Skip to main content


เราจะแก้ปัญหาความยุ่งเหยิง วุ่นวาย ทางการเมืองในปัจจุบัน

และวิกฤติการณ์ในโลกได้อย่างไร มีอะไรที่ปัจเจกบุคคลจะสามารถทำได้ เพื่อหยุดยั้งสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น


สงคราม

เป็นการแสดงออกที่มีขอบข่ายกว้างขวาง และทำให้สูญเสียเลือดเนื้อของชีวิตประจำวันของเราใช่หรือไม่ สงครามเป็นเพียงการแสดงออกภายนอกของสภาพภายใน เป็นส่วนขยายของการกระทำของเราในชีวิตประจำวัน สงครามมีขอบเขตกว้างขวางกว่า นองเลือดกว่าและสร้างความพินาศได้มากกว่า แต่มันก็เป็นผลรวมของกิจกรรมแต่ละอย่างของเรา


ดังนั้น

คุณและผมก็เป็นสาเหตุของสงคราม และเราสามารถจะทำอะไรเพื่อหยุดสงครามเล่า ที่เห็นได้ชัดก็คือ สงครามที่ทำท่าจะเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่อาจหยุดได้โดยคุณและผม เพราะเมื่อสงครามเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว มันก็ไม่อาจหยุดได้ สาเหตุต่างๆของสงครามมีมากเกินไป ใหญ่โตเกินไป และได้เริ่มแสดงผลแล้ว ไม่อาจเพิกถอนได้


แต่คุณกับผม

เมื่อเห็นว่าบ้านไฟไหม้ สามารถเข้าใจสาเหตุของไฟนั้น สามารถจะไปจากบ้านนั้น และสร้างบ้านใหม่ด้ายวัสดุที่ไม่ติดไฟ ไม่ทำให้เกิดสงครามอีก นี่...เป็นทั้งหมดที่เราอาจจะทำได้ คุณและผมสามารถมองเห็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสงคราม และถ้าเราสนใจที่จะยุติสงคราม เราก็อาจจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเรา ซึ่งเป็นสาเหตุของสงคราม


สุภาพสตรีชาวอเมริกันท่านหนึ่ง

มาพบผมเมื่อสองปีที่แล้ว เธอกล่าวว่า ระหว่างสงครามเธอสูญเสียลูกชายในอิตาลี และเธอมีลูกชายอีกคนอายุสิบหก ซึ่งเธออยากจะปกป้องจากสงคราม เราจึงพูดกันเรื่องนี้ ผมแนะเธอว่า ถ้าเธออยากจะช่วยลูก

เธอต้องหยุดเป็นคนอเมริกัน

เธอต้องหยุดโลภ

หยุดสะสมทรัพย์สมบัติ

หยุดแสวงหาอำนาจและการครอบงำผู้อื่น

และเป็นคนง่ายๆในทุกเรื่อง

ไม่ใช่แต่ในเรื่องเสื้อผ้าหรือสิ่งภายนอก แต่เป็นคนง่ายๆในด้านความคิดความรู้สึกในสัมพันธภาพของเธอ กับคนและสิ่งอื่นๆ เธอกล่าวว่า

มันมากเกินไป ท่านกำลังขอมากเกินไป ฉันทำไม่ได้ เพราะสภาพเหตุการณ์ต่างๆ มันรุนแรงเกินกว่าที่ฉันจะเปลี่ยนแปลง ”

เช่นนั้นแล้ว เธอก็เป็นสาเหตุของความพินาศของลูกชายเธอ


เราสามารถควบคุมสภาพเหตุการณ์ได้

เพราะเราได้สร้างสภาพเหตุการณ์นี้ขึ้นเอง สังคมคือผลของสัมพันธภาพของคุณและของผมรวมกัน ถ้าเราเปลี่ยนแปลงสัมพันธภาพของเรา สังคมก็จะเปลี่ยนแปลง การพึ่งพากฎหมาย พึ่งพิงการบังคับ เพี่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางสังคมแต่เพียงเปลือกนอก ในขณะที่สังคมเสื่อมอยู่ภายใน ในขณะที่ยังแสวงหาอำนาจ ตำแหน่ง การครอบงำอยู่ภายใน ก็คือการทำลายเปลือกของสังคม ไม่ว่าจะสร้างเปลือกนี้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ และรอบคอบเพียงใด สิ่งที่อยู่ภายในย่อมชนะเปลือกนอกเสมอ


อะไรทำให้เกิดสงคราม

ทั้งสงครามศาสนา สงครามการเมือง หรือสงครามเศรษฐกิจ ที่เห็นได้ชัดก็คือความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อในเรื่องชาตินิยม ลัทธิต่างๆ ความยึดถือแบบงมงาย หรือแนวคิดใดๆ

ถ้าเราไม่มีความเชื่อ

มีแต่ความปรารถนาดี

ความรัก

ความเห็นใจ

ก็จะไม่มีสงคราม

แต่เราถูกอบรมมาเลี้ยงดูด้วยความเชื่อ ความคิด และความยึดถือแบบงมงาย ดังนั้น เราก็สร้างความไม่พอใจขึ้นมา

วิกฤติการณ์ในปัจจุบันมีลักษณะพิเศษ และเราในฐานะที่เป็นมนุษย์ ต้องเลือกเอาทางใดทางหนึ่ง

คือ

เลือกดำเนินไปตามทางของความขัดแย้ง อันไม่หยุดหย่อน

และสงครามต่อเนื่อง

อันเป็นผลของการกระทำของเราในชีวิตประจำวัน

หรือ

เลือกมองให้เห็นสาเหตุของสงคราม

และหันหลังให้มันเสีย !


ที่เห็นได้ชัด

สิ่งที่ทำให้เกิดสงคราม คือ ตัณหา ความอยากได้อำนาจ ตำแหน่ง อภิสิทธิ์ เงิน และโรคร้ายที่เรียกว่า ลัทธิชาตินิยม ซึ่งก็คือการบูชาธงผืนหนึ่ง และโรคศาสนาที่เป็นระบบ ซึ่งคือการบูชาความเชื่องมงาย ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุของสงคราม...

ถ้าคุณในฐานะของปัจเจกชน

นับถือศาสนาที่เป็นระบบสักศาสนาหนึ่ง

ถ้าคุณละโมบอยากได้อำนาจ

ถ้าคุณอิจฉาริษยา

คุณก็มีทางที่จะผลิตสังคมที่ให้ผลในทางทำลาย...

ดังนั้น ก็อีกนั่นแหละ มันขึ้นอยู่กับคุณ ไม่ใช่ผู้นำ ไม่ใช่ผู้ที่เรียกกันว่า รัฐบุรุษ หรือคนอื่นๆ ทั้งหลายทั้งปวง มันขึ้นอยู่กับคุณและผม แต่ดูเราจะไม่ตระหนักในข้อนี้ ถ้าเรารู้สึกรับผิดชอบต่อการกระทำของเราอย่างจริงจังแล้ว

เราก็จะสามารถยุติสงครามทั้งหลาย

อันเป็นความทุกข์ที่น่าสะพรึงกลัวนี้อย่างรวดเร็ว

แต่คุณก็เห็นว่าเราต่างก็เฉยเมยไม่รู้สึกรู้สา

เรามีอาหารกินวันละสามมื้อ

เรามีงานทำ

เรามีสมุดบัญชีฝากเงิน ไม่ว่าจะจำนวนมากหรือน้อย

และเราก็พูดว่า

เพื่อเห็นแก่พระเจ้า โปรดอย่ารบกวนเรา ปล่อยเราไว้ตามลำพัง ”


ยิ่งเราอยู่สูงขึ้นเท่าใด

เราก็ต้องการความปลอดภัย ความมั่นคงถาวร ความสงบยิ่งขึ้นเท่านั้น เราต้องการให้ปล่อยเราไว้ตามลำพังมากขึ้น เพื่อรักษาสิ่งต่างๆ ให้คงที่ตามที่มันเป็นอยู่ แต่สิ่งทั้งหลายไม่อาจรักษาให้คงที่อย่างที่มันเป็นอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเสื่อมสลาย เราไม่ต้องการเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ เราไม่ต้องการเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่า คุณและผมเป็นสาเหตุของสงคราม...


คุณและผมอาจคุยกันเรื่องสันติภาพ

ประชุมกัน นั่งรอบโต๊ะเจรจา แต่ภายในจิตใจแล้ว เราต้องการอำนาจ ตำแหน่ง เราถูกจูงใจโดยความละโมบ เราวางแผนแยบยล เราเป็นคนชาตินิยม เราถูกผูกมัดไว้ด้วยความเชื่อ คามงมงาย ซึ่งเรายินดีที่จะตาย หรือทำลายซึ่งกันและกัน เพื่อสิ่งเหล่านี้ คุณคิดว่าสิ่งเหล่านี้ทั้งคุณและผม จะสามารถมีสันติภาพได้หรือ


เพื่อที่จะมีสันติภาพ

เราเองจะต้องเป็นผู้สงบสันติ การมีชีวิตอยู่อย่างสันติ หมายความว่าเราจะต้องไม่สร้างความเป็นศัตรูกัน สันติภาพไม่ใช่อุดมการณ์ สำหรับผม อุดมการณ์เป็นเพียงการหนี การหลบเลี่ยงสิ่งที่เป็นอยู่ ( ตามความเป็นจริง ) การขัดแย้งกับสิ่งที่เป็นอยู่ อุดมการณ์ขัดขวางการกระทำที่ตรงตามสิ่งที่เป็นอยู่จริง


เพื่อที่จะมีสันติภาพ

เราจะต้องรัก เราจะต้องเริ่มการไม่มีชีวิตอยู่ตามอุดมการณ์ แต่เริ่มการมองเห็นสิ่งต่างๆ อย่างที่มันเป็นอยู่จริง กระทำการไปตามที่มันเป็น และเปลี่ยนแปลงมัน ตราบเท่าที่เราแต่ละคน แสวงหาความมั่นคงปลอดภัยทางใจ

ความมั่นคงปลอดภัยทางชีวภาพที่จำเป็น คือ อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัยจะถูกทำลาย เราแสวงหาความมั่นคงปลอดภัยทางใจที่ไม่มีอยู่ และถ้าเราทำได้ เราก็แสวงหาสิ่งนี้โดยใช้อำนาจ ตำแหน่ง ยศถาบรรดาศักดิ์ ชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำลายความมั่นคงปลอดภัยทางชีวภาพ นี้เป็นความจริงที่มองเห็นได้ชัด ถ้าคุณจะมองดู


เพื่อทำให้เกิดสันติภาพในโลก

เพื่อที่จะหยุดสงครามทั้งหลาย จะต้องมีการปฏิวัติภายในตัวปัจเจกบุคคล ในตัวคุณและตัวผม การปฏิวัติทางเศรษฐกิจโดยไม่มีการปฏิวัติภายในจิตใจนั้น ไม่มีความหมาย เพราะความหิว เป็นผลของการปรับเศรษฐกิจที่ไม่ถูกต้อง อันเป็นผลมาจากสภาวะภายในของเรา คือความละโมบ ความริษยา ความประสงค์ร้าย และความยึดถือว่าเป็นของเรา


เพื่อที่จะยุติ

ความทุกข์โศก ความหิว สงคราม จะต้องมีการปฏิวัติภายในใจ และพวกเราไม่กี่คน เต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ เราจะเจรจาเรื่องสันติภาพ ออกกฎหมาย สร้างสันนิบาตใหม่ สหประชาชาติ และอะไรต่ออะไรเรื่อยไป

แต่เราไม่สามารถจะได้มาซึ่งสันติภาพ

เพราะเราไม่ยอมละทิ้งตำแหน่งของเรา

อำนาจของเรา

เงินของเรา

สมบัติของเรา

ชีวิตอันเขลาของเรา

การพึ่งพิงผู้อื่นนั้น ไร้ผลโดยชิ้นเชิง คนอื่นๆไม่สามารถนำสันติภาพมาให้เรา ไม่มีผู้นำคนใดจะให้สันติภาพแก่เรา ไม่มีรัฐบาล กองทัพใด ประเทศใด


สิ่งที่จะนำสันติภาพมาให้เรา

คือการเปลี่ยนแปลงภายใน ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิบัติภายนอก การเปลี่ยนแปลงภายในไม่ใช่การแยกตัวออกมา ไม่ใช่การถอยจากการกระทำภายนอก ตรงกันข้ามจะมีการกระทำที่ถูกต้อง ก็ต่อเมื่อมีความคิดที่ถูกต้องเท่านั้น และไม่มีความคิดที่ถูกต้อง เมื่อไม่มีความรู้จักตัวเอง ไม่มีความรู้จักตัวเองก็จะไม่มีสันติภาพ


การยุติสงครามภายนอก

คุณต้องเริ่มยุติสงครามภายในตัวคุณ พวกคุณบางคนจะพยักหน้าและกล่าวว่า

ฉันเห็นด้วย ”

แล้วก็ออกไปข้างนอก และทำอย่างเดิม

เหมือนอย่างที่คุณทำมาตลอดสิบปีหรือยี่สิบปีที่แล้ว ทุกอย่าง

การเห็นของคุณเป็นเพียงคำพูดและไม่มีความสำคัญอะไร

เพราะความทุกข์ยากทั้งหลายในโลกนี้และสงคราม

จะไม่อาจหยุดได้โดยการเห็นด้วยอย่างไม่จริงจังของคุณ


สงครามและความทุกข์จะหยุดได้

ก็ต่อเมื่อคุณตระหนักถึงอันตรายเท่านั้น

เมื่อคุณตระหนักถึงความรับผิดชอบของคุณ

เมื่อคุณไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนอื่น

ถ้าคุณตระหนักถึงความทุกข์ทรมาน

ถ้าคุณเห็นความเร่งด่วนของการปฏิบัติอย่างทันควัน

และไม่ผัดวันประกันพรุ่ง

คุณก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง

สันติภาพจะได้มาก็เมื่อตัวคุณเองมีสันติภาพ

เมื่อตัวคุณเองมีสันติภาพกับเพื่อนบ้านเท่านั้น.


หมายเหตุ ; ปาฐะกถาเรื่อง สงคราม ของ กฤษณะมูรติ บทนี้ เป็นงานแปลโดย ภาวรรณ หมอกยา ตีพิมพ์อยู่ในรวมเล่มงานของ กฤษณะมูรติ ชื่อ “ สัจจะแห่งชีวิต ” ร่วมกับนักแปลอีกสองท่าน ตีพิมพ์ครั้งแรก พ.. 2530 ครั้งที่สอง 2533 จัดพิมพ์โดย “ กองทุนวุฒิธรรม เพื่อการศึกษาและปฏิบัติธรรม ”


เมื่อได้อ่านบทปาฐะกถานี้แล้ว ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เหมาะกับสถานการณ์บ้านเมืองของเรา ที่กำลังตะโกนหาสันติภาพกันเป็นอย่างยิ่ง ผมจึงนำงานชิ้นนี้มาลงแด่ท่านผู้อ่าน เพราะสาเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในบ้านเรา ก็เป็นสิ่งที่ กฤษณะมูรติ ได้พูดเอาไว้อย่างครอบคลุม และขออนุญาต คุณภาวรรณ หมอกยา ที่แปลงานความคิดดีๆมาให้อ่านกัน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ.


กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่


บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมือง ที่ขัดแย้งกันมานาน ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ที่ดูเหมือนว่า นอกจากจะมองไม่เห็นทางที่จะสมานฉันท์กันได้แล้ว ยังมีแนวโน้มว่า สถานการณ์ที่ต่างฝายต่างก็ไม่ยอมลดราวาศอกให้กัน ยังมีทีท่าว่าจะทวีความรุนแรงไปสู่การนองเลือดที่น่าสยดสยอง ดังที่คาดหมายกันว่าจะเกิดขึ้น ตั้งแต่ วันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป ตามที่เขาประกาศศึกกันแบบเอาเป็นเอาตายกัน ซึ่งเราไม่ปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง ที่จะให้เกิดขึ้นในสังคมไทย   ดังเช่น โศกนาฏกรรมนองเลือด 6 ตุลาคม 19 และพฤษภาคมทมิฬ 35 ในอดีตที่ผ่านมา แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีพลังแห่งความปรารถนาดีใดๆในสังคม สามารถเข้าไปยับยั้งได้…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  โอ พระเจ้า !ข้าสงสัยเหลือเกินว่า ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร และ สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุลสนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้ม ทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุลสนธิ ลิ้ม ทองกุล สนธิลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุลสนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ด่วน ! ประชาชนชาวไทย ผู้รักความสงบทุกท่าน โปรดทราบ... นับตั้งแต่ออกประกาศฉบับนี้เป็นต้นไป เวลาท่านออกจากบ้านไปไหนมาไหนคนเดียว โดยเฉพาะตามสถานที่ที่ไม่มีคนรู้จัก เวลาพบคนใส่เสื้อสีเหลือง เหลีอง เหลีอง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง กำลังชุมนุมกันอยู่เป็นจำนวนมาก... ขอให้ท่านจงโปรดระวัง ! อย่าได้ขับรถ - หรือเดินเฉียดเข้าไปใกล้พวกเขาเป็นอันขาด ! เพราะนี่คืออันตรายเป็นอย่างยิ่ง !…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1 พฤศจิกายน 2551ข้ามองเห็นคนรัก ทักษิณ ชินวัตร ใส่เสื้อสีแดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงจำนวนนับไม่ถ้วน ณ ราชมังคลากีฬาสถานแห่แหนกันออกมายกย่องและให้กำลังใจ ทักษิณ ชินวัตร และเมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ปรากฏภาพและเสียงผ่านโฟนอิน ออกมาพูดแล้วคนใส่เสื้อสีแดงทุกคนต่างเชื่อว่าทุกถ้อยคำที่ ทักษิณ ชินวัตร พูด ณ สถานที่แห่งนี้ เป็นความจริงหมดทุกถ้อยคำ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
มิใช่ บ่อ จากท่อธารบาดาลใสหลั่งรินไหล มิรู้แล้ง แห้งเหือดหายเป็นเพียง บ่อ น้ำฟ้ามาซึมทรายหลั่งรินสาย มาหล่อเลี้ยง - เพียงชั่วกาลมิใช่ บ้านดวงใจ อุ่นไอรักแค่ เพิงพัก หลบร้อนอันกร่อนกร้านริมวิถี คดเคี้ยว เปลี่ยว กันดารเป็นทางผ่าน เป็นที่พัก - นักเดินทางมิใช่ แสงดาว ชี้ชัดปลุกศรัทธาแทนดวงตาดวงใจผู้ไร้ร้างเป็นเพียง แสงหิ่งห้อย - ลอยเลือนรางอยู่ท่ามกลางคืนเดือนมืดอันยืดยาวและมิใช่ สมณะ ผู้ละโลกย์พ้นทุกข์โศกเวียนว่ายกายสีขาวยังเป็นแค่ ปุถุชน คนมากคาวยังมิก้าวพ้น ตัณหา ราคีใดคือ ตัวฉัน…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ข้าใส่เสื้อสีเหลือง ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความชอบธรรมของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความถูกต้องของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความดีงามของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งข้อเท็จจริงของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความเป็นจริงของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งเหตุผลของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อสีเหลืองแห่งอุดมการณ์ของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งพลังมวลชนอันยิ่งใหญ่ของข้า และความเชื่อในสีเหลืองทั้งหมดของข้า เป็นความเชื่อที่ข้าเชื่อว่า เป็นความเชื่อที่ถูกต้องที่สุด และดีที่สุดที่ข้ามี แต่เพียงผู้เดียวในโลกนี้ ข้าจึงไม่มีวันที่จะประนีประนอม…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผลงานน้องจูนี่ไฟไฟ ไฟ ไฟไฟ กำลังลุกไหม้บ้านเมืองของเราเร้ว เร็วเข้าเถิดรีบมาช่วยกันดับไฟเร็วๆเข้า บ้าบ้า บ้า บ้าบ้าบอคอแตกที่สุดในโลกมัวไปสนใจมัวไปทะเลาะเบาะแว้งมัวไปทุ่มเถียงกันให้เสียเวลาทำไมว่าพวกรัฐบาลหรือว่าพวกพันธมิตรใครเป็นคนลงมือจุดไฟเผาใช้น้ำมันเบนซินยี่ห้ออะไรบริษัทอะไรเป็นผู้ผลิตใครเป็นคนคิดวางแผนใครเป็นคนสั่งการ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1. เงิน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับลมหายใจเข้าออกแทบทุกขณะจิตของผู้คน 2. เงิน คือทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ แต่เป็นนายที่โหดร้าย ยังเป็นวาทกรรมที่ทันสมัย
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ที่ ดวงตา คอยมองจับจ้องอยู่ ที่ ใบหู คอยแยะแยกจำแนกเสียง ที่ จมูก คอยดมชมกลิ่นเกลี้ยง ที่ ปลายลิ้น คอยเรียงไล่ลิ้มรส
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
Canto คือยอดของภูเขาน้ำแข็ง ที่โผล่ออกมาให้เราเห็นนิดเดียวบนพื้นผิวของมหาสมุทร Canto คือการเปิดประตูเพื่อให้คนเดินเข้าไป คือการเปิดหน้าต่างเพื่อให้คนมองออกไป – สู่จินตนาการเสรี Canto คือการลงมือเขียนถ้อยคำจากความรู้สึกประทับใจจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างฉับพลัน 3 บรรทัดสั้นๆ จบ Canto คือการลดละการแสดงความคิดเห็น ความรู้ ความเฉลียวฉลาด ของผู้เขียน ออกไปให้มากเท่าไหร่ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น Canto คือการเก็บเม็ดทรายเม็ดเล็กๆของถ้อยคำ มารวมกันจนเกิดเป็น มวล ที่มีน้ำหนักและพลัง - ที่ไม่อาจปฏิเสธไม่ได้ Canto คือการเขียนเพื่อให้คนอื่นคิด มิใช่เขียนเพื่อคิดแทนคนอื่น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1. ของแท้ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ แต่ผมไม่ใช่ 2. ได้มาก็เสียไป สิ่งสำคัญที่สุดอยู่กับเราชั่วคราว ผิดกับความอ่อนแอ 3. ความงามหนึ่ง ชื่อการพลัดหลง น่าประทับใจจนอยากเก็บเอาไว้คนเดียว 4. แดดส่องโต๊ะรับแขกหน้าบ้าน ตำลึงเลื้อยพันขาเก้าอี้ขึ้นไปงอกงาม กาน้ำชาฝุ่นเกาะอยู่ในห้องครัวเงียบ 5. กลิ่นชาใบเตย ขยายตัวอวลอุ่น จอกหนึ่งว่าง...จอกหนึ่งพร่อง
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ระบอบการเมือง                ที่ดีที่สุดในโลกนี้มี                                   หรือไม่มีถ้าหากมี                          แล้วถูกขยำขยี้ทิ้งไปยัง…