Skip to main content

 

อ่าน ดู และฟัง

เรื่องราว ของ ทักษิณ ชินวัตร

จากมุมมอง คนรัก ทักษิณ ชินวัตร สื่อสา

อ่าน ดู และฟังแล้ว ก็น่าเชื่อถือว่าเป็นความจริง

ตามที่เขาว่า ทักษิณ ชินวัตร มิได้เป็นคนโกง

แต่ถูกเขากลั่นแกล้งทำลาย

อ่าน ดู และฟัง

เรื่องราว ของ ทักษิณ ชินวัตร

จากมุมมอง คนเกลียด ทักษิณ ชินวัตร สื่อสาร

อ่าน ดู และฟังแล้ว ก็น่าเชื่อถือว่าเป็นความจริง

ตามที่เขาว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนโกงจริงๆ

มิได้ถูกกลั่นแกล้ง

 

อ่าน ดู และฟัง

เรื่องราว ของ ทักษิณ ชินวัตร

จากมุมมอง คนไม่รักไม่เกลียด ทักษิณ ชินวัตร สื่อสาร

อ่าน ดู และฟังแล้ว ก็น่าเชื่อถือว่าเป็นความจริง

ตามที่เขาว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นบุคคลที่มีทั้งความดีและความไม่ดี

เหมือนปุถุชนคนธรรมดาทั่วๆไปอย่างเราๆท่านๆ

ที่มีความโลภ โกรธ หลง และผิดพลาดกันได้ทุกคน

เพียงแต่ว่าความผิดพลาด ของ ทักษิณ ชินวัตร ในอดีตสมัยที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรี

ที่เกิดจากการหลงระเริงในอำนาจที่มากเกินไป

อำนาจที่เขาคิดว่าไม่มีใครโค่นล่มเขาได้

เป็นความผิดพลาดทางสังคมที่เป็นเรื่องใหญ่โตแทบทุกเรื่องราว

โดยเฉพาะในเรื่องธุรกิจการค้า

ที่เขาก่อให้เกิดความไม่พอใจในเรื่องผลประโยชน์จากกลุ่มธุรกิจทุนเก่า

ที่นอกจากจะไม่ได้รับผลประโยชน์จากกลุ่มธุรกิจทุนใหม่ ของ ทักษิณ ชินวัตร

ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและทันสมัยจนใครตามไม่ทันในขณะนั้นแล้ว

ว่ากันว่า เขายังผูกขาด ไม่ให้ใครเข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดด้วยอำนาจบางอย่าง

ซึ่งวงการธุรกิจถือกันว่า การกอบโกยผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว

โดยไม่เปิดช่องให้ผู้อื่นมีส่วนได้ร่วมกอบโกยความมั่งคั่งด้วย

เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง

เพราะเป็นเรื่องที่ขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรง

จึงทำให้เกิดกลุ่มพันธมิตรฯคนเสื้อเหลืองจากกลุ่มธุรกิจทุนเก่า

ลุกขึ้นมาแสวงหาแนวร่วมและปลุกระดมมวลชน

ต่อต้านและขุดคุ้ย ระบอบทักษิณด้วยความเคียดแค้นชิงชัง และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

เขาจึงจำเป็นต้องถูกรัฐประหารในเวลาต่อมา

เพราะอำนาจที่เหลือล้นของเขาในขณะนั้น

ทำให้ไม่มีช่องทางใดๆให้ใครเข้าไปจัดการเขาได้

ท่ามกลางความไม่พอใจของนักประชาธิปไตยทั้งหลาย

ที่ยังเชื่อกันว่า ยังมีทางออกที่ดีกว่า การทำรัฐประหารซ้ำๆซากๆ

โดยเฉพาะนักประชาธิปไตยบนหอคอยงาช้าง

และนักประชาธิปไตยที่มาจากขบวนการฝ่ายซ้ายในอดีต

ที่ต่อต้านระบอบศักดินาอำมาตย์อย่างแน่วแน่แข็งขัน - มาตั้งแต่สมัย 6 ตุลาวิปโยค

จึงไม่มีอะไรแปลก...

ที่ชะตากรรมชีวิตของเขาจะต้องมีอันเป็นไป

ตามเหตุปัจจัยที่ต้องเป็นเช่นนี้

 

อ่าน ดู และฟัง

เรื่องราว ของ ทักษิณ ชินวัตร

จากมุมมอง ผู้คัดค้าน การยึดทรัพย์ ของ ทักษิณ ชินวัตร สื่อสาร

อ่าน ดู และฟังแล้ว ก็น่าเชื่อถือว่าเป็นความจริง

ตามที่เขาว่า เป็นเรื่องที่ไม่ไปควรยึดทรัพย์ ของ ทักษิณ ชินวัตร

แม้แต่สลึงเดียว

 

อ่าน ดู และฟัง

เรื่องราว ของ ทักษิณ ชิวัตร

จากมุมมอง ศาลฎีกา อ่านคำพิพากษาตัดสินยึดทรัพย์ ของทักษิณ ชินวัตร สื่อสาร

อ่าน ดู และฟังแล้ว ก็น่าเชื่อถือเป็นว่าเป็นความจริง

ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา

ว่าถูกต้องและชอบธรรมดีแล้ว

 

อ่าน ดู และฟัง

เรื่องราว ของ ทักษิณ ชินวัตร

จากมุมมอง ทักษิณ ชินวัตร มองดู ทักษิณ ชินวัตร สื่อสาร

สรุปได้ใจความสำคัญว่า

เขามิได้เป็นคนโกง

แต่เขาถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองโดยรัฐบาลรัฐประหาร

ที่ใช้อำนาจจากกองทัพทำการรัฐประหารเขา

และใช้สถาบันศาลสถิตยุติธรรมเป็นเครื่องมือทำลายเขาและครอบครัว

อ่าน ดู และฟังแล้ว ก็น่าเชื่อถือว่าเป็นความจริง

ตามคำเขาว่า เขาถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองเช่นนี้จริงๆ

 

นี่

คือเรื่องที่น่ามหัศจรรย์ของการสื่อสาร

ที่ทุกฝ่ายต่างสามารถสื่อสาร ความจริง ของแต่ละฝ่าย

ได้น่าเชื่อถือว่า ความจริ น่าจะเป็นอย่างที่เขาว่าด้วยกันทุกฝ่าย

นี่ ถ้าหากสถาบันศาลสถิตยุติธรรม

ที่พิพากษาตัดสิน ทักษิณ ชินวัตร

โดยครั้งแรก ทำให้เขาเป็นผู้ร้ายหนีข้ามแดน

ครั้งที่สอง ทำให้เขาเป็นบุคคลที่ต้องถูกยึดทรัพย์

และครั้งต่อไป กำลังเตรียมฟ้องเขาในคดีอาญา ที่ต้องติดคุกนับเป็นสิบปีขึ้นไป

ม่มีอำนาจบังคับให้ ความจริง ของศาลสถิตยุติธรรม เท่านั้น

ที่เป็น ความจริง ที่เราต้องเชื่อยิ่งกว่า ความจริง ของใครๆ

เสรีชนมากมายหลายคน

คงมีสิทธิ์ที่จะเชื่อ ความจริง อื่นๆ

ที่เขามองเห็นว่าน่าเชื่อถือกว่า ความจริง ของศาลสถิตยุติธรรม

อย่างออกหน้าออกตาและด้วยความปลอดภัย

จากสถาบันสังคมที่เราถูกพร่ำสอนมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยว่า

เป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่เราจะแตะต้องและลบหลู่ไม่ได้อย่างเด็ดขาด

และยิ่งศักดิ์สิทธิ์และ เฮี้ยน เป็นยิ่งนัก

เมื่อดำรงอยู่เคียงคู่กับรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร

 

โอ ทักษิณ ชินวัตร

วันเวลาแสนงาม - บนผืนแผ่นดินไทยของคุณ

ยังจะคงเหลืออยู่หรือเปล่าหนอ...

เพราะศึกครั้งนี้ของคุณใหญ่หลวงเป็นยิ่งนัก

เพราะคุณกำลังรบกับรัฐบาลที่มีทั้งกองทัพและอำนาจนิติรัฐ

คอยปกป้องคุ้มครองอย่างแข็งขัน

และแน่นหนายิ่งกว่า กำแพงเมืองจีน

อาเมน !

 

28 มีนาคม2553

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    เมื่อยังมีชีวิต จงหายใจเข้าไว้ หายใจแรงๆ และหายใจอย่างสดชื่น เพราะภาระหน้าที่ของชีวิตคือการมีชีวิต ชีวิตที่กระปรี้กระเปร่า และถ้าเป็นไปได้ควรต้องรื่นรมย์กับชีวิต บาปอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ (บางทีสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งปวง) คือการปฏิเสธชีวิต   การมีชีวิต
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    ฉันเป็นเท่าที่ฉันเป็น ฉันทำเท่าที่ฉันหวัง ฉันหวังเท่าที่ฉันเห็น ฉันง่ายฉันงามฉันแจ่มชัด ฉันเชื่อหนึ่งมากกว่าร้อย ฉันเชื่อคนมากกว่าลัทธิ ฉันเชื่อดินมากกว่าฟ้า ฉันเชื่อต้นหญ้ามากกว่าขุนเขา ฉันเชื่อสวนหลังบ้านมากกว่าป่าหิมพานต์ ฉันเชื่อวันนี้มากกว่าวันวาน ฉันง่ายฉันงามฉันแจ่มชัด ฉันไม่เชื่ออำนาจรัฐจากกระบอกปืน   ฉันเป็นเท่าที่ฉันเป็น.  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  อิสรภาพ   ฉันต้องการอิสรภาพ ที่จะได้เห็น ที่จะได้ยิน ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  เป็นที่ทราบกันดีว่า กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกฎหมายที่สร้างความทุกข์สาหัสให้แก่ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า “หมิ่นสถาบัน” มามากมายหลายคน เพราะกฎหมายนี้ถูกตราขึ้นมาอย่างกว้างๆไม่ระบุขอบข่ายความผิดให้ชัดเจน รวมทั้งกระบวนการจับกุม สอบสวน ดำเนินคดี ก็มิได้เป็นไปตามปกติทั่วไป มิหนำซ้ำการตีความบังคับใช้มาตรานี้ ว่ากันว่า เจ้าหน้าที่สามารถตีความใช้ได้อย่างกว้างขวาง และนักการเมืองมักจะใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงกันข้ามอยู่เสมอ และผู้ต้องคดีนี้นอกจากจะติดคุกติดตะรางแล้ว ยังถูกซ้ำเติมจากสังคมที่จงรักภักดีต่อสถาบันอย่างรุนแรง    
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    คือแม่น้ำและขุนเขาอันขรึมขลัง คือพลังคีตกานท์อันหวานไหว คือหนึ่งจิตวิญญาณล้านนาไทย คือดอกไม้สวยสะคราญบานนิรันดร์  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ย้อนกลับไปทบทวนดู คำประกาศหลังจากรับพระราชทานโปรดเกล้าฯของคุณยิ่งลักษณ์ตอนหนึ่งที่กล่าวว่า “อุปสรรคข้างหน้ายังรอเราอยู่มาก ทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ แต่ทั้งหมดมิใช่อุปสรรคขวางกั้นมิให้ทำงาน พร้อมที่จะอุทิศตัวด้วยความทุ่มเท เสียสละอดทน ทำงานแข่งกับเวลา ไม่เกรงต่อความลำบากใดๆ”
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    แล้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 และ เป็นนายกหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของเมืองไทย และเป็นคนที่ 52 ของโลก อย่างสมบูรณ์ โดยได้รับการโหวตเสียงจากที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 296 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง และงดออกเสียง 197 เสียง ก่อนจะได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ในวันที่ 8 สิงหาคม 2554 เวลา 18.40 น. ณ บริเวณตึกชั้น 7 ที่ทำงานพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางความยินดีของคนจำนวนมากมาย ที่สนับสนุนคุณยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    คราวที่แล้ว ผมนำเรื่อง “คนดีของคนเมือง และ คนดีของชนบท” ที่แตกต่างกัน จากบทสัมภาษณ์ที่ชื่อว่า “ความคาดหวังและความจริงของประชาธิปไตยแบบไทยๆ” ของ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ซึ่งให้สัมภาษณ์ลงนิตยสารสารคดี ฉบับเดือนตุลาคม 2543 ผมคิดว่าจะหยุดเพียงแค่นั้น แต่ก็หยุดไม่ได้ เพราะพบว่ายังมีประเด็นที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านอีกสองประเด็น ที่ยังเป็นเรื่องราวที่ยังดำรงอยู่ในปี 2544 และต่อไปอีกนานเท่าไหร่ ก็คงไม่มีใครรู้ เพราะมันเป็นรื่องของอนาคต  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
      ผมมักจะได้ยิน ผู้คนและสื่อต่างๆเกี่ยวกับการเมือง มักจะพูดกันให้ได้ยินอยู่เสมอว่า “คนชนบทเป็นคนเลือกตั้งรัฐบาล คนเมืองเป็นคนล้ม” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความจริงมาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีใครให้คำอธิบายที่ฟังดู สมเหตุสมผลและชอบธรรม ให้ฟัง ว่าทำไมคนเมืองที่หมายถึงคนชั้นกลาง จึงไม่ชอบรัฐบาลที่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ที่เป็นคนชนบทในประเทศ และช่วยกันล้มรัฐบาลที่เขาเลือกตามกติกา 
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
      ถึงแม้ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้รับการรับรองจาก กกต. ให้หลุดพ้นจากข้อหาไปช่วยขบวนแห่ที่เชียงราย ให้พ้นจากข่ายความผิดด้วยมติ 5 ต่อ 0 ท่ามกลางความโล่งอกของใครต่อใครมากมายหลายคน ที่ว่ากันว่า เป็นเพราะโพลเสียงจากประชาชน 80 เปอร์เซ็นต์ ต้องการคุณยิ่งลักษณ์นายกฯ (รวมทั้ง นปช.) เป็นกระแสกดดัน กกต. หรือเพราะเหตุใดก็ช่างเถิด แต่เราก็สามารถฟันธงกันได้เลยว่า อีกไม่นาน เราจะต้องได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศอย่างแน่นอน 
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
      ผมไม่แน่ใจว่า ก่อนที่คุณยิ่งลักษณ์ ว่าที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ คนสวย และกลุ่มมันสมองของพรรคเพื่อไทยจะชูนโยบายประชานิยม เพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำให้กรรมกรผู้ใช้แรงงานจาก 221 บาท เป็น 300 บาท และเพิ่มเงินเดือนให้แก่ผู้จบปริญญาตรีที่เริ่มเข้าบรรจุงานจาก 11,028 บาท เป็น 15,000 บาท
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมกำลังจะชวนใครต่อใคร เข้ามาคุยเรื่องปัญหาที่รัฐบาลใหม่จะต้องเข้ามาสะสางและแก้ไข จากข้อมูลของนักวิเคราะห์การเมืองท่านหนึ่งที่รวบรวมและชี้แนะเอาไว้ล่วงหน้าแก่รัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์เอาไว้