Skip to main content

 

จริงหรือ
ที่มีคนมาบอกข้าว่า
เป็นโชคดี ของ ทักษิณ ชินวัตร
ที่มิได้เป็นคนเก่งกล้าสามารถและดีเลิศ
ถึงขีดขั้น - ปราศจากข้อบกพร่องและความผิดพลาด
ให้คนตำหนิติเตียนจับผิดได้
ในช่วงที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรี
ดังที่เขาได้ถูกขุดคุ้ยออกมาตีแผ่
ตั้งแต่เรื่องที่เขาถูกกล่าวหาว่าซุกหุ้น ทุจริตในหน้าที่
จนถึงความผิดพลาดของนโยบายปราบปรามยาเสพติด
และความผิดพลาดในการแก้ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ ที่ตากใบและกรือเซ๊ะ
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขา - ต้องหลุดพ้นออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
และต้องลี้ภัยอยู่ต่างแดน
และยังมีชีวิตอยู่
และยังมีโอกาสได้ต่อสู้
นี่คือ...
โชคดี ของ ทักษิณ ชินวัตร
เพราะถ้าเขาเป็นคนเก่งกล้าสามารถและดีเลิศจนไม่มีที่ติ
เขาจะต้องประสบกับเคราะห์กรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้

 
เขาผู้บอกเล่า
ย้ำบอกข้า - ด้วยความคิดและมุมมองที่ข้าไม่เคยรับรู้มาก่อน
นอกจากความคิดและมุมมองเก่าๆซ้ำซากๆเกี่ยวกับ ทักษิณ ชินวัตร
ที่ข้าเคยรับรู้มาจนความรู้สึกตายด้าน - กับวาทกรรมซ้ำๆซากๆทางสังคมที่ผ่านสื่อต่างๆ
ทั้งจากฝ่ายที่รักและเกลียด ทักษิณ ชินวัตร
ที่มักจะดูเกินจริงและต่างกันจนสุดขั้ว
นั่นคือ
ถ้า ทักษิณ ชินวัตร ไม่เป็นเทพเจ้าผู้สูงส่ง
ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องเป็นภูตผีปีศาจร้ายที่น่าเกลียดน่ากลัว
จนแทบจะหาภาพจริง ของ ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาไม่พบ
เพราะต่างก็สื่อสารกันออกมาบนพื้นฐานของอคติ
แห่งความรักและความจงเกลียดจงชัง ทักษิณ ชินวัตร
ระหว่างคนที่ต้องการจะปกป้องให้เขาดำรงอยู่
และคนที่ต้องการจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก - ออกไปจากสังคมไทย
ที่ Contrast กันอย่างรุนแรง - เหมือนขาวกับดำ
ทำให้ข้อเท็จจริงที่ถูกนำไปขยายทั้งในด้านบวกและด้านลบบิดเบือนไป
แต่กระนั้น - ก็ยังมีผู้คนมากมายเชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างนั้นจริงๆ
ทั้งภาพที่เป็นสีขาวและดำที่เกินจริง - แห่งอคติ
 

 
ข้าฟังแล้ว
ได้แต่งุนงงเป็นไก่ตาแตก
จึงถามเขาว่าเป็นเพราะเหตุใด
ถ้า ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนที่เก่งกล้าสามารถและดีเลิศ
จนไม่มีข้อบกพร่องและความผิดพลาดใดๆให้คนจับผิดได้
แล้วเหตุไฉน...
ถ้าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและหมดจดงดงามถึงเพียงนี้
เขายิ่งกลับจะต้องได้รับเคราะห์กรรม
ยิ่งกว่าที่เขากำลังเผชิญอยู่
 
ผู้เปิดมุมมอง
และความคิดใหม่เกี่ยวกับ ทักษิณ ชินวัตร
หัวเราะและอุปมาอุปมัยให้ข้าฟังว่า
ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะของอดีตนายกรัฐมนตรีในคืนวันที่ผ่านมา
ถ้าหากจะเปรียบเขาเป็นนักมวย
เขาเกือบจะเป็นเสมือนนักมวย - ที่เก่งกล้าสามารถจนไม่มีใครสู้ได้
และซื่อสัตย์ต่อจรรยาอาชีพของตัวเอง
ถึงขนาดยอมตายดีกว่ายอมล้มมวย - หลอกลวงประชาชนคนดู
แต่โชคดีเหลือเกิน...
ที่ ทักษิณ ชินวัตร มิได้เป็นคนเก่งกล้าสามารถ
และเป็นคนที่ดีเลิศจนไม่มีที่ติถึงขนาดนี้
 
ใช่
เขาเป็นคนโชคดี
เพราะเขาเป็นคนมีข้อบกพร่องและความผิดพลาด
เป็นจุดอ่อนและช่องทาง...ให้ขั้วอำนาจคู่ปฏิปักษ์ของเขา
มีโอกาสเข้าไปทำลายระบอบของเขา
ด้วยการเปิดโปงข้อบกพร่องและความผิดพลาดของเขา
โดยสื่อที่ผลิตขึ้นมาเพื่อโจมตีเขา
เพื่อดิสเครดิตเขา...
ก่อนจะเข้าไปยึดอำนาจ
และปลดเขาลงมาจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
( ด้วยความรู้สึก - ที่ผู้ก่อการและสังคมที่สูญเสียผลประโยชน์ให้แก่ระบอบของเขา คงจะบอกแก่กันว่า ชอบธรรมดีแล้วเป็นอย่างยิ่ง )


 
หาไม่เช่นนั้น
เขาคงไม่มีโอกาสได้ถอยร่นออกไปตั้งหลักอยู่ต่างแดน
และโฟนอิน - ฝากรักข้ามขอบฟ้าเข้ามาหามวลชนของเขา
เพื่อขอให้ช่วยลงชื่อกราบทูล - ขอพระราชทานอภัยโทษ
และเขย่าบัลลังก์ที่ไม่ค่อยสง่างามของรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ได้เหมือนเช่นทุกวันนี้หรอก...
เพราะถ้าเขาเป็นคนเก่งกล้าสามารถและดีเลิศ
ถึงขีดขั้น - ไม่มีข้อบกพร่องและความผิดพลาดใดๆให้สังคมที่ไม่ชอบเขา
และขั้วอำนาจคู่ปฏิปักษ์ของเขามองเห็นและจับผิด
และถือเป็นช่องทางและจุดอ่อนทำลายล้างเขาทางการเมือง - และยึดอำนาจ
เขาคงจะถูกกระสุนปืน...เด็ดชีพไปนานแล้ว
เช่นเดียวกับคานธี
มหาบุรุษที่เป็นคนดีเสียจนไม่มีความเลวร้ายใดๆ
เป็นจุดอ่อนและช่องทาง - ให้ใครเข้าไปทำลายพลังอหิงสาอันบริสุทธิ์ของท่านได้
นอกจากการทำลายชีวิตของท่าน...
เพื่อยุติบทบาทที่ทรงพลังของท่าน...
ที่ไม่มีใครอาจต้านทานได้ - เสียเท่านั้น
 
โอ
ข้าฟังแล้วยิ่งมึนงงใหญ่
จึงถามเขาว่า
ทำไมคนดีจึงต้องโชคร้ายอย่างนี้
เขาตอบข้าว่า
การเป็นคนดีนะดีแล้ว
แต่การแสดงการทำความดี - ท่ามกลางสายตาของผู้คนหลากหลายในสังคมนั้น
ไม่ว่าจะเพื่อการเมือง...หรือเพื่ออะไรก็แล้วแต่
เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
นั่นคือ
จงทำดี
อย่าให้เด่นจะเป็นภัย
ไม่มีใคร - เขาอยากเห็นเราเด่นเกิน  
ข้าจึงแย้งเขาในทันทีทันใดว่า
ถ้าเป็นเช่นนั้นคนที่เขาคิดจะทำความดี
คงไม่มีใคร - มีกะจิตกะใจอยากจะทำความดีกันอีกแล้ว
เพราะคิดจะทำความดี...
แล้วยังมีเรื่อง...ต้องมากลัวโน่นกลัวนี่อีก ( เซ็งจริงๆโว้ย เกิดมาเป็นคนนี่... )
 
เขากลับตอบข้าว่า
ช่วยไม่ได้
เพราะโลกของความเป็นจริงมักจะเป็นเช่นนี้
ยิ่งเป็นเรื่องของอำนาจและการเมือง
เราแทบจะเอาหลักทางจริยธรรมและศีลธรรมไปเกี่ยวข้องกับมันไม่ได้เลย
เพราะสาระธาตุแท้ของอำนาจและการเมือง
คือผลประโยชน์ - ที่มนุษย์มักจะช่วงชิงกัน มาทุกยุคทุกสมัย
และทุกวิธีการ - เพื่อให้ได้ผลประโยชน์นั้นมาครอบครองแต่เพียงฝ่ายเดียว
( เรื่องที่จะคิดตกลงแบ่งปันกันคนละครึ่งโดยสันติ เขาว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ในนิทานหลอกเด็ก เท่านั้น )
ส่วนเรื่องจริยธรรมและศีลธรรมมันเป็นเรื่องพื้นฐานการปฏิบัติธรรม
เพื่อให้คนลดละ ความโลภ โกรธ หลง ( ขี้งก ดุร้าย และงมงาย )
เพื่อให้คนมีความรักและเมตตาต่อกันและกัน
เพื่อจะได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน
เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันโดยสันติสุข - โดยไม่เบียดเบียนและทำร้ายกันและกัน
เพื่อจะได้เข้าถึงธรรมะและบรรลุนิพพาน - ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในทางธรรม
นี่คือเรื่องของศาสนา - มันเป็นสาระตรงกันข้ามกับเรื่องอำนาจและการเมือง ที่เป็นเรื่องของทางโลก
ที่มักจะหยิบยกเอาศาสนาและพระไปเป็นเครื่องมือ  
อย่างนั้นหรือ...
ข้าอุทานออกมาด้วยความงุนงง
 
ใช่
เขาย้ำอย่างหนักแน่น
และพูดกับข้าอย่างเชื่อมั่นว่า
คุณเคยเห็นหมาสองตัว
ต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายจนเลือดสาด - เพื่อแย่งก้อนเนื้อกันมั้ย
เคยเห็น
นั่นแหละ - นั่นแหละ เรื่องเดียวกันนั่นแหละ
แต่การต่อสู้แย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ - ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์
มันโหดร้ายและสลับซับซ้อนมากกว่าสัตว์หลายร้อยหลายพันเท่า
เพราะมนุษย์มิได้ต้องการครอบครอง - เพียงแค่ก้อนเนื้อเพียงก้อนเดียว เท่านั้น
อย่าคิดอะไรให้มากไปเลย ( กินเหล้ากันดีกว่า... )
สาระที่แท้จริงของการเมืองมันเป็นเช่นนี้แหละ
ไม่ว่าจะเป็นยุคนี้หรือยุคไหน
 
ใช่
นี่คือความคิด
และมุมมองใหม่เกี่ยวกับ ทักษิณ ชินวัตร
ที่เลยเถิดไปถึงเนื้อหาทางการเมือง ศาสนา และสังคม
ที่ข้าได้รับฟังมาจากชายขี้เมาซอมซ่อคนหนึ่ง - ในร้านขายเหล้าราคาถูกข้างถนน
ซึ่งออกจะฟังดูเถื่อนๆ และไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย
( เพราะมีแต่หลักวิชาก๊ง ไม่มีหลักวิชาการใดๆมารับรอง ฮ่า ฮ่า )
แต่ก็เป็นมุมมองที่แปลกใหม่และมีชีวิตชีวาดี
โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่ว่า - คนยิ่งเป็นคนดี
และพยายามแสดงการทำความดีในสังคมมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งเป็นอันตรายแก่ตัวเองมากเท่านั้น
เป็นเรื่องที่น่าเก็บมาคิดใคร่ครวญมิใช่น้อย
สวัสดี.
 
6 - 7 กรกฎาคม 2552
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ภาพของสุภาพสตรีสาวสวยสองคน กลางทุ่งหญ้าสีน้ำตาล ณ ท่ามแสงตะวันสีทองชวนฝันทั้งสองภาพนี้ เป็นภาพของ คุณเจี๊ยบ - อรวรรณ ชมพู (คนซ้ายมือ)ที่สวยแบบคมเข้ม และ คุณนาย - มาลานชา (คนขวามือ) ที่ผมเคยนำภาพ Portrait ขาวดำที่สวยแบบหวานคลาสสิกของเธอ มาลงเป็นภาพประกอบเรื่อง “ความอ่อนแอ” ในตอนก่อน เป็นภาพถ่ายจากฝีมือการถ่ายของ Tou paycheck ซึ่งคนเดียวกันกับที่ถ่ายภาพ portrait ขาวดำของเธอ ในวันที่คุณมาลานชาและคุณ Tou paycheck อดีตเพื่อนร่วมชั้นมัธยมจากดาราวิทยาลัย ได้ชักชวนกันเดินทางไปให้กำลังใจคุณอรวรรณที่กำลังจะเปิดร้านกาแฟชื่อ ชมพู แบบเป็นทางการที่บ้านแม่ข้อน ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  Normal 0 false false false EN-US X-NONE TH /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin-top:0cm; mso-para-margin-right:0cm; mso-para-margin-bottom:10.0pt; mso-para-margin-left:0cm;…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
      ครับ จั่วหัวเรื่องข้างบนนี่ คือชื่องานคอนเสิร์ต ของคุณ กฤตน ชัยแก้ว หรือที่เพื่อนฝูงนักดนตรีและแฟนเพลงในเชียงใหม่ให้ฉายากันว่า MAEW.Mp3 ตามชื่อเล่นว่า แมว ที่เขาเดาะเขียนเป็นภาษาอังกฤษให้เท่กันเล่นๆ ส่วนคำว่า Mp3 ที่ต่อท้ายเป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงความสามารถของเขาที่สามารถเล่นกีตาร์และร้องได้แทบทุกแนว ตั้งแต่เพลงไทยสากล เพลงลูกทุ่ง เพลงคำเมือง เพลงเพื่อชีวิต เพลงสากล ฯลฯ ทั้งเก่าและใหม่ ประมาณว่าถ้าเขาเล่นดนตรีประจำอยู่ในร้านไหน ไม่ว่าแขกจะขอเพลงอะไร ยากนักที่จะผิดหวัง  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมรู้จักสุดสะแนน
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  โคลสใบหน้า ถนอม ไชยวงษ์แก้ว บนเวทีคืนนั้น ภาพโดย บัณรส บัวคลี่ Normal 0 false false false EN-US X-NONE TH MicrosoftInternetExplorer4 /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    ผมต้องขออภัย ที่เงียบหายไปค่อนข้างนานจนผิดปกติโดยมิได้บอกกล่าว เรื่องของเรื่องก็คือ ช่วงเวลาที่ผมเงียบหายไปจนถึงบัดนี้ ผมกำลังตกอยู่ในภาวะที่มีแต่เรื่องที่ต้องหมกมุ่นกับตัวเอง ตอนนี้หลายๆเรื่องกำลังคลี่คลายและพ้นผ่านไปแล้ว  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมรู้จักแซมมานานหลายปี ตั้งแต่ผมทำงานเล่นดนตรีอยู่ที่ร้านสายหมอกกับดอกไม้ ของคุณอันยา โพธิวัฒน์ ที่ตั้งอยู่ริมถนนวงแหวน 700 ปี หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงปลายๆ โดยการแนะนำของน้อย อัคนี มูลเมฆ มิตรสหายของเขาที่เคยร่วมทำงานข่าวชายแดนและสารคดีด้วยกันมาหลายครั้ง ซึ่งต่อมาเขาได้กลายเป็นแขกประจำร้าน ที่ผมมักจะเชิญให้ขึ้นมาร้องเพลงรักเก่าๆที่หาฟังได้ยาก หาคนร้องได้ยาก ที่เขาชอบและร้องได้ดี เข้าถึงอารมณ์เพลงได้อย่างลึกซึ้ง และมีความสุขจนเราสัมผัสได้ และเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน เพราะเขาร้องมันออกมาจากหัวใจนั่นเอง  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  คือแม่น้ำและขุนเขาอันขรึมขลัง คือพลังคีตการอันหวานไหว คือจิตวิญญาณล้านนาไทย คือดอกไม้สวยสะคราญบานนิรันดร์  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
บางครั้ง ชีวิตคนก็ถูกต้อนมาถึงมุมอับ ที่ซึ่งไม่มีทางไปต่อ และไร้หนทางถอยหนี ในสถานการณ์เช่นนั้นเขาจะทำอย่างไร  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  เมื่อพูดถึงคำว่า“เสรีภาพ” คำ คำนี้ช่างมีพลังอย่างแปลกประหลาด ทำให้รู้สึกดึงดูดเย้ายวนใจสำหรับคนบางคน พอๆกับที่ก่อให้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวกับคนบางคน ยิ่งไปกว่านั้นบางคนปรารถนาเสรีภาพ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกหวาดหวั่นอยู่ลึกๆ เรียกร้องอยากจะได้มา และก็กลัวที่จะได้มันมาจริงๆ  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
"นางแบบภาพประกอบ สุธาทิพย์ โมราลาย คอลัมนิสต์วรรณกรรมกุลสตรี ถ่ายโดยผู้เขียน" เงินตรา ย่อมเป็นวัตถุที่ก่อความชื่นชมแก่มนุษย์โดยทั่วหน้า เป็นศุภนิมิตอันดีเลิศแก่วัฒนธรรมในสากลโลก เป็นหลักประกันแก่สังคม แก่จิตใจมนุษย์ชาติ  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
Normal 0 false false false MicrosoftInternetExplorer4 /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;}   สองสามวันก่อน ผมได้รับเมลจาก ขจรฤทธิ์ รักษา…