Skip to main content
 
 
ใกล้จะถึงแล้ว วันครบรอบ 10 ปี วันคืนสู่อ้อมอกอันอบอุ่นของแม่พระธรรมชาติของศิลปินพื้นบ้านผู้ยิ่งใหญ่อิสระแห่งประเทศล้านนา … ถ้าอ้ายจรัลฯ ยังมีชีวิตอยู่อ้ายจะมีอายุ 60 ปี  ผ่านมา และ ผ่านไป   แต่ประชาชนเรา ยังจำอ้ายเป็นนิรันดร์   
 
เพลงของอ้ายฯ กระตุ้นต่อมอารมณ์คนประเทศล้านนาให้เป็นตัวตนแห่งล้านนาที่หยัดยืน ทระนง!!! …   ล้านนาประเทศ ที่ถูกรุกรานจากพวกอมาตยาฯ ศักดินารัตนโกสินทร์ (อย่าไปเรียกเขาว่า อมาตยาธิปไตยเป็นเด็ดขาด เพราะพวกเขาคือเผด็จการอีกสายพันธุ์หนี่งที่รุกรานไปทั่วทั้งเหนือ อิสาน ใต้ ออก ตก ฯลฯ มันจะปรองดองกันได้อย่างไร หากยังมีชนชั้นผู้กดขี่ และชนชั้นผู้ถูกกดขี่ ! อย่าดัดจริตว่าสังคมเราไม่มีชนชั้น… พูดไปเหมือน ตด ผายลม…)
 
- - - “ของกิ๋นบ้านเฮา เลือกเอาเต๊อะนาย เป๋นเรื่องสบาย ล้วนซะป๊ะมากมี ฟังฮื้อดีเน้อ ฟังแล้วอย่าเผลอ มาบลืนน้ำลาย …แก๋งแคจิ้นงัว ไส้อั่วจินหมู  แก๋งหน่อไม้ซาง  คั้วบ่าถั่วปู   น้ำพริกแมงดา ฯลฯ” … นี่คือการสำแดงพลังบทเพลงแห่งล้านนาอิสระ   ที่พูดถึงอาหารการกิน ซะป๊ะซะเป้ด ที่อ้ายจรัลฯ นำมาแต่งเป็นบทเพลง   …คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ เขาบอกว่า ฟังเพลงของอ้ายจรัลฯ แล้ว ไค้เติงหาบ้านเฮาขนาด
 
… เพลงทุกเพลงของอ้ายจรัลฯ มีทั้งม่วนสนุกสนาน และปลุกจิตวิญญาณของคนในประเทศล้านนาให้โลดแล่น หยัดยืนทระนงแห่งความเป็นประเทศล้านนา !  (หมายเหตุ… ไม่มีคำว่า ล้านนาไทย… ใครอย่าเสือกมายัดเยียด)    …ฟังเพลงของอ้ายจรัลฯ   ถ้าพูดแบบจิ๊กโก๋ปากซอยที่ไม่ตีหัวใครเข้าบ้าน … เป็น นักเลง มิใช่ อันธพาล ก้อแบบว่า… ฮาเป๋นตั๋วต๋นของฮานี้แหละ คิงอย่ามาบังอาจปกครองฮาเลยไอ้พวกไทยรัตนโกสินทร์… (ที่พูดนี้มิได้หมายความว่าเราไม่รักพี่น้องประชาชนภาคกลาง แต่เราไม่ IN กะพวกชนชั้นปกครองภาคกลางทุกยุค   สำหรับพี่น้องประชาชนภาคกลางเราเคารพ ไม่ว่าจะเป็น กวี นักคิด นักเขียน ศิลปิน นักวิชาการ (ที่ไม่ขายตัวขายจิตวิญญาณ) ครูอาจารย์ ฯลฯ ที่ช่วยเหลือเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชน ทั่วทุกภาค ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชนเผ่า   พี่น้องปากมูน บ่อนอก   หินกรูด จะนะ (สงขลา) ฯลฯ เช่นเดียวกับที่เราด่าชนชั้นปกครองจักรวรรดินิยมอเมริกา อังกฤษ   ฝรั่งเศส ฯลฯ ที่รุกรานครอบงำไปทั่ว ฯลฯ   เราไม่เคยด่าว่าพี่น้องประชาชน อเมริกัน อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือ ฯลฯ เพราะพวกเราคือเพื่อนมนุษยชาติร่วมโลกแผ่นดินร่วมเอกภพจักรวาลเดียวกัน !

- - -  “อย่ากลับคืนคำให้เธอย้ำสัญญา       อย่าเปลี่ยนวาจาเมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป

ให้เธอหมายมั่นคงแล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร   เดินทางไปอย่าหวั่นไหวใครกางกั้น …  
มีดวงตะวันเป็นแสงสีทอง กระจ่างครรลอง ให้ใฝ่ปองและสร้างสรรค์

เมื่อดอกไม้แย้มบานให้คนหาญสู้ไม่หวั่น     คือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่ ให้เธอ

 …   บนทางเดินที่มีขวากหนาม ถ้าเธอคร้ามถอยไปฉันคงเก้อ
ฉันยังพร้อมช่วยเธอเสมอ เพียงตัวเธอไม่หนีไปเสียก่อน

- - - จะปลอบดวงใจให้เธอหายร้าวราน     จะเป็นสะพานให้เธอเดินไปแน่นอน
จะเป็นสายน้ำเย็นดับกระหายยามโหยอ่อน คอยอวยพรให้เธอสมหวังดังได้
… นิรันดร์ ”
 

 

(บทเพลง “รางวัล แด่คนช่างฝัน ”)
 
 
… เพลงนี้ว่ากันว่า อ้ายจรัล  มโนเพ็ชร แต่งขี้นเพื่อเตือนนักอุดมการณ์รุ่น 14 ตุลาฯ 2516 และคนที่เข้าป่าหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม มหาโหด 2519 ที่มีการปราบเข่นฆ่านักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน และผู้รักความเป็นธรรม ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และท้องสนามหลวงสนามราษฏร์ …  ให้ไม่ลืมอุดมการณ์ แต่ตอนนี้มีหลายคนที่เปลี่ยนสีแปรธาตุไปแล้ว เมื่อเข้าสู่วงการการเมืองน้ำเน่า (พูดเช่นนี้กรุณาอย่าพิโรธวาทังกันเน้อ)
 
บทเพลงส่วนมากของอ้ายจรัลฯ ล้วนตอกย้ำให้เราผงาด ยืนหยัดมั่น ในความเป็นประเทศล้านนาอิสระ
 
แน่นอน เราเองก็มีทั้งความโลภ โกรธ หลง ฯลฯ บ้าง เพราะเราอยู่ในโลกแห่งโลกียะ มิใช่อยู่ในโลกแห่งโลกุตตระที่จะบรรลุธรรม … แม้แต่พระเณรที่เอาผ้าเหลืองห่มกายหลายองค์ แม้กระทั่งเจ้าอาละวาด เจ้ากูบางองค์ ฯลฯ  ก็ยังมีความโลภ โกรธ หลง ฯลฯ ยังอยู่ในโลกแห่งโลกียะอยู่ สังเกตดูได้โดยทั่วไป  ดังเช่นมหาเถระสมาคมบางราย (พูดเช่นนี้อย่าโกรธเน้อ พระคุณทั่น)

อ้ายจรัลฯ และเราๆ ก็มิอาจหลุดพ้นจากโลกโลกียะ นี้ได้ (เพียงแต่เราพึงเตือนสติตัวเองบ่อยๆ และพยายามมีสติมีจิตเมตตา แผ่ เมตตา
… แต่อ้ายจรัลฯ ได้กลับคืนสู่อ้อมอกอันอบอุ่นของแม่พระธรรมชาติแล้ว   อ้ายจรัลฯ จึงหลุดพ้นแล้ว! … ) 
 
 “   อ้ายคนจนจึงต้องทนปั่นรถถีบ   จะไปจีบอี่น้องคนงาม   พอไปถึงอ้ายก่ฝั่งเอิ้นถาม    อี่น้องคนงามกิ๋นข้าวแลงแล้วกา   …   พอดีก่มีรถยามาฮ่า ร้อยสาวห้าก๋ายหน้าอ้ายไป        พอได้ยินอี่น้องก่ฝั่งลุกขี้นต๋ามไฟ       แล้วเอิ้นออกไป…. อ้ายเสื้อลายไปไหนมาเจ้า ฯลฯ ”
 
เพลงนี้ ก่ม่วนขนาด เน้อ สมัยก่อนไผมีรถมอร์เตอร์ไซด์ก็โก้ขนาด วัยรุ่นรุ่นฉันมีแต่ขี่รถถีบ แต่ถ้าเป็นรถถีบยี่ห้อราเล่ห์ละก้อ ถือว่าโก้ขนาด คร๊าบ ฉันเป็นคนจนบ่มีกะตังค์ ซื้อรถเครื่อง ส่วนมากก็ขี่รถถีบไปโรงเรียนกัน ห่อข้าวไปกินอาหารกลางวัน นั่งล้อมวงกินกันที่โต๊ะเรียน สนุก ลำอร่อย ม่วนขนาด … เวลาจีบสาว ก็ขี่รถถีบ ไล่จีบสาว   ปั่นเข้าไปเทียบข้างเลย สุดแสนจะมานซ์ คาธอลิค เจ้า อิ อิ 
 
… “ อุ๊ยคำ อุ๊ยคำคนแก่ ท่าทางใจ๋ดี เป๋นดีเอ็นดูล้ำ  ฯลฯ เพลง   Ballad … พื้นบ้านนี้ก็สุดยอด บะก้วยเต็ด เจ้า…   หากกิ๊ดเติงอาอ้ายจรัลฯ ก็เอาเพลงอ้ายมาเปิดฟังเล๊ย
 
… ศิลปินพื้นล้านประเทศล้านนาอิสระ “ จรัล   มโนเพ็ขร 
ยังคงดำรงอยู่ในดวงใจเรา… ในดวงใจคนล้านนาประเทศอิสระ ตราบนิรันดร์   @
 
(เนื่องในวาระครบรอบ 10 ปี การคืนสู่อ้อมอกอันอบอุ่นแห่งแม่พระธรรมชาติ ของอ้าย จรัล มโนเพ็ชร และหากอ้ายจรัลฯ ยังอยู่ อ้ายก็จะมีอายุครบห้ารอบ 60 ขวบ … วันที่ 3 กันยายน เดิอนหน้าใกล้จะถึงนี้ จะมีการจัดงานเล็กๆ รำลึกอ้ายจรัลฯ ณ ที่บ้านร้าน    “ สายหมอก  -   ดอกไม้ ”   หน้าศาลากลางใหม่ แม่ริม ไปถึงสามแยกศาลากลางก็ ยู เทินร์ เลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้าย ไปทางคอก(เรือนจำ) ประมาณ ซัก ห้าสิบเมตร ก็ถึงร้านทางซ้ายมือ ใครอยากไปรำลึกอ้ายจรัลฯ ก็ไปได้ อยากกินดื่มด่ำอะไรก็กรุณาพกติดตัวไปด้วย)
 
 

 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
( ๑ )     เ พ ล ง อ รุ ณอ รุ ณ รุ่ ง  อั น รั ง ร อ งแสงทองส่องงามผ่องหล้าเกื้อชีพ เกื้อชีวาคุณค่าหนอ  งดงามนักโอ... เ พ ลง รุ่ งอ รุ ณ ฉ า ยพริ้มพราย  พร้อมพรักโ ล ก นี้ มี ค ว า ม รั กงามประจักษ์มอบแด่เพื่อนมนุษยชนดอกไม้ ผี เสื้อแมลงปอ   ระเริงร่าวิหค   นกกา  ทุกแห่งหนรำร้องบทเพลงฉ่ำกมลล่วงหลุดพ้นจิตอัตตา สว่างชีวัน
แสงดาว ศรัทธามั่น
แสงดาว ศรัทธามั่น
“เมื่อความรักเรียกร้อง...จงเดินตามเธอไปฯ”เมื่อสงครามเพรียกหาขอเราจงปฏิเสธมันฯ เมื่อความเขลาขลาดเกาะกุมจิตใจเรา...จงขับไล่มันออกไป !เมื่อความยุติธรรมเรียกร้องดวงใจจิตวิญญาณเธอ...จงแกร่งงามฯ
แสงดาว ศรัทธามั่น
สารคดี : เคยคิดบ้างไหมว่า ตัวเองเป็นคนเสียสละ ?ว นิ ดา : (นิ่งคิดครู่หนึ่ง) ...เรื่องนี้ไม่ค่อยคิดเท่าไร ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ใช่เรื่องว่าใครคนใดคนหนึ่งต้องเสียสละ คนอื่นเขาก็เสียสละ คนที่ทำงานกับเราเสียสละทุกคน จริงๆแล้ว ชาวบ้านเป็นผู้เสียสละ เขาถูกขับไล่ ถูกเวณคืนเพื่อสร้างเขื่อน ไม่อย่างนั้นเราก็ไมมีน้ำ ไม่มีไฟฟ้าใช้ เรามีโอกาสมากกว่า เราก็ช่วยเขา มีแรงพอจะช่วยเขาได้ เราก็ช่วย ดิฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้เสียสละไม่ได้คิดว่าเป็นนักบุญ หรือ แม่พระ และก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นหญิงเหล็ก คนอื่นเขาเหล็กกว่าดิฉันเยอะดิ ฉั น เ ป็ น ค น ธ ร ร ม ดา  เ พี ย ง แ ต่ ดิ ฉั น…
แสงดาว ศรัทธามั่น
เดินทัพทางไกลไปตามทาง ‘พะโด๊ะ มานซาห์’Long March with “Pado Manza Lapha” ‘พะโด๊ะมาซา ลา พา’หัวใจจิตวิญญาณ์ท่านสะอาดสดใสต่อสู้เพื่อวิถีชีวิตแห่งพี่น้องชนเผ่าเต็มหัวใจเพื่อชีวีงามอำไพ ตราบนิรันดร์
แสงดาว ศรัทธามั่น
ที่ รั ก ... โ อ้ ... My Belovedเก็บ กอด รั ก ที่ ง ด งา ม แห่งเราไว้ใน ค วา ม ท ร ง จำ... ฉั น ข อ โ ท ษถ้า เ ธ อ ถามไถ่ และ เ ธ อ โทรฯฉั น มิได้ตอบรับสายฯฉันขอโทษ... โปรดอย่าได้เคืองโกรธ ฉั น เลยโ อ ... My Beloved !!!เ ธ อ เห็นไหม?ตะวัน เดือน ดาว ยังคงสาดฉายผีเสื้อ แมลงปอ หิ่งห้อย งามพริ้มพราย เริงรำร่ายดวงใจแห่ง รั ก เรียงรายรำร่ายฟ้อน..." ชี วี ชี วา แห่ง รั ก ง ด งา ม แล้ว !!..... โ ป ร ด อ ย่าไ ด้ โ กรธ เคือง ฉั น เลยโ อ้... My Belovedโ อ ... เก็บกอด รัก แห่งเราผองไว้ในความทรงจำอันงดงามตราบนิรันดร์แสงดาว ศรัทธามั่นปลายฤดูหนาวที่มีฝนพรำ , 26 กพ. 51บ้านร้านขายเนื้ออิสลามช้างคลาน เชียงใหม่…
แสงดาว ศรัทธามั่น
“ความรักคือการให้”เป็นดวงใจ สะอาดพิสุทธิ์ สดใสสรวงสวรรค์แห่งรักย่อมเริงระบำงามเรืองไรเพียงเราไซร้  อย่าไร้ซึ่งชีวิตจิตวิญญาณ์เรื่อง…รัก เรื่อง Sex ...ฤา? คือสามัญธรรดาไร้ชนชั้นเพียงหัวใจนั้นรู้รักโลกชีวีกันเถิดหนาเมื่อกลองดวงใจร่ำรัวร้องดังขึ้นบ่งบอกชีวาจึงบรรลุธรรมว่า...โลกเอกภพจักรวาลนี้ ล้วนมีรัก...จักดำรงรัก...ส่วนตน+ส่วนตัว...หรือรักโลกแสงแดด-สายลมโชยโบยโบกหวานฉ่ำนักผีเสื้อ-แมลงปอเริงระบำบทเพลง พริ้มทายทักชีพชีวันจึงประจักษ์ว่าโลกนี้ยังงดงาม!Oh…My BeLoved!...ศานติภาพแห่งรักมนุษยชาติตระหนักว่ารักนี้งามวาบหวามเถิด โอบกอดรักกันไว้ทั่วเขตคามนิยามรักย่อมยั่งยืนนาน-งดงามเป็นนิรันดร์...We…
แสงดาว ศรัทธามั่น
คืออาจารย์ ..”อานันท์  กาญจนพันธุ์”งามรังสรรค์จิตวิญญาณมิเคยหลอกลวงลื่นไหลสู้เพื่อโลกชีวิตเพื่อความเป็นไทสู้ด้วยหัวใจเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน แห่งชีวี...เป็นนักคิดนักเขียน นักวิชาการกล้า แกร่ง หาญ นั้นเหลือที่พร้อมรำฟ้อนสู้เพื่อพี่น้องชนเผ่า ณ ปฐพีแล สู้ เพื่อ ผู้ถูกกดขี่... นิรันดร์ไป“ของหน้าหมู่” คือวิถีชีวิตของส่วนรวมโลกบวมบิดเบี้ยวก็ด้วยเพราะจิตวิญญาณมิเคยหยิบยื่นให้มี อวิชชาบ้าบอดในหัวใจ จึ่งทำลายโลกชีวิตธรรมชาติ พินาศพลัน...อาจารย์”อานันท์”และผองเพื่อนนักวิชาการจึงเหิญหาญ มิดูดายร่วมสร้างสรรค์ร่วมคิด – ร่วมรบ – ร่วมสู้ – ร่วมผูกพันโอ.. โลกเอกภพจักรวาล พร้อมใจกัน...…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพประกอบจาก http://www.flickr.com/photos/poakpong/2074673141/ ... โ ล ก นี้ก็เป็นฉันนี้เองบรรเลงเพลงรัก - ชัง – โฉดชั่วช้าทั้ง ง ด งา ม เ ริ ง ร่า พริ้มชีวาหลอมวิญญาณ์ โอบกอดรักงามแอบอิงมิได้พร่ำเพ้อ รันทด ฤา โศกศัลย์ด้วยเรานั้น ณ เพลานี้ ดวงใจนิ่งต่อชีวิต ต่อสัจธรรม ต่อความจริงกับชีวีทุกสิ่ง ย่อมเป็นไปน้อมรับรู้ เรียนรู้ ด้วยวิถีปัจเจกจักรวาล เอกภพ โลก ขับเคลื่อนไหวพราวเส้นทางช้างเผือก พริ้มอำไพโอบกอดดวงใจเพื่อนมนุษยชาติ พิลาสพลันพริ้วบทเพลงพริ้งเพราะเสนาะขับขานกล่อมพลังจักรวาลสู่โลก สู่สรวงสวรรค์ทั้งด่ำดิ่งลึกสู้ห้วงมหหานรก ห้วงโลกันตร์ไร้คืนวัน ไร้กาลเวลา ไร้ถิ่นที่พริ้มเพลงรักงดงาม…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพประกอบจาก : http://www.flickr.com/photos/poakpong/2074330653/ มนุษย์ไยรุนแรงทำบาปกรรมกับเพศแม่ ?อันมีพระคุณให้กำเนิดแด่เธอในทุกที่เพศแม่งามคุณค่าล้ำชีวีจิตวิญญาณวิถีแม่งามอำไพตะวันเดือนดาวพราวพร่างฟ้าทางช้างเผือกบนนภา กระจ่างแจ่มใสเริงระบำรำร่ายฟ้อนงามเรืองไรอวยพรชัยให้เพศแม่สุขสบายดีโอ ! สกุณา ผีเสื้อ แมลงปอ เริงรำฟ้อนระเริงร่อนอวยพรชัยให้สุขีโลก เอกภพ จักรวาล เริงรำฟ้อน โอบกอดชีวีคารวะเพศแม่ ณ วันนี้ ตราบนิรันดร์แม่แห่งโลก + แม่แห่งลูกสายลมโชยโบยโบกจิตสุขสันต์แม่แห่งลูก + แม่แห่งโลกพร้อมใจกัน ร่วมสร้างสรรค์สังคมใหม่ให้เป็นจริง !!!ต้นฤดูหนาว, พฤศจิกายน , ๒๕๕๐ , ล้านนาอิสรา , เจียงใหม่.
แสงดาว ศรัทธามั่น
พ.ร.บ.ความมั่นคงมั่นคงของใคร?ของเผด็จการทหาร ?ของเผด็จการรัฐสภาจอมปลอมของเผด็จการข้าราชการศักดินาฯลฯ...ฯลฯ...ฯลฯ
แสงดาว ศรัทธามั่น
สหาย " รั กไ ห ม ว ง ศ์ ล้า น นา " คับ อ้ายฯ ส่งใบโอนมาให้ที่อ้ายรักไหม กรุณามอบภาพวาดเดือนตุลาฯ มาให้อ้าย เป็นภาพที่อ้ายชอบมากๆ , คับ ..... หากบังเอิญ เกิดฟลุ๊คเมื่อใด จักโอนมาให้ครบในทันทีเลย แต่ตอนนี้ขอเดือนละห้าห้อยก่อน (เพราะอ้ายเป็นมหาโจรห้าห้อย - - - HA ฮา ฮ่า) อ้ายฯ ส่งบทกวีที่เขียนถึงแม่อุ๊ย "พูนศุข พนมยงค์" ไปให้ อ้าย "สุชาติ สวัสดิศรี" แล้ว คงจะลงตีพิมพ์ใน เนชั่น คอลัมน์ "สิงห์สนามหลวง" ไม่ช้านี้....  อ้ายชอบแม่อุ๊ย "พูนศุข พนมยงค์" ที่เขียนพินัยกรรม ก่อนตายว่า ... ไม่ขอรับเกียรติยศใดๆ ทั้งสิ้น" ช่างคมเฉียบขาดนัก ... ท่านปรีดี พนมยงค์ และท่านผู้หญิงพูนศุขฯ…