ย์" and WE CAN PLAY พริ้งผ่องใสทั้ง ไทย - สากล - ลูกทุ่ง ...COUNTRY SIDEทั้ง เพลง ฉ่ อ ย ชื่นฉ่ำไล้ เพลง ร อ ง เ ง็ งเพลง ลำ เพ ลิ น เพลง จ๊ อย ซ อเพลง ป ว่า เ ก อ ญ อ พลิ้วบรรเลงเพลง รั ก โ ล ก เฉิดเชวงคือ บทเพลง แห่ ง รั ก อั น งด งา ม !!!For Humanity friend on Earth ... We Love Y ou !!!!คิมหันตฤดู, 22 เมษายน 2551"สุดสะแนน", ล้านนาอิสระ , เจียงใหม่
แสงดาว ศรัทธามั่น
* @ " ปุ๋ ย ... นั น ท โ ช ติ  ชั ย รั ต น์ "เพื่อนแจ่มชัด สู้เพื่อโลก - ประชาชนได้สุขสันต์พริ้มบทเพลงกล่อมเห่เป็นนิรันดร์พลิ้วเพลงฝันกล่อมโลก กล่อมชีวี- - - ชั่วชีวาแห่งเธอแกร่งกล้างามเสมอนั้นเหลือที่คุณค่า คงมั่น หยัดยืน ณ ปฐพีร่วม " ลุ ก ขึ้ น สู้ " เพื่อพี่น้องผู้ถูกกดขี่ ... ประชาชน... เ ธ อ มี จิ ตวิ ญ ญา ณ สะอาดสดใสงา ม ด ว ง ใ จ เ จิ ด จ้าแจ่มเหลือล้นแห่งเพื่อนพี่น้อง " ส มั ช ชา ค น จ น "เพื่อ ผู้ทุกข์ทน ทุกข์ยาก ได้กำ ชั ย !!!... พริ้ มตาหลับลงเถิด เพื่อนแก้วเอ๋ยสายลมโชยพัดรำเพย อวยพรให้ผีเสื้อ แมลงปอ แล ดอกไม้โ ล ก เ อ กภ พ จั ก ร วาล ฉ่ำไล้ โอบกอด เ ธ อ** จิ ต วิ ญญา ณ- เ ธ…
แสงดาว ศรัทธามั่น
"ท่าน ค า ลิ ล ยิ บ ร า น "คือหนึ่งในมหาปราชญ์กวีแห่งโลกหล้าปลุกปลอบเพื่อนมนุษยชาติให้งดงามจิตวิญญาณ์หลอมคุณค่าชีวีโลกให้ ฉ่ำ บา น !
แสงดาว ศรัทธามั่น
*** "มองดูความจริงซีพี่ น้องผองเพื่อน"มองดูแล้วย้ำเตือนคนหนุ่มสาวโลกร้อนแล้งเลวร้ายเนิ่นนานยาวทั้งเหน็บหนาวปวดร้าวทุกคราวครั้ง
แสงดาว ศรัทธามั่น
@ - - - ป รา ก ฏ กา ร ณ์ธรรมชาติดูเหี้ยมโหดเกรี้ยวกราดโกรธทำลายไปทั่วดิน ฟ้า อากาศ ดูน่าสะพรึงกลัวแตกตัว เติบใหญ่ ไปทุกที่ลูกเอ๋ย... แม่ก็รู้ ลูกเจ็บปวดร้าวรวด ทุกข์ทรมาน เหลือที่ก็ แ ม่ ก็ อยู่ ของ แ ม่ อยู่ ดี ดีแล้ว ลู ก อัปรีย์ ไยมาย่ำยีกดขี่ข่มเหง แ ม่ ทำ ไม ?แ ม่ เองก็เจ็บปวดรวดร้าวนักเหน็บหนาว รุ่มร้อนประจักษ์ เจ็บป่วยไข้ไฉนเล่ามาเฆี่ยนโบยตี มาสุมไฟรุกไล่ ทำลาย ล้างผลาญเจ้า ลู ก ริ ยำ เอ๋ย ...ไย เ ธ อ ไม่รู้ ?อวิชชาพรั่งพรูกรูกลบหมดสิ้นโลภ โกรธ หลง เมามัว เข่นฆ่าแ ผ่ น ดิ นพังภินท์ไปหมดทั่วเอกภพ จักรวาลลูกหลานเอ๋ย ... แ ม่ก็ปวดเจ็บ ...หนาวเหน็บเมื่อม า ร ลู ก มาล้างผลาญหยุดเถิดยังมิสาย…