Skip to main content

 

แผนอยู่เย็นเป็นสุข : ภาพรวมการจัดเวทีจังหวัด
 
วัตถุประสงค์        
เพื่อรับฟังข้อเสนอและแนวทางการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้เป็นรายจังหวัด เพื่อที่จะเปรียบเทียบกับแผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ของ สศช. การพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรของการนิคมแห่งประเทศประเทศไทย และโครงการขนาดใหญ่ที่จะเกิดในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นต่อเอกสารร่างมติข้อเสนอในแผนพัฒนาภาคใต้ที่ยั่งยืน
 
พื้นที่ดำเนินการ   13    จังหวัดภาคใต้ (ยกเว้นสุราษฎร์ธานี)
 
กระบวนการจัดเวทีจังหวัด  
                ด้านเนื้อหา             กระบวนการจัดเวทีจังหวัดประกอบด้วย เนื้อหาสามส่วนหลัก คือ เนื้อหาข้อมูลแผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ ข้อมูลศักยภาพจังหวัด และข้อมูลผลกระทบที่เกิดจากโครงการพัฒนาที่ผ่านมา เช่นโครงการปิโตรเคมี ที่มาบตาพุด เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับการระดมความเห็นของคนในจังหวัดนั้นๆ
ด้านกระบวนการ ช่วงแรก เป็นการให้ข้อมูลโดยนักวิชาการ และคณะทำงานเชิงประเด็นในด้านต่างๆ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด ช่วงที่สอง เป็นการระดมความเห็นแบบกลุ่มย่อย ซึ่งจะมี 2 โจทย์หลักๆ ให้แสดงความเห็นต่อทิศทางการพัฒนาจังหวัดของตัวเองที่ควรจะเป็น และความเห็นต่อข้อเสนอกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาที่ยั่งยืนบนฐานการพึ่งตนเอง ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม กรณีภาคใต้
ผลลัพธ์ ด้านเนื้อหาข้อมูลเมื่อมีการนำเสนออกไป สามารถให้คนในที่ประชุมรับรู้ และตระหนัก เพราะว่าข้อมูลที่นำเสนอออกไปนั้น ผู้เข้าร่วมเวทีเสวนาไม่เคยรับรู้ข้อมูลนี้มาก่อน ซึ่งช่วยทำให้บรรยากาศการในการพูดคุยสนทนาในช่วงถัดไปเป็นการพูดคุยที่มีข้อมูลข้อเท็จจริงประกอบ และกระบวนการแบ่งกลุ่มย่อยช่วยให้ทุกคนได้พูดคุยกันอย่างทั่วถึง สามารถแสดงความเห็นของตัวเอง จนนำไปสู่ความตระหนักมากขึ้นในทิศทางการพัฒนาของประเทศชาติ ตลอดจนมีข้อเสนอในการพัฒนาหรือดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาต่อไป
 
ข้อเสนอต่อกระบวนการพัฒนาจังหวัด
                หลังจากรับทราบข้อมูลทำให้ทราบว่าโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมในจังหวัดของตนนั้นมีอะไรบ้าง เมื่อนำมาพิจารณาร่วมกับข้อมูลศักยภาพจังหวัด และมาเปรียบเทียบช่างน้ำหนักระหว่ง ผลดี กับ ผลเสีย ที่จะเกิดจากการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ หรือพวกอุตสาหกรรมหนักทั้งหลายแล้วทิศทางการพัฒนาจังหวัดควรดำเนินการในแนวทางรักษาฐานทรัพยากรสิ่งแวดล้อม วีถีชีวิต ให้สอดคล้องกับสังคม วัฒนธรรม ผลประโยชน์ควรเกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก และนำไปสู่ความอยู่เย็นเป็นสุข ของคนในจังหวัดนั้นๆ
บางจังหวัดมีข้อเสนอเพิ่มเติมหลังจากนี้จะต้องมีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในลักษณะต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ในลักษณะของเครือข่ายการเรียนรู้ กลุ่ม องค์กร เพื่อก่อให้เกิดพลังในการกำหนดทิศทางการพัฒนาตนเองต่อไปในอนาคต
บางพื้นที่มีแนวทางในการศึกษาผลกระทบจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ หรือผลกระทบจากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นแล้วในพื้นที่เพื่อเตือนภัย และหาทางเยียวยาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพชีวิตที่กำลังจะถูกทำลายไป
บางจังหวัดมีข้อเสนอในการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดตามศักยภาพที่เป็นจริง และสอดคล้องกับฐานทรัพยากรของจังหวัด เพื่อที่เกิดประโยชน์ต่อคนจำนวนมากอย่างสูงสุด
 
ข้อเสนอต่อประเด็นแผนพัฒนาที่ยั่งยืนบนฐานการพึ่งตนเอง ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม กรณีภาคใต้
                ความเห็นส่วนใหญ่ของผู้ที่เข้าร่วมสัมมนาคือไม่เห็นด้วยกับการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ จำพวกอุตสาหกรรมหนัก เช่น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โรงถลุงเหล็ก อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ท่าเรือน้ำลึก โรงกลั่น และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ แต่เห็นด้วยว่าทิศทางการพัฒนาควรต่อยอดจากศักยภาพเดิมของพื้นที่บนฐานการรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญต้องเอื้อประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ นั้นคือ การพัฒนาด้านการเกษตร ประมง การท่องเที่ยว และการศึกษา รวมทั้งอุตสาหกรรมที่นำมาสู่การยกระดับสินค้าเกษตรและต้องเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
                ความเห็นในการจัดเวทีระดับจังหวัด ใช้เนื้อหาเดียวกันกับข้อเสนอในร่างมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติประเด็นแผนพัฒนาที่ยั่งยืนภาคใต้
                ผู้เข้าร่วมประชุมในแต่ละจังหวัดสนับสนุนร่างมติที่คณะทำงานร่างขึ้นโดยมีความเห็นเพิ่มเติมบ้างแต่ในด้านเนื้อหาสอดคล้องกับของเดิม
 
ข้อสรุปสุดท้ายของเวทีจังหวัด
                ฐานทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเลิศ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นสายสัมพันธ์มาหลายอายุคน สิ่งเหล่านี้คงมากพอที่จะทำให้คนใต้รู้สึกรักบ้านตัวเอง และพร้อมที่จะปกป้องทรัพยากรตามรัฐธรรมนูญ และกำหนดทิศทางทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับคนใต้ และมีต้องมีประโยชน์สูงสุดกับคนส่วนรวม
                จากการประเมินของเวทีจังหวัดอีกประการสำคัญ พบว่า คนภาคใต้ต้องวิถีชีวิติที่ดีขึ้น มีการรักษาวัฒนาธรรมท้องถิ่น ปรับระบบการศึกษาให้ดีขึ้น การสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นที่ให้ดีกว่าเดิม ลดปัญหาคดีอาชญากรรม ยาเสพติด ดังนั้นประการแรกที่รัฐบาลต้องทำคือ การทำให้ชุมชนเข้มแข็งที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
ภาคใต้ของประเทศไทยควรเป็นเมืองเกษตร ประมงและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นฐานการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนฐานของการประกอบอาชีพของคนใต้ อย่างแท้จริง
 

บล็อกของ คนไม่มีอะไร

คนไม่มีอะไร
          เมื่อวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2551 ถือว่าเป็นความโชคดีของชุมชนทับเขือ  และสมาชิกเครือข่ายองค์ชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด จังหวัดตรัง เนื่องจากมีแขกต่างเมืองมาเยือนถึงที่ หลายๆ คนอาจคาดไม่ถึง ว่าบุคคลท่านนี้มาถึงชุมชนเล็กๆ นี้ทำไม และหลายๆ คนก็กำลังคิดว่าเขาเป็นใครมาจากไหน                คุณริคาร์โด คาร์เรเร (Ricardo Carrere)  เป็นคนประเทศอุรุกวัย  หน้าที่การงานในตอนนี้เป็นผู้ประสานเครือข่ายป่าไม้เขตร้อนระดับโลก องค์กรนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996 เป็นเวลานานถึง…
คนไม่มีอะไร
        เมื่อวันก่อน(13 ก.ค. 51)  ได้กลับไปเยียมถ้ำแห่งหนึ่ง ครั้งหนึ่งเราเคยมาสถานที่แห่งนี้เมื่อประมาณสามปีที่แล้ว สถานแห่งนี้เปลี่ยนไป สามปีก่อนป้ายชื่อของถ้ำธรรมดามาก มาในวันนี้ชื่อถ้ำสร้างด้วยปูน และที่สำคัญจำนวนคนที่มาเที่ยวมีจำนวนเพิ่มขึ้น บรรยากาศโดยรอบเป็นธรรมชาติมาก แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนความตื่นเต้น และความสวยงามภายในถ้ำ      ถ้าใครได้มาที่นี้ก็จะต้องล่องธาราใต้พิภพ และก็จะสัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ก็จะเกิดการผจญภัยแบบเล็กๆ ย้อยๆ สร้างความตื่นเต้นและเกิดความประทับใจไปในที่สุด จนกระทั้งเกิดความทรงจำนี้ตลอดไป  …
คนไม่มีอะไร
  ใครหลายๆ คนคงรู้จักภูเก็ตดี และก็มีอีกหลายๆ คนไม่เคยมาสัมผัสกับบรรยากาศกลิ่นไอทะเลของภูเก็ตเลย ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านเรามีโอกาสได้ลงไปเกาะยาวจังหวัดพังงา แต่ต้องขึ้นเรือที่ท่าเรือบางโรง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต เลยทำได้แก่เก็บรูปมาฝาก                       
คนไม่มีอะไร
คนไม่มีอะไร
เป็นกิจกรรมที่เราช่วยกันสร้าง เป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุข มีความทุกข์ แต่ก็อยากทำอะไรให้สังคมบ้าง ในฐานะเป็นหนึ่งในสังคม
คนไม่มีอะไร
ไม่ทราบว่าในโลกใบนี้มีคนเหมื่อนเราหรือเปล่า เพราะว่าการที่จะเราตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง แต่ก็มีอุปสรรค์เกิดขึ้นตลอด อย่างเช่นเรื่องบล็อก ทำอยู่สองวันแล้ว ไม่มีเครืองมือก็พยายามโหลดขึ้น พอมีแล้วอัพไม่ได้อีก บ้างทีก็ตลกตัวเอง บางที่ก็เศร้าเวลาโหลด พอเราคลิกไปดูผล ผลออกมามันยังไม่ขึ้นให้สักที่ เดี
คนไม่มีอะไร
ในระหว่างวันที่ 23-26 มิถุนายน 2551ประชาไทได้จัดอบรมสัมมนาสื่อภาคประชาชน ซึ่งฉันเชื่อว่าในการจัดอบรมในครั้งนี้จะมีประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ ที่กำลังได้รับผลกระทบจากโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งชาวบ้านเล่านี้ไม่สามารถที่เพิ่งสื่อกระแสได้ จึงจัดการกระบวนการที่จะยืนอยู่บนขาของตัวเองได้ในที่สุด ไม่มากก็น้อย