Skip to main content

ภายในกำแพงที่คุมขังแห่งนี้
เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผม ป้องกันไม่ให้ผม ต้องถูกบังคับสับถูกโขกให้ออกไปตระเวนร้องเพลงตามข้างถนน ซึ่งไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออกอย่างไร จะต้องทำเงินให้ได้ ตามยอดเงินที่นายพ่อตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด จะกินอิ่มหรือไม่ นายพ่อไม่เคยถาม...

ความอยุติธรรมของชีวิตที่ผมได้รับ ผมคิดอยู่เสมอว่า มันคือกรรมเวรกรรม ที่ติดตัวผมมาแต่ชาติปางก่อน มันจะเจ็บมันจะปวดอย่างไร ก็จะขอชดใช้ให้มันหมดไปในชาตินี้... 

ณ ที่แห่งนี้
ผมได้พบมิตรภาพ ที่สามารถตายแทนกันได้  ผมได้มาอยู่ในโครงการเรือนจำเรือนธรรม ได้ยินเสียงพระเทศน์ตามสาย มีหลวงพ่อที่ทางเจ้าหน้าที่นิมนต์มา - ให้แนวคิดทางธรรมะเป็นประจำ ประกอบกับผมมีพื้นฐานทางด้านนี้ จากการที่ผมเคยได้อยู่วัดกับยาย  จิตใจจึงรับรู้รสพระธรรมได้ง่ายและลึกซึ้ง   เรือนจำเป็นบ้านหลังใหม่ ที่ให้แสงสว่างแก่ชีวิตของผม...

เรือนจำ...อาจจะเป็นสิ่งที่แลดูน่ากลัว...ของคนมากมายหลายคน   แต่สำหรับผมแล้ว มันคือทุกสิ่งทุกอย่าง  ณ ที่แห่งนี้ ดวงตาของผมที่บอดและฝ้าฟางมาตลอดชีวิต  มันกำลังจะมองเห็น...ถึงแม้ชีวิตนี้ผมจะไม่ได้พบกับผู้เป็นอีกยายแล้ว แต่ก็ผมได้นั่งสมาธิสวดมนต์ แผ่ส่วนกุศลไปให้ยายอยู่เสมอ...

ต่อมา
ศาลท่านได้สืบพยานแล้ว ว่าผมไม่ใช่นักโทษอาชญากรของแผ่นดิน โทษจำคุกตลอดชีวิตของผม จึงค่อยๆลดลงมา รวมทั้งได้รับพระราชทานอภัย จากบุญบารมี...ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมราชินีนาถ...

พี่จ่าครับ นอกจากการไถ่ชีวิตโค ที่พี่ได้ทำมาแล้ว ผมขอกราบวิงวอน...พี่จ่า ช่วยไถ่ชีวิตของผม หลังจากผมออกไปจากสถานที่แห่งนี้   ด้วยการพาผมไปบวชอยู่วัดที่ไหนสักแห่งหนึ่ง ที่เป็นวัดป่าปฏิบัติธรรม ถือศีลกินเจ  และสงบเงียบ  ห่างไกลจากความโลภ โกรธ หลง ของมนุษย์ สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง ที่พี่จ่าได้นำมาช่วยเหลือจุนเจือผม   และขอให้พี่จ่าประสบแต่ความสุขกาย สุขใจ คิดปรารถนาสิ่งใด ก็ขอให้ได้สมดั่งตั้งใจทุกประการ...

สามปีแล้วซินะ
ที่เราได้รับรู้เรื่องราวของสุทัศน์ จันทร์ศรี   เคยคิดว่าชีวิตตัวเองหนักหนาสาหัส แต่พอมารับรู้เรื่องราวของสุทัศน์   เออหนอ...ความทุกข์ของเรา เมื่อเทียบกับเขาแล้ว มันช่างเล็กน้อยเสียนี่กระไร อ้อมกอดของพ่อที่สุทัศน์โหยหานั้น ก็ไม่ต่างจากพี่จ่าหรอก ที่โหยหาอ้อมกอดของพ่อมาตลอดชีวิต พ่อที่ไม่มีเรี่ยวแรง แม้แต่จะยกมือป้อนข้าวเข้าปากของตัวเอง พ่อที่นอนรอเวลาจากไป พ่อที่พี่ลืมตาขึ้นมาดูโลก ก็พบพ่อนอนป่วยเป็นอัมพาตมาตลอดชีวิต ที่ได้พบปะพ่อ... อย่าคิดอะไรให้มากไปเลยน้องชาย ถึงอย่างไร โลกนี้ ก็ยังไม่ได้โหดร้ายกับน้องชาย จนถึงที่สุดเกินไป มิใช่หรือ...

เออหนอ...เราผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน แต่มันไม่ได้สักเศษเสี้ยวชีวิตของสุทัศน์เลย คืนนี้...ฉันไม่ได้ยินเสียงร่ำไห้จากแดน 3 แต่กลับได้ยินเสียงร้องไห้ของตัวเอง และอยากบอกเขาเหลือเกินว่า
"คุณค่าของชีวิต ไม่ได้วัดที่การมีใครมาทำอะไรให้แก่เรา แต่วัดกันที่เราได้ทำอะไร...เพื่อคนอื่นต่างหาก จะมากจะน้อยอย่างไร ก็ขอให้ได้มีโอกาสได้ทำเพื่อคนอื่น นี่...คือความสุขในชีวิตของพี่จ่าในทุกวันนี้..."

ฟ้าหลังฝน ย่อมสดใสสะอาดและงดงามเสมอ... จดหมายเป็นกำลังใจ และให้ความช่วยเหลือสุทัศน์ ตามที่อยู่ข้างล่างนี้ได้เลยนะครับ.

นายสุทัศน์  จันทร์ศรี 117 หมู่ 3 เรือนจำกลางบางขวาง ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
(ตีพิมพ์ครั้งแรก แรงบุญแรงแรงกรรม ปีที่ 5 ฉบับที่ 104  ปักษ์แรก พฤศจิกายน 2551)

หมายเหตุ ; ท่านที่อ่านเรื่องนี้แล้ว สนใจเรื่องของสุทัศน์ เพราะอยากจะให้ความช่วยเหลือหรือให้กำลังใจ หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ ถ้าอยากทราบรายละเอียดของสุทัศน์ในปัจจุบัน กรุณาติดต่อสืบถามได้ที่ จ.ส.ต.จินตวีร์ เกียงมี งานธุรการอำนวยการกองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 19 ชั้น 11 เขต ปทุมวัน กทม. 10300 เบอร์โทร. 08 7743-643.

30 มีนาคม 2552
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

 

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    เมื่อยังมีชีวิต จงหายใจเข้าไว้ หายใจแรงๆ และหายใจอย่างสดชื่น เพราะภาระหน้าที่ของชีวิตคือการมีชีวิต ชีวิตที่กระปรี้กระเปร่า และถ้าเป็นไปได้ควรต้องรื่นรมย์กับชีวิต บาปอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ (บางทีสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งปวง) คือการปฏิเสธชีวิต   การมีชีวิต
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    ฉันเป็นเท่าที่ฉันเป็น ฉันทำเท่าที่ฉันหวัง ฉันหวังเท่าที่ฉันเห็น ฉันง่ายฉันงามฉันแจ่มชัด ฉันเชื่อหนึ่งมากกว่าร้อย ฉันเชื่อคนมากกว่าลัทธิ ฉันเชื่อดินมากกว่าฟ้า ฉันเชื่อต้นหญ้ามากกว่าขุนเขา ฉันเชื่อสวนหลังบ้านมากกว่าป่าหิมพานต์ ฉันเชื่อวันนี้มากกว่าวันวาน ฉันง่ายฉันงามฉันแจ่มชัด ฉันไม่เชื่ออำนาจรัฐจากกระบอกปืน   ฉันเป็นเท่าที่ฉันเป็น.  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  อิสรภาพ   ฉันต้องการอิสรภาพ ที่จะได้เห็น ที่จะได้ยิน ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  เป็นที่ทราบกันดีว่า กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกฎหมายที่สร้างความทุกข์สาหัสให้แก่ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า “หมิ่นสถาบัน” มามากมายหลายคน เพราะกฎหมายนี้ถูกตราขึ้นมาอย่างกว้างๆไม่ระบุขอบข่ายความผิดให้ชัดเจน รวมทั้งกระบวนการจับกุม สอบสวน ดำเนินคดี ก็มิได้เป็นไปตามปกติทั่วไป มิหนำซ้ำการตีความบังคับใช้มาตรานี้ ว่ากันว่า เจ้าหน้าที่สามารถตีความใช้ได้อย่างกว้างขวาง และนักการเมืองมักจะใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงกันข้ามอยู่เสมอ และผู้ต้องคดีนี้นอกจากจะติดคุกติดตะรางแล้ว ยังถูกซ้ำเติมจากสังคมที่จงรักภักดีต่อสถาบันอย่างรุนแรง    
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    คือแม่น้ำและขุนเขาอันขรึมขลัง คือพลังคีตกานท์อันหวานไหว คือหนึ่งจิตวิญญาณล้านนาไทย คือดอกไม้สวยสะคราญบานนิรันดร์  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ย้อนกลับไปทบทวนดู คำประกาศหลังจากรับพระราชทานโปรดเกล้าฯของคุณยิ่งลักษณ์ตอนหนึ่งที่กล่าวว่า “อุปสรรคข้างหน้ายังรอเราอยู่มาก ทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ แต่ทั้งหมดมิใช่อุปสรรคขวางกั้นมิให้ทำงาน พร้อมที่จะอุทิศตัวด้วยความทุ่มเท เสียสละอดทน ทำงานแข่งกับเวลา ไม่เกรงต่อความลำบากใดๆ”
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    แล้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 และ เป็นนายกหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของเมืองไทย และเป็นคนที่ 52 ของโลก อย่างสมบูรณ์ โดยได้รับการโหวตเสียงจากที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 296 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง และงดออกเสียง 197 เสียง ก่อนจะได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ในวันที่ 8 สิงหาคม 2554 เวลา 18.40 น. ณ บริเวณตึกชั้น 7 ที่ทำงานพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางความยินดีของคนจำนวนมากมาย ที่สนับสนุนคุณยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    คราวที่แล้ว ผมนำเรื่อง “คนดีของคนเมือง และ คนดีของชนบท” ที่แตกต่างกัน จากบทสัมภาษณ์ที่ชื่อว่า “ความคาดหวังและความจริงของประชาธิปไตยแบบไทยๆ” ของ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ซึ่งให้สัมภาษณ์ลงนิตยสารสารคดี ฉบับเดือนตุลาคม 2543 ผมคิดว่าจะหยุดเพียงแค่นั้น แต่ก็หยุดไม่ได้ เพราะพบว่ายังมีประเด็นที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านอีกสองประเด็น ที่ยังเป็นเรื่องราวที่ยังดำรงอยู่ในปี 2544 และต่อไปอีกนานเท่าไหร่ ก็คงไม่มีใครรู้ เพราะมันเป็นรื่องของอนาคต  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
      ผมมักจะได้ยิน ผู้คนและสื่อต่างๆเกี่ยวกับการเมือง มักจะพูดกันให้ได้ยินอยู่เสมอว่า “คนชนบทเป็นคนเลือกตั้งรัฐบาล คนเมืองเป็นคนล้ม” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความจริงมาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีใครให้คำอธิบายที่ฟังดู สมเหตุสมผลและชอบธรรม ให้ฟัง ว่าทำไมคนเมืองที่หมายถึงคนชั้นกลาง จึงไม่ชอบรัฐบาลที่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ที่เป็นคนชนบทในประเทศ และช่วยกันล้มรัฐบาลที่เขาเลือกตามกติกา 
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
      ถึงแม้ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้รับการรับรองจาก กกต. ให้หลุดพ้นจากข้อหาไปช่วยขบวนแห่ที่เชียงราย ให้พ้นจากข่ายความผิดด้วยมติ 5 ต่อ 0 ท่ามกลางความโล่งอกของใครต่อใครมากมายหลายคน ที่ว่ากันว่า เป็นเพราะโพลเสียงจากประชาชน 80 เปอร์เซ็นต์ ต้องการคุณยิ่งลักษณ์นายกฯ (รวมทั้ง นปช.) เป็นกระแสกดดัน กกต. หรือเพราะเหตุใดก็ช่างเถิด แต่เราก็สามารถฟันธงกันได้เลยว่า อีกไม่นาน เราจะต้องได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศอย่างแน่นอน 
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
      ผมไม่แน่ใจว่า ก่อนที่คุณยิ่งลักษณ์ ว่าที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ คนสวย และกลุ่มมันสมองของพรรคเพื่อไทยจะชูนโยบายประชานิยม เพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำให้กรรมกรผู้ใช้แรงงานจาก 221 บาท เป็น 300 บาท และเพิ่มเงินเดือนให้แก่ผู้จบปริญญาตรีที่เริ่มเข้าบรรจุงานจาก 11,028 บาท เป็น 15,000 บาท
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมกำลังจะชวนใครต่อใคร เข้ามาคุยเรื่องปัญหาที่รัฐบาลใหม่จะต้องเข้ามาสะสางและแก้ไข จากข้อมูลของนักวิเคราะห์การเมืองท่านหนึ่งที่รวบรวมและชี้แนะเอาไว้ล่วงหน้าแก่รัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์เอาไว้