Skip to main content

เดือนเมษายน

เมื่อฉันกลับไปยังศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านอีกครั้ง ภาพของผืนดินแล้ง หญ้าแห้ง และต้นไม้ใบร่วงยืนโดดเดี่ยวเดียวดายที่เห็นชินตาก็แปรเปลี่ยนไป


สายฝนที่สาดเทลงมาเพียงไม่กี่ครั้งได้ลบล้างโลกสีน้ำตาลให้หายไป สองข้างทางระหว่างที่รถสามล้อเครื่องนำพาไปมีทิวหญ้าสีเขียวระบัดใบตลอดทาง ต้นไม้ใบแห้งผลิใบเขียวชะอุ่ม และผืนดินแล้งก็มีพุ่มไม้ใบขึ้นเป็นกอเล็กกอน้อย


นับว่าชวนตื่นตาตื่นใจไม่น้อยสำหรับเวลาที่หายไปเพียงยี่สิบวัน ผืนดินก็เปลี่ยนแปลงได้เพียงนี้


ตลอดทางที่นั่งรถผ่านมีกอดอกไม้ชนิดหนึ่งออกดอกสีขาวขึ้นกระจัดกระจายทั่วไป ดอกสีขาวสะอาดดีเหลือเกิน หมายตาหมายใจไว้ว่าจะหาโอกาสไปถ่ายรูปมันสักวัน


ดอกไม้แปลกหน้า มีชื่อเรียกขานจากคนพื้นถิ่นว่า โมกนา


17_7_01


เช้าวันอากาศอบอ้าว ฟ้าหลัว ฉันชวนเพื่อนตัวน้อยมุดรั้วลวดหนามของสำนักงานออกไปถ่ายรูปโมกนาที่ชูช่อรับอรุณ


โมกนาเป็นดอกไม้ที่คนท้องถิ่นคุ้นเคยและเห็นเจนตาในยามฤดูกาลผัดเปลี่ยนจากร้อนสู่ฝน


เมื่อเด็ดดอกไม้ ยางสีขาวก็ซึมออกจากก้านของมัน และเพียงเดี๋ยวเดียวมันก็คอพับ ดอกเฉา เด็ดครั้งเดียวฉันจึงเป็นอันเข้าใจได้ว่าโมกนาไม่เหมาะที่จะอยู่ในแจกันเลย ดีที่สุดแล้วที่จะให้มันอยู่กลางทุ่งนาเปล่งสีขาวบริสุทธิ์กลางท้องนาบริสุทธิ์


นอกจากโมกนาแล้ว ยังมีไม้ยืนต้นอีกต้นที่ออกดอกสีขาวดอกเล็กๆ เด็กหญิงไพจิตรบอกฉันว่า มันคือดอก ยอกขี้หมา ส่งกลิ่นหอมชื่นใจรอบๆ บริเวณ


17_7_02a


ช่วงนี้คล้ายว่าดอกไม้สีขาวจะพากันออกดอกอย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าดอกพุด พุดซ้อน โมก ดอกแก้ว ดอกปีบ ที่ปลูกอยู่ในสำนักงาน ส่วนดอกไม้พื้นถิ่นก็อย่างโมกนา ยอกขี้หมา และยังมีอีกต้นหนึ่งออกดอกสีขาวเหมือนกันกลีบดอกคล้ายลำดวน แม่เด็กหญิงไพจิตรบอกกับฉันแล้วว่าชื่ออะไร แต่ฉันลืมไป


สายฝนเป็นเหมือนน้ำทิพย์ พลิกผืนดินสีแดงให้กลายเป็นเขียวไสวและดอกไม้เบ่งบาน


ป่าหินดินแล้งไม่ได้แปลว่าป่าแห่งนี้ไม่สมบูรณ์ ลักษณะทางธรณีศาสตร์ของที่นี่เป็นอย่างนี้ แต่เพียงแค่ฝนมา ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป


ท่ามกลางความยากจนกลางผืนดิน ป่าหิน น้ำใส ของดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีอายุกว่าสี่พันปีจากภาพเขียนประวัติศาสตร์บนผาแต้ม ผู้คนยังคงดำเนินชีวิตไปเพื่อให้อยู่รอด แม้การทำนาหาปลายังคงเป็นหลักสำคัญสำหรับชีวิตที่นี่ แต่ยามพ้นหน้าฝน ต้นไม้ทนแล้งอย่างยูคาลิปตัสก็ทำให้ชาวบ้านหันมาไถกลบผืนป่าเพื่อต้นไม้ที่ได้ชื่อว่าทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างเอกอุ อย่างยูคาลิปตัส


แม้ไม่เห็นมีใครร่ำรวยจากการปลูกยูคาลิปตัสนอกจากโรงงานกระดาษ แต่ชาวบ้านก็รู้สึกว่ามันดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย


คนจนรังเกียจความจน เขาอยากกินอิ่ม อยากมีบ้านแข็งแรง มั่นคง มีความสะดวกสบาย แต่การแก้ปัญหาความยากจนไม่ใช่การแจกคูปองคนจนหรือแจกจ่ายเงินทองในนามกองทุนหมู่บ้านละล้านสองล้าน หรือแม้กระทั่งบอกให้เขารู้จักพอขณะที่พวกเขาขาดแคลน


การแก้ไขปัญหาความยากจนที่ดีที่สุดคือ การให้พื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติ ให้อำนาจในการจัดการ และให้ความเชื่อมั่นในวิถีที่เคยดำเนินมาต่างหาก


ไม่มีเงิน แต่มีป่า มีที่นา มีแม่น้ำ พวกเขาก็จะรู้เองว่าจะหลีกพ้นความขาดแคลนได้อย่างไร

บล็อกของ สร้อยแก้ว

สร้อยแก้ว
นุ่มนิ่มเหลือเกิน ลูกแม่เอ๋ย นานวัน เนื้อตัวเจ้าอวบอิ่ม กอดได้แน่นเต็มกอด หอมแก้มเจ้าได้แรงๆ เสียงหัวเราะคิกๆ คักๆ ยามแม่เอาหน้าซุกพุงนิ่ม หรือสีข้างซี่โครงน้อย เจ้าร้องลั่น หัวเราะกรี๊ดๆ จั๊กจี้จั๊กกะเดียม แม่รู้ความลับของเจ้าแล้วสิ ว่าเจ้าเองก็บ้าจี้เหมือนแม่ แต่ยิ่งเจ้าเบี่ยงตัวหนีคิกๆ แม่ก็ยิ่งอยากแกล้ง เพราะอยากยินเสียงคักๆ คิกๆ กรี๊ดกร๊าดๆ
สร้อยแก้ว
ถึง ลุงแสงดาว เช้าวันนี้แม่ตื่นตั้งแต่ยังไม่ถึงตีห้าดี แม่ย่องมาเปิดคอมพิวเตอร์ เปิดอินเตอร์เน็ต (ยามเช้าๆ เน็ตแม่จะเดินได้เร็ว คงเพราะเป็นเวลาที่ไม่ค่อยมีใครใช้งาน คลื่นอากาศเลยเดินทางได้คล่อง) แม่คงคิดว่าจะแอบทำงานตอนหนูหลับล่ะสิ เรื่องอะไร หนูจะยอมให้แม่สนุกอยู่คนเดียวล่ะ หนูไหวตัวทันหรอกน่า เลยกลิ้งซะสองรอบแล้วยันขายันแขนลุกนั่ง ร้อง อื้อๆ แม่ก็หันขวับทันที
สร้อยแก้ว
  ตาน้ำอายุครบ ๗ เดือนในวันนี้แล้ว ลูกมีภาษาของลูก และรู้วิธีสื่อสารกับแม่ ๐ ถ้าลูกเบื่อนอนเล่นหรือการนั่งอยู่กับที่ ลูกอยากให้แม่พาเดินเล่น ลูกจะเงยหน้าร้องอ้อนด้วยการทำเสียงฮือๆ หรือบางทีทำเสียงแงๆ แต่ว่าไม่มีน้ำตาหรอก ลูกแกล้งทำ พอแม่อุ้ม ลูกก็จะยิ้มร่า พร้อมกับตบบ่าแม่แปะๆ เมื่อไหร่ที่ลูกตบบ่าแม่แปะๆ นั่นแปลว่า ไป ไป เหมือนว่าแม่เป็นม้างั้นเหอะ ตบก้นแล้วไปได้
สร้อยแก้ว
  ตาน้ำ ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้นเองที่แม่หลบมารดน้ำให้หัวใจ รินลมหายใจแผ่วๆ ช้าๆ ตาน้ำ ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านี้เอง แต่มันทำให้แม่มีความสุข เพราะแม่สงบ ปลอดโปร่ง
สร้อยแก้ว
ตาน้ำ ยามเมื่อลูกนอนหลับ สิ่งที่แม่อยากทำที่สุดคืออะไรนะ เขียนหนังสือ, นอน, อยู่เฉยๆ ว่างๆ เพราะการเลี้ยงลูกเองมันเหนื่อยใช่เล่นเหมือนที่ใครหลายคนว่า แทบไม่ได้หายใจหายคอ ทั้งที่ยามลูกตื่นเราก็เล่นสนุกด้วยกัน มีความสุขเมื่อลูกอยู่ในอ้อมกอด ขำบ้าง ดุบ้างยามลูกยื้อแย่งจะเอาทุกอย่างในมือแม่
สร้อยแก้ว
  ตาน้ำ ลูกรู้สึกอย่างไรบ้างไหมขณะที่ลูกบินอยู่บนฟ้า ตาน้ำ ลูกดูดนมแม่แล้วหลับปุ๋ยขณะแม่กอดลูกไว้แนบอก แม่เหม่อมองท้องฟ้า เห็นเพียงปุยเมฆขาวฟูฟ่อง บนฟ้าช่างเวิ้งว้าง บ่อยครั้งที่แม่ไม่มั่นใจเลยว่าแม่จะเป็นแม่ที่ดีไหม แม่จะเลี้ยงลูกได้คู่ควรหรือไม่ แม่รู้สึกว่าแม่ต่ำต้อยเสมอเมื่อนึกถึงความไว้วางใจจากสวรรค์ให้ดูแลบุตรีน้อยๆ คนนี้
สร้อยแก้ว
    ตาน้ำ แม่เพิ่งรู้ว่า ยามลมพายุพัดระหว่างมีบ้านอยู่กลางหุบเขากับที่ราบโล่ง เสียงสายลมจะหวีดดังไม่เหมือนกัน
สร้อยแก้ว
แต่ก่อนฉันเคยใฝ่ฝันกับการมีบ้านมานาน แต่จนแล้วจนรอดก็มักจะรู้สึกว่ายังไม่ใช่เวลานั้น มันยังไม่ถึงเวลา ฉันยังอยากเดินทางท่องไปอยู่ ยังอยากพบเจออะไรใหม่ๆ อยู่ ดังนั้น หลายครั้งหลายหนเมื่อพบเจอปลอกหมอน ฟูกนอนพื้นบ้าน ผ้าพื้นเมืองลายคลาสสิก แก้ว จาน ชาม เซรามิกที่ถูกใจก็มักจะซื้อเก็บไว้ แต่ก็ไม่ค่อยได้นำเอาออกมาใช้
สร้อยแก้ว
  ฉันได้แต่อมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงดุๆ ของคนขายของชำที่มีต่อเด็กหญิงตัวเล็กๆ คะเนอายุเธอน่าจะประมาณสามขวบคนขายของถามเด็กหญิงว่า "เอาอะไร"เด็กหญิงตอบอ้อมแอ้ม น้ำเสียงลังเล "เอา...เอา... เอานม!"
สร้อยแก้ว
ช่วงปิดเทอม ดาวใจกับไพจิตรได้เข้ามาที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านเกือบทุกวันเพราะพ่อแม่ของเธอมารับจ้างสับมัน (มันสำปะหลัง) กับสหกรณ์ปากมูล (สหกรณ์ปากมูลและศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านอยู่ติดกัน) บางครั้งดาวใจก็รับจ้างด้วย เพราะเธอโตแล้ว อายุสิบสี่ปีกว่า เธอทำงานแบบนี้ได้สบายมาก ส่วนไพจิตรยังคงเป็นเด็กหญิงซนๆ วิ่งไปวิ่งมา ทำงานตามแต่คำบัญชาการของพ่อแม่