{ กลอนเปล่าอิสรา }
@ ลมหนาวเหนือ พัดโชยมา…
ยามต้องไล้ผิวกาย
ร้อนที่รุ่มก็คลาย
กลิ่นอายเหมันตฤดู …ไม่รู้ลืม @
@ นกน้อยๆสีเหลืองเรืองเรื่อ
โบยบินมาทุกแหล่งหล้า มิรู้หน
โผร่อน จับเกาะกิ่งก้าน ต้นมะขามสนามหลวง – สนามราษฏร์
ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ถามไถ่ทักทายกัน
โอ… ก็นานนักแล้ว สิหนอ
ที่พวกเจ้า มิได้มาพบกัน @
@ ณ เบื้องฟ้าบน…
นกพิราบขาวพราวอันมิถ้วนนับ
สะพรึบสะพรั่ง ราวจักข่ม คคนานต์
โบยบินฉวัดเฉวียน เวียนว่อน
เริงรำร่อน จับเกาะกอด โดมแดนธรรม…ธรรมศาสตร์ !“
โอ…ดูช่างงามเกลื่อนกลาดนัก เจ้านกเสรี
…นกเสรี @
@ ณ ลานโพธิ์ เล่า ?
ใบโพธิ์ก็ พลิกพลิ้ว ระริกริก ระเริงร่า …แกร่งกล้า – กล้า
โห่ร้อง ขานรับกัน กรูกราวกรูเกรียว
… ใบโพธิ์ ก็ โห่ร้องขานรับ กันกรูกราว – กรูเกรียว
…ยามเมื่อพระพาย รำเพยพัด @
@ ยังเย็นยะเยียบเยือกแห่งสายน้ำ เจ้าพระยาเล่า ?
แม่ก็ ถะถั่งหลั่งไหลล้น มิสุดสิ้น
ถั่งโถมคลื่น อย่างครืนเครง ทุกวันคืน
ไม่รู้รา – ไม่รู้เลือน @
@ โอ… ๔๒ ปี ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
อา… ๓๙ ปี … ๖ ตุลา ๒๕๑๙
เรายังจำกันได้
ยังจำได้ รู้ ลืม … ไม่รู้เลือน @
@- - - ไม่โกรธ !
--- ไม่เกลียด !
--- ไม่เคืองเคียดแค้น ใดๆ ต่อไปอีกแล้ว !
…ให้กาลเวลา วัดคุณค่า
… ให้ สัจธรรม – ธรรมชาติชีวิต … ตัดสิน
โอ…สิบสี่ตุลาฯ
อา…หกตุลาฯ
ฉัน รัก เธอ…
ฉันรักเธอ …
We Love You !!!
“ แสงดาว ศรัทธามั่น “
เหมันตฤดู …ล้านนาอิสระ ,เชียงใหม่@
@--- ขอก้มค้อมคารวะ รักรำลึก วีรชนเดือนตุลาฯ
ที่เสียสละชีพ และที่ยังอยู่
“ การต่อสู้ “ เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม เพื่อประชาธิปไตย เพื่อสังคมใหม่ที่ดีงามที่แท้จริง
ยังคงดำรงอยู่ต่อไป… ตราบกาลถึงกาล
ขอเพียงเรา และพี่น้องประชาชนผอง ยืนหยัดมั่นใน อุดมการณ์ ที่งดงาม พิสุทธิ์ใส
แล้ว” ชีวิตความใฝ่ฝัน ของประชาชน “ จักต้อง “เป็นจริง “ !
เราผอง พึง “ *จงใฝ่ฝัน แต่ อย่า เพ้อฝัน “
**”ฝันให้ไกล …ไปให้ถึง “ @
หมายเหตุ ๑ : ภาพที่นำมาประกอบนี้ไม่ได้ต้องการตอกย้ำความความเกลียดแค้น แต่อย่างใด
เพียงแต่ ต้องการให้พี่น้องประชาชนได้สรุปบทเรียนของประวัติศาสตร์ และตระหนักว่า
…” ความรุนแรง การสูญเสียเลือดเนื้อ “ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน ฝ่ายใดๆ
มีแต่จักทำให้เกิดโศกนาฏกรรม มิสิ้นสุด
--- หากเป็นการ”ต่อสู้” เพื่อให้บังเกิด”สังคมใหม่ที่ดีงาม เป็นธรรม” ในสมรภูมิ ณ ปัจจุบันนี้
ประชาชนเราต้องต่อสู้ด้วย “อหิงสา – สันติวิธี “
และประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย รักความถูกต้องเป็นธรรม…
จักต้องต่อสู้กันต่อไป ไม่ท้อถอย
ส่วนผลจักเป็น เช่นไร ? นั้น…
ให้”กาลเวลา” และ “สัจธรรมแห่งความเป็นจริงของสังคมที่ดำรงอยู่ “…
จักเป็นผู้พิพากษา ตัดสิน ที่เที่ยงธรรม ที่สุด ! @
หมายเหตุ ๒ :
--- * “ จงใฝ่ฝัน แต่อย่า เพ้อฝัน “… คือถ้อยวลีในหนังสือ “ ชีวิต กับความใฝ่ฝัน “
ของ “ บรรจง บรรเจิดศิลป์ “ หรือ “ อุดม ศรีสุวรรณ “ … นักคิด นักเขียน นักปฏิวัติของประชาชน! @
--- ** “ ฝันให้ไกล … ไปให้ถึง “ คือ ชื่อหนังสือบทกวีของ “ วัฒน์ วรรยางกูร”…กวี ศิลปิน …นักคิด … นักเขียน …นักปฏิวัติ ฯลฯ ของประชาชน ! @
หมายเหตุ ๓ : ภาพประกอบ… เครดิตจาก internet…ขอขอบพระคุณ