Skip to main content

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

 
 
เงิน คือ อำนาจ
ที่สอนให้เราเรียนรู้เรื่องอำนาจต่างๆของมนุษย์
ได้อย่างรวดเร็วและลึกซึ้งยิ่งกว่าตำรับตำราใดๆ
เพราะถ้าคุณเข้าใจอำนาจเงิน
คุณย่อมสามารถที่จะเข้าใจอำนาจแทบทุกอย่างของมนุษย์
ที่มีอยู่ในโลกนี้ได้อย่างง่ายดาย
เพราะอำนาจต่างๆของมนุษย์ในโลกนี้
มักจะยอมสยบให้แก่อำนาจเงิน
 
อำนาจเงิน มีมากหรือน้อยเพียงใด
ย่อมขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่มีอยู่ในกำมือเรา
วันไหน ถ้าคุณรู้สึกว่าโลกทั้งโลกอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของคุณ
แสดงว่าคุณมีอำนาจเงินอยู่ในกำมืออย่างเหลือล้น
แต่วันไหน
ถ้าคุณเกิดความรู้สึกเศร้าหดหู่และลังเลใจเหลือเกิน
ที่จะต้องเลือกเอา...
ระหว่างการซื้ออาหารมื้อเย็นกับการซื้อยาแก้ปวดฟัน
ที่ปวดขึ้นมาอย่างกะทันหันจนเหลือที่จะทน
แสดงว่าอำนาจเงินในกำมือของคุณ
ตกต่ำลงจนถึงขั้นวิกฤตเป็นอย่างยิ่ง
 
เงิน เมื่อคุณลงมือใช้เงินจำนวนหนึ่ง
ซื้อข้าวสารถุงหนึ่งมาหุงกินที่บ้าน
อำนาจเงินตามจำนวนที่คุณใช้ซื้อแลกเปลี่ยน
ย่อมหมดไปกับข้าวสารถุงหนึ่งที่คุณได้มา
ด้วยเหตุนี้ - เราจึงต้องทำงานผลิตเงินกันอย่างซ้ำๆซากๆ
เพื่อนำเงินมาใช้เป็นเครื่องมือซื้อขายแลกเปลี่ยน
สิ่งต่างๆที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้
และตราบใดที่เรายังไม่สามารถทำการผลิตปัจจัย 4
ที่จำเป็นแก่การดำรงชีพได้ด้วยตนเอง
เราย่อมตกเป็นทาสของเงิน
ตั้งแต่เริ่มทำงานหาเงินได้ - จนกระทั่งถึงวันตาย
ตราบใดที่เรายังมิได้ร่ำรวยจนล้นฟ้า
 
เงิน แม้แต่คนโง่แสนโง่
แทบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาในโลกนี้
ก็ยังฉลาดไม่แพ้ใครในการคิดเกี่ยวกับเรื่องเงิน
โดยเฉพาะในเรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบ
นี่คือด้านดีที่สุดของเงินที่ทำให้สติปัญญาของมนุษย์
ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแตกต่างกันสารพัดอย่าง
เสมอภาคกันได้อย่างน่ามหัศจรรย์
 
เงิน เป็นสิ่งหอมหวานที่น่าปรารถนาที่สุด
และเป็นอันตรายที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของมนุษย์
เพราะเงินสามารถซื้อมนุษย์แทบทุกคนในโลกนี้ได้
ถ้าหากมีคนทุ่มเทจ่ายเงินค่าตัวให้เขา
ในราคาที่ทำให้เขา พึงพอใจ อย่างไม่อั้น
และสามารถทำให้คนทรยศหักหลังกัน
และลงมือฆ่ากันได้เหมือนผักเหมือนปลา
แม้แต่พี่น้องที่คลานออกมาจากท้องแม่เดียวกัน
 
เงิน ตามคำจารึกของไบเบิลที่กล่าวว่า
“เงินคือรากเหง้าของความชั่วร้ายทั้งหมด”
เป็นการตีความสัมพันธ์ระหว่างเงินกับมนุษย์ข้อนี้เอาไว้ผิด
ที่ถูกต้องคือ
“ความรักเงินของมนุษย์ คือรากเหง้าของความชั่วร้ายทั้งหมด”
 
เงิน ในโลกของมนุษย์
มีอำนาจยิ่งกว่าอำนาจของพระเจ้า
ผู้ทรงรักมนุษย์และปรารถนาดีต่อมนุษย์ทุกคนในโลกนี้
ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนที่เลวร้ายสักเพียงใด
เพราะพระองค์ทรงถือว่า “มนุษย์ทุกคนในโลกนี้เป็นบุตรของพระองค์”
แต่พระองค์ก็ทรงยอมรับว่าในโลกของมนุษย์
อำนาจแห่งความรักของพระองค์ยังพ่ายแพ้แก่อำนาจเงิน
ดังที่พระคริสต์ทรงตรัสแก่สาวกของท่านตนหนึ่ง
ที่ร่วมทำงานรับใช้พระเจ้าด้วยกันในยุคหนึ่งว่า
“การที่คนร่ำรวยมั่งคั่ง หรือคนที่ติดยึดอยู่กับความร่ำรวยมั่งคั่ง
จะเข้ามาสู่อาณาจักรของพระเจ้า เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า
การนำอูฐทั้งตัวมาลอดผ่านรูเข็ม”
 
โอ พระเจ้าที่แสนดี
พระเจ้าที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาการุณย์
และความยับยั้งชั่งดวงพระหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง
แม้แต่จะลงโทษบุตรของพระองค์สักคนหนึ่ง
ที่กระทำแต่ความผิดบาป ตั้งแต่การฆ่า การลักขโมย
การผิดประเวณี การโกหกมดเท็จ การอกตัญญู
การเอารัดเอาเปรียบ กดขี่ข่มเหง ฯลฯ
ท่านยังอาจต้องรอเวลาและสถานที่อันเหมาะสมแก่การลงโทษ
หรือ จักประทานรางวัลให้แก่บุตรของพระองค์สักคนหนึ่ง
ที่กระทำแต่ความดีงามมาตลอดชีวิต
โดยไม่เคยตกหล่นแม้แต่สักกระผีกริ้น
ก็ยังอาจต้องรอ...
ให้เขาถูกตัดแข้ง ตัดขา หรือไม่ก็ถูกตัดคอเสียก่อน
เพื่อพิสูจน์ความเชื่อในพระองค์
แล้วจึงจะตกรางวัลให้แก่เขา
 
แต่อำนาจเงิน ในกำมือของมนุษย์
สามารถลงโทษและให้รางวัลแก่มนุษย์ด้วยกัน - ในทันทีทันใด
ไม่ว่าจะถีบใครสักคนลงไปสู่ขุมนรก
หรือวัดเหวี่ยงใครสักคนขึ้นไปบนสรวงสวรรค์
โดยไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขของกาลเวลา
และพื้นที่ทางสังคมใดๆมาจำกัดให้ยุ่งยากซับซ้อน
เพราะอำนาจเงินสามารถทำได้ทันที
ที่นี่และเดี๋ยวนี้...
 
 
                                                        
 
2 ตุลาคม 2554 - 10 สิงหาคม 2555
 กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่
 
 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
หล่อนเป็นผู้หญิง พาร์ทเน่อร์หรือบุตรีนักปราชญ์ หล่อนก็เป็นผู้หญิง รายละเอียดของชีวิตเท่านั้นที่อาจแตกต่างกัน แต่หล่อนก็เป็นผู้หญิง ผู้หญิงในยุครุ่งเรืองของพาราณศรี ผู้หญิงนุ่งบิกินีแถวริเวียร่า หรือผู้หญิงนั่งอยู่ในซ่องราคายี่สิบบาท หล่อนเป็นผู้หญิง มันเป็นความผิดหรือ ถ้าคุณจะรักผู้หญิงสักคน.  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  มาดามสนิทใจมีความสุขมาก เมื่อวันที่พ้องกลับจากทำงานพร้อมด้วยข่าวดี “คณะกรรมการบริษัทเห็นต้องกัน เลือกบทละครเรื่องยาวของผม” เขาบอกหล่อน “เห็นไหมหนิท นี่เช็คเงินสดห้าพันบาท ค่าล่วงหน้ายี่สิบห้าเปอร์เซ็น” พ้องชูแผ่นกระดาษที่มีความหมายนั้นขึ้นให้หล่อนดู กวัดแกว่งมันอย่างร่าเริง และส่งให้เมีย “ดิฉันดีใจด้วยค่ะ เงินจำนวนนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเรามากทีเดียว” “นั่นแล้วแต่หนิทจะจัดการอย่างไร”
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ครับ หัวชื่อเรื่องข้างบนนี่ มิใช่เรื่องที่ผมจะเขียน แต่เป็นชื่องานแสดงภาพถ่ายขาวดำและประวัติผลงาน ’รงค์ วงษ์สวรรค์ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ ที่เป็นแรงบันดาลใจ ทำให้คนหนุ่มสาวมากมายหลายคน และหลายรุ่น เดินเข้ามาสู่ถนนสายวรรณกรรม ซึ่งล่วงลับไปเมื่อต้นปีที่แล้ว และผมเลือกให้ฉายาแก่เขาว่า “พ่อมดแห่งภาษากวีมาดวิไลจากบ้านสวนทูนอิน”
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    สวัสดีปีใหม่ 2553 ถึงโลกยังทรามสังคมยังบัดสี ไม่เป็นไร เรายังพอ...มีความดี ณ วัน เดือน ปีใหม่...มอบให้กัน
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ผีเสื้อสีขาว จะบินไปไหน ไปหาดอกไม้ ใช่ไหมผีเสื้อ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  พระองค์ทรงตรัสกับสาวกของพระองค์ว่า อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตของตน ว่าจะเอาอะไรกิน และอย่ากระวนกระวายถึงร่างกายของตน ว่าจะเอาอะไรมานุ่งห่ม เพราะว่าชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหาร และร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่ม จงพิจารณาดูอีกา มันมิได้หว่านมิได้เกี่ยว และมิได้มียุ้งฉาง แต่พระเจ้ายังทรงเลี้ยงมันไว้ ท่านทั้งหลายประเสริฐกว่านกกามากทีเดียว มีใครในพวกท่านโดยความกระวนกระวาย อาจต่อชีวิตให้ยาวออกไปอีกศอกหนึ่งได้หรือ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    คืนดำ พายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง ฉันได้แต่นั่งซุกกายอยู่ในกระท่อม ณ ท่ามกลางปรากฏการณ์ของธรรมชาติที่เกิดขึ้น เฝ้ามองดูพายุฝนเกรี้ยวกราดโหมกระหน่ำซัดสาดสรรพสิ่ง เฝ้ามองดูสายฟ้าแล่บแปลบปลาบ เฝ้ามองดูสายฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้าง ณ ซอกมุมที่อบอุ่นและปลอดภัยที่สุด
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ครั้งหนึ่ง ชายคนหนึ่ง ขุดรูปสลักหินอ่อนที่สวยงามอย่างยิ่ง ได้จากท้องทุ่ง เขาจึงนำมันไปหานักสะสมของเก่า ซึ่งรักของสวยๆงามๆ และเสนอขายให้แก่เขา นักสะสมก็ซื้อไปในราคาสูง แล้วคนทั้งสองก็จากกัน
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ปลายปีที่แล้ว ผมได้รับข่าวฝากประชาสัมพันธ์การแสดงภาพเขียนสีน้ำของพิบูลศักดิ์ ละครพล ชื่อ "ภาพประทับจากการแรมทาง" จากหอศิลป์ริมน่าน จังหวัดน่าน ผ่านมาจนถึงปลายปีนี้ ผมก็ได้รับข่าวคราวการแสดงงานของเขาอีกครั้งหนึ่งจากคุณนิลจากร้านหนังสือ "2521" จังหวัดภูเก็ต ส่งอีเมล์ มาฝากข่าว เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์มาว่า
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  1.  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ฉันเป็นดอกไม้ริมทาง เบ่งบานอ้างว้างอยู่นอกรั้วบ้าน ไม่สวยแจ่มใสไม่งามตระการ ด้วยเกิดมาเบ่งบานตามบุญตามกรรม