Skip to main content

 

(หนึ่งเพลงจักจั่น

 

@        จักจั่น   เรไรร้อง

โลกทั้งผอง   พราวสดใส

 ออร์เคสตร้า   อัน  อำไพ

โดยไม่ต้องมี  ออร์เคสตร้าคอนดั๊กเต้อร์”

 

คือเพลงแห่ง  ธรรมชาติ

พราวพิลาสงดงามเสมอ

บางครา ฉั น   พร่ำเพ้อ

ถึง หญิงสาวที่จากไป

 

. . . จากไป ด้วยจิตกล้า

เมื่อรู้ว่า   มีคนใหม่

โอ้จักจั่นกล่อมเพลงไพร

แห่งป่าเมือง    ที่นี้

 

- -  บางเศร้า เมื่อหวนคิด

ในอดีต อัน เปรมปรีดิ์

หอมหวานแห่งฤดี

โอบกอดรัก เคยยาวนาน

 

บางคราก็  สดใส

ด้วยดวงใจพร้องเพรียกขาน

โลกมนุษย์ ย่อม เบิกบาน

เมื่อชนผองร่วมพลัง

                                        

เพลงจักจั่น บรรเลงรมณ์

งดงามสม  ให้ความหวัง

เพื่อนมนุษยชาติเอ๋ยย่อมจีรัง

เมื่อเผด็จการน่าชิงชังทุกสายพันธุ์ พินาศลง 

 

- - -   นั่งกินนึ่งไข่มดแดง

อรุณแสง  แห่งเผ่าพงศ์

ยืนหยัดย่อมดำรง

อรุณหล้า โลกงดงาม

 

- -  ดนตรีจักจั่น

โลกรังสรรค์ทุกเขตคาม 
อัปรีย์ใดหมิ่นหยาม

ย่อมพบพาน  พลังมนุษยชน

 

เสียงเพลงจักจั่นใช่เสียงของเครื่องยนต์

อันพ่นมลพิษทุกแห่งหน

ทุนนิยมบริโภคสามานย์ที่แปลกปน

ไร้ซึ่งเสียง  ธรรมชาติ  เรา !


- -  คารวะ เพลงจักจั่น

อันพริ้งเพราะเพริศพริ้งเพรา

ดังบทเพลงที่ปลูกเร้า

อวยพรชัย  ป ระ ชา ช น  @

 

( สอง )      เพลงชีวิต 

 

เ มื่ อ วา น ไปนั่งพูดคุยกับ ยูร เพื่อนรุ่นน้องนักพัฒนาเอกชนหนุ่ม ณ เฌองดอยสุเทพ ใกล้วัดร่ำเปิง เขาทำงานด้านสิทธิมนุษบชน ช่วยเหลือเพื่อนพม่า  ที่ถูกรุกรานกดขี่ข่มเหง จากพวกเผด็จการสล๊อตทหารพม่า  ฉั น ได้ยินเสียงจักจั่นบรรเลเพลงออร์เคสตร้า  ฉั นบอกน้องว่า  ฉั นชอบเสียงเพลงของจักจั่นมาก  มันเป็นเพลงออร์เคสตร้าที่ไม่ต้องมี conducter ที่มายืนหน้าวงหน้าเวทียกไม้ยกมือให้จังหวะ  น้องบอกฉันทำนองว่า

เมื่อก่อนผมรำคาญเสียงจักจั่น และมันก็เยี่ยวใส่หัวผมด้วย แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่รำคาญแล้ว

เสียงเพลงจักจั่นเพราะมากเน้อ เราอยู่ในเมือง ได้ยินแต่เสียงรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เสียงเครื่องจักรกล ฯลฯ  เป็นไงบ้าง  นั่นคือมลพิษทางเสียง  มันไม่ไพเราะเพราะพริ้งเหมือนเสียงจักจั่น และ เสียงนกร้องดอก   น้องพยักหน้ายิ้ม ในระหว่างที่เราสนทนาธรรมกัน

 

มีอยู่คราหนึ่ง ฉันกะอ้าย สุวิชานนท์  รัตนภิมลหรือ คำ พอวา  กวี  นักเขียน  คนเพลง (นักดนตรี)  หรือ  ชนกลุ่มน้อย (อ้ายนนท์ผูกพันกับชนกลุ่มน้อยมาก คือพี่น้องชนเผ่าต่างๆในประเทศไทยสมมุตตืนี้  ที่ถูกเหยียดหยามรังแกจากพวกข้าราชการ  และถูกเหยียดหยามจากคนในเมือง) ที่เขียนใน  blog  ประชาไทนี้แหละ  ขอเปิดเผยชื่อนามปากกาโดยที่ไม่ได้ขออนุญาต  ต้องขอโทษอ้ายนนท์ตวย แต่อย่างไรก็ตามคิดว่าผู้คนส่วนมากก็รู้นามปากกา หลากหลายของอ้ายนนท์อยู่แล้ว (ความลับไม่มีในโลก  และสสารก็ไม่สูญหายไปจากโลก  แค่จะถามหน่อยว่า …“ทนายสมชาย นีละไพจิตร  ที่ว่าความให้ พี่น้องมุสลิมภาคใต้หายไปไหน  ในสมัยอ้ายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และก็ขอถามว่า ทนง โพธิอ่าน  ผู้นำกรรมกรหายไปไหน? ในสมัยเผด็จการทหารสุจินดา คราประยูร และ บิ๊กจ๊อด (สุนทร คงสมพงษ์ ที่อ้ายทักษิณฯไปสวามิภักดิ์กะเผด็จการอ้ายทักษิณฯ หายไปไหน? จึงไม่มาร่วมสู้กับอ้ายตู่ จตุพร  พรหมพันธุ์  อ้ายสุวิทย์ วัดหนู  ลุงจำลอง  ศรีเมือง  อ้ายสุริยันต์ ทองหนูเอียด และคนอีกมากมายที่อยู่ทั้งสีเหลืองสีแดงสมมุติทั้งหลาย ฯลฯ

เอ๊า  ว่าต่อ ขอถามว่าทั้งทนายสมชายฯ และอ้ายทนงหายไปไหน?  ถ้าเป็นลูก เมีย น้อง ญาติ ของคุณ  หายไป  พวกคุณก็แทบจะพลิกแผ่นดิน หากันจ้าละหวั่น และให้พวกตำรวจลูกน้องหาฆาตกรที่อุ้มฆ่าให้พบจนได้ ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน? มันไม่มีจริงดอกหากมีหลายมาตรฐาน โดยเฉพาะพวกอภิสิทธิ์ชนและอำนาจรัฐอันโคตรห่วยแตกมาทุกยุค ฯลฯ

 

ขอย้อนหน่อย มิใช่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ สำหรับตัวฉัน เป็นตัวตนของตัวเอง ไม่ว่าใคร ฝ่ายสมมุติไหนจะถล่มฉัน ฉันไม่ mind และยินดีรับฟังสนทนาธรรมแลกเปลี่ยน เพียงแต่ขอร้องอย่าใช้อารมณ์ มีวุฒิภาวะ  มีสติ  มีเมตตา ฯลฯ เอ๊า แลกเปลี่ยนต่อ   ตอนที่ รสช. ทำรัฐประหารแล้ว อ้ายทักษิณฯ เข้าไปคารวะบิ๊กจ๊อด จอมเผด็จการ ทำนองไปขอบคุณที่เอื้อประโยชน์ให้ จากที่ฉันได้อ่านได้ฟังมาทำนองว่า

 

“ถ้าไม่มีพี่ช่วย  ผมก็แย่แล้ว  ไปขอบคุณเผด็จการทำไม?  มันก็เป็นเผด็จการเช่นเดียวกะเผด็จการ  คมช. นี่แหละ  จึงขอถามพี่น้องเสื้อแดงหน่อยที่ตอนนี้ที่ว่าต่อสู้กับเผด็จการศักดินาอำมาตย์ฯ และเผด็จการทหาร คมช.  เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น ฉันเห็นด้วยเต็มที่ แต่ถ้าต่อสู้เพื่อเผด็จการพลเรือนอีกรูปแบบหนึ่ง คือเผด็จการพลเรือนทักษิโณมิคทุนนิยมสามานย์สุดโต่ง  ฉันไม่เห็นด้วย  เพราะมันก็เป็นเผด็จการทุกสายพันธุ์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการสุเทพฯ,  อภิสิทธิ ฯลฯ  ที่ศักดินาอมาตยาฯ และเผด็จการทหารหนุนหลัง ฯลฯ (ส่วนใครจะคิดว่าการเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยอย่างเดียวนั้นก็เป็นความคิดของแต่ละคนไป เพียงแต่ฉันขอแลกเปลี่ยนว่า เราต้องคิดถึงเรื่อง เนื้อหา เป็นประการสำคัญ มิใช่เป็นเรื่องของ ปรากฏการณ์  และ รูปแบบ เพียงอย่างเดียว! )


เอ๊า พูดถึงเรื่องน้องจักจั่น และน้องนก ต่อ 

 

ครา อ้ายนนท์ พาฉันไปเยือนอ้าย ยอดวีระศักดิ์  ยอดระบำ  กวี นักคิด นักเขียน ฯลฯ ที่แม่น้ำเงา  อ้ายนนท์ พาเราเข้าตลาดอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน  เป็นตลาดที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีพี่น้องทุกชนเผ่าบนดอยสูง  พี่น้องคนเมือง  พี่น้องชาวต่างประเทศ ฯลฯ   ใครจะว่าแม่สะเรียง  ปาย   แม่ฮ่องสอน เปลี่ยนไป ไม่มีความดิบดั้งเดิม เหมือนแต่ก่อน ฉันก็เห็นด้วยในส่วนหนึ่ง  แต่มันก็มีความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity)  อยู่ เป็นเมืองในหุบเขาที่มีเสน่ห์

 

 ฉั นเดินเจ้าไปในตลาดกับอ้ายนนท์   พอฉันเหลือบตาเห็นจักจั่นทอด และ นกปิ้ง  ที่แม่ค้าวางขาย ฉันปรี่เข้าไปซื้อทันที เพราะฉันชอบกินตอนเป็นเด็กๆ  เคยเป็นเด็กอยู่บ้านนอกมาช่วงหนึ่งเมื่อพระคุณพ่อของฉันย้ายไปเป็นหัวหน้าชลประทานแม่แฝก อำเภอสันทราย  คนงานเอาจักจั่น  ไข่จักจั่น กระต่าย ไก่ป่า ฯลฯ มาให้เราซึ่งเป็นลูกๆ กิน อร่อยมาก เป็นอาหารที่ปลอดสารพิษด้วย  ตอนนั้นป่ายังอุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่ามาก มีเสือด้วย ฉันจึงชอบอาหารแบบนี้มาก จนถึงปรัตยุบัน


ตอนแรกอ้ายนนท์คงจะเป็นงง งง เพราะรู้ว่า ฉันรักธรรมชาติ  สรรพสิ่ง  สรรพชีวิต ฯลฯ  แต่ทำไมต้องซื้อกินสัตว์เหล่านี้ แต่ตอนหลังอ้ายนนท์ก็บรรลุธรรม เข้าใจ เมื่อเขียนคำนำให้หนังสือฉ้นที่ชื่อ
ขบถมานซ์ (ก็อ้ายนนท์ นั่นแหละที่ช่วยเป็นบรรณาธิการให้และประสานให้จัดพิมพ์)  ที่เป็นทั้งสารคดี  ความเรียง  และ บทกวี  อ้ายนนท์เขียนว่า อ้ายแสงดาว ซื้อกินเมื่อเขาตายแล้ว

 

- - -  ใช่ ใช่ ฉันไม่ทำบาปดอก  เพราะเมื่อตอนเป็นเด็กและวัยรุ่น ฉันฆ่าสัตว์มากเหมือนกัน  แต่ตอนนี้ฉันไม่ฆ่าแล้วแม้แต่มด หนู แมลงวัน แมลงสาบ  แต่ถ้านอนในมุ้ง หรือห้องที่มีมุ้งลวด  บังเอิญน้องยุงพลัดหลงเข้ามาแล้วฉันกำลังนอนหลับ มีน้องยุงบินเข้ามาจะดูดกินเลือดฉัน  ส่งเสียง ว้อง ว้อง  ใกล้ใบหูฉัน  รบกวนไม่ให้ฉันหลับ  ฉันก็เอามือตบน้องยุงในความมืด (ทั้งๆ ที่ไม่อยากตบ เพราะเขาก็หากินเหมือนคนเราเหมือนกัน ต้องขอโทษน้องยุงด้วย) 

 

- - -   ขณะ ที่นั่งเขียน ณ บ้านป่าในเมือง จักจั่นยังคงร้องเพลงกล่อม  นกนานาพันธุ์ ก็ร้องเพลงกล่อมโลก ทำให้มนุษยชาติเรามีจิตใจสดใส อ่อนโยน

 

- - - มีนักศีลธรรมจ๋า และพวกชนชั้นสูงทำเป็นอนุรักษ์ธรรมชาติหลายคนที่ไม่เข้าใจมีเรื่องเล่า   ฉันเคยอ่านงานเขียนของ  อ้ายเสกสรรค์  ประเสริฐกุล  อดีตหนึ่งในผู้นำนักศึกษาประชาชนคราเหตุการณ์      14  ตุลาคม  2516  ที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา  ฯลฯ ลุกขึ้นสู้กับรัฐบาลเผด็จการ  ถนอม-ประภาส-ณรงค์ฯ (ฉันเป็นแฟนคลับงานเขียนของเขา)  ที่เมื่อก่อนเขาชอบตกปลาก็มีพวกนักศีลธรรมจ๋าวิจารณ์ทำนองว่า   เสกสรรค์ทำบาป  อาจารย์เสกฯ หรือ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ก็สวนกลับไปทำนองว่า

“ ก็ทีพวกมึงไปซื้อปลา ซื้อสัตว์ ในตลาดล่ะ มึงไม่ทำบาปดอกเหรอ   ถ้าพวกมึงไม่ซื้อแดก พ่อค้า แม่ค้า ก็ไม่เอามาขายดอก   กูตกปลากะเพื่อน  นอกจากเอามากินแล้ว  กูก็ทำสมาธิทบทวนจิตใจของกูด้วยในเรื่องโลกธรรมชาติชีวิต   เล่นกันแบบนี้เลย อ้ายเสกสรรค์  พวกผู้ดีจอมปลอม พวกอภิสิทธิชน พวกชนชั้นกลางที่ตีนไม่ติดดิน พวกทำเป็นศีลธรรมจ๋า ฯลฯ  อย่ามาทำเป็นดัดจริตเลย มันแสนจะทูเรชั่น

 

พวกข้าราชการด้วย พวกอำนาจรัฐด้วย วันดีคืนดี ก็เอาเด็กบริสุทธิ์ (ประเภทคุณหนูจ๋า)  มาออกทีวี ทำนองไม่ให้คนกินเหล้า  สูบบุหรี่ ฯลฯ บ้าง และอย่างอื่นบ้าง ฯลฯ  ปัดธ่อ  ถ้าเอ็งแน่จริง  ก็อย่าให้มีโรงเหล้าของกลุ่มทุนใหญ่  ไม่ให้มีโรงงานบุหรี่ซีวะ  ไม่ต้องรณรงค์ดอก มันปลายเหตุเผาโรงงาน  แม่มมมมันซะเลย

 

- - - ธ่อ ทำเป็น ศีลธรรมจ๋า  คงต้องพูดถึงเรื่องนี้กันอีกมาก
จบแค่นี้ก่อนคร๊าบ ท่านผู้อ่าน

สาธุ  อาเมน อิสลามมาลากุม  @

ต้นฤดูร้อน  ,    ๑๖  มีนาคม  ๒๕๕๓

ล้านนาอิสระ  ,  เจียงใหม่.

 

ขอบคุณภาพประกอบจาก Yenta4

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
*@ "บงเนื้อก็เนื้อเต้นพิศสะเส้นสรีรัวทั่วร่างและทั้งตัวก็ระริกระริวไหว ฯลฯ" มองตาก็เห็นตาผองประชาผู้ยากไร้หมดสิ้นความเป็นไทด้วยมารร้ายกดขี่คน นานเนิ่นนักนานแล้วพี่น้องแก้วทุกแห่งหนก่อเกิดแสนทุกข์ทนการกดขี่คงนิรันดร์
แสงดาว ศรัทธามั่น
. .ป ระ ชา ช น คน ใ ห ม่ ได้รู้แล้วเสียงที่แว่วกังวานหว่านไปทั่ว ชนชั้นนำ นักปกครอง ผยองตัว คือคนชั่ว รับใช้ ใต้ตีนทุน ( วัฒนา ธรรมกูร ) ป ระ ชา ช น จะชิงชัย ไม่สุดสิ้น เพื่อ พลิกฟื้นแผ่นดินให้หอมกรุ่น เพื่อรากหญ้า ได้ ผลิหญ้า อ่อนละมุน เพื่อ ทอดรุ่น รับวัย ให้งอก เงย ( อรอาย อุษาสาง )
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพจาก http://www.cablephet.com/board/images/news/t__1110880701.jpg        O    " ปู่เย็น "             ที่ " รู้เห็น เห็น และ เป็น อยู่ "             เป็น " ปู่ เ ย็ น แ ก้ว ม ณี " งามตราตรู             เป็น ผู้สมะถะ งาม คงทน- - -เป็นแบบอย่างแห่งชีวิตสถิต คุณค่า ทุกแห่งหนเป็นผู้ เ ฒ่า ท ระ น ง ของ ตั ว ต นอัน ล่วงพ้นโลภ โกรธ หลงแห่งชีวา . . .เป็นวิ ถี ชี วิ ต อิ ส ระไร้ พันธะ ใด…
แสงดาว ศรัทธามั่น
เขาคือคนธรรมดา... ทว่าคุณค่าดวงใจกล้าโตเติบใหญ่ มีชีวิตจิตวิญญาณแห่งความเป็นไท และมีหัวใจอิสระเสรี เสรีสู้เพื่อคนจนผู้ท้นทุกข์ ปลอบปลุก”ลุกขึ้นสู้” ในทุกที่ “ณ ที่ใดมีการกดขี่” “ไพฑูรย์ พรหมวิจิตร” มิรอรีร่วมลงแรง
แสงดาว ศรัทธามั่น
@ ฉั น รั ก ด ว ง ตา ห ญิ ง สา ว ราวรุ้งร้างไหลหลากดังถากฝัน ยาม สายฝน พรูพร่าง พริ้ม อำพัน ก็ กู เป็นดั่งวันที่ พรั่งพรู หลั่ง พรูพรั่ง - งามพรั่งพรู งามฤดู - เดือน - ดาว - ตะวัน ... โลกรับรู้ จันทร์แดง เฉิดฉันท์ สกาวใจกอบกู้ ธีรยุทธจึงรู้ ทางไทพันธมิตรนำ ... ใจเย็น เย็น พี่น้อง ใจ เย็น เย็น ชี พ รู้ เ ห็ น ชี วี พ ร้ อ ม ย่า งย่ำ คอยรอ ชัยชนะ - พวกมารระยำ ก็ กู เป็น อย่าง กู ทำ ไม่จำนน ... ท่าม สายฝน พร่างพราว พลิ้วไสว ธา ร ด ว ง ใ จ ชุ่มชื่น ทุกแห่งหน…
แสงดาว ศรัทธามั่น
" พ.ต.ท.เมธี, ศิลปินตี๋, น้องโบว์... อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ " ดวงใจท่านผ่องผุด สะอาด สดใส เพื่อนพันธมิตร ไม่มีใคร ครอบงำใคร พวกเรามาด้วยจิตวิญญาณยิ่งใหญ่ ง ด งา ม แ ล้ ว ! แด่ พี่น้อง พั น ธ มิ ต ร ผู้บาดเจ็บทุกๆ คน ป ระ ชา ช น ก้มค้อมคารวะ - จิต ก ล้า แ ก ล้ ว สละชีพ สละร่าง งา ม วา ว แ ว ว ข บ ว น แ ถ ว ป ระ ชา ช น เ พื่ อ ชิ ง ชั ย ! 7 ตุ ลา ฯ ... วั น ม หา วิ ป โ ย ค ยิ่งกว่าไหน ห่ากระสุน แก๊สน้ำตา อันจัญไร เข่น ฆ่า ประชาชนไซร้ - ชีพยอมพลี อ นา ถ นัก … โ อ ... ประจักษ์ มั น บิ ด เ บื อ น และ ป้า ย สี หน้าไม่อาย หน้าด้าน แล อัปรีย์ ฆา ต ก ร โ ห ด ชี วี…
แสงดาว ศรัทธามั่น
          ฉัน รัก ดวงตาหญิงสาวเจ็บปวดร้าวจิตวิญญาณ เหลือที               โ ล ก แล้งร้อนร้างไร้ทุกที         วันนี้ ด ว งตา เ ธ อ ยังสดใส          ... ฉัน รัก หัวใจของชายหนุ่ม      ร้อนรุ่ม วิ ญญาณ์ กว่าไหน          โ ล ก รู้ว่า เ ธ อ นั้นจริงใจ          ด ว ง ตาบอกไว้ ฉั น รู้  …
แสงดาว ศรัทธามั่น
                       &&& ศิ ล ปิ น" BALLAD " นาม " จ รั ล ม โ น เ พ็ ช ร "คือเก็จแก้วดำรงคุณค่าความหมายคืนสู่ดิน จิตวิญญาณไม่เคยตายแสงตะวัน - เดือน - ดาวฮักอ้ายจรัลฯ &&& - - - ฝันเถิด ฝันชีพฝัน เราฝันใฝ่ฝันดวงใจศานติภา พโลกสุขสันต์กล่อมชีวี ด้วยบทเพลง งามนิรันดร์พริ้มบทเพลง "รางวัลแด่คนช่างฝัน" อันงดงาม &&&...ละบทเพลง - - -พริ้งบทเพลงพลิ้วลอยล่องเป็น ทำนอง โอบกอดโลก งามล้นหลามเพลงRHYTHMสดใส ทุกโมงยามเป็นความฝันแห่งชีวิตโลกตราบนิ รั…
แสงดาว ศรัทธามั่น
( 1 ) เ ย็ น ฝ น ฉ่ำ + ด อ ก ไ ม้ เ บิ ก บา นแ ร กกำเนิดโลกไม่ว่าจะเป็นทฤษฏี " BIG BANG " (การระเบิดใหญ่) ของจักรวาล อะไรก็ตาม ฯลฯ แล้วจึงก่อเกิดเป็นดาวโลกและดาวอื่นๆ ขึ้นมา ... สรรพสิ่ง สรรพชีวิต จึงเริงระบำรำร่ายฟ้อน บังเกิดเป็น มนุษย์ คน พืช สัตว์ ดำงอยู่บนโลกสีเงินดวงนี้อย่างศานติสุข ไร้พรมแดน ไร้ชนชาติ ไร้สีผิวเผ่าพันธุ์ ฯลฯ ตราบจนมนุษย์ อ วิ ช ชา แบ่งแยกเป็นประเทศ สีผิว เผ่าพันธุ์ ฯลฯ กดขี่ข่มเหง รังแก รุกราน เพือนมนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น "คนขาว" ที่ล่องเรือมารุกรานพี่น้อง "อินเดื่ยน" อเมริกาเหนือ, อเมริกากลาง, อะเมซอน, อาฟริกา ฯลฯ จักรวรรดินิยมอังกฤษ…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ฉันนั่งนิ่ง ณ สถานที่แห่งหนึ่งในตัวเมือง ยามพรรษาฤดู แห่งดินแดนล้านนาอิสรา สายฝนโปรยปราย - โปรยปรอย ยามเช้า...เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ไม้โครงเหล็กเก่าคร่ำคร่า ... น้องแมวสีเหลืองกระโดดขึ้นมามาบนโต๊ะมาทักทาย ฉั น - - - เหมียว... เหมียว... เหมียว.... นัยน์ตาสีเหลืองอ้อนมองดวงตาฉัน ฉันให้ปลาทูแด่เธอ ฉันเพิ่งเดินอออกไปซื้อที่ปากซอยข้างนอก และแล้วก็มีน้องแมวดำ และน้องหมาขาวเดินเข้ามาทักทายฉัน ฉันก็ให้ปลาทูแด่เธอทั้งสอง - - -ณ บ้าน - ร้านนี้ เจ้าของร้านและเพื่อนๆ ที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยกัน เจ็ด, แปดคน ... พวกเขาเป็นคนใจบุญ - รักสัตว์... หมา แมว นก หนู กา ไก่ ฯลฯ เ ค ย มีคนเอาแมวมาปล่อย…
แสงดาว ศรัทธามั่น
 “นากาแลนด์ --- NAGA LAND”เพื่อดินแดน แห่ง เสรีเริงระบำ บท เพลง ณ วันนี้เพื่อนพ้องน้องพี่อวยพรชัยให้ “NAGA LAND”“ลุกขึ้นสู้” เพื่อสิทธิ + เสรีภาพอิ่ม เอิบ อาบจิตวิญญาณนี้เหลือแสนโอ ... ผองเพื่อนมนุษย์ชาติทั่วด้าวแดนเปล่งขานบทเพลงแนบแน่นกล่อมพลังใจ“NAGA LAND == นากาแลนด์”ดวงใจนี้เหลือแสนสะอาด สด ใสสู้ เพื่อ สิทธิเสรีภาพ อ่า อำไพเพื่อโลกงามเพริศพิไลปลดปล่อยพลัน!=== เถิด ผองเพื่อนมนุษยชาติทั่วทั้งโลกเพลงสายลมโชยโบกพริ้มรังสรรค์โลก เอกภพ จักรวาล รับรู้พร้องใจกันหลอมชีวิตจิตวิญญาณตราบนิรันดร์เพื่อ ...”NAGA LAND” ด้วยรัก + พลังใจอ้าย”แสงดาว ศรัทธามั่น” ฤดูฝน , 27 กรกฎาคม…
แสงดาว ศรัทธามั่น
" ค ดี แ ร ก ครอบครัวชินวัตร ศาลพิพากษาจำคุก "อ้อ", พี่ชาย คนละ 3 ปี เลขาฯ เจอ 2 ปี ฐานผิดร้ายแรงเลี่ยงภาษี หุ้นชินฯ ระบุฐานะทางเศรษฐกิจ และ สังคมสูง กลับฝ่าฝืนกฏหมายจงใจหลีกเลี่ยงภาษีอากรโอนหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) คนละ 3 ปี ที่ศาลอาญา เมื่อ 31 ก.ค. 51 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา รัชดาภิเษก กทม. องค์คณะผู้พิพากษาศาลอาญา ออกนั่งบัลลังค์ อ่านคำพิพากษา "คดี เลี่ยงภาษี หุนบริษัท ชินคอร์ปปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง "นายบรรณพต ดามาพงศ์" อายุ 58 ปี พี่ชายบุญธรรมคุณหญิง "พจมาน ชินวัตร" อายุ 58 ปี ภริยา พ.ต.ท."…