Skip to main content


1.

สาวสวยทรงเสน่ห์

ที่มีผู้ชายมารุมหลงรักกันอย่างมากมายคนหนึ่ง ได้เดินทางไปปรึกษาปัญหาคับข้องใจ เกี่ยวกับ "ตัวตน" ที่สวยทรงเสน่ห์ของเธอกับพระเจ้า ณ บนสรวงสวรรค์ที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ เมื่อเธอได้ไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพระพักตร์ของพระองค์ เธอจึงย่อตัวลงคำนับและกล่าวว่า


" ข้าแด่พระองค์ท่านที่เคารพและยำเกรงแห่งโลกทั้งสาม ข้ามีปัญหาชีวิตคับข้องใจบางอย่าง ที่อยากจะเรียนถามท่านผู้รู้แจ้งในขุมนรก สรวงสวรรค์ และพื้นพิภพ "

" ไหน เจ้าลองบอกข้ามาซิ เจ้ามีปัญหาคับข้องใจอะไร เจ้าจึงบากหน้ามาหาข้าถึงที่นี่ ระยะทางจากโลกถึงสวรรค์นี่ เป็นระยะทางที่ห่างไกลกันมิใช่น้อย คงเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับตัวเจ้ามากซินะ "

" เป็นเรื่องที่สำคัญมากเจ้าค่ะ นั่นคือ ข้านอนคิดด้วยตัวข้าเองมานานเกือบปีกว่าๆแล้ว แต่ข้าก็ยังตกลงใจกับตัวเองไม่ได้ ว่าข้าควรจะเที่ยวไปประกาศตัวให้คนทั่วไปรู้หรือเปล่า - ว่าตัวข้า คือ สาวสวยผู้ทรงเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวข้านี่... ไม่ว่าจะอยู่ที่นี่หรือที่ไหน หรือไปปรากฏตัว ณ ที่แห่งใด ภายในเวลาไม่เกิน 3 วัน จะต้องมีผู้ชายมารุมหลงรักข้า และยอมพลีกายให้ข้าเชยชมไม่ต่ำกว่า 20 คน ข้าจึงอยากจะเรียนถามพระองค์ท่านว่า ตัวข้าควรหรือไม่ควร ที่จะเที่ยวไปประกาศ คุณค่าที่ข้าภาคภูมิใจตัวของข้าในเรื่องนี้ - ให้ผู้คนได้รับรู้ "


พระองค์ทรงสดับแล้ว จึงแย้มสรวล และเอื้อนพระโอษฐ์คัดค้านในทันทีว่า

" เจ้าไม่ควรเที่ยวไปประกาศตัวอย่างเด็ดขาด ! "

" ทำไม ข้าจึงประกาศคุณค่าที่น่าภาคภูมิใจของตัวข้าไม่ได้ " เธอสวนคำขึ้นด้วยความกังขา และชี้แจงความปรารถนาเป็นอย่างยิ่งของเธออีกว่า " จริงๆนะ นอกจากนี้แล้ว ข้ายังต้องการจะประกาศให้ผู้คนทุกคนที่ข้าพบปะ ได้รับรู้ให้หมดด้วยว่า มีใคร ชื่อ นามสกุลอะไร อายุน้อยและมากที่สุดเท่าไหร่ บ้านช่องอยู่ที่ไหน อยู่บ้านเลขที่เท่าไหร่ ซอยอะไร และเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันบ้าง ที่มาหลงรักข้า และยินยอมพลีกายให้ข้าเชยชม "


" มันเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง " พระองค์ทรงยืนยันอย่างแข็งขัน

" ไม่ถูกต้องอย่างไร ในเมื่อมันเป็นความจริง ที่ตัวข้าได้ประจักษ์ ด้วยตัวของข้าเอง "

เธอเถียงด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่นและเย่อหยิ่ง ในคุณค่าของความสวยทรงเสน่ห์ของตัวเอง

" ไม่ถูกต้อง " พระองค์ทรงย้ำอีกและชี้แจง " เพราะการกระทำเช่นนี้ สำหรับพวกผู้ชายที่มาหลงรักและยอมพลีกายให้เจ้าเชยชม พวกเขาถือว่า มันเป็นการโพทะนาและกล่าวประจาน เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายของพวกเขา ทำให้พวกเขาต้องอับอายขายหน้าผู้คนทั้งหลาย อับอาย...จนกระทั่งว่าแทบจะฆ่าตัวตายก็ว่าได้ เจ้าจึงไม่ควรประกาศอย่างเด็ดขาด เพราะการยกย่องโอ้อวดคุณค่าของตัวเอง แต่กลายเป็นการทำร้ายผู้อื่นเขา ถึงแม้จะเป็นการพูดความจริง แต่ก็เป็นการพูดความจริง ที่ชาวโลกเขารังเกียจและไม่ยอมรับ เจ้าจึงไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง "


" แล้วข้าควรจะทำอย่างไรดี " เธอถาม

" เจ้าไม่ต้องทำอะไรหรอก จงอยู่เฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรในเกิดขึ้นในโลกนี้ ก็พอแล้ว" พระองค์ตอบและทรงชี้แนะ

" แล้วใครล่ะ จะเป็นคนประกาศให้โลกรู้ ถึงคุณค่าความสวยอันทรงเสน่ห์ของตัวข้า ที่ทำให้ผู้ชายมาหลงรักและยอมพลีกายให้แก่ข้า "


เธอถามพลางตัดพ้อหาคำตอบ พระองค์จึงตรัสแก่เธอว่า

" ก็ ไอ้ พวกผู้ชายทั้งหลายที่มาหลงรักเจ้า และยอมพลีกายให้เจ้านั่นแหละ พวกเขา - จะค่อยๆพากันไปประกาศยกย่องตัวเจ้ากับผู้คน ว่าพวกเขาช่างโชคดีเหลือเกิน ที่ได้หลงรักเจ้าและยอมพลีกายให้แก่เจ้าด้วยความยินดี และไม่ได้รับการรังเกียจจากตัวเจ้า นี่แหละ...โลกถึงจะยอมรับและชื่นชมในตัวเจ้า - เจ้าอย่ากังวลไปเลย ว่าจะไม่มีใครเขารู้จัก ว่าเจ้าเป็นผู้หญิงที่สวยและทรงเสน่ห์ "

" อย่างนั้นหรือ พระองค์ท่าน "

" อ๋อ ใช่สิ นี่คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด และดีที่สุด ที่เจ้าพึงสำนึกรู้...และนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด นั่นคือ เจ้าจงหุบปากอยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้คนอื่นๆเขาเป็นคนประกาศยกย่องคุณค่าของตัวเจ้า มิใช่ตัวเจ้าที่ต้องเที่ยว

ไปประกาศยกย่องโอ้อวดตัวเอง นี่แหละ โลกจึงจะยอมรับและชื่นชม คุณค่าความสวยอันทรงเสน่ห์ของตัวเจ้า " พระองค์ทรงชี้ทางสว่างด้วยความเมตตา เธอทรุดตัวลงและก้มลงกราบแทบพระยุคลบาทของพระองค์ และกล่าวว่า


" โอ ขอบพระคุณพระเมตตาจากท่านเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ ข้าน้อยขอน้อมรับคำดำรัสของท่าน ไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัดทุกประการเลยเจ้าค่ะ เพราะข้าอยากให้โลกนี้ทั้งโลกได้รับรู้เหลือเกินว่า ข้าเป็นผู้หญิงที่สวยทรงเสน่ห์ ที่โลกควรจะจักเพียงใด "

" อา! ดีแล้ว ดีแล้ว ณ บัดนี้ นอกจากเจ้าจะเป็นผู้หญิงที่สวยทรงเสน่ห์เป็นอย่างยิ่งแล้ว เจ้ายังกำลังจะเป็นผู้หญิงที่เฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย "


" ข้าจะเฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุใดเจ้าคะ " เธอถาม

" เจ้าจักเฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะบัดนี้เจ้าได้เรียนรู้ - ความรู้อันสำคัญยิ่ง ที่มนุษย์ทุกคนควรจะเรียนรู้ เพราะความรู้ในเรื่องนี้ จะทำให้เจ้าอยู่รอดปลอดภัยในโลก และเป็นที่รักที่นับถือของคนทั่วไป " พระเจ้าตอบ

" ความรู้อะไรเจ้าคะ " เธอถาม

" ความรู้ที่รู้ว่า อะไรควรพูดและอะไรไม่ควรพูด อะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำ เมื่อเจ้าต้องอยู่ร่วมกับมนุษย์ ตั้งแต่ครึ่งคนและหนึ่งคนขึ้นไป " พระเจ้าตอบ

 

 

2.

และหลังจากสาวสวยทรงเสน่ห์คนนี้

ได้รับการอบรมสั่งสอน และคำตอบจากพระเจ้ากลับไปแล้ว ก็ปรากฏว่า มีชายหนุ่มรูปงามทรงเสน่ห์ ที่มีแต่ผู้หญิงมารุมหลงรัก เช่นเดียวกับสาวสวยทรงเสน่ห์ นั่นคือ ไม่ว่าเขาจะไปปรากฏตัวอยู่ ณ ที่แห่งใด ภายในเวลาไม่เกิน 3 วัน จะต้องมีผู้หญิงมารุมหลงรัก และยอมพลีกายให้แก่เขาไม่ต่ำกว่า 20 กว่าคน - เหมือนกัน ได้ขึ้นสวรรค์มาปรึกษาปัญหากับพระองค์ ด้วยความคับข้องใจ เช่นเดียวกับสาวสวยทรงเสน่ห์ ราวกับถอดเรื่องราวออกมาจากเทปบันทึกเสียงม้วนเดียวกัน - ทุกถ้อยคำ ต่างกัน ก็เฉพาะเพศที่กลับกันจากหญิงเป็นชายเท่านั้นเอง...

 

นั่นคือ

เขาอยากเที่ยวไปประกาศ ยกย่องและโอ้อวดคุณค่าของตัวเองกับผู้คนว่า ตัวเขาคือชายหนุ่มรูปงามผู้ทรงเสน่ห์ ที่มีแต่ผู้หญิงมารุมหลงรัก และยอมพลีกายให้เชยชมเป็นว่าเล่น และต้องการจะประกาศให้ผู้คนทุกคนที่เขาพบปะรู้ดัวยว่า

 

มีใคร...

ชื่อ นามสกุลอะไร...

อายุน้อยและมากที่สุดเท่าไหร่...

บ้านช่องอยู่ที่ไหน...

อยู่บ้านเลขที่เท่าไหร่...

ซอยอะไร...

และเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันบ้าง...

ที่มาหลงรักและยอมพลีกายให้เขาเชยชม...

 

ปรากฏว่า

หลังจากเขาปรึกษาปัญหาคับข้องใจของตัวเองกับพระเจ้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็ ได้การอบรมสั่งสอน และคำตอบอันเลิศล้ำจากพระองค์ เช่นเดียวกับที่สาวสวยทรงเสน่ห์ได้รับทุกประการ - เหมือนกัน

 

3.

หลังจากชายหนุ่มรูปงามผู้ทรงเสน่ห์

ได้รับการสั่งสอนอบรม และคำตอบจากพระเจ้าได้ลาจากไปแล้ว พระองค์ก็ทรงปรารภกับตนเอง ในขณะทรงประทับอยู่เพียงลำพังผู้เดียวบนสรวงสวรรค์ ด้วยภาษาของชาวโลกยุคใหม่ ราวกับจะจงใจให้ใครสักคนหนึ่งในโลกมนุษย์ได้ยินดังๆ ว่า


" โลกปัจจุบัน

ในยุคที่มีพวก สตรีนิยม ระบาดกันจนทั่วไป

ถ้าหากพวกผู้หญิงทั้งหลายในโลกนี้

เขายังบกพร่อง

เขายังขาดความเป็น สุภาพสตรี ในเรื่องความรักและเรื่องเพศ

นั่นคือ ยังคงมีพฤติกรรม

ชอบเที่ยวไปคุยโวโอ้อวดให้คนโน้นคนนี้ฟังกันทั้งโลก

ว่าตัวเอง " ได้ฟัน - ผู้ชายรูปหล่อคนนั้น ! ได้ฟัน - ผู้ชายรูปหล่อคนนี้ ! "

ยังเป็นเรื่องที่พอรับฟัง... ( และอภัยให้กันได้ )

เพราะยังเป็นของใหม่ที่ทางฝ่าย สตรีนิยม เขายังไม่ได้กำหนด

บทจริยธรรมอันดีงาม ควบคุมเรื่องนี้เอาไว้

แต่ แหม ไอ้พวกผู้ชาย...ที่ยังขาดความเป็น สุภาพบุรุษ ในเรื่องนี้

เป็นเรื่องยากที่จะมีคนเขาให้อภัย

เพราะใครๆ เขาก็รู้กัน... มาตั้งแต่โบร่ำโบราณแล้วว่า

มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด แบบกินที่ลับแล้วนำไปไขในที่แจ้ง ให้ผู้หญิงเขาอับอายขายหน้า


ไม่น่าเชื่อว่าโลกในยุคนี้

ยังมี ผู้ชายเชยๆ ที่คิดเลวๆ อย่างนี้ หลงเหลืออยู่ในโลก

น่าเบื่อจริงๆ เรื่องเชยๆ เลวๆ ที่ไร้สาระเรื่องนี้

ขืนเล่าให้ใครฟัง ก็คงไม่มีใครเขาอยากฟังกัน - ให้เสียความรู้สึก "

 

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่


บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมือง ที่ขัดแย้งกันมานาน ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ที่ดูเหมือนว่า นอกจากจะมองไม่เห็นทางที่จะสมานฉันท์กันได้แล้ว ยังมีแนวโน้มว่า สถานการณ์ที่ต่างฝายต่างก็ไม่ยอมลดราวาศอกให้กัน ยังมีทีท่าว่าจะทวีความรุนแรงไปสู่การนองเลือดที่น่าสยดสยอง ดังที่คาดหมายกันว่าจะเกิดขึ้น ตั้งแต่ วันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป ตามที่เขาประกาศศึกกันแบบเอาเป็นเอาตายกัน ซึ่งเราไม่ปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง ที่จะให้เกิดขึ้นในสังคมไทย   ดังเช่น โศกนาฏกรรมนองเลือด 6 ตุลาคม 19 และพฤษภาคมทมิฬ 35 ในอดีตที่ผ่านมา แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีพลังแห่งความปรารถนาดีใดๆในสังคม สามารถเข้าไปยับยั้งได้…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  โอ พระเจ้า !ข้าสงสัยเหลือเกินว่า ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร และ สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุลสนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้ม ทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุลสนธิ ลิ้ม ทองกุล สนธิลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุลสนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ด่วน ! ประชาชนชาวไทย ผู้รักความสงบทุกท่าน โปรดทราบ... นับตั้งแต่ออกประกาศฉบับนี้เป็นต้นไป เวลาท่านออกจากบ้านไปไหนมาไหนคนเดียว โดยเฉพาะตามสถานที่ที่ไม่มีคนรู้จัก เวลาพบคนใส่เสื้อสีเหลือง เหลีอง เหลีอง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง กำลังชุมนุมกันอยู่เป็นจำนวนมาก... ขอให้ท่านจงโปรดระวัง ! อย่าได้ขับรถ - หรือเดินเฉียดเข้าไปใกล้พวกเขาเป็นอันขาด ! เพราะนี่คืออันตรายเป็นอย่างยิ่ง !…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1 พฤศจิกายน 2551ข้ามองเห็นคนรัก ทักษิณ ชินวัตร ใส่เสื้อสีแดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงจำนวนนับไม่ถ้วน ณ ราชมังคลากีฬาสถานแห่แหนกันออกมายกย่องและให้กำลังใจ ทักษิณ ชินวัตร และเมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ปรากฏภาพและเสียงผ่านโฟนอิน ออกมาพูดแล้วคนใส่เสื้อสีแดงทุกคนต่างเชื่อว่าทุกถ้อยคำที่ ทักษิณ ชินวัตร พูด ณ สถานที่แห่งนี้ เป็นความจริงหมดทุกถ้อยคำ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
มิใช่ บ่อ จากท่อธารบาดาลใสหลั่งรินไหล มิรู้แล้ง แห้งเหือดหายเป็นเพียง บ่อ น้ำฟ้ามาซึมทรายหลั่งรินสาย มาหล่อเลี้ยง - เพียงชั่วกาลมิใช่ บ้านดวงใจ อุ่นไอรักแค่ เพิงพัก หลบร้อนอันกร่อนกร้านริมวิถี คดเคี้ยว เปลี่ยว กันดารเป็นทางผ่าน เป็นที่พัก - นักเดินทางมิใช่ แสงดาว ชี้ชัดปลุกศรัทธาแทนดวงตาดวงใจผู้ไร้ร้างเป็นเพียง แสงหิ่งห้อย - ลอยเลือนรางอยู่ท่ามกลางคืนเดือนมืดอันยืดยาวและมิใช่ สมณะ ผู้ละโลกย์พ้นทุกข์โศกเวียนว่ายกายสีขาวยังเป็นแค่ ปุถุชน คนมากคาวยังมิก้าวพ้น ตัณหา ราคีใดคือ ตัวฉัน…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ข้าใส่เสื้อสีเหลือง ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความชอบธรรมของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความถูกต้องของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความดีงามของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งข้อเท็จจริงของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความเป็นจริงของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งเหตุผลของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อสีเหลืองแห่งอุดมการณ์ของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งพลังมวลชนอันยิ่งใหญ่ของข้า และความเชื่อในสีเหลืองทั้งหมดของข้า เป็นความเชื่อที่ข้าเชื่อว่า เป็นความเชื่อที่ถูกต้องที่สุด และดีที่สุดที่ข้ามี แต่เพียงผู้เดียวในโลกนี้ ข้าจึงไม่มีวันที่จะประนีประนอม…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผลงานน้องจูนี่ไฟไฟ ไฟ ไฟไฟ กำลังลุกไหม้บ้านเมืองของเราเร้ว เร็วเข้าเถิดรีบมาช่วยกันดับไฟเร็วๆเข้า บ้าบ้า บ้า บ้าบ้าบอคอแตกที่สุดในโลกมัวไปสนใจมัวไปทะเลาะเบาะแว้งมัวไปทุ่มเถียงกันให้เสียเวลาทำไมว่าพวกรัฐบาลหรือว่าพวกพันธมิตรใครเป็นคนลงมือจุดไฟเผาใช้น้ำมันเบนซินยี่ห้ออะไรบริษัทอะไรเป็นผู้ผลิตใครเป็นคนคิดวางแผนใครเป็นคนสั่งการ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1. เงิน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับลมหายใจเข้าออกแทบทุกขณะจิตของผู้คน 2. เงิน คือทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ แต่เป็นนายที่โหดร้าย ยังเป็นวาทกรรมที่ทันสมัย
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ที่ ดวงตา คอยมองจับจ้องอยู่ ที่ ใบหู คอยแยะแยกจำแนกเสียง ที่ จมูก คอยดมชมกลิ่นเกลี้ยง ที่ ปลายลิ้น คอยเรียงไล่ลิ้มรส
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
Canto คือยอดของภูเขาน้ำแข็ง ที่โผล่ออกมาให้เราเห็นนิดเดียวบนพื้นผิวของมหาสมุทร Canto คือการเปิดประตูเพื่อให้คนเดินเข้าไป คือการเปิดหน้าต่างเพื่อให้คนมองออกไป – สู่จินตนาการเสรี Canto คือการลงมือเขียนถ้อยคำจากความรู้สึกประทับใจจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างฉับพลัน 3 บรรทัดสั้นๆ จบ Canto คือการลดละการแสดงความคิดเห็น ความรู้ ความเฉลียวฉลาด ของผู้เขียน ออกไปให้มากเท่าไหร่ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น Canto คือการเก็บเม็ดทรายเม็ดเล็กๆของถ้อยคำ มารวมกันจนเกิดเป็น มวล ที่มีน้ำหนักและพลัง - ที่ไม่อาจปฏิเสธไม่ได้ Canto คือการเขียนเพื่อให้คนอื่นคิด มิใช่เขียนเพื่อคิดแทนคนอื่น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1. ของแท้ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ แต่ผมไม่ใช่ 2. ได้มาก็เสียไป สิ่งสำคัญที่สุดอยู่กับเราชั่วคราว ผิดกับความอ่อนแอ 3. ความงามหนึ่ง ชื่อการพลัดหลง น่าประทับใจจนอยากเก็บเอาไว้คนเดียว 4. แดดส่องโต๊ะรับแขกหน้าบ้าน ตำลึงเลื้อยพันขาเก้าอี้ขึ้นไปงอกงาม กาน้ำชาฝุ่นเกาะอยู่ในห้องครัวเงียบ 5. กลิ่นชาใบเตย ขยายตัวอวลอุ่น จอกหนึ่งว่าง...จอกหนึ่งพร่อง
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ระบอบการเมือง                ที่ดีที่สุดในโลกนี้มี                                   หรือไม่มีถ้าหากมี                          แล้วถูกขยำขยี้ทิ้งไปยัง…