สมยศ พฤกษาเกษมสุข
22 มิถุนายน 2556
วันที่ 2 มิถุนายน 2556 ที่ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์พวกผู้ดีปากแดง และข้าทาสบริวารตะแคงตีนเดินออกมาชุมนุมกันโดยการสวมหน้ากาก “กายฟอว์กส์” (Guy Fawkes Mask) เป็นสัญลักษณ์การแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลและระบอบทักษิณด้วยการประกาศว่า “ขณะนี้กองทัพประชาชนได้ลุกขึ้นมาแล้ว ข้าขอประกาศว่า ข้าจะล้มล้างระบอบทักษิณให้ออกไปจากประเทศ”
นี่เป็นอาการอันสับสนวิกลจริตเป็นอย่างยิ่ง เพราะสัญลักษณ์หน้ากากขาวนี้ทำขึ้นตามรูปหน้าของกายฟอว์กส์ ผู้วางแผนลอบสังหารพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษเนื่องจากไม่พอใจที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิคไม่ได้รับสิทธิเท่าเทียมกับโปรแตสแตนท์ พวกเขาถูกจับได้และถูกประหารชีวิต การใช้หน้ากากนี้เป็นสัญลักษณ์ต่อต้านทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งถูกกล่าวหาเป็นพวกไม่จงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ หรือเป็นพวกล้มเจ้า จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งในตนเองทางอุดมการณ์ แสดงให้เห็นถึงภาวะอับจนทางปัญญาของกลุ่มคนเหล่านี้
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เป็นพวกเสื้อเหลืองแปลงร่าง ซึ่งไม่ผิดแน่นอนในแง่วาทะกรรมต่อต้านทักษิณ แต่เนื่องจากกลุ่มคนเสื้อเหลืองในนามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นตกอยู่ในสภาพถดถอยในด้านเป้าหมายการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือโจมตีฝ่ายตรงกันข้ามได้เสื่อมคลายมนต์ขลังลงไปมก การสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนเพื่อปูทางสู่การรับประหาร 19 กันยายน 2549 ทำให้ความคิด ความเชื่อจารีตนิยมตกต่ำ เศรษฐกิจการเมืองไทยฉิบหายวายวอดจนถึงทุกวันนี้
การใช้หน้ากากกายฟอว์กส์ มาแทนที่เสื้อเหลืองเป็นเพียงเทคนิคทางการเมืองเพื่อกลบเกลื่อนภาวะตกต่ำทางอุดมการณ์ของคนเสื้อเหลืองที่เคยทำเรื่ออัปยศไว้ในแผ่นดินไทยด้วยการยึดทำเนียบรัฐบาล และสนามบินจนเศรษฐกิจเสียหายยับเยินมาแล้ว
เช่นเดียมกันกับเครื่อข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาตินำโดยไชยวัฒน์ สินธุวงศ์ และเครือข่ายกองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ทปท.) มีนายสมบูรณ์ สุพรรณฝ่าย เป็นแกนนำ ปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ท้องสนามหลวง ประกาศตนเองเป็นอดีตกองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยจัดได้ว่าเป็นพวกฝ่ายซ้ายส้นตีนที่ไร้แก่นสารโดยสิ้นเชิง เพราะใช้ความคิดคลั่งชาติในประเด็นข้อพิพาทกรณีปราสาทเขาพระวิหาร และปกป้องราชบัลลังก์ เพราะเหตุที่ว่ามันขัดแย้งกับอุดมการณ์พื้นฐานของชาวคอมมิวนิสต์ในอดีตซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการปฏิวัติสังคม ยกเลิกระบบศักดินา สถาปนาสังคมใหม่ที่ไม่มีชนชั้น มีแนวคิดต่อสู้ทางด้านสากลนิยม แต่กลุ่มคนเหล่านี้กลับหัวกลับหางตนเอง โดยไม่มีรากฐานเชื่อมโยงกับอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีตแม้แต่น้อย ทำตัวเป็นทาสบัดซบให้กับระบอบอำมาตย์อย่างน่าสังเวชใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อพิจารณาจากเป้าหมายเพื่อโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถึงแม้มีการยุบสภา เลือกตั้งขึ้นมาใหม่ก็จะได้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป้ฯรัฐบาลอีกครั้ง หรือถ้าหากเกิดปาฏิหาริย์ให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นรัฐบาลกันอีกครั้ง สิ่งที่จะได้รับกันก็คือนักการเมืองหน้าด้านสม่ำเสมอ มีความสามารถในการทำความชั่วได้ดีเยี่ยม คือการกระล่อนและโกหกได้ทุกเรื่อง มีความอัจฉริยะในการพูดกลับขาวให้เป็นดำ พูดดำให้เป็นขาว ความชั่วเหล่านี้น่ะหรือคือยอดปรารถนาของพวกหน้ากากขาว และพวกดาวแดงกำมะลอที่จะต้องโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ได้
ดังนั้นจึงไม่มีวิธีการอื่นอันใดอีกนอกจากสร้างเงื่อนไขระยำหมาให้พวกทหารหน้าโง่ออกมาทำรัฐประหาร ย่อมก่อให้เกิดสงครามกลางเมือง (Civil War) กลายเป็นไทยสปริงของจริงขึ้นมาได้และถ้าหากมุ่งสู่ตุลาการภิวัฒน์กันอีก หนทางนี้จะฉุดดึงสถาบันตุลาการสู่ความฉิบหายกันอย่างวัฒนาถาวรกันถ้วนหน้า ซึ่งหมายถึงการพังทลายของโครงสร้างระบอบเก่าที่พวกเขานิยมชมชอบ และจงรักภักดีกันสุดชีวิตมาถึงเร็วกว่ากำหนดของกาลเวลา
เมื่อเป้าหมายทางการเมืองของพวกเขาไม่มีความชัดเจน สับสน เลอะเทอะ ความสำเร็จของพวกเขาในความเป็นจริงต้องอาศัยอำนาจบารมีของพวกอำมาตย์ และชนชั้นนำ ซึ่งอยู่ในภาวะอ่อนระโหยโรยแรงเต็มทีแล้ว แรงจูงใจทางการเมืองถ้าไม่หลอกันเองแล้วก็ต้องอาศัยท่อน้ำเลี้ยงดำรงชีพนำพาการต่อสู้ซึ่งไม่รู้ว่าจะพากันไปลงนรกขุมไหนกันต่อไป ?
คนที่ได้ประโยชน์ก็มีแต่พวกอำมาตย์ มือถือสาก ปากถือศีล กับพวกไอ้กากและไอ้กุ๊ยทางการเมืองที่จะเข้ามาสวาปามร่วมกันปล้นบ้านกินเมืองจนกว่าประเทศด้ามขวานของเอเชียนี้มันจะพินาศย่อยยับลงไปกับตาเท่านั้นเอง