เธอสวย
ถึงแม้เธอจะแต่งตัวขะมุกขะมอม
ด้วยเสื้อผ้าราคาถูกและเก่าคร่ำคร่า
แต่เปลือกกายภายนอกอันหม่นหมองของความยากไร้
หาได้บดบังความงามของเธอไม่
ไม่มีใครรู้
ฉันรู้
ความงามก็เหมือนดั่งความรัก
เป็นอิสระ
ไม่ยอมก้มหัวอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ใดๆทั้งสิ้น
หัวใจของฉัน
กระซิบกระซาบครวญครางแก่ตัวเอง
ดั่งเสียงลมพลิกใบไม้ไหวในยามค่ำคืน.
สนทนา ; นี่ เป็นบทกวีเก่าๆบทหนึ่ง
ที่ผมเขียนถึงความงาม จากประสบการณ์จริงๆของชีวิต สมัยผมเร่ร่อนดนตรีตามห้องอาหาร สวนอาหาร สองฟากถนน เชียงใหม่ - ฮอด แล้วรู้สึกสะเทือนใจ ที่ได้เห็นเด็กสาวบ้านนอกหน้าตาดี แต่ยากจน และด้อยการศึกษาคนหนึ่ง แต่งตัวขะมุกขะมอมซอมซ่อ ท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัว มาทำงานเสิร์ฟอาหารและล้างจาน ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่ผมเล่นดนตรี ด้วยเงินค่าจ้างถูกๆคืนละไม่กี่สิบบาท แถมยังมักจะถูกเจ้าของร้านคอยดุด่า และแขกขี้เมาคอยลวนลาม...
แต่ในความยากจน ความด้อยการศึกษา และสถานภาพทางการงานอันต่ำต้อยและถูกกดขี่ของเธอ ผมมองเห็นบางสิ่งบางอย่างในตัวเธอ ที่เปลือกนอกของชีวิตและสังคม ไม่สามารถลดคุณค่าลงได้ จึงเขียนบทกวีชิ้นนี้ออกมา.
24 มีนาคม 2552
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่