Skip to main content

 

    

 

 

 

 

 

              ๑ .  รอยอดีต

 

 

 

 

 

                    @   บูม !    บูม !

 

 

                  วิด !   บุ่ม !

 

 

                  ระเบิดบาป เปล่งเสียงดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว

 

 

                                         ปัง !    ปัง !

 

 

             เปรี้ยง  !   เปรี้ยง !

 

 

                ตูม !   ตูม !

 

 

       ศาสตราวุธ ร้ายแรง นา นา ชนิด  ตามต้อย  ติด   -   ติด

 

            ซัดสาดสู่เป้าหมายแห่งมัน อย่างบ้าคลั่ง หื่นกระหาย

                              ร่วง   เหมือน   ใบไม้    ร่วง

                                    ร่วง ….  ร่วง ….

                           ร่วงผล็อย

                    ผี เสื้อตัวน้อยๆ  ร่วงหล่น

             ณ   ลานดิน แห่ง แม่โดม

                 - - -  สู่ ท้องสนามหลวง สนามราษฏร์

             ฝูง ปีศาจกระหายเลือด นานาพันธุ์

              เริ่ม กรูกราว  กรู เกรียว กราดเกรี้ยว ออกล่าเหยื่อ อย่างเมามัน

          

                           โอ    วันนั้น  เพื่อนเอ๋ย

             หกตุลาฯ หนึ่งเก้า

             วันฟ้ามิทันสาง

             เลือดผู้รักชาติ รินหลั่งไหลรด ปฐพี

              มหกรรมการเข่นฆ่า นานา ชนิด

             ถูกนำมาอวดโชว์ ให้ชาวโลกได้ชื่นชม

            ด้วย มือที่เปื้อนเลือดของฆาตกร!

            บนผืนแผ่นดินแห่งบวรพระพุทธศาสนา

              ณ ใจกลางเมืองหลวงศูนย์กลางอำนาจรัฐแห่งนี้

 

                     ฟัง ซิ    จงฟัง !

 

 

                ดูซิ    จงดู !

 

 

    เพื่อนเอ๋ย  มหกรรมอัปยศอดสู เริ่มต้นแล้ว

 

 

           …  ทุบ   ถีบ   กระทืบ      กระทืบ

 

             เตะ  ต่อย  ชก   ชก

            ข่มขืน    ข่มขืน   ฆ่า   ฆ่า

            เอา ผ้า รัดคอ   มัดคอ  

       ฉุด กระชาก     ลาก    ลาก !

         เอาลิ่ม ตรึงตอกอก  …. ตอกอก !~

      

 

     บา     !  นั่นไง  ต้นมะขาม   สนามหลวง!

 

 มา   ! จับมัน  จับมัน มา!

 แขวนคอ      แขวนคอ

    ฆ่า    ฆ่า    ฆ่า    ฆ่า !

  ฆ่า แล้ว    เผา ….  เผา!

 

 

 

 

           .   ปรัตยุบัน  สู่  อนาคต

 

 

        - - -    ภาพ เพื่อน  ล้มร่วงผล็อย ชีพลอยลับ

 

             ก็นานนัก นับแล้ว เพื่อนแก้วเอ๋ย

             ใช่ รื้อฟื้นเรื่องราว ดั่งคราวเคย

              แต่ ก็ใช่ ต้องเฉย ให้ลืมเลือน

 

                  . . .  ประวัติศาสตร์ มนุษยชาติ มิอาจฝืน

 

              เมื่อผองชน หยัดยืน มิ คล้อยเคลื่อน

               เพื่อกู้ สิทธิ์ เสรี ที่ย้ำเตือน

               ถึง ดาว   เดือน  ก็สอยได้ หากพร้อมกัน !!! @

 

 

 

 

                - - -   ภาพ   มหกรรม  การเข่นฆ่าโหด ที่ท้องสนามหลวง และใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังจำติดตาในใจ ฉัน ไม่ รู้ลืม  เหตุการณ์  ๖ ตุลาฯ มหาโหด  ปี  ๒๕๑๙   ที่ นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน รวมพลังต่อต้านขับไล่จอมเผด็จการ จอมพลถนอม  กิตติขจร  ที่เข่นฆ่า นักศึกษาประชาชน ครา รวมพลังเดินขบวน เรียกร้องประชาธิปไตย จากเผด็จการรัฐบาล ถนอม ประภาสฯ เมื่อ  ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖      และขับไล่เผด็จการออกไปจากเมืองไทย  แต่   เขาก็กลับเข้ามาเมืองไทยโดยการบวชเณร เข้ามา  จึงมีการรวมพลังต่อต้าน แต่ในที่สุดผู้รักชาติประชาธิปไตย ก็ถูก ปราบปราม เข่นฆ่าอย่างทารุณ  โดยมี  มือที่มองไม่เห็น  อยู่เบื้องหลัง!    ตอนนั้น ทั่วประเทศ  เหนือ กลาง  อิสาน  ใต้   ออก   ตก  ก็รวมพลังต่อต้านหนุนช่วยทางส่วนกลาง  ฉัน  และ เพื่อนนักศึกษาประชาชน ก็รวมพลังต่อต้าน ที ศาลากลางเชียงใหม่  พอ   ข่าวเกิดการ    ล้อมปราบที่กรุงเทพฯ 

 

 

                รีบสลายตัวไวๆ   มันล้อมปราบเพื่อนๆเราที่ กรุงเทพแล้ว    โฆษก บนเวทีเราประกาศ บอก   เราต้องรีบสลายตัว  …. พี่น้องเพื่อนๆคับ   หลังจากเราสลายตัวไปไม่กี่นาที  พวก อันธพาลการเมือง  ที่จัดตั้งโดยทางการก็ เข้ามาหมายห้ำหั่นพวกเรา  พวกลูกเสือชาวบ้าน  พวกอาชีวะ  ที่ทางการจัดตั้ง ฯลฯ

 

 

                            ฉัน  หลั่งน้ำตา เมื่อฟังข่าวจากวิทยุ  และภาพจากหนังสือพิมพ์  ในชีวิต ที่ฉันหลั่งน้ำตา ก็คือ ช่วงพระคุณพ่อพระคุณแม่ ต้องจากฉันไป  และ เหตุการณ์ การลุกขึ้นสู้  ๑๔ ตุลาคม  ๒๕๑๖  อันยิ่งใหญ่  ที่ประชาชนถูกปราบปราม สูญเสียชีวิต ฯลฯ   และในเหตุการณ์ ๖ ตุลา มหาโหด ปี ๒๕๑๙ นี้อีก

 

 

              ฉั น ไม่มีวันลืมเลือน  เมื่อก่อนโกรธแค้นมาก  แต่มาวันนี้ ฉัน  นิ่งแล้ว  อโหสิกรรม  ให้เป็น  กรรมของเขาที่กระทำ  แต่   ฉัน ไม่มีวันลืมเลือน !

 

 

                     โอ     เดือนตุลา   ๑๔  ตุลาฯ  ๑๖   ๖ ตุลาฯ   ๑๙   ฉั น    รั ก  เ ธ อ    ฉั น   รั ก  เ ธ อ  !  @

 

 

            ยามสายลมหนาวเหนือ พัดโชยมา

 

   ๗ ตุลาคม ๒๕๕๕, ล้านนาอิสระ , เจียงใหม่.

 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
ฉั น นั่งคุยกับ อ. เปี๊ยก(เพื่อนร่วมชีวิตกับสุดสะแนน) ใต้ร่มต้นมะปราง ลิ้นจี่ ลำใย ฯลฯ ณ ร้าน - บ้าน "สุดสะแนน" ฉั นมักมาพำนักที่นี่เสมอด้วยความกรุณาของผองเพื่อนพีน้องสุดสะแนน ดังที่ฉั น เคยเขียนว่า ที่นี่เป็นป่าในเมือง รายล้อมด้วย ตึก คอนโด เกสต์เฮ้าส์ ฯลฯไก่ชนรูปร่างสง่างามคุ้ยเขี่ยหาอาหารใต้ร่มไม้กะ อ.เปี๊ยก ที่ผูกเปลนอนใต้ร่มไม้ ไก่ชนตัวนี้รอดชีวิตมาได้ เพื่อนๆจะเอาไปต้มกิน แต่ "อ.คิง" เอามาที่สุดสะแนน ก่อนที่เพื่อนๆจากเชียงของ, เชียงราย จะมาบ้าน "อ้ายต้อม และ พี่กบ" ที่สันทรายแม่โจ้, เชียงใหม่....เพื่อนๆ จากเชียงของคือผู้ที่ปกป้องรักษารากเหง้าวิถีชีวิตให้กับโลก แผ่นดิน…
แสงดาว ศรัทธามั่น
เ ดื อ น - ดา ว งามแจ่มฟ้าลาวัณย์แ ร ม - เรืองรองพลันบรรเจิดจ้าป ระ กา ย - เดือนดาวแห่งคืนวันดับวูบ แล้วเฮยเ รื อ ง - เรื่อเหลืองอร่ามแล้วอาบโลก งามนิรันดร์ ฯน้ อ ง ชา ย....ยินข่าวเจ้ากลับคืนสู่ผืนดินข่าวคราวจากผองเพื่อนแห่งล้านนาฉัน งงงวย และใจหายต่อมา... เริ่มเข้าสู่ห้วงภวังค์จิตสมาธิ* " ต ถา ตา .... มันเป็นไปเช่นนั้นเอง "
แสงดาว ศรัทธามั่น
(1) ธ ร ร ม ชา ติบ่า ยในห้วงฤดูฝนนี้ ณ "สุดสะแนน"ฟ้าครื้มเมฆ ใบไม้ไม่ไหวติง ผีเสื้อยังคงเริงรำร่อนดูดดื่มเกสรดอกไม้ ไก่แจ้บางตัวคุ้ยเขี่ยหาอาหาร บางตัวก็พักผ่อนไซร้ขนนอนหลับ แม่ไก่ที่นี่มีสามสี่ครอก งดงามนักน่าขำและงดงามไก่แจ้ครอกหนึ่งมีแม่สองตัวช่วยกันเลี้ยง ถาม "อ้ายฮวก"เจ้าของร้านสุดสะแนนเธอบอกว่า "แม่ไก่สองตัวช่วยกันฝัก" งดงามมากเลย... ผีเสื้อสีน้ำเงินบินมาเกาะที่แก้วน้ำฉันฉันนั่งอยู่ใต้ร่มไม้มะม่วงอันร่มรื่น มดแดงมาเกาะที่แขนฉันฉันค่อยๆจับเขาไปปล่อยเกาะที่ร่มมะม่วง
แสงดาว ศรัทธามั่น
 (1)พรรษาราตรีพรรษาฤดูฉันนั่ง ณ ลานโล่งกว้างแห่งเมืองใหญ่ยามราตรีนี้ทุ่งฟ้าดูมิสดใสด้วยเมฆฝนทว่า...เป็นครรลองของธรรมชาติที่เป็นไปเช่นนั้นเอง“ตถาตา”
แสงดาว ศรัทธามั่น
( 1 ) พ ลิ้ ว โ ผ แ ล โ อ บ ก อ ดอรุณรุ่ง ฉันนั่งใต้ร่มไม้มะม่วง ณ ที่นี่มีต้นไม้พันธุ์ไม้หลากหลาย ฯลฯทั้งไม้ดอก ไม้แดก ( หมานถึงกินได้ ) เช่น มะม่วง มะปราง ลิ้นจี่ตาขบ ฯลฯ ที่นี่ ถือว่า เป็นป่าในเมือง มีความร่มรื่น มี นก หนูแมลง กระรอก ผีเสื้อ แมลงปอ กบ เขียด ปาด อึ่งอ่างคางคก และไก่แจ้ ฯลฯ ขณะฉันเดินออกกำลังกาย รับแสงตะวันยามเช้าไก่แจ้หลายตัวก็เริงรำย่ำย่างมาหาฉัน ฉันรู้ว่าเขาต้องการอะไรฉันรีบเดินไปเอาข้าวสาร ณ บ้าน - ร้านนี้ มาโปรยปรายให้พวกเธอบ้ า น - ร้านนี้ล้อมรอบไปด้วย ตึก คอนโด ด้านทิศตะวันออก กำลังสร้าง ตึก คอนโด ฉันคำนวณความสูงไม่ต่ำกว่าสิบชั้น...โอ้ ...นกกระจอกมาแล้ว…
แสงดาว ศรัทธามั่น
*1  เรียวนิ้ว บรรเลง เพลง บลูส์ กีร์ต้า     เรียวปาก พริ้ม ฮาร์โมนิการ์ขับขาน*2  กลอง บองโก้ บรรเลง เพลงรัก ฉ่ำชื่นบาน     โอบกอดโลก สุข สราญย์เบิกบาน ชีวี     สาก มือ นิ้ว ด้าน  ด้าน เหนี่ยว ไกปืน      ผงาดยืน สาดกระสุนใส่ ในทุกที่ *3  ระเบิดบาป กระสุนบ้า ณ เพลานี้      ถล่มโลก ให้ป่นปี้ ด้วย ไ ฟ ส ง ค ร า ม*4   เธอ “ผิวปากเป็นบทเพลงแห่งความคิดถึง”      เพราะรักจึงจิตวิญญาณ – หัวใจ มิอาจห้าม     …
แสงดาว ศรัทธามั่น
Up fighting together for "FRIEND OF BURMA" and give power heart hug for.......FRIEND SENDING  STRENGTH TO NAGIS VICTIMS"พ ลั ง ใ จและโอบกอดแด่การ ลุ ก ขึ้ น สู้ของพี่น้องชนเผ่า และป ระ ชา ช น ชา วพ ม่า (มิใช่ชนชั้นปกครองรัฐบาลเผด็จการทหารฟัสซิสม์มิยันม่าร์) และพี่น้องที่ถูกพายุนากิส โหมซัดกระหน่ำทำให้ต้องตายนับแสนๆ คนและสูญหายอักนับหมื่นคน******
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพประกอบจาก http://www.flickr.com/photos/poakpong/2301645201/  ..... เ พ ลง ROCK ผสานเพลง เ ร ก เ ก้"บอบมาเล่ย์" and WE CAN PLAY พริ้งผ่องใสทั้ง ไทย - สากล - ลูกทุ่ง ...COUNTRY SIDEทั้ง เพลง ฉ่ อ ย ชื่นฉ่ำไล้ เพลง ร อ ง เ ง็ งเพลง ลำ เพ ลิ น เพลง จ๊ อย ซ อเพลง ป ว่า เ ก อ ญ อ พลิ้วบรรเลงเพลง รั ก โ ล ก เฉิดเชวงคือ บทเพลง แห่ ง รั ก อั น งด งา ม !!!For Humanity friend on Earth ... We Love Y ou !!!!คิมหันตฤดู, 22 เมษายน 2551"สุดสะแนน", ล้านนาอิสระ , เจียงใหม่
แสงดาว ศรัทธามั่น
* @ " ปุ๋ ย ... นั น ท โ ช ติ  ชั ย รั ต น์ "เพื่อนแจ่มชัด สู้เพื่อโลก - ประชาชนได้สุขสันต์พริ้มบทเพลงกล่อมเห่เป็นนิรันดร์พลิ้วเพลงฝันกล่อมโลก กล่อมชีวี- - - ชั่วชีวาแห่งเธอแกร่งกล้างามเสมอนั้นเหลือที่คุณค่า คงมั่น หยัดยืน ณ ปฐพีร่วม " ลุ ก ขึ้ น สู้ " เพื่อพี่น้องผู้ถูกกดขี่ ... ประชาชน... เ ธ อ มี จิ ตวิ ญ ญา ณ สะอาดสดใสงา ม ด ว ง ใ จ เ จิ ด จ้าแจ่มเหลือล้นแห่งเพื่อนพี่น้อง " ส มั ช ชา ค น จ น "เพื่อ ผู้ทุกข์ทน ทุกข์ยาก ได้กำ ชั ย !!!... พริ้ มตาหลับลงเถิด เพื่อนแก้วเอ๋ยสายลมโชยพัดรำเพย อวยพรให้ผีเสื้อ แมลงปอ แล ดอกไม้โ ล ก เ อ กภ พ จั ก ร วาล ฉ่ำไล้ โอบกอด เ ธ อ** จิ ต วิ ญญา ณ- เ ธ…
แสงดาว ศรัทธามั่น
"ท่าน ค า ลิ ล ยิ บ ร า น "คือหนึ่งในมหาปราชญ์กวีแห่งโลกหล้าปลุกปลอบเพื่อนมนุษยชาติให้งดงามจิตวิญญาณ์หลอมคุณค่าชีวีโลกให้ ฉ่ำ บา น !
แสงดาว ศรัทธามั่น
*** "มองดูความจริงซีพี่ น้องผองเพื่อน"มองดูแล้วย้ำเตือนคนหนุ่มสาวโลกร้อนแล้งเลวร้ายเนิ่นนานยาวทั้งเหน็บหนาวปวดร้าวทุกคราวครั้ง
แสงดาว ศรัทธามั่น
@ - - - ป รา ก ฏ กา ร ณ์ธรรมชาติดูเหี้ยมโหดเกรี้ยวกราดโกรธทำลายไปทั่วดิน ฟ้า อากาศ ดูน่าสะพรึงกลัวแตกตัว เติบใหญ่ ไปทุกที่ลูกเอ๋ย... แม่ก็รู้ ลูกเจ็บปวดร้าวรวด ทุกข์ทรมาน เหลือที่ก็ แ ม่ ก็ อยู่ ของ แ ม่ อยู่ ดี ดีแล้ว ลู ก อัปรีย์ ไยมาย่ำยีกดขี่ข่มเหง แ ม่ ทำ ไม ?แ ม่ เองก็เจ็บปวดรวดร้าวนักเหน็บหนาว รุ่มร้อนประจักษ์ เจ็บป่วยไข้ไฉนเล่ามาเฆี่ยนโบยตี มาสุมไฟรุกไล่ ทำลาย ล้างผลาญเจ้า ลู ก ริ ยำ เอ๋ย ...ไย เ ธ อ ไม่รู้ ?อวิชชาพรั่งพรูกรูกลบหมดสิ้นโลภ โกรธ หลง เมามัว เข่นฆ่าแ ผ่ น ดิ นพังภินท์ไปหมดทั่วเอกภพ จักรวาลลูกหลานเอ๋ย ... แ ม่ก็ปวดเจ็บ ...หนาวเหน็บเมื่อม า ร ลู ก มาล้างผลาญหยุดเถิดยังมิสาย…