Skip to main content

ฉั นั่งคุยกับ . เปี๊ยก
(
เพื่อนร่วมชีวิตกับสุดสะแนน) ใต้ร่มต้นมะปราง ลิ้นจี่ ลำใย ฯลฯ ร้าน - บ้าน "สุดสะแนน"
ฉั นมักมาพำนักที่นี่เสมอด้วยความกรุณาของผองเพื่อนพีน้องสุดสะแนน
ดังที่ฉั น เคยเขียนว่า ที่นี่เป็นป่าในเมือง รายล้อมด้วย ตึก คอนโด เกสต์เฮ้าส์ ฯลฯ

ไก่ชนรูปร่างสง่างามคุ้ยเขี่ยหาอาหารใต้ร่มไม้กะ อ.เปี๊ยก ที่ผูกเปลนอนใต้ร่มไม้
ไก่ชนตัวนี้รอดชีวิตมาได้ เพื่อนๆจะเอาไปต้มกิน
แต่ ".คิง" เอามาที่สุดสะแนน ก่อนที่เพื่อนๆจากเชียงของ, เชียงราย จะมาบ้าน "อ้ายต้อม และ พี่กบ" ที่สันทรายแม่โจ้, เชียงใหม่....
เพื่อนๆ จากเชียงของคือผู้ที่ปกป้องรักษารากเหง้าวิถีชีวิตให้กับโลก แผ่นดิน และรักษาธรรมชาติชีวิตให้เราชนชั้นกลางในเมืองด้วย รวมทั้งพวกทุนนิยมสามานย์ และพวกอมาตยา และเผด็จการ ฯลฯ ด้วย
พวกเผด็จการจีนที่อ้างว่าเป็นสังคมนิยม คอมมิวนิสต์เขาสร้างเขื่อน
และระเบิดแก่งในแม่น้ำโขง เพื่อการพาณิชย์
และจะมาระเบิดเกาะแก่งที่เชียงของด้วย แต่พี่น้องเชียงของต่อต้าน
ซึ่งนำโดยแม่ทัพใหญ่คนเชียงของตัวจริง คือ "ครูตี๋ ... นิวัตร ร้อยแก้ว" จนเผด็จการจีนต้องถอยปายยยยย

ตอนแรก อ.เปี๊ยก ก็คิดจะกินไก่ชนตัวนี้ แต่วันที่เขามาที่สุดสะแนน
.เปี๊ยกบอกว่า ได้คุยกับเจ้าไก่ทั้งคืน
ไก่เธอก็รับฟัง ตื่นเช้าขึ้นมา
.เปี๊ยกก้อบอกว่าไม่กินเขาแหล่ว

.เปี๊ยก เขาสวยงามมากนะ อย่ากินเขาเลย เป็นบุญที่เขาได้มาอยู่บ้านคนใจบุญที่นี่”
"
ผมไม่แล้ว ผมรักมัน" .เปี๊ยกบอกมีรอยยิ้ม และแววตาสดใส หัวใจฉันฉ่ำบาน!

อ้ายขอตั้งชื่อให้เธอว่า "เจ้าสีไฟ"” ฉันบอก เพราะเจ้าไก่หนุ่มต้วนี้งดงามสง่า มีปีกขนสีแดง สร้อยคอก็สีแดง
"
สร้อยแสงแดงพะพาย ขนคิ้วลายเลี่ยมระยับ ปีกสะหลับเบญจรงค์ เลื่อมลายหงษ์สะบาท ฯลฯ "
ตอนเรียนชั้นมัธยมเคยอ่านบทกลอนนี่ที่พูดถึงความงามของไก่
แต่ไม่แน่ใจว่าฉันเขียนถูกหรือเปล่า? อาจผิดก็ได้เพียงบางส่วน
ถ้าท่านผู้ใดมาอ่านขอความกรุณาช่วยเสริมให้ด้วย

เจ้า "สีไฟ" ไก่ตัวนี้ มีลักษณะเช่นนี้จริงๆ
"
เขาเป็นไก่ชน" .เปี๊ยกบอก อ.เปี๊ยกเคยเลี้ยงไก่ชนตอนอยู่อิสานอิสระ มีความรู้ความชำนาญในเรื่องไก่ชน

ฉันดีใจที่เจ้า "สีไฟ" รอดตายด้วยความรัก กรุณาของคนรักสัตว์ แห่ง "สุดสะแนน"
"
.เปี๊ยก หาไก่บ้านตัวเมียสีดำมาเป็นคู่เขาหน่อยนะ เพราะที่นี่มีแต่ไก่แจ้ สาวๆไก่แจ้สู้เขาบ่ไหว
เจ้าสีไฟตัวโตยังกะยักษ์”
.เปี๊ยก ยิ้มและหัวเราะ และบอกว่า "ครับ"

เจ้าสีไฟ กระพือปีก ขันเป็นระยะๆ
ประชันกับไก่แจ้ตัวผู้ที่มาอยู่ก่อนแล้ว เธอกระพือปีก สวยงามมาก
ฉันเกิดปีเล้า (ภาษาทางเหนือ) ถ้าทางภาคกลางก้อเรียกว่าปีไก่
ตอนเป็นเด็กเล็กๆ พ่อแม่เลี้ยงไก่ ฉันจึงรัก และชอบไก่มาก แต่โตขึ้น
ฉันก็ชอบกินไก่ ha ฮ่า ... มิใช่ไก่ซีพีที่เร่งสารอันก่อให้เกิดมะเร็งได้ ฉันก็ชอบกินไก่บ้าน และหมูบ้าน ที่เลี้ยงด้วยอาหารธรรมชาติ หมูกินหยวกกล้วย กับแกลบ ไก่กินรำข้าว ข้าวสาร ข้าวเปลือก และหากินตามธรรมชาติ ฯลฯ
แต่มาบัดนี้พวก หมู ไก่ ฯลฯ กินไม่เป็นธรรมชาติซะแล้ว เขาเร่งสารและไม่ให้ไก่ได้หลับได้นอน เอาไฟส่องทุกค่ำคืน ผิดธรรมชาติ ราวังเน้อ
คนที่ชอบกินข้าวมันไก่มะเร็ง (มิช่ายแมลง) จักเกิดขึ้นได้กะตัวเราเอ้ง

เจ้าสีไฟ ไก่ชนโก่งคอข้น ... เอ็ก อี่ เอ็ก เอ็ก เสียงไพเราะนัก ผสานกับเสียงไก่แจ้

ฉันนั่งดื่มด่ำน้ำมังสวิรัติ
เสียงนกร้องเพลง สายลมโชยพลิ้ว ท้องฟ้ามีเมฆงาม
แสงแดดสวยโลมไล้ใบไม้ใบหญ้า เสียดายที่ ฉันไม่ได้เอากล้องติดตัวมา

พื่ นุ ชา ติ เอ๋ย
จะกระไรกันนักหนา
เพียงแค่นี้ ก็ งา ล้
จักโลภโมโทสัน กดขี่ข่มเหง
กันไปทำมายยยยยยย ?

พรรษฤดู, ล้านนาอิสระ, เจียงใหม่.

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
 *--*--*{ กาพย์”ลุกขึ้นสู้” }
แสงดาว ศรัทธามั่น
{  กลอนเปล่าอิสรา  }@  ลมหนาวเหนือ พัดโชยมา…ยามต้องไล้ผิวกายร้อนที่รุ่มก็คลายกลิ่นอายเหมันตฤดู …ไม่รู้ลืม @
แสงดาว ศรัทธามั่น
 
แสงดาว ศรัทธามั่น
 ***** --*-- ***** --*-- *****@   “  ฮา  ติง จัง…จังคนมีอำนาจล้นฟ้า  แต่รังแก คนยากไจ้ อำนาจ แบบ ต๋ามใจ๋ เขา “น้องสาว  ผู้ดีงาม ใจงาม ของฉัน  แล ของโลกชีวิต อีกคนหนึ่ง