บ้านสวนลำไยอันร่มครึ้มของเธอ
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำที่ไหลระริกเริงร่าอยู่ชั่วนาตาปี
เธอคือสาวบ้านสวนลำไย - ที่ถูกผู้คนในหมู่บ้าน
กล่าวหาว่าเป็นคนเสียสติและไม่เต็มเต็ง
จนไม่เป็นที่ปรารถนาของชายใด
\\/--break--\>
ฉันยังจำได้เสมอ
เมื่อฉันพบเธอครั้งแรกที่บันไดท่าน้ำ
เธอนั่งจุ่มเท้าเปลือยเปล่าของเธอลงไปในสายน้ำ
และเพ้อฝันกับท่วงทำนองของสายน้ำไหลให้ฉันฟังว่า
เธออยากมีชายคนรักรูปงามเหมือนดาราภาพยนตร์สักคนหนึ่ง
พร้อมกับบ้านหลังเล็กๆทาสีฟ้าอ่อนไว้เป็นที่อยู่อาศัย
และมีเงินมากๆไว้นั่งกินนอนกินและซื้อเสื้อผ้ามาแต่งตัวสวยๆ
ไม่ต้องตรากตรำทำงานหนักอยู่กลางทุ่ง
และลำบากยากจนเหมือนทุกวันนี้
และทุกๆวัน
ยามฉันท่องเที่ยวไปตามถนนชนบทริมฝั่งแม่น้ำ
เวลาฉันแวะไปเยี่ยมเยียนเธอ
ผู้ชอบหลบมุมอยู่คนเดียวที่บันไดท่าน้ำ
เธอมักจะบ่นเพ้อกับท่วงทำนองของสายน้ำไหลให้ฉันฟังว่า
ชาตินี้ทั้งชาติ
เธอคงไม่มีวาสนาได้แต่งงานเหมือนคนอื่นๆ
เพราะนอกจากตัวฉันแล้ว
ยังไม่เคยปรากฏว่ามีชายใดมาเหลียวแลเธอ
และเธอมักจะถามฉันทีเล่นทีจริงอยู่เสมอว่า
ฉันเคยคิดรักเธอบ้างไหม...
ฉันเคยคิดจะแต่งงานกับเธอไหม...
ก่อนจะหัวเราะคิกคักกับสายน้ำไหลด้วยความเบิกบานใจ
บ้านสวนลำไยอันร่มครึ้มของเธอ
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำที่ไหลระริกเริงร่าอยู่ชั่วนาตาปี
เธอคือสาวบ้านสวนลำไย - ที่ถูกผู้คนในหมู่บ้าน
กล่าวหาว่าเป็นคนเสียสติและไม่เต็มเต็ง
จนไม่เป็นที่ปรารถนาของชายใด
แต่สำหรับฉัน
เธอคือหญิงผู้บริสุทธิ์.
หมายเหตุ ; งานเขียนชิ้นนี้ เป็นงานเขียนที่ผมได้รับแรงบันดาลใจ จากหญิงสาวชนบทริมฝั่งแม่น้ำขาน ที่เป็นชาวไทเขิน และเป็นญาติห่างๆทางแม่ผม ที่ผมมองเห็นความงดงามของเธอ...ในความเป็นคนที่ถูกสังคมตัดสิน ว่าเป็นคนเสียสติและไม่เต็มเต็ง และความฝันของเธอที่บอกเล่าแก่ผมอย่างซื่อๆ ยังเป็นตัวแทนความฝันหวาน...ของผู้หญิงมากมายหลายคน ที่ซุกซ่อนเอาไว้ในใจ งานชิ้นนี้อยู่ในรวมเล่มบทกวี ความรักอยู่ที่ไหน
ครับ อ่านงานที่เต็มไปด้วยข้อเท็จจริงที่น่าเหน็ดเหนื่อยจากผมมามาก ลองสลับฉากมาอ่าน งานโรแมนติก - ที่มีท่วงทำนองอ่อนโยนและเฟื่องฝัน เป็นการผ่อนคลายกันบ้างนะครับ ชีวิตที่เอาเป็นเอาตายกับเหตุผลและความจริงล้วนๆ แล้วไม่รู้จักปล่อยวางหรือผ่อนคลาย ทำให้คนเครียด แก่เร็ว และอายุสั้นครับ สวัสดี.
15 กรกฎาคม 2552
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่