Skip to main content

เรื่องถัดมาเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องวัยรุ่นคนหนึ่งซึ่งพึ่งมารู้จักกันด้วยเหตุแห่งความซวยครับ   ปัญหาจากการขับขี่มอเตอร์ไซค์นั่นเอง แต่ไม่ใช่การประสบอุบัติเหตุหรอกนะครับ แต่เป็นเรื่องของความซวยที่มากระแทกหน้าเสียมากกว่า   คงสงสัยกันแล้วว่าเป็นมาอย่างไร ไปติดตามเรื่องที่น้องเขาเล่าได้เลยครับ

“โหยยย พี่ผมจะเล่าให้ฟัง วันนั้นนะ ผมกับเพื่อนไปหาอะไรกินกันที่หลังมหาวิทยาลัยเพราะเพิ่งเตะบอลกันเสร็จเหนื่อยมากหิวมาก   พอไปถึงร้านดังที่คนชอบไปที่นัดกับเพื่อนคนอื่นไว้ก็นำรถมอเตอร์ไซค์ไปจอดเทียบฟุตบาทจอดอยู่หน้าร้านเลย เพราะว่ากำลังเห่อบิ้กไบค์คันใหม่ที่เพิ่งไปได้มาเป็นรางวัลหลังเรียนจบและเริ่มทำงาน   กะว่าถ้ามาจอดหน้าร้านแล้วจังหวะเดินลงไปเข้าร้านนี่สาวคนไหนหันมามองต้องได้กรี้ดแน่ๆ แหม่...จริงดั่งที่คิดเลยครับ แค่จังหวะที่ขับเข้ามาคนก็หันมามองกันพรึ่บแล้ว พอก้าวท้าวลง ถอดหมวกกันน็อคเท่ห์ๆ เดินก้าวท้าวเข้าร้านช้าๆ หยั่งกะดาราหนังจีนที่มีเพลงเปิดประกอบเลยครับ   บ่องตง เท่ห์ฝุดๆ อ่ะพี่จังหวะนั้น   หลังจากเข้าไปทักทายเพื่อนที่โต๊ะแล้วก็จัดแจงหาที่นั่งฝั่งที่หันหลังเข้าร้านเพราะต้องคอยมองออกไปไม่ให้ใครมายกรถหายไป เหมือนที่เป็นข่าวครับ  ปล่อยไปได้ยังไงของรักของหวงแต่จริงๆแล้วก็เล็งด้วยแหละครับว่า มีสาวคนไหนกรี้ดรถเราบ้างจะได้เหล่ไว้ก่อนจะเขาไปคุย หึ หึ หึ

นั่งกินกันไปได้สักพักพวกเราก็เห็นมีชาย 2 คนอายุประมาณ 20-25 และ 40-45 ปี ขับรถกระบะมาจอดขวางมอเตอร์ไซค์พวกเราไว้ เราก็สะดุ้งตกใจกันเล็กน้อยนึกว่าเอาล่ะเว้ย มันมาแล้วจริงๆ ต้องออกไปยืนพิงให้รู้ว่ามีเจ้าของหน่อยแล้ว    เมื่อพวกเราทำทีว่าจะย้ายรถเข้ามาด้านในที่จอดของร้าน  เขาสองคนก็เข้ามาถามว่า น้องเป็นเจ้าของรถเหรอ?  เมื่อเพื่อนตอบว่าใช่!   ชายทั้ง 2 คนก็พุ่งเข้ามาต่อยเตะและรุมกระทืบเพื่อนผม หลังจากที่ผมได้สติจึงเข้าไปห้ามและเมื่อเพื่อนๆตามออกมาจึงได้ห้ามปรามกันไว้ ก่อนจะถามว่า พวกพี่มาทำร้ายเพื่อนผมทำไม ทำอย่างนี้ตั้งใจจะมีเรื่องกันใช่ไหม   พี่เขาไม่พูดอะไรแต่คนหนึ่งหันเดินกลับไปที่รถ ก่อนจะเอามือถือมาโทรแจ้งความ แล้วหันกลับมาบอกคนที่ยืนประจันหน้ากับพวกเราว่า เออ แจ้งความแล้วนะ เดี๋ยวตำรวจมาที่ร้าน    แล้วก็บอกพวกผมว่า ไม่ต้องไปไหน จะแจ้งความก็ได้นะ เดี๋ยวตำรวจมาแล้ว ไม่ต้องรีบ

ไม่นานก็มีตำรวจมา 2 นาย   โดยชาย 2 คนนั้นกลับตะโกนดังๆ เข้าไปในร้านให้ทุกคนได้ยินว่า “เนี่ยทุกคน ดูซิไอ้เนี่ยมันขโมยรถเพื่อนผม”   แล้วชี้ไปที่เพื่อนผมซึ่งนั่งประคบหน้าด้วยน้ำแข็งอยู่ หลังจากพูดคุยกันสักพักตำรวจก็เชิญตัวผมและเพื่อนรวมทั้งชาย 2 คนนั้นไปโรงพัก เพื่อทำการสอบสวน

ตำรวจถามเพื่อนผมว่าไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์มาอย่างไร เพื่อนบอกว่าจากชายคนหนึ่งขายในราคา 200,000 บาท โดยติดต่อกันทางอินเตอร์เน็ตซึ่งมีเว็บไซต์ที่ประกาศขายรถมอเตอร์ไซค์บิ้กไบค์มือสองกัน เพราะอย่างที่รู้ว่าจะมีเจ้าของรถที่ได้คันใหม่มาอยากจะปล่อยคันเก่า หรือจะปล่อยคันเก่าเพื่อเอาเงินไปซื้อคันใหม่กันตลอดเวลา   คนขายบอกว่าร้อนเงินจะปล่อยรถให้ในราคา 200,000 บาท ซึ่งราคาในตลาดมือสองมันเกือบๆ 250,000 บาท แต่เค้าว่าต้องรีบใช้งดสดจริงๆ เพื่อนผมสบโอกาสเพราะอยากได้รถรุ่นนี้มานาน จึงรีบคว้าไว้    พอตำรวจถามอีกฝ่ายว่ารู้ได้ยังไงว่ารถคันนี้เป็นของตนเอง ชายคนที่ทำร้ายร่างกายเพื่อนผม ให้การว่า รถมีการตกแต่งแต่รหัสอุปกรณ์ตกแต่งรถตรงกับรถตัวเอง พร้อมทั้งเอารูปในโทรศัพท์มือถือให้ตำรวจดู ซึ่งตำรวจก็เห็นว่ารายละเอียดที่นายคนที่ทำร้ายร่างกายบอกไว้และรูปภาพตรงกับรถมอเตอร์ไซค์ต้นเรื่องจริงๆ

จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องให้การกับตำรวจฟังว่า รถคันดังกล่าวนี้ได้ถูกขโมยไปด้วยความประมาทของเพื่อนเขาเองที่ไปจอดไว้ในซอยย่านสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน ก็เลยเที่ยวขับตระเวนหามาหลายวันจนมาพบรถเข้าที่ร้านซึ่งเกิดเหตุ   หลังจากพูดคุยกันสักพักตำรวจจึงบอกว่าถ้าจะทำเรื่องฟ้องร้องกันไปอาจเสียเวลา เอาเป็นว่ามันชัดอยู่แล้วว่านี่รถใครก็ให้คืนเขาไป ส่วนฝั่งเราก็ค่อยไปติดตามคนที่เอารถขโมยมาขายเพื่อทวงเงินคืน และจับเข้าคุกดีกว่า   พวกเราเห็นว่าไม่น่าจะใช่นะที่ต้องมาเสียรถไปโดยยังไม่ได้คืนมา ก็พยายามเถียงกลับไป    ทำให้ตำรวจบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนี้จะทำให้เพื่อนข้าพเจ้าเองได้รับข้อกล่าวหารับซื้อของโจร และจะส่งฟ้องศาลนะถ้าไม่ยอมคืนรถเขาไป

ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่ออ่ะพี่ จึงได้แต่ทำตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกคือยืนเฝ้าเพื่อนที่ต้องนอนในคุกเพื่อรอทำเรื่องประกันตัวในเช้าวันต่อมา  แล้วโทรเรียกพ่อเพื่อนให้มาทำเรื่องขอประกันตัว และตอนนี้ก็ยังรอไปให้การแก่ศาลเมื่อถึงวันนัด แต่เจ็บใจที่เพื่อนโดนต่อยแต่ตำรวจไม่ว่าอะไรสักคำ”   ทุกวันนี้น้องๆทั้งสองจึงเปลี่ยนจากบิ้กไบค์มาเป็นจักรยานเสือหมอบแทน

วิเคราะห์ปัญหา

1.              การซื้อของมือสองจากเว็บไซต์ที่มีลักษณะการขายสินค้าดังกล่าวเป็นประจำ เป็นเหตุที่จะนำมาอ้างได้ไหมว่าได้ซื้อสินค้ามาโดยสุจริต และกฎหมายต้องคุ้มครองกรรมสิทธิ์เหนือทรัพย์นั้น

2.              การซื้อสินค้าที่มีราคาต่ำกว่าราคาท้องตลาดเป็นเหตุให้อีกฝ่ายอ้างได้หรือไม่ว่า เราได้ทรัพย์มาโดยทุจริตเพราะอาจคาดเดาได้ว่า ทรัพย์นั้นได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความผิดหรือไม่

3.              การใช้สอยทรัพย์ที่ได้มาจากการซื้อขายและจ่ายเงินไปครบถ้วนแล้ว จะถือเป็นการรับของโจรได้หรือไม่อย่างไร

4.              หากสุดท้ายแล้วศาลตัดสินว่าต้องคืนรถให้กับเจ้าของเดิมไป เราจะทำอะไรกับเงินที่สูญเสียไปในการซื้อขายได้บ้าง

5.              การทำร้ายร่างกายเพื่อทวงคืนทรัพย์สิน แม้จะเป็นทรัพย์สินของเขาจริงๆ เป็นการกระทำที่กฎหมายอนุญาตหรือไม่

6.              การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจที่ไม่ดูแลสิทธิของเราที่ถูกละเมิดเป็นความผิดตามกฎหมายหรือไม่ จะเรียกร้องสิทธิได้อย่างไร

การนำกฎหมายมาแก้ไข

1.              การซื้อของมือสองจากเว็บไซต์ที่มีลักษณะการขายสินค้าดังกล่าวเป็นประจำ เป็นเหตุผลอันชอบธรรมที่จะนำมาอ้างได้ว่าได้ซื้อสินค้ามาโดยสุจริต และกฎหมายต้องคุ้มครองกรรมสิทธิ์เหนือทรัพย์นั้น ตามหลักกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจในการทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจ

2.              การซื้อสินค้าที่มีราคาต่ำกว่าราคาท้องตลาดอาจเป็นเหตุให้อีกฝ่ายอ้างได้เช่นกันว่า เราได้ทรัพย์มาโดยทุจริตเพราะอาจคาดเดาได้ว่า ทรัพย์นั้นได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งเป็นข้อต่อสู้ในทางแพ่งฯในการแย่งสิทธิในทรัพย์สิน   แต่ถ้าจะปรักปรำว่าล่วงรู้จนเป็นเจตนาชั่วทางอาญาต้องนำสืบเพิ่มเติมว่าคาดเดาแบบเล็งเห็นผลได้หรือไม่ว่านั่นเป็นของที่ได้มาแบบผิดกฎหมายแน่ๆ

3.              การใช้สอยทรัพย์ที่ได้มาจากการซื้อขายและจ่ายเงินไปครบถ้วนแล้วเป็นการใช้สิทธิตามธรรมดาเหนือทรัพย์นั้น จะถือเป็นการรับของโจรไม่ได้ เว้นแต่จะมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าผู้รับซื้อจะรู้แน่ถึงที่มาอันไม่ชอบด้วยกฎหมายของทรัพย์นั้น

4.              หากสุดท้ายแล้วศาลตัดสินว่าต้องคืนรถให้กับเจ้าของเดิมไป เราจะเรียกร้องเงินที่สูญเสียไปในการซื้อขายได้ด้วยการไล่เบี้ยตามกฎหมายแพ่งฯ แต่อาจให้ตำรวจช่วยเสริมได้โดยการฟ้องฉ้อโกงเพิ่ม

5.              การทำร้ายร่างกายเพื่อทวงคืนทรัพย์สิน แม้จะเป็นทรัพย์สินของผู้ทำร้ายจริงๆ ก็ถือเป็นการกระทำความผิดต่อร่างกายตามกฎหมายอาญา เนื่องจากกฎหมายไม่อนุญาตให้ทวงหนี้โดยใช้กำลังประทุษร้ายต่อผู้อื่น

6.              การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจที่ไม่ดูแลสิทธิของเราที่ถูกละเมิดเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาและโทษวินัย  จะเรียกร้องสิทธิให้เจ้าหน้าที่รับผิดได้

ช่องทางเรียกร้องสิทธิ

1.              คดีที่มีการแย่งชิงทรัพย์โดยมีการกล่าวหาว่า เป็นการลักทรัพย์ หรือรับของโจร ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา ต้องเริ่มคดีกันที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจของพื้นที่ซึ่งเกิดเรื่อง

2.              หากเป็นเรื่องการแย่งชิงสิทธิในทรัพย์เท่านั้นก็ต้องฟ้องร้องสู้คดีกันในศาลแพ่งฯ

3.              หากต้องการไล่เบี้ยคนที่มาหลอกขายรถมอเตอร์ไซค์ต้องฟ้องที่ศาลแพ่งฯ แต่อาจให้ตำรวจช่วยตามหาด้วยการแจ้งความคดีฉ้อโกงต่อตำรวจแล้วฟ้องในศาลอาญาเพื่อให้คนที่มาหลอกรับผิดทางอาญา และเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งฯไปในคราวเดียวกันก็ได้

4.              การทำร้ายร่างกายสามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองให้จับกุมและดำเนินคดีได้ทันที

5.              หากเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบสามารถร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาได้ แต่ถ้าไม่คืบหน้าให้ร้องเรียนต่อ ปปช.

สรุปแนวทางแก้ไข

                ใช้หลักกฎหมายทรัพย์ และความผิดต่อร่างกายและทรัพย์ทางอาญา และกระบวนการยุติธรรม ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการนำสืบของฝ่ายที่กล่าวหาให้ได้ว่าทรัพย์นั้นเป็นของตน หากมิได้ก็จะกล่าวหาว่าเราขโมยหรือรับของโจรไม่ได้ และเอาทรัพย์กลับคืนไปไม่ได้ อย่างไรก็ดีแม้ทรัพย์เป็นของเขาจริงแต่ในทางแพ่งนั้น หากทรัพย์ใดที่ผู้ซื้อได้ซื้อมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนย่อมได้รับการคุ้มครองสิทธิ   ส่วนเจ้าของทรัพย์เดิมก็ให้ฟ้องไล่เบี้ยเอาจากคนที่ขโมยมาหรือร้านที่รับของโจรมาขาย ส่วนคดีทำร้ายร่างกายย่อมเป็นความผิดทางอาญาแจ้งความเอาผิดได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ประพฤติมิชอบต้องร้องต่อผู้บังคับบัญชา และ ปปช.


 

 

บล็อกของ ทศพล ทรรศนพรรณ

ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องนี้มีน้องคนหนึ่งนำเรื่องแปลกมากเล่าให้ฟัง เหตุการณ์ก็มีดังนี้ครับ
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องสุดท้ายของบริการด้านสื่อสารแล้วนะครับ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกบ้านแน่ๆ เพราะเดี๋ยวนี้เรามีอินเตอร์เน็ตใช้ที่บ้านกันแล้วแทบทุกหลังเพราะมันทำให้เราสามารถทำงานหรือพักผ่อนที่บ้านได้โดยไม่ต้องเดินทางออกไปนั่งทำงานที่อื่นหรือเสียเงินออกไปซื้อความบันเทิงนอกบ้าน   หนูก็ชอบดูซีรี่ส์แล
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องต่อมาผมคิดว่าหลายท่านคงเคยหงุดหงิดอารมณ์เสียกับรถที่ดันมาพังเอาตอนที่เรารีบเร่งจะต้องใช้งานใช่ไหมครับ ที่แย่ไปกว่านั้น คือ เราขับได้แต่ซ่อมไม่เป็นต้องเข็นไปเข้าอู่ซึ่งก็ไม่รู้ว่าที่ไหนดีไม่ดี มีฝีมือน่าเชื่อถือจริงรึเปล่า เพราะเราก็ไม่มีความรู้ด้านเครื่องยนต์กลไกและช่วงล่างใดๆทั้งสิ้น ผู้ชา
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องนี้หลายท่านอาจจะเคยเจอปัญหาเดียวกัน หรือเคยได้ยินตามข่าวคราวที่ออกมาหลายครั้งนะครับ เพราะว่าปัจจุบันศูนย์ออกกำลังกายหรือฟิตเนสเซ็นเตอร์เป็นที่นิยมมาก ก็เพราะเราอยากมีร่างกายแข็งแรง รูปร่างสวยงาม เปล่งปลั่งมาจากภายในแต่ไม่มีเวลาไปออกกำลังกายในที่โล่งแจ้งเพราะไม่ตรงกับเวลาว่าง ก็มักจะเข้าฟิตเ
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องยุ่งๆ เกิดจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมตามเงื่อนไขการสมัครเป็นสมาชิกของบริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง ซึ่งได้เข้ามาชักชวนคนในพื้นที่ให้เข้าร่วมทำสัญญาประกันชีวิตแต่ไม่ได้ทำตามเงื่อนไขของสัญญาที่มาเล่าปากเปล่าและมีการปิดบังซ่อนเร้น เพิ่มเติมเงื่อนไขบางอย่าง เมื่อผู้เอาประกันตาย ญาติ ลูกหลานไปร้องขอรับปร
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังเป็นกรณีที่เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของผู้อื่นที่อาจมาเคาะประตูบ้านเราได้ทั้งที่เราก็อยู่เฉยๆในบ้านไม่ได้ออกไปทำอะไรเสี่ยงภัย  แต่กลับประสบภัยจากความประมาทเลินเล่ออย่างรายแรงของผู้อื่น  ลองไปฟังเคราะห์หามยามซวยของน้องคนหนึ่งที่หวังจะใช้กฎหมายเป็น
ทศพล ทรรศนพรรณ
ป้าคนหนึ่งเข้ามาปรึกษาว่าไปโรงพยาบาลรัฐแถวบ้านซึ่งตนมีชื่อเป็นคนใช้สิทธิบัตรทองอยู่ที่นั่น แต่ด้วยความที่ป้าได้รับบัตรมานานมากแล้ว และเมื่อสองปีก่อนได้มีการก่อสร้างและซ่อมบ้านทำให้ต้องโยกย้ายข้าวของออกจากบ้านก่อนจะกลับเข้าไปอยู่อีกครั้งเมื่อซ่อมแซมเสร็จ ทำให้บัตรที่เก็บไว้สูญหายไปเมื่อไหร่ก็ไม่ทร
ทศพล ทรรศนพรรณ
สิ่งที่ขับเคลื่อนโลก คือ เทคโนโลยี การทหาร การค้า และการแพร่ความคิด ความเชื่อ ศาสนา
ทศพล ทรรศนพรรณ
กฎหมาย เขียนด้วยคน บังคับด้วยคน และก็เป็นการควบคุมพฤติกรรมของคน   จึงมีคนสงสัยว่า แล้วอย่างนี้จะมีกฎหมายสิ่งแวดล้อมไปทำไมในเมื่อไปบังคับ ดิน ฟ้า อากาศ หรือน้ำ ไม่ได้  
ทศพล ทรรศนพรรณ
ตลอดหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ผมได้ใช้เวลาวนเวียนอยู่กับการทำวิจัยเกี่ยวกับกฎหมายมาโดยตลอด ตั้งแต่ตอนเขียนวิทยานิพนธ์ปริญญาโท
ทศพล ทรรศนพรรณ
หลังจากคำทำนายในบทความ “รัฐเผด็จการ กับ การล้วงตับ” ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ (http://blogazine.in.th/blogs/streetlawyer/post/4833) จึงเป็นเวลาอันสมควรที่ประชาชนและสังคมไทยต้องร่วมกันต่อต้าน ชุดกฎหมายความมั่นคงโดยเฉพาะ พรบ.ความมั่นคงไซเบอร์ ที่มีเนื้อหาจำนวนมากขัดกับ หลักกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ทศพล ทรรศนพรรณ
“ความซวยไม่เข้าใครออกใคร” รถหาย โดนเบี้ยวหนี้ ชนแล้วหนีไม่มีใครรับผิดชอบเด็กในท้อง ไปจนถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ถ้าลองได้เกิดขึ้นในหมู่คนรู้จัก ก็มักจบลงด้วยการตัดญาติขาดมิตร ไม่เผาผีกัน คงเป็นสิ่งที่ได้ยินไม่เว้นแต่ละวันใช่ไหม