Skip to main content

แมงกุดจี่ทั้งเคยได้ยิน ทั้งเคยฟังเพลง และเคยกินมาก่อน แต่ยามได้เดินถือกระแป๋งตามเด็กสองคนไปขุดหาแมงกุดจี่ในยามเช้า ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เห็นพวกมันผลุบๆ โผล่ๆ ในรู


ดาวใจเป็นพี่สาวของไพจิตร เธอขุดแมงกุดจี่พลาดโดนตัวมันหลายครั้ง ทำให้ฉันขัดใจน่าดู “มา มา ขอพี่ทำหน่อยซิ”


ฉันว่าฉันมือเบาน่าจะขุดได้ดี แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ฉันสับเอาแมงกุดจี่หัวขาด ตัวขาด รุ่งริ่ง เสียจนน่าเวทนา เด็กหญิงไพจิตรร้องเสียงหลงทุกทีที่ฉันยั้งมือไม่ทัน คมเสียมสับลงกลางตัวแมงสีดำๆ นั้นเสียแล้ว

27_7_01


มา มา เค้าขุดมั่ง” เด็กหญิงตัวเล็กสุด ขอเป็นหน่วยอาสาพิทักษ์ความสมบูรณ์ของชีวิตแมงกุดจี่เพื่อความเอร็ดอร่อยในการรับประทาน เธอคว้าเสียมจากมือฉัน ขยับตัว ตั้งท่าขุดดั่งจะบอกว่าการขุดที่ดีต้องอย่างนี้ย่ะ เด็กหญิงจับเสียมและจ้ำๆ ลง คราวนี้คนตาลุกและร้องโวยวายคือพี่สาวของเธอ


เฮ่ย! อี่จิตร! สิแม่มึ่ง แมงตายเบิ๊ด อิหยังขุดจังซั่น”

(ตายแล้ว! น้องจิตร! ทำไมขุดอย่างนั้น แมงกุดจี่ตายหมดเลย)


ไพจิตรทำเอาแมงกุดจี่ขาดรุ่งริ่งพอกันกับที่ฉันโชว์ฝีมือไปก่อนหน้านี้ จึงสรุปได้ว่าดาวใจเป็นคนขุดที่ดีที่สุดแล้ว


นึกจะว่าง่ายรึ! กับการขุดแมงขี้ควายอย่างแมงกุดจี่


อย่างแรกเลย คุณต้องรู้สึกได้ว่ากลิ่นขี้ควายมันหอม มันมีความหมายถึงความอยู่รอดของปากท้อง ยิ่งกว่านั้น มันหมายถึงความชุ่มชื่นของจิตใจยามได้หย่อนแมงกุดจี่คั่วลงในปาก ซึ่งมีกลิ่นหอมและอร่อย เริ่ด!


ดังนั้น เมื่อเห็นกองขี้ควาย โดยเฉพาะกองขี้ควายเปียกๆ ความรู้สึกขณะที่เห็นต้องเหมือนเห็นเค้กก้อนโต คุณวิ่งไปหามันราวสมบัติอันล้ำค่า เพราะช้าไปอาจต้องอด คนอื่นแหวกเอากองสมบัตินั้นไปเสียแล้ว ไม่ใช่ แหวะ! เหม็น!


คุณจะรู้สึกตื่นเต้นยามเอาเสียมเขี่ยกองขี้ควายเปียก กลิ่นขี้ควายบ้านนอก - ฉันขอคอนเฟิร์มว่ามันไม่ได้เหม็นเหมือนกลิ่นเล้าหมูซีพี ไก่ซีพี ที่ขับรถห่างเป็นร้อยเมตรยังเหม็นติดจมูกไปนานโข แต่กลิ่นขี้ควายกองโตสำหรับคนไม่เคยอาจทำให้ต้องขยับจิตใจให้มันเข้าที่เข้าทางสักพัก ก็ทีเด็กมันยังไม่เหม็นเลย แล้วอีกเดี๋ยวเราก็จะเอามันเข้าปากแล้ว จะทำเป็นรังเกียจไปไย


ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้ สูดกลิ่นขี้ควายแรงๆ อ๊ะ ไม่เหม็นเท่าไหร่แฮะ! คอนเฟิร์ม คอนเฟิร์ม

27_7_02

 


กองขี้ควายทุกกองไม่ได้แปลว่าจะมีแมงกุดจี่อยู่ กองขี้ควายเก่ามากก็ใช้ไม่ได้ แมงกุดจี่มันบินหนีไปหมดแล้ว แต่สดมากก็ไม่ได้ ประมาณว่าควายถ่ายลงมาใหม่ๆ อย่างนี้ยังใช้ไม่ได้ แมงกุดจี่ยังไม่ได้บินมาอยู่ ต้องรอให้มันผ่านไปสักคืนก่อน)


แมงกุดจี่ชอนไชตัวเข้าไปอยู่ในดิน ดินใต้กองขี้ควายร่วนซุยดีเหลือเกินจนเมื่อเสร็จจากการขุดแล้ว ฉันต้องกำดินขึ้นมาและบี้มันอยู่ในมือ ร่วนดีและเย็นจัง


เดินหากองขี้ควายได้หลายกอง เพียงพอต่อการกินในมื้อเช้านี้แล้ว สองพี่น้องก็พากันมาล้างมือ ล้างแมงกุดจี่ ตั้งกระทะ


เด็กหญิงสองคนสอนให้ฉันรู้ว่า จบปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก มันก็ไม่ได้แปลว่าจะเอาตัวรอดได้ ถ้าเราไม่สามารถเข้าใจได้ว่าชีวิตมาจากดิน


ก่อนที่ฟากฟ้าจะอ้าแขนรอรับปีกของคนบางคนหรือสัตว์บางตัว พวกเธอ พวกเขา และพวกมันล้วนต้องบ่มฟักและบำรุงตนเองจากดิน เพราะในดินมีปีก ปีกที่จะพาชีวิตให้ท่องทะยานได้อย่างอิสระเช่นแมงกุดจี่ แมงเม่า แมงมัน แม้กระทั่งนกบางตัว และคนบางคน


ล่องลอยไปสู่ฟากฟ้าแล้ว เจ้าจงอย่าลืมว่าปีกมาจากดิน

 

 

บล็อกของ สร้อยแก้ว

สร้อยแก้ว
อืมม์... ดูเหมือนยุคนี้คนฆ่าสัตว์ตัดชีวิตจะกลายเป็นอาชญากร ไม่น่าคบไปเลยจริงๆ เมื่อฉันจัดการทุบหัวปลาโป๊กๆ สีหน้าน้องผู้หญิงบางคนเหยเก เบะปาก “กินไหมเล่า!” ฉันเอ็ดเอา “กินอ่ะ” “เออ ถ้าจะกินอย่าทำหน้าอย่างนั้น คนฆ่าเสียเซลฟ์เหมือนกัน” อืมม์... แต่จะว่าไปก็ฆ่าตัวเป็นๆ ซะหลายตัว จะไม่ให้น้องมันทำหน้าเบ้ได้ไง กับคนรู้จักมักคุ้นฉันมักออกตัวเสมอว่า ฉันไม่ใช่คนเรียบร้อยใจดีนะ ฉันเป็นคนที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตได้โดยไม่รู้สึกผิดเลย ตกปลาฆ่าปลาได้ ยิงหนังกะติ๊กเอานกมาย่างไฟได้ ฆ่าตั๊กแตน ฆ่าแมลงต่างๆ ได้ จับปูเป็นๆ เผาบนเตาถ่านได้ หรือจับปูเป็นๆ โขลกในครกได้ (การทำน้ำปู๋ของคนเหนือ)…
สร้อยแก้ว
ถ้าไม่ใช่คนอีสาน จะมีใครบ้างหนอ รู้จักแมงหัวหงอก ? โอ้! จ๊อด มันน่าตื่นตาตื่นใจเสียจริง ขนาดว่าฉันโตมากับป่าเขา ใช้ชีวิตอย่างคนบ้านนอกเหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าบ้านนอกทุกพื้นที่จะเหมือนกันเสียเมื่อไหร่ แมงหัวหงอกพากันมาจับต้นไม้ไร้ใบ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันมีใครสังเกต เห็นอีกที มันก็ขาวเต็มต้นแล้ว แรกทีเดียวฉันคิดว่าเป็นครั่งเสียอีก แต่ไม่ใช่ มันเป็นแมลงเล็กๆ ขาวสะอาดทั้งตัว มีขนสีขาวตรงกลางหลังชี้ออกเหมือนขนหางนกยูง กระโดดได้ เวลาจับตัวมันไว้ในอุ้งมือมันจะกระโดดไปมาแรงทีเดียว ต้องจับลงถังน้ำ ถึงจะหมดความสามารถในการกระโดด แม้จะเป็นแมลงที่ดูสวยงาม น่ารัก แต่ว่าในเมื่อมันกินได้…
สร้อยแก้ว
แมงกุดจี่ทั้งเคยได้ยิน ทั้งเคยฟังเพลง และเคยกินมาก่อน แต่ยามได้เดินถือกระแป๋งตามเด็กสองคนไปขุดหาแมงกุดจี่ในยามเช้า ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เห็นพวกมันผลุบๆ โผล่ๆ ในรู ดาวใจเป็นพี่สาวของไพจิตร เธอขุดแมงกุดจี่พลาดโดนตัวมันหลายครั้ง ทำให้ฉันขัดใจน่าดู “มา มา ขอพี่ทำหน่อยซิ” ฉันว่าฉันมือเบาน่าจะขุดได้ดี แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ฉันสับเอาแมงกุดจี่หัวขาด ตัวขาด รุ่งริ่ง เสียจนน่าเวทนา เด็กหญิงไพจิตรร้องเสียงหลงทุกทีที่ฉันยั้งมือไม่ทัน คมเสียมสับลงกลางตัวแมงสีดำๆ นั้นเสียแล้ว
สร้อยแก้ว
เดือนเมษายน เมื่อฉันกลับไปยังศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านอีกครั้ง ภาพของผืนดินแล้ง หญ้าแห้ง และต้นไม้ใบร่วงยืนโดดเดี่ยวเดียวดายที่เห็นชินตาก็แปรเปลี่ยนไปสายฝนที่สาดเทลงมาเพียงไม่กี่ครั้งได้ลบล้างโลกสีน้ำตาลให้หายไป สองข้างทางระหว่างที่รถสามล้อเครื่องนำพาไปมีทิวหญ้าสีเขียวระบัดใบตลอดทาง ต้นไม้ใบแห้งผลิใบเขียวชะอุ่ม และผืนดินแล้งก็มีพุ่มไม้ใบขึ้นเป็นกอเล็กกอน้อยนับว่าชวนตื่นตาตื่นใจไม่น้อยสำหรับเวลาที่หายไปเพียงยี่สิบวัน ผืนดินก็เปลี่ยนแปลงได้เพียงนี้