Skip to main content

 

 

 

ถึงแม้ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
จะได้รับการรับรองจาก กกต. ให้หลุดพ้นจากข้อหาไปช่วยขบวนแห่ที่เชียงราย ให้พ้นจากข่ายความผิดด้วยมติ 5 ต่อ 0 ท่ามกลางความโล่งอกของใครต่อใครมากมายหลายคน ที่ว่ากันว่า เป็นเพราะโพลเสียงจากประชาชน 80 เปอร์เซ็นต์ ต้องการคุณยิ่งลักษณ์นายกฯ (รวมทั้ง นปช.) เป็นกระแสกดดัน กกต. หรือเพราะเหตุใดก็ช่างเถิด แต่เราก็สามารถฟันธงกันได้เลยว่า อีกไม่นาน เราจะต้องได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศอย่างแน่นอน 

แต่ผมมาพิจารณาดู
ปัญหาต่างๆที่คุณยิ่งลักษณ์จะต้องเผชิญหน้ากับมัน นับตั้งแต่วันแรกที่คุณยิ่งลักษณ์ก้าวขึ้นไปเป็นนายกฯ ตั้งแต่ปัญหาส่วนตัว ปัญหาสัญญาประชาคม และอื่นๆอีกมากมาย ผมว่าโชคดีของคุณยิ่งลักษณ์ที่ได้เป็นนายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทย โดยมติเอกฉันท์จากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ มันเป็น มหาทุกขลาภ ของคุณยิ่งลักษณ์ เสียแหละมากกว่า
 
เพียงแค่ สัญญาประชาคมตอนหาเสียง ว่าจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้ผู้ใช้แรงงานจาก 221 บาท เป็น 300 บาท ต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรี จาก 11,028 บาท เป็น 15,000 บาท ยังไม่ทันจะได้ดำเนินการอะไร ก็ถูกองค์กรที่เป็นตัวแทนธุรกิจเอกชน นักวิชาการทางเศรษฐศาสตร์ ที่ผมเข้าใจว่าเป็นผ่ายทุน แห่แหนกันออกมาคัดค้านด้วยเหตุผลที่น่าเชื่อถือต่างๆนาๆ (เพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายเพิ่ม) โดยสรุปว่าเป็นผลเสียแก่ส่วนรวมมากกว่าผลดี
 
ในขณะที่ผลสำรวจของ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานงานไทย (คสรท.) ระบุว่าค่าแรงขั้นต่ำที่จะทำให้ผู้ใช้แรงงานมีชีวิตอย่างปกติในสังคมปัจจุบัน โดยไม่จมปลักดักดานอยู่กับความยากไร้ไปชั่วลูกชั่วหลาน คือ 421 / บาท / วัน
 
แต่ฝ่ายนายทุน ที่ร่ำรวยมหาศาลจากแรงงานผู้ยากไร้ หาได้ใส่ใจไม่ เพราะปรัชญาของทุนนั้นมักมองเห็นแต่กำไรสูงสุดของตัวเอง และยากนักที่จะมองเห็นแรงงานที่เป็นสำคัญกลไกในการผลิตอยู่ในฐานะที่เป็นมนุษย์ ที่ต้องกิน ต้องดื่ม ต้องนุ่งห่ม ต้องมีที่อยู่อาศัย ต้องเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องนอนหลับต้องพักผ่อน ฯลฯ เหมือนมนุษย์ทั่วๆไป แต่มักจะมองเป็นเครื่องมือในการผลิตเช่นเดียวกับเครื่องจักรกลเสียแหละมากกว่า นี่คือความโหดร้ายที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของทุนนิยมทุกยุคทุกสมัย
 
และว่ากันว่า10 กว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกที่เป็นตัวฉุดเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 123 แต่ค่าแรงขั้นต่ำของผู้ใช้แรงงาน เพิ่มขึ้นแค่ร้อยละ 27 แค่นั้นเอง
 
และผมเชื่อว่า ยากที่รัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์ ที่ให้ความฝันนี้แก่ผู้ใช้แรงงานตอนหาเสียง แล้วทำให้พวกเขาเทคะแนนให้แบบถล่มทลาย จะทำตามสัญญาประชาคมนี่ให้เป็นจริงได้ เพราะอำนาจกำหนดอัตราค่าจ้างที่แท้จริงอยู่ที่ผู้ประกอบการ และผู้รับจ้างที่จะต่อรองกัน รัฐมีสิทธิเพียงแค่รับรู้และรับรองเท่านั้น รวมทั้งเงินเดือนปริญญาตรีจบใหม่ 15,000 ก็ได้รับการคัดค้านอย่างแข็งขันเช่นเดียวกัน ยกเว้นรัฐจะออกกฎหมายเป็นผู้กำหนดให้ความเป็นธรรม โดยไม่ต้องเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆทั้งสิ้น แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากแสนยากที่จะทำได้ เพราะระหว่างอำนาจรัฐกับทุน ไม่ว่าจะอยู่ในระบอบการเมืองระบอบไหน เขาเป็นชู้รักที่สมสู่กันมานานแล้วตั้งแต่ดึกดำบรรพ์
 
และในขณะที่ยังไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทางฝ่ายคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ก็ได้ยื่นหนังสือถึงคุณยิ่งลักษณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้านโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท พร้อมกันทั่วประเทศเป็นวาระเร่งด่วน และหากไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงได้ภายในวันที่ 1 มกราคม 2554 ขบวนการแรงงานกว่า 37 ล้านคนทั่วประเทศ จะออกมาทวงถามเรื่องนี้กับรัฐบาล  
 
ครับ นอกจากสัญญาประชาคม ที่ตอกตรึงกางเขนคุณยิ่งลักษณ์ท่ามกลางสายตาของคนทั้งประเทศเรื่องนี้แล้ว ยังมีโจทก์อันโหดหินที่คุณยิ่งลักษณ์จะต้องเผชิญในวันที่ก้าวขึ้นไปรับตำแหน่งนายกฯ
1. เรื่อง คุณทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองที่เข้ามาวุ่นวายอยู่เบื้องหลังพรรคไทยเพื่อไทย ที่คุณยิ่งลักษณ์จะต้องตอบ เพราะต้องมีคนถามอย่างแน่นอน
2. เรื่อง บัญชีทรัพย์สินที่เกี่ยวโยงกับคดีขายหุ้นชินคอร์ป ที่จะต้องถูกขุดคุ้ยอีก
3. เรื่อง การถือหุ้น บ.แอลซีแอสเลท ซึ่งคำให้การในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดี 4.6 หมื่นล้านบาท อาจจะย้อนกลับมาเล่นงาน
4.รื่อง การเผชิญกับการซักฟอกจากฝ่ายค้านในสภาฯที่มองคุณยิ่งลักษณ์เป็นแค่มือใหม่หัดขับ ที่อาจจะทำให้คุณยิ่งลักษณ์เสีย SELF และไปไม่ถูก เพราะในรัฐสภาบ้านเมืองเรานั้น มี ส.ส.ประเภทถ่อยและหยาบคายกันมิใช่น้อย
5. เรื่อง การรับจำนำข้าวที่จะกระทบกลไกการตลาดให้บิดเบี้ยว
6.เรื่อง การแจกแท็บเล็ทให้แก่เด็กนักเรียนจะเป็นประโยชน์จริงแก่เยาวชนหรือไม่
7.เรื่อง ค่าครองชีพและปัญหาปากท้องของชาวบ้านที่พร่ำพูดตอนหาเสียงจะดำเนินการอย่างไร
8. เรื่อง ขบวนการสร้างความปรองดอง การนิรกรรมโทษ และพา คุณทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน จะเป็นชนวนที่ทำให้เกิดความรุนแรงจากฝ่ายที่เขาแอนตี้คุณทักษิณอย่างสุดขั้วหรือไม่
 
มันเป็นมหาทุกขลาภของคุณยิ่งลักษณ์โดยแท้ และผมก็ไม่แน่ใจ ว่าผมควรจะดีใจหรือเสียใจเพราะนอกจากปัญหาดังกล่าวแล้ว นักวิเคราะห์การเมืองผู้อาวุโสท่านหนึ่งได้วิเคราะห์แบบทำนายเอาไว้ว่า ถ้าขืนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังคิดอะไรเชยๆ และหลับหูหลับตาแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีแบบเครือญาติ และพวกพ้อง โดยไม่แยแสว่าคนที่แต่งตั้ง จะมีความรู้ความสามารถ เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่หรือไม่ รัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์จะต้องโดนเผด็จการนอกระบบ เช่นเดียวกับรัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาล สมัคร สุนทรเวช ไม่ช้าก็เร็ว
 
 ครับ ผมดีใจที่คุณยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯ แต่ผมก็ไม่อยากเห็นท่านนายกฯคนสวยของผม กลายเป็นคนแก่เกินวัยในพริบตา (พร้อมด้วยริ้วรอยของคนเจ้าเล่ห์) แบบคุณอภิสิทธิ์ ถึงแม้เงินเดือนและค่าอะไรต่อมิอะไรจิปาถะ รวมกันแล้วจะได้มากเกือบสองแสนกว่าบาทต่อเดือน แต่ผมมา (เสือก) คิดแทนคุณยิ่งลักษณ์ดูแล้ว ไม่คุ้มกันเลยครับ ถ้าหากคุณยิ่งลักษณ์ ต้องมาสูญเสียรูปสมบัติที่มีค่าที่สุดของลูกผู้หญิง ที่เสียไปแล้ว...
เงินกี่หมื่นกี่พันล้านก็ซื้อคืนไม่ได้
ก่อนวัยอันควร.
 
20 กรกฎาคม 2554
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่ 
 
 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    เมื่อยังมีชีวิต จงหายใจเข้าไว้ หายใจแรงๆ และหายใจอย่างสดชื่น เพราะภาระหน้าที่ของชีวิตคือการมีชีวิต ชีวิตที่กระปรี้กระเปร่า และถ้าเป็นไปได้ควรต้องรื่นรมย์กับชีวิต บาปอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ (บางทีสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งปวง) คือการปฏิเสธชีวิต   การมีชีวิต
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    ฉันเป็นเท่าที่ฉันเป็น ฉันทำเท่าที่ฉันหวัง ฉันหวังเท่าที่ฉันเห็น ฉันง่ายฉันงามฉันแจ่มชัด ฉันเชื่อหนึ่งมากกว่าร้อย ฉันเชื่อคนมากกว่าลัทธิ ฉันเชื่อดินมากกว่าฟ้า ฉันเชื่อต้นหญ้ามากกว่าขุนเขา ฉันเชื่อสวนหลังบ้านมากกว่าป่าหิมพานต์ ฉันเชื่อวันนี้มากกว่าวันวาน ฉันง่ายฉันงามฉันแจ่มชัด ฉันไม่เชื่ออำนาจรัฐจากกระบอกปืน   ฉันเป็นเท่าที่ฉันเป็น.  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  อิสรภาพ   ฉันต้องการอิสรภาพ ที่จะได้เห็น ที่จะได้ยิน ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  เป็นที่ทราบกันดีว่า กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกฎหมายที่สร้างความทุกข์สาหัสให้แก่ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า “หมิ่นสถาบัน” มามากมายหลายคน เพราะกฎหมายนี้ถูกตราขึ้นมาอย่างกว้างๆไม่ระบุขอบข่ายความผิดให้ชัดเจน รวมทั้งกระบวนการจับกุม สอบสวน ดำเนินคดี ก็มิได้เป็นไปตามปกติทั่วไป มิหนำซ้ำการตีความบังคับใช้มาตรานี้ ว่ากันว่า เจ้าหน้าที่สามารถตีความใช้ได้อย่างกว้างขวาง และนักการเมืองมักจะใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงกันข้ามอยู่เสมอ และผู้ต้องคดีนี้นอกจากจะติดคุกติดตะรางแล้ว ยังถูกซ้ำเติมจากสังคมที่จงรักภักดีต่อสถาบันอย่างรุนแรง    
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    คือแม่น้ำและขุนเขาอันขรึมขลัง คือพลังคีตกานท์อันหวานไหว คือหนึ่งจิตวิญญาณล้านนาไทย คือดอกไม้สวยสะคราญบานนิรันดร์  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ย้อนกลับไปทบทวนดู คำประกาศหลังจากรับพระราชทานโปรดเกล้าฯของคุณยิ่งลักษณ์ตอนหนึ่งที่กล่าวว่า “อุปสรรคข้างหน้ายังรอเราอยู่มาก ทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ แต่ทั้งหมดมิใช่อุปสรรคขวางกั้นมิให้ทำงาน พร้อมที่จะอุทิศตัวด้วยความทุ่มเท เสียสละอดทน ทำงานแข่งกับเวลา ไม่เกรงต่อความลำบากใดๆ”
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    แล้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 และ เป็นนายกหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของเมืองไทย และเป็นคนที่ 52 ของโลก อย่างสมบูรณ์ โดยได้รับการโหวตเสียงจากที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 296 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง และงดออกเสียง 197 เสียง ก่อนจะได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ในวันที่ 8 สิงหาคม 2554 เวลา 18.40 น. ณ บริเวณตึกชั้น 7 ที่ทำงานพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางความยินดีของคนจำนวนมากมาย ที่สนับสนุนคุณยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    คราวที่แล้ว ผมนำเรื่อง “คนดีของคนเมือง และ คนดีของชนบท” ที่แตกต่างกัน จากบทสัมภาษณ์ที่ชื่อว่า “ความคาดหวังและความจริงของประชาธิปไตยแบบไทยๆ” ของ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ซึ่งให้สัมภาษณ์ลงนิตยสารสารคดี ฉบับเดือนตุลาคม 2543 ผมคิดว่าจะหยุดเพียงแค่นั้น แต่ก็หยุดไม่ได้ เพราะพบว่ายังมีประเด็นที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านอีกสองประเด็น ที่ยังเป็นเรื่องราวที่ยังดำรงอยู่ในปี 2544 และต่อไปอีกนานเท่าไหร่ ก็คงไม่มีใครรู้ เพราะมันเป็นรื่องของอนาคต  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
      ผมมักจะได้ยิน ผู้คนและสื่อต่างๆเกี่ยวกับการเมือง มักจะพูดกันให้ได้ยินอยู่เสมอว่า “คนชนบทเป็นคนเลือกตั้งรัฐบาล คนเมืองเป็นคนล้ม” ซึ่งดูเหมือนจะเป็นความจริงมาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีใครให้คำอธิบายที่ฟังดู สมเหตุสมผลและชอบธรรม ให้ฟัง ว่าทำไมคนเมืองที่หมายถึงคนชั้นกลาง จึงไม่ชอบรัฐบาลที่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ที่เป็นคนชนบทในประเทศ และช่วยกันล้มรัฐบาลที่เขาเลือกตามกติกา 
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
      ถึงแม้ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้รับการรับรองจาก กกต. ให้หลุดพ้นจากข้อหาไปช่วยขบวนแห่ที่เชียงราย ให้พ้นจากข่ายความผิดด้วยมติ 5 ต่อ 0 ท่ามกลางความโล่งอกของใครต่อใครมากมายหลายคน ที่ว่ากันว่า เป็นเพราะโพลเสียงจากประชาชน 80 เปอร์เซ็นต์ ต้องการคุณยิ่งลักษณ์นายกฯ (รวมทั้ง นปช.) เป็นกระแสกดดัน กกต. หรือเพราะเหตุใดก็ช่างเถิด แต่เราก็สามารถฟันธงกันได้เลยว่า อีกไม่นาน เราจะต้องได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศอย่างแน่นอน 
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
      ผมไม่แน่ใจว่า ก่อนที่คุณยิ่งลักษณ์ ว่าที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ คนสวย และกลุ่มมันสมองของพรรคเพื่อไทยจะชูนโยบายประชานิยม เพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำให้กรรมกรผู้ใช้แรงงานจาก 221 บาท เป็น 300 บาท และเพิ่มเงินเดือนให้แก่ผู้จบปริญญาตรีที่เริ่มเข้าบรรจุงานจาก 11,028 บาท เป็น 15,000 บาท
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมกำลังจะชวนใครต่อใคร เข้ามาคุยเรื่องปัญหาที่รัฐบาลใหม่จะต้องเข้ามาสะสางและแก้ไข จากข้อมูลของนักวิเคราะห์การเมืองท่านหนึ่งที่รวบรวมและชี้แนะเอาไว้ล่วงหน้าแก่รัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์เอาไว้