Skip to main content

สาละวินบนนิยามของความหลากหลาย


สาละวิน บนเส้นทางงานวิจัยชาวบ้าน งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวิน ตลอดแนวพรมแดนไทย
-พม่า โดยได้มีการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในประเด็นพันธุ์ปลา เครื่องมือหาปลาพื้นบ้าน การทำเกษตร พรรณพืชในป่า และสังคมวัฒนธรรมของชาวปกาะกญอ เพื่อนำมาอธิบายความสลับซับซ้อนของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในลุ่มน้ำสาละวิน และวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรมของชุมชนที่ตั้งอยู่บนฐานของระบบนิเวศดังกล่าว ตลอดจนพิธีกรรม และความเชื่อของชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ


ผลการศึกษาพบว่า แม่น้ำสาละวิน ตลอดพรมแดนไทย-พม่า มีระบบนิเวศที่สลับซับซ้อน อาทิ แก่ง วังน้ำ หาดทราย และระบบนิเวศย่อยตามลำห้วยสาขาอีกมากมาย ความหลากหลายซับซ้อนทั้งหมดนี้ เป็นทั้งบ้านของปลา และแหล่งหาอยู่หากินของชาวบ้าน


การศึกษาพันธุ์ปลาในแม่น้ำสาละวิน และลำห้วยสาขาพบพันธุ์ปลา ๗๐ ชนิด โดยชาวบ้านใช้เครื่องมือหาปลาพื้นบ้านหลากหลายชนิด ซึ่งสอดคล้องกันกับระบบนิเวศที่สลับซับซ้อนและฤดูกาล เครื่องมือหาปลาบางชนิด มีไว้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เพราะผู้หญิงมีความสามารถในการใช้เครื่องมือได้ดีกว่า


วิธีการหาปลาบางชนิดแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของคนในชุมชน และความเชื่อของคนต่อธรรมชาติ เช่น การตึกแค หรือกั้นแควของลำห้วยเพื่อจับปลา ชาวบ้านเชื่อว่าถ้ามีการกั้นแควลำห้วยเพื่อจับปลาแล้วไม่ปล่อยน้ำให้เป็นอิสระดังเดิม ต่อไปก็จะไม่มีปลากินอีก


วิชัย อำพรนภา นักวิจัยเรื่องปลาเล่า ถึงการทำวิจัยเรื่องพันธุ์ปลาในแม่น้ำสาละวิน ให้ฟังว่า

คนในลุ่มน้ำสาละวิน จะหาปลา ๒ ส่วนคือ หมู่บ้านตามริมห้วยสาขาก็จะหาปลาตามลำห้วย ใช้เครื่องมือหาปลาขนาดเล็ก เช่น เบ็ด มอง ไซ ส่วนมากก็จะได้ทั้งปลาตัวใหญ่และตัวเล็ก ปลาในลำห้วยเป็นปลาที่ขึ้นมาจากแม่น้ำสาละวินในช่วงหน้าฝน ปลามันจะเข้ามาวางไข่ตามลำห้วย ช่วงหน้าแล้งปลาก็จะอพยพลงไปในแม่น้ำสาละวิน บางช่วงของห้วยที่เป็นแก่งหินและน้ำลึกก็จะมีปลาหลงเหลือยู่ให้จับไปประกอบอาหารได้ ตอนนี้พอปลาลดน้อยลงที่บ้านโพซอก็มีการจัดทำเขตอนุรักษ์พันธุ์ปลา เพื่อจะได้มีปลากินอีกหลายๆ ปีในอนาคตข้างหน้า’


นอกจาก จะได้ทำงานวิจัยในประเด็นที่กล่าวมาแล้ว คณะนักวิจัยยังได้ร่วมกันทำงานวิจัยในประเด็นเรื่องการทำเกษตรของชาวปกากะญอ ในการวิจัยพบว่า ชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ในป่าสาละวิน มีวิถีการทำเกษตรที่แตกต่างกันตามลักษณะภูมินิเวศ โดยสามารถแบ่งออกเป็น ๓ ลักษณะภูมินิเวศคือ


การทำเกษตรริมฝั่งน้ำสาละวิน ทุกปีเมื่อแม่น้ำสาละวิน เริ่มลดระดับลงหลังฤดูฝนจะเกิดหาดทรายขาวยาวตลอดริมฝั่ง พื้นที่หาดทรายอันอุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุที่สายน้ำพัดพามาเหล่า นี้คือแปลงเกษตรของชาวบ้านริมฝั่งน้ำ หลังจากน้ำลด ชาวบ้านจะทำการจับจองพื้นที่ในการปลูกพืชต่างๆ กว่า ๓๐ ชนิด เช่น ถั่ว แตงโม ยาสูบ เพื่อบริโภคในครัวเรือนหรือนำไปแลกเปลี่ยนในชุมชน เกษตรริมน้ำสร้างความมั่นคงทางอาหารแก่ชุมชนริมฝั่งน้ำสาละวินตลอดฤดูแล้ง


การทำเกษตรแบบไร่หมุนเวียน ถือเป็นหัวใจของการผลิตของชุมชนสาละวิน ชาวบ้านทุกครอบครัวทำไร่หมุนเวียนบนดอย โดยมีวงรอบของการหมุนเวียนไปประมาณ ๕-๘ ปี ในไร่ของชาวบ้านสาละวิน มีพันธุ์ข้าวไร่พื้นเมืองถึง ๕๒ ชนิด และพืชอาหารปลูกผสมกันไปอีกกว่า ๑๓๐ ชนิด


การทำนา ชุมชนริมห้วยสาขาในป่าสาละวิน จะทำนาบนที่ราบลุ่มริมฝั่งลำห้วย โดยมีการจัดการน้ำด้วยวิถีพื้นบ้านในระบบเหมืองฝาย เป็นการ ‘ขอยืมน้ำ’ จากลำห้วยให้ไหลผ่านนาขั้นบันได หล่อเลี้ยงต้นข้าวและไหลกลับคืนสู่ลำห้วยดังเดิม ทุกปี ชาวบ้านที่ใช้ฝายจะร่วมกันทำพิธีเลี้ยงผีฝาย เพื่อขอบคุณสรรพสิ่งที่มอบความอุดมสมบูรณ์แก่ผืนนา


ตลอดรอบปีของการเกษตรทั้งไร่หมุนเวียนและนา พบว่า ชาวบ้านมีพิธีกรรมจัดขึ้นในทุกช่วง เพื่อขออนุญาตผืนดิน แม่น้ำ และป่าในการทำการเกษตรเลี้ยงครอบครัว พิธีกรรมเหล่านี้เป็นการแสดงความเคารพต่อสรรพสิ่ง และธรรมชาติ ซึ่งแนวคิดที่เคารพในธรรมชาติถูกปลูกฝังอยู่ในทุกชีวิตแห่งป่าสาละวิน


พ่อหลวงธวัชชัย อมรไผ่ชนแดน หนึ่งในนักวิจัยเรื่องการทำเกษตรได้เล่าถึงผลการศึกษาว่า

คนอยู่ในป่าก็หากินกับป่า ทำไร่บนดอย บางคนก็ทำนา พันธุ์ข้าวในไร่มีเยอะ ปลูกข้าวไร่ทีก็ปลูกผักอย่างอื่นไปด้วย ไม่มีอดกิน แต่ถ้าต่อไปไม่ให้ชาวบ้านทำไร่หมุนเวียนแล้ว ชาวบ้านคงอดตายกันแน่ เพราะไม่รู้จะเอาข้าวที่ไหนมากินจะให้ไปรับจ้างก็คงไม่ไหว เพราะพวกเราไม่คุ้นเคย อยู่กับไร่นี่แหละสบายดี ทำไร่ปีหนึ่งมีข้าวกินก็พอแล้ว’


ส่วนพะตีสิริพอ จตุพรเวียรสกุล นักวิจัยเรื่องสมุนไพรและอาหารจากป่ากล่าวว่า

ในป่าสาละวิน มีพืชสมุนไพรเยอะ ป่าสาละวิน อุดมสมบูรณ์มีพรรณพืชมากมายที่ชาวบ้านได้ใช้เป็นอาหารและยาสมุนไพรด้วยความรู้พื้นบ้านชาวบ้านสามารถเก็บพรรณพืชสมุนไพรได้กว่า ๑๓๐ ชนิดชาวบ้านก็จะไปเก็บเอามารักษาโรค เพราะกว่าจะเดินทางเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลในเมืองมันก็นาน ในป่านี่สมุนไพรมีความจำเป็น คนอยู่ป่าก็อาศัยป่า รักษาป่า บางคนอายุมากแล้วไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยหนักๆ เลยเพราะกินแต่สมุนไพร เดี๋ยวนี้คนในเมืองป่วยกันเยอะ เพราะกินสารเคมีมาก คนในป่าบางทีเป็นมาลาเรียเอาใบไม้มาต้มกินก็หาย พรรณพืชเหล่านี้จึงเป็นความมั่นคงของชุมชนในผืนป่าสาละวินที่มิต้องซื้อหา’


สาละวิน ในชื่อของอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ได้พิจารณาเห็นว่า พื้นที่ป่าบริเวณริมแม่น้ำสาละวินเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนอันเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัยบริเวณยอดเขามีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ๒๐๐-,๑๐๐ เมตร มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์และเป็นต้นน้ำของแม่น้ำหลายสาย สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง มีพรรณไม้สำคัญ เช่น ไม้สัก แดงประดู่ เป็นต้น


จากการสำรวจเบื้องต้นของกรมป่าไม้เมื่อปี ๒๕๓๒ พบว่า พื้นที่ป่าแม่ยวม ฝั่งขวา และป่าสาละวิน มีเนื้อที่ประมาณ ๑,๐๑๓ ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ ๖๓๒,๑๒๕ไร่ มีความอุดมสมบูรณ์สมควรจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงมีมติตามที่ประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติครั้งที่ ๑/๒๕๓๖ เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ..๒๕๓๖ พิจารณาเห็นชอบในการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติสาละวิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน


และได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินในเขตป่าแม่ยวมฝั่งขวา ป่าสาละวินในท้องที่ตำบลเสาหิน ตำบลบ้านกาศ ตำบลแม่คง ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง และตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแมฮ่องสอนให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ..๒๕๓๗ โดยใช้ชื่อว่า ‘อุทยานแห่งชาติสาละวิน’ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๑๑ ตอนที่ ๕๐ ก ลงวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ..๒๕๓๗


สาละวิน บนเส้นทางประวัติศาสตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม่น้ำสายใหญ่หลายสาย มักจะปรากฏหลักฐานการอาศัยอยู่ของมนุษย์มาแต่โบราณ ลุ่มน้ำสาละวิน ก็เป็นลุ่มน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งต่อประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะนักประวัติศาสตร์ระบุว่า การค้นพบแหล่งโบราณคดีเช่นถ้ำผี ซึ่งอยู่บนภูเขาสลับซับซ้อนทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวได้ว่า ถ้ำผีแห่งนี้เป็นแหล่งอาศัยของมนุษย์ในยุคที่เริ่มเปลี่ยนแปลงจากใช้ชีวิตแบบล่าสัตว์ และเก็บพืชเพื่อการยังชีพมาเป็นการก่อร่างสร้างสังคมแบบการทำเกษตร


การค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีในครั้งนั้น สามารถมาลบล้างความเชื่อเดิมของนักโบราณคดีได้ว่า

ดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนนั้นยังล้าหลังต้องอาศัยวัฒนธรรมจากอินเดียและจีนมายกระดับความเจริญของบ้านเมือง’


เพราะจากการขุดค้นได้พบเครื่องมือกะเทาะหิน ซึ่งมีอายุ ๑๒,๐๐๐-,๐๐๐ ปีมาแล้ว และการขุดค้นต่อมาก็พบเครื่องปั้นดินเผา หลักฐานที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชนเผ่าดั้งเดิมที่ตั้งรกรากอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวินได้ดีคือ กลุ่มคนในยุคก่อนมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าทำเครื่องปั้นดินเผา นอกจากนั้นยังมีการนำเส้นใยจากพืชมาทำเชือกและตาข่ายจับปลา


จากหลักฐานการค้นพบแหล่งโบราณคดีดังที่กล่าวมาแล้ว ล้วนแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า

ผู้คนอาศัยอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำแห่งนี้มาหลายร้อยหลายพันปีแล้ว’


หากไม่กล่าวเกินเลยไปนักก็คงต้องบอกว่า คนที่อยู่ตามริมฝั่งน้ำในปัจจุบันคือลูกหลานของคนยุคก่อนที่อาศัยอยู่ที่นี่มาเนิ่นนาน


แม่น้ำสาละวิน นอกจากจะมีความสำคัญต่อชีวิตของผู้คนริมฝั่งน้ำแล้ว แม้น้ำสายนี้ยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรมรวมอยู่ด้วย ชาวคะเรนนี บางส่วนเชื่อว่า เมื่อได้ดื่มกินน้ำสาละวิน จะหายจากการป่วยไข้


ในช่วงที่มีเทศกาลเกโตโบของทุกปี ผู้เฒ่าชาวคะเรนนี จะกล่าวอวยพรคนหนุ่มสาวด้วยคำว่า

บลา ตู บู ฮู เต เค-ขอให้เธอจงเติบโตเหมือนแม่น้ำสาละวินที่ทอดยาว’



บล็อกของ สุมาตร ภูลายยาว

สุมาตร ภูลายยาว
ปีที่ผ่านมา เหนือสายน้ำเชี่ยวกรากสายหนึ่ง ความทรงจำเกี่ยวกับแม่น้ำได้พาให้เดินทางไปสู่ห้วงยามหนึ่งของชีวิต ห้วงยามที่ทำให้ต้องจดจำไม่เคยลืม เพราะใครบ้างจะลืมประสบการณ์เฉียดตายของตัวเองได้ ในความทรงจำนั้น ภาพแม่น้ำแห่งบ้านเกิดผุดพรายขึ้นมา คล้ายภาพขาวดำหม่นมัวที่พาผมเดินทางกลับไปสู่ดินแดนแห่งความหวาดกลัวอันกว้างใหญ่ไพศาล ด้วยเรือคือความหวั่นไหว...ใช่แล้ว ตอนหัดว่ายน้ำครั้งแรก ผมเกือบจมน้ำตาย เหตุการณ์ครั้งนั้นสอนให้รู้ว่า ความรู้สึกของคนใกล้ขาดใจตายเป็นอย่างไร นี่คือภาพความทรงจำในอดีต แต่ภาพความทรงจำครั้งใหม่ได้เกิดขึ้น หลังจากผมเดินทางมาถึงเมืองริมฝั่งน้ำเหนือสุดในล้านนาเรื่องมีอยู่ว่า...…
สุมาตร ภูลายยาว
“เอยาวดี” เป็นชื่อท้องถิ่นของแม่น้ำสายสำคัญสายหนึ่งของพม่า แต่คนภายนอกทั่วไปรู้จักชื่อของแม่น้ำสายนี้ในนาม “อิรวดี” แม่น้ำเอยาวดีเป็นแม่น้ำใหญ่สายหลักของประเทศสหภาพพม่าต้นน้ำ และปลายทางของแม่น้ำอยู่ในประเทศพม่า ไม่แตกต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาแม่น้ำเอยาวดีไหลผ่านกลางประเทศจากเหนือจรดใต้ แบ่งประเทศพม่าออกเป็นสองส่วน แม่น้ำในตอนบนเกิดจากการละลายของหิมะ นอกจากแม่น้ำเอยาวดีจะเกิดจากการละลายของหิมะแล้ว ยังมีแม่น้ำสาขาที่คอยเติมน้ำให้กับแม่น้ำสายนี้จนกลายเป็นแม่น้ำสายใหญ่ แม่น้ำสาขาที่คอยเติมน้ำให้กับแม่น้ำเอยาวดีคือ แม่น้ำมาลี และแม่น้ำมายที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศ รวมระยะทางจากต้นน้ำถึงปากน้ำ ๒,…
สุมาตร ภูลายยาว
อำเภอเชียงของเป็นอำเภอเล็ก ๆ อำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ผู้คนที่นี่ทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เรียนรู้และสืบทอดการใช้ประโยชน์จากแม่น้ำของนับตั้งแต่การหาปลา เก็บสาหร่ายน้ำของหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ไก” ปลูกพืชผักริมของ หรือแม้แต่การสัญจรไปมาของผู้คนแถบนี้ ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของลำน้ำสายนี้ต่างก็อาศัยแม่น้ำเป็นสำคัญ ชีวิตของผู้คนที่นี่จึงมีความผูกพันใกล้ชิดกับแม่น้ำของตั้งแต่ในอดีตจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อลมหนาวเริ่มมาเยือนซึ่งเป็นฤดูกาลน้ำลด จิกุ่ง (แมลงชนิดหนึ่งมีลักษณะเหมือนจิ้งหรีดแต่ตัวสีน้ำตาลและมีขนาดใหญ่กว่า) เริ่มลงดอน คือ…