ผมได้รู้ข่าวว่าไฟฟ้าที่บ้านดับก็ตอนอยู่บนดอยบ้านห้วยคุ ข่าวสารที่ส่งมาบอกเพียงว่า หลังจากผมและเธอออกจากบ้านมาได้ ๒ วันหลอดไฟที่อยู่ข้างนอกก็ดับลง ทั้งที่มันเพิ่งได้รับการติดตั้ง คนส่งสารยังบอกอีกว่า เขาได้ไปดูที่มิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านแล้วปรากฏว่า สายไฟที่ต่อกับมิเตอร์ถูกดึงออกด้วยมือนิรนาม เมื่อสนทนากันอยู่นานสองนาน คนส่งสารผู้ใจดีก็บอกหมายเลขโทรศัพท์ของการไฟฟ้า หลังผู้แจ้งสารหมดสิ้นหน้าที่ ต่อไปจากนี้คงเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องดำเนินการต่อ ผมและเธอเรามองหน้ากัน ต่างคนต่างตั้งคำถามในใจ เกิดอะไรขึ้นกับบ้านที่เราเช่าอยู่มาเกือบครึ่งปี? ผมถามเธอก่อนหลังความเงียบมาเยือนเราสองคนได้ไม่นาน
"นั่นสิ มันเกิดอะไรขึ้น เราก็อยู่กันมานานไม่เห็นมีอะไร พอไม่อยู่บ้านไม่กี่วัน ไฟฟ้าก็มาดับ"
"แต่ก่อนเราก็ไม่อยู่ไม่เห็นมันจะมีอะไร"
"หรือว่าจะเป็นเพราะ..."
แล้วเราทั้งสองก็หาเหตุผลนานมาอธิบายความเชื่อของตัวเอง จริงแล้วจะบอกว่ามันเป็นความเชื่อก็คงไม่ได้เท่าใดนัก แต่ถ้าหากเรียกมันว่าการสันนิษฐานยังจะดูดีกว่า เราสันนิษฐานเอาเองต่างๆ นานา
"หรือว่าเรายังไม่ได้ไปจ่ายค่าไฟ เขาก็เลยมาตัด--เขาในที่นี้หมายถึงเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้า"
"ไม่ใช่หรอกก็เราเพิ่งไปจ่ายมา มันจะมาตัดได้ยังไง"
"หรือว่าจะเป็นเพราะบ้านที่เขาทะเลาะกันแล้วมาดึงสายไฟบ้านเรา เพราะคิดว่าเป็นของคู่อริ"
"ไม่แน่อาจจะมีส่วน"
เราต่างหาข้อสันนิษฐานขึ้นมารองรับเหตุผลความเชื่อของตัวเอง แต่ก็นั้นแหละ มันเป็นเพียงข้อสันนิษฐานที่เราตั้งขึ้น ผมพยายามกดเบอร์โทรศัพท์ที่คนส่งสารให้มาอยู่หลายครั้ง จากนี้ไปเราคงได้ทราบความจริงกันเสียทีว่า ทำไมไฟฟ้าที่บ้านดับ
"ผมมีเรื่องอยากสอบถามครับ"
"เรื่องอะหยั่งเจ้า"
"คือว่าไฟฟ้าที่บ้านผมดับนะครับ ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ที่บ้าน ผมอยู่เชียงรายครับ"
"ดับมากี่วันแล้วเจ้า"
"เห็นเพื่อน--บ้าน (อันนี้ไม่ได้เขียนผิด แต่เพราะบ้านเช่าข้างๆ บ้านเช่าของผม เขาเป็นเพื่อนผม-ผมจึงเรียกเขาว่า เพื่อน--บ้านข้างๆ) ข้างๆ บอกว่า ประมาณ ๒ วันครับ เขาบอกว่าสายไฟถูกดึงออกจากมิเตอร์ด้วยครับ"
"อ้ายมีหมายเลขผู้ใจ้ไฟก่อเจ้า"
"ไม่มีครับ มีแต่เลขที่บ้าน..."
"รอคำเจ้า เดียวน้องจะผ่อหื้อ..............น้องผ่อแล้วเจ้า ค่าไฟอ้ายไปจ่ายแล้ว รายการตัดไฟก็บ่มีนะเจ้า"
"แล้วผมต้องทำยังไงครับ"
"เดียวพอวันจันทร์อ้ายก่อโทรมาแจ้งตี้ช่าง แล้วช่างเพิ่นจะไปผ่อหื้อเจ้า"
"ขอบคุณครับ"
"ยินดีเจ้า"
เมื่อไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุแห่งไฟดับ ผมก็ครุ่นคิดอะไรหลายอย่าง ขณะที่ไฟฟ้าดับอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น อาหารในตู้เย็นคงเริ่มเสียเป็นอย่างแรง อย่างต่อมาคือน้ำไม่ไหล สาเหตุที่ร้ำไม่ไหลก็คงไม่ใช่อย่างอื่น เนื่องมาแต่บ้านที่ผมเช่าอยู่ยังใช้น้ำบ่อ เวลาที่เราจะใช้น้ำต้องเปิดไดน์เพื่อดึงน้ำขึ้นมาใช้ พอไฟฟ้าดับน้ำก็เลยไม่ไหลไปด้วย หากว่าน้ำไม่ไหลอะไรจะเกิดขึ้น แน่ละอย่างน้อยเราก็คงไม่ได้อาบน้ำ แต่สำหรับผมการไม่ได้อาบน้ำดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับเธอมันคือเรื่องใหญ่ เมื่อไม่มีน้ำอาบถ้วยจานใส่อาหารจะล้างยังไง ผ้าที่กองเลยหัวเข่าจะซักยังไง เครื่องซักผ้าก็กลายเป็นเพียงกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ไร้ประโยชน์
บางคนอาจจะบอกให้เราหวนคืนสู่อดีตด้วยการใช้ถังตักเอาน้ำขึ้นมาใช้จนกว่าไฟฟ้าจะกลับสู่สภาพเดิม แต่ความจริงเงื่อนไขหลายอย่างที่เราสร้างขึ้นไม่สามารถให้เราทำอย่างนั้นได้ ทั้งเราไม่มีเชือก ไม่มีถัง และน้ำที่เราใช้ก็ต้องผ่านตัวกรองน้ำ เพื่อให้น้ำสะอาดขึ้นมาหน่อย แต่นี่น้ำไมได้กรองเวลาอมไว้ในปากคงเหมือนอมเชื้อโรคนับร้อยเอาไว้
ผมและเธอ เราต่างถกเถียงกันเพิ่มขึ้นถึงเหตุผลของไฟฟ้าดับ แลการถกเถียงของเราก็ใช่ว่าจะยุติลงได้ง่ายๆ นานแสนนานของการโต้เถียง เราต่างไม่ได้ข้อยุติอันใดเลย ในที่สุดเราก็ตกลงกันว่า พอเสียทีกับเรื่องไฟฟ้าดับ เราจะไม่พูดถึงมันอีกจนกว่าจะได้กลับบ้านไปดูด้วยตา แล้วจะพูดถึงมันอีกครั้ง
หลังกลับมาถึงบ้าน ความรู้สึกแรกเมื่อเปิดประตูเข้าไปในบ้านคือความหวาดกลัว เราต่างกลัวว่าตัวเองจะได้อยู่ในความมืด ไม่ได้อาบน้ำ ไม่มีตู้เย็นใช้ ไม่ได้ซักผ้า แม้ว่าบ้านหลังไม่ใหญ่มาก แต่ไฟจากเทียนไม่กี่แรงเทียนจะทำให้บ้านสว่างไสวได้เพียงใด เมื่อเก็บข้าวของเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย สิ่งแรกที่ทำคือเดินไปดูสายไฟ แล้วเราก็พบว่า สายไฟไม่ถูกดึงออก สายไฟที่ถูกดึงออกเป็นของใครก็ไม่รู้ จากนั้นก็ค่อยๆ ไล่เรียงหาสาเหตุแห่งไฟฟ้าดับ และที่สุดมันก็มืดแปดด้าน
เมื่อน้ำไม่ไหลอันเนื่องมาแต่ไฟฟ้าดับ แสงเทียนได้คืบคลานเข้ามาหลังพระอาทิตย์ตกดิน ขณะนั่งกินข้าว เราตกลงกันว่า เราจะเข้าห้องน้ำให้น้อย เพราะน้ำในห้องน้ำมีจำนวนจำกัด เรื่องอาบน้ำถ้าทนไม่ไหวจริงๆ เราจะไปขออาบน้ำที่บ้านเพื่อน-ข้างๆ และข้อตกลงหลายอย่างก็เริ่มขึ้น
หลังกินข้าวเสร็จ เรานั่งพูดคุยกันถึงเรื่องไฟฟ้าดับอย่างเป็นจริงเป็นจังอีกครั้ง
ไฟฟ้าดับอาจมาจากหลายสาเหตุ และที่สำคัญน้ำไม่ไหลก็เป็นสาเหตุหนึ่งด้วย เพราะบ้านเรายังใช้ไฟฟ้าที่มาจากเขื่อนที่ต้องปั่นไฟด้วยระบบน้ำไหลผ่านเครื่องให้กำเนิดพลังงานไฟฟ้าอยู่ หากว่าน้ำในแม่น้ำไม่มีให้ไหล เราจะเป็นอย่างไร ผมยังไม่อยากคิดในตอนนี้ แต่เอาเป็นว่าน้ำไม่ไหลเพราะไฟฟ้าดับในครานั้นทำให้ผมได้เข้าใจเพิ่มขึ้นมาว่า น้ำสำคัญกับเราไม่น้อย แม้แต่ไฟที่เราใช้อยู่ก็มาจากน้ำ แปลกแต่จริงน้ำมาเป็นไฟ และไฟมาจากน้ำ พอไฟไม่มาน้ำก็ไม่มา อันไหนสำคัญกว่าอันไหนยากที่จะตอบจริงๆ