Skip to main content

( 1 ) พ ลิ้ ว โ ผ แ ล โ อ บ ก อ ด

อรุณรุ่ง ฉันนั่งใต้ร่มไม้มะม่วง ณ ที่นี่มีต้นไม้พันธุ์ไม้หลากหลาย ฯลฯ
ทั้งไม้ดอก ไม้แดก ( หมานถึงกินได้ ) เช่น มะม่วง มะปราง ลิ้นจี่
ตาขบ ฯลฯ ที่นี่ ถือว่า เป็นป่าในเมือง มีความร่มรื่น มี นก หนู
แมลง กระรอก ผีเสื้อ แมลงปอ กบ เขียด ปาด อึ่งอ่าง
คางคก และไก่แจ้ ฯลฯ ขณะฉันเดินออกกำลังกาย รับแสงตะวันยามเช้า
ไก่แจ้หลายตัวก็เริงรำย่ำย่างมาหาฉัน ฉันรู้ว่าเขาต้องการอะไร
ฉันรีบเดินไปเอาข้าวสาร ณ บ้าน - ร้านนี้ มาโปรยปรายให้พวกเธอ

บ้ า น - ร้านนี้ล้อมรอบไปด้วย ตึก คอนโด ด้านทิศตะวันออก กำลังสร้าง ตึก คอนโด ฉันคำนวณความสูงไม่ต่ำกว่าสิบชั้น...

โอ้ ...นกกระจอกมาแล้ว ฉันต้องเดินไปเอาข้าวสารให้พวกเธออีก โปรยปรายให้นกเขาด้วย

"
อ้ายแสงดาว ข้าวสารแพงนะ ... หนูให้เขาแล้ว"
แม่ "แดง " คุณแม่ของ น้อง " แอ๊ด " น้องชายที่ดีงามของฉันอีกคนหนึ่ง
เอ่ยบอก แม่แดง อายุอ่อนกว่าฉันไปซักสิบปีเอ่ยบอก

...
ฉั น รู้ ฉั น เ ข้าใจ
แต่ ฉั น ก็ มิได้เอาให้มาก ... พูดถึง นกกระจอก พวกเรารู้ไหม ?
ในเมือง ถ้า นกกระจอกมีชีวิตอยู่ไม่ได้ พวกเราชนชั้นกลาง
และชนชั้นหลายเผ่าพันธุ์ ก็จะอยู่ไม่ได้ โลกร้อนแล้วเน้อ !
นกกระจอกเป็นนกที่ทรหดอดทนเป็นที่สุด เขามิได้เป็น

"
กระจอก" อย่างที่คนคิด เขาของจริง ไอ้คน ... , มนุษย์
...
นี่แหละถ้ามีนัยยะถึงคำนี้ ... มนุษย์ นี่แหละ กระจอกที่สุดแล้ว !

ฉั น คิดว่า
เขาเป็นสัญลักษณ์ และเป็นสัญญาณแห่งการเตือนมนุษย์ในระบบโครงสร้างทุนนิยมอภิมหาบริโภคสุดโต่ง
ที่นับถือ วัตถุ เงินตราเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ ที่ทำลายธรรมชาติ
รากเหง้าวิถีชีวิตของมนุษย์ชาติ ประชาชน

โอ้ .... เธอ นกกระจอก
หากอยู่ไม่ได้ คนในเมืองก็อยู่ไม่ได้ ( ไม่รู้ว่าที่ถนนสีลม กรุงเทพฯ นกนางแอ่น ยังคงมีอยู่อะป่าว? แต่ที่ทางเหนือ บ้านดินของ ฉั น และของพี่น้อง ก็มีนกแอ่นฟ้า มาโบยบิน ฉวัดเฉวียนอยู่เสมอ ณ บนทุ่งฟ้า แสดงว่าท้องฟ้า ณ ดินแดนตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย ยังมีอาหาร มีแมลงให้เขาได้ลิ้มรสให้พวกเธอได้ดำรงอยู่
มิรู้นะ ถ้านกนางแอ่นที่ถนนสีลมอยู่บ่ได้ ก็แสดงว่าพวกเธอต้องอพยพมาอยู่ที่เชียงใหม่ และที่อื่นๆ ราวังเด้อ
พี่น้องคนกรุงฯ )

โปรยข้าวสารให้น้องนกกระจอก และน้องนกเขา ฯลฯ
สางสายแล้วอากาศร้อนมาก ฉัน ต้อง เปลือยกายท่อนบน (ท่อนล่างยังมิโป๊เปลือยนะ แต่ถ้าอยู่บ้านดินไม่แน่ ... อิ อิ ฮิ ฮิ )


ผี เ สื้ อ
หลากสีสันพรรณราย โบยบิน ดูดดื่มเกสรดอกไม้สีม่วง
ฉันไม่รู้ว่าเป็นดอกไม้ชื่ออะไร ดอกไม้สีม่วงระย้าย้อย
กลิ่นหอมเช่นเดียวกับพวงแก้มของหญิงสาว ฮะ อ้า ... แล้ว ฉันก็เห็นผีเสื้อ จีบ และโอบกอด ผสมพันธุ์กัน ... ภาพงดงามนัก

"
อ้าย คิง อ้ายขอเอาไปปลูกที่บ้านดิน หน่อย เน้อ"
ฉั น ขอ "อ้ายคิง" หนุ่มผู้มีเสน่ห์โดนใจสาวสาว แต่ บางครา หัวใจอ้ายคิงก้อเหงา อ้ายคิงเป็นเพื่อน - มิตรกะ บ้าน – ร้านนี้ และอ้ายคิงก็ช่วยทำหน้าที่บรรเลงเพลง ปิ้ง - ย่าง ทั้ง หมู ทั้งเนื้อ ฯลฯ ที่ตูบ กระต๊อบ ของอ้ายคิง ข้างบน มีป้ายเขียนว่า ... "BAR - BE - KING " ชื่อนี้ "อ้าย ฮวก .....หรือ " อรุณรุ่ง สัตย์สวี " กวี นักเขียน เจ้าของ บ้าน ร้านสุดสะแนน เป็นคนตั้งชื่อให้
ใครมาสุดสะแนนก้อไปเยือนหาอ้ายคิงเน้อ คุยกะอ้ายคิงสนุก เพราะอ้ายคิง แกยิ่งกว่าคิง (ร้านต่างๆ
มักใช้ชื่อ บาร์บีคิว ที่ปิ้งเนื้อ ... อ้ายฮวกก็เลยโซโล่เปลี่ยนเป็น bar - be - king เล๊ย)

เสียงสร้างตึก คอนโด ดังตลอดเวลา พี่น้องกรรมกรคนงานคงเป็นคนอิสาน
เมื่อพวกเขาพุดคุยกัน เว้าอิสานกัน พวกพี่น้องดูมีอารมณ์ขันมาก
ฟังเขาพูดคุยหยอกล้อกัน ร้องเพลงกัน ม่วนสนุก ไม่ซีเครียด


( 2 ) '
ขา ตั้ ง' AND 'ไ ฟ เ ลี้ ย ว'

"
ขา ตั้ ง ... ไฟเลี้ยว "
"
ไ ฟ เ ลี้ ย ว ... ขา ตั้ ง" ฯลฯ ... ฯลฯ ... ฯลฯ ... ฯลฯ ... ฯลฯ

ฉั น รู้สึกว่า เป็นความงดงามที่เพื่อนมนุษยชาติ ห่วงใยกัน และฉันก็เฉกกัน
เมื่อเห็นรถเครื่อง หรือ รถยนต์ ลืมเอาขาตั้งขึ้น หรือลืมปิดไฟเลี้ยว ฉันก็จะรีบบอกเขาเช่นกัน
ถ้าเป็นรถเครื่องที่ขับไม่เร็ว ฉั นก็จะบิดมือแซงและบอกเขาเช่นกัน
นี่คือความห่วงใย ฉันคิดว่า มนุษย์ทุกคนแรกเริ่มที่กำเนิดมา
ในโลก เอกภพ จักรวาลนี้ ตอนเป็นทารก เป็นเด็กๆ ก็มิได้มีจิตใจชั่วช้า สารเลว เหี้ยมโหด กดขี่ข่มเหง เอารัดเอาเปรียบ ฯลฯ
แต่พอเติบใหญ่มาทำงาน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ (ขอใช้คำว่า บางคน)
ทหาร ตำรวจ พ่อค้า คหบดี นายทุน ศักดินา มหาโจร ชาวบ้าน (ที่ยกมานี้ ขอใช้คำว่าบางคน ) ฯลฯ
แต่ด้วยระบบโครงสร้างสังคมที่สามานย์ โดยองค์รวม จึงต้องให้มีการแข่งขันเอาตัวรอด ชเลียร์ เอาตัวรอด หรือทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่ในระบบสังคมบริโภคนิยมสุดโต่งนี้ให้ได้
ดังนั้น จึงมีการกดขี่เอารัดเอาเปรียบทำลายโลกธรรมชาติรากเหง้าวิถีชีวิตของประชาชนชาวบ้าน และของตนเองด้วย
"
ท่านพุทธทาส" ปราชญ์ กวี แห่งโลก จึงเรียกสิ่งนี้ว่า เป็น "อ วิ ช า"

ฉั น จึงคิดว่าคนเหล่านี้
ที่ยกตัวอย่างมา แม้บางคน บางพวกจะไร้คุณธรรม
แต่เมื่อเขามาเห็นคนขับรถเครื่อง รถยนต์ ฯลฯ ที่ลืมเอาขาตั้งรถขึ้น
หรือลืมปิดไฟเลี้ยว พวกเขาก็ต้องตะโกนบอก หรือส่งสัญญาณเตือนว่า
...
"
ขาตั้ง, ครับ, ค่ะ"
"
ไฟเลี้ยว, ค่ะ, ครับ"

ม นุ ษ ย์ งดงามเสมอ แต่ด้วยเพราะระบบโครงสร้างสั งคมอัปลักษณ์ ที่เราไม่ ปฏิรูป หรือ ปฏิวัติ
มนุษย์บนดาวโลกดวงนี้ จึง ทุ ก ข์ ท ร มา น !

สา ง สา ย แล้ว ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส
สำลีเมฆขาวงดงาม สายลมโชยพลิ้ว นกน้อยน้อยร้องเพลง .. ฉั น อยา ก โ อ บ ก อ ด ใ ค ร ใ น อ้ อ ม แ ข น ซั ก ค น ! ! !

 

 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
ฉั น นั่งคุยกับ อ. เปี๊ยก(เพื่อนร่วมชีวิตกับสุดสะแนน) ใต้ร่มต้นมะปราง ลิ้นจี่ ลำใย ฯลฯ ณ ร้าน - บ้าน "สุดสะแนน" ฉั นมักมาพำนักที่นี่เสมอด้วยความกรุณาของผองเพื่อนพีน้องสุดสะแนน ดังที่ฉั น เคยเขียนว่า ที่นี่เป็นป่าในเมือง รายล้อมด้วย ตึก คอนโด เกสต์เฮ้าส์ ฯลฯไก่ชนรูปร่างสง่างามคุ้ยเขี่ยหาอาหารใต้ร่มไม้กะ อ.เปี๊ยก ที่ผูกเปลนอนใต้ร่มไม้ ไก่ชนตัวนี้รอดชีวิตมาได้ เพื่อนๆจะเอาไปต้มกิน แต่ "อ.คิง" เอามาที่สุดสะแนน ก่อนที่เพื่อนๆจากเชียงของ, เชียงราย จะมาบ้าน "อ้ายต้อม และ พี่กบ" ที่สันทรายแม่โจ้, เชียงใหม่....เพื่อนๆ จากเชียงของคือผู้ที่ปกป้องรักษารากเหง้าวิถีชีวิตให้กับโลก แผ่นดิน…
แสงดาว ศรัทธามั่น
เ ดื อ น - ดา ว งามแจ่มฟ้าลาวัณย์แ ร ม - เรืองรองพลันบรรเจิดจ้าป ระ กา ย - เดือนดาวแห่งคืนวันดับวูบ แล้วเฮยเ รื อ ง - เรื่อเหลืองอร่ามแล้วอาบโลก งามนิรันดร์ ฯน้ อ ง ชา ย....ยินข่าวเจ้ากลับคืนสู่ผืนดินข่าวคราวจากผองเพื่อนแห่งล้านนาฉัน งงงวย และใจหายต่อมา... เริ่มเข้าสู่ห้วงภวังค์จิตสมาธิ* " ต ถา ตา .... มันเป็นไปเช่นนั้นเอง "
แสงดาว ศรัทธามั่น
(1) ธ ร ร ม ชา ติบ่า ยในห้วงฤดูฝนนี้ ณ "สุดสะแนน"ฟ้าครื้มเมฆ ใบไม้ไม่ไหวติง ผีเสื้อยังคงเริงรำร่อนดูดดื่มเกสรดอกไม้ ไก่แจ้บางตัวคุ้ยเขี่ยหาอาหาร บางตัวก็พักผ่อนไซร้ขนนอนหลับ แม่ไก่ที่นี่มีสามสี่ครอก งดงามนักน่าขำและงดงามไก่แจ้ครอกหนึ่งมีแม่สองตัวช่วยกันเลี้ยง ถาม "อ้ายฮวก"เจ้าของร้านสุดสะแนนเธอบอกว่า "แม่ไก่สองตัวช่วยกันฝัก" งดงามมากเลย... ผีเสื้อสีน้ำเงินบินมาเกาะที่แก้วน้ำฉันฉันนั่งอยู่ใต้ร่มไม้มะม่วงอันร่มรื่น มดแดงมาเกาะที่แขนฉันฉันค่อยๆจับเขาไปปล่อยเกาะที่ร่มมะม่วง
แสงดาว ศรัทธามั่น
 (1)พรรษาราตรีพรรษาฤดูฉันนั่ง ณ ลานโล่งกว้างแห่งเมืองใหญ่ยามราตรีนี้ทุ่งฟ้าดูมิสดใสด้วยเมฆฝนทว่า...เป็นครรลองของธรรมชาติที่เป็นไปเช่นนั้นเอง“ตถาตา”
แสงดาว ศรัทธามั่น
( 1 ) พ ลิ้ ว โ ผ แ ล โ อ บ ก อ ดอรุณรุ่ง ฉันนั่งใต้ร่มไม้มะม่วง ณ ที่นี่มีต้นไม้พันธุ์ไม้หลากหลาย ฯลฯทั้งไม้ดอก ไม้แดก ( หมานถึงกินได้ ) เช่น มะม่วง มะปราง ลิ้นจี่ตาขบ ฯลฯ ที่นี่ ถือว่า เป็นป่าในเมือง มีความร่มรื่น มี นก หนูแมลง กระรอก ผีเสื้อ แมลงปอ กบ เขียด ปาด อึ่งอ่างคางคก และไก่แจ้ ฯลฯ ขณะฉันเดินออกกำลังกาย รับแสงตะวันยามเช้าไก่แจ้หลายตัวก็เริงรำย่ำย่างมาหาฉัน ฉันรู้ว่าเขาต้องการอะไรฉันรีบเดินไปเอาข้าวสาร ณ บ้าน - ร้านนี้ มาโปรยปรายให้พวกเธอบ้ า น - ร้านนี้ล้อมรอบไปด้วย ตึก คอนโด ด้านทิศตะวันออก กำลังสร้าง ตึก คอนโด ฉันคำนวณความสูงไม่ต่ำกว่าสิบชั้น...โอ้ ...นกกระจอกมาแล้ว…
แสงดาว ศรัทธามั่น
*1  เรียวนิ้ว บรรเลง เพลง บลูส์ กีร์ต้า     เรียวปาก พริ้ม ฮาร์โมนิการ์ขับขาน*2  กลอง บองโก้ บรรเลง เพลงรัก ฉ่ำชื่นบาน     โอบกอดโลก สุข สราญย์เบิกบาน ชีวี     สาก มือ นิ้ว ด้าน  ด้าน เหนี่ยว ไกปืน      ผงาดยืน สาดกระสุนใส่ ในทุกที่ *3  ระเบิดบาป กระสุนบ้า ณ เพลานี้      ถล่มโลก ให้ป่นปี้ ด้วย ไ ฟ ส ง ค ร า ม*4   เธอ “ผิวปากเป็นบทเพลงแห่งความคิดถึง”      เพราะรักจึงจิตวิญญาณ – หัวใจ มิอาจห้าม     …
แสงดาว ศรัทธามั่น
Up fighting together for "FRIEND OF BURMA" and give power heart hug for.......FRIEND SENDING  STRENGTH TO NAGIS VICTIMS"พ ลั ง ใ จและโอบกอดแด่การ ลุ ก ขึ้ น สู้ของพี่น้องชนเผ่า และป ระ ชา ช น ชา วพ ม่า (มิใช่ชนชั้นปกครองรัฐบาลเผด็จการทหารฟัสซิสม์มิยันม่าร์) และพี่น้องที่ถูกพายุนากิส โหมซัดกระหน่ำทำให้ต้องตายนับแสนๆ คนและสูญหายอักนับหมื่นคน******
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพประกอบจาก http://www.flickr.com/photos/poakpong/2301645201/  ..... เ พ ลง ROCK ผสานเพลง เ ร ก เ ก้"บอบมาเล่ย์" and WE CAN PLAY พริ้งผ่องใสทั้ง ไทย - สากล - ลูกทุ่ง ...COUNTRY SIDEทั้ง เพลง ฉ่ อ ย ชื่นฉ่ำไล้ เพลง ร อ ง เ ง็ งเพลง ลำ เพ ลิ น เพลง จ๊ อย ซ อเพลง ป ว่า เ ก อ ญ อ พลิ้วบรรเลงเพลง รั ก โ ล ก เฉิดเชวงคือ บทเพลง แห่ ง รั ก อั น งด งา ม !!!For Humanity friend on Earth ... We Love Y ou !!!!คิมหันตฤดู, 22 เมษายน 2551"สุดสะแนน", ล้านนาอิสระ , เจียงใหม่
แสงดาว ศรัทธามั่น
* @ " ปุ๋ ย ... นั น ท โ ช ติ  ชั ย รั ต น์ "เพื่อนแจ่มชัด สู้เพื่อโลก - ประชาชนได้สุขสันต์พริ้มบทเพลงกล่อมเห่เป็นนิรันดร์พลิ้วเพลงฝันกล่อมโลก กล่อมชีวี- - - ชั่วชีวาแห่งเธอแกร่งกล้างามเสมอนั้นเหลือที่คุณค่า คงมั่น หยัดยืน ณ ปฐพีร่วม " ลุ ก ขึ้ น สู้ " เพื่อพี่น้องผู้ถูกกดขี่ ... ประชาชน... เ ธ อ มี จิ ตวิ ญ ญา ณ สะอาดสดใสงา ม ด ว ง ใ จ เ จิ ด จ้าแจ่มเหลือล้นแห่งเพื่อนพี่น้อง " ส มั ช ชา ค น จ น "เพื่อ ผู้ทุกข์ทน ทุกข์ยาก ได้กำ ชั ย !!!... พริ้ มตาหลับลงเถิด เพื่อนแก้วเอ๋ยสายลมโชยพัดรำเพย อวยพรให้ผีเสื้อ แมลงปอ แล ดอกไม้โ ล ก เ อ กภ พ จั ก ร วาล ฉ่ำไล้ โอบกอด เ ธ อ** จิ ต วิ ญญา ณ- เ ธ…
แสงดาว ศรัทธามั่น
"ท่าน ค า ลิ ล ยิ บ ร า น "คือหนึ่งในมหาปราชญ์กวีแห่งโลกหล้าปลุกปลอบเพื่อนมนุษยชาติให้งดงามจิตวิญญาณ์หลอมคุณค่าชีวีโลกให้ ฉ่ำ บา น !
แสงดาว ศรัทธามั่น
*** "มองดูความจริงซีพี่ น้องผองเพื่อน"มองดูแล้วย้ำเตือนคนหนุ่มสาวโลกร้อนแล้งเลวร้ายเนิ่นนานยาวทั้งเหน็บหนาวปวดร้าวทุกคราวครั้ง
แสงดาว ศรัทธามั่น
@ - - - ป รา ก ฏ กา ร ณ์ธรรมชาติดูเหี้ยมโหดเกรี้ยวกราดโกรธทำลายไปทั่วดิน ฟ้า อากาศ ดูน่าสะพรึงกลัวแตกตัว เติบใหญ่ ไปทุกที่ลูกเอ๋ย... แม่ก็รู้ ลูกเจ็บปวดร้าวรวด ทุกข์ทรมาน เหลือที่ก็ แ ม่ ก็ อยู่ ของ แ ม่ อยู่ ดี ดีแล้ว ลู ก อัปรีย์ ไยมาย่ำยีกดขี่ข่มเหง แ ม่ ทำ ไม ?แ ม่ เองก็เจ็บปวดรวดร้าวนักเหน็บหนาว รุ่มร้อนประจักษ์ เจ็บป่วยไข้ไฉนเล่ามาเฆี่ยนโบยตี มาสุมไฟรุกไล่ ทำลาย ล้างผลาญเจ้า ลู ก ริ ยำ เอ๋ย ...ไย เ ธ อ ไม่รู้ ?อวิชชาพรั่งพรูกรูกลบหมดสิ้นโลภ โกรธ หลง เมามัว เข่นฆ่าแ ผ่ น ดิ นพังภินท์ไปหมดทั่วเอกภพ จักรวาลลูกหลานเอ๋ย ... แ ม่ก็ปวดเจ็บ ...หนาวเหน็บเมื่อม า ร ลู ก มาล้างผลาญหยุดเถิดยังมิสาย…