Skip to main content

 

ตัดผมสั้นเกรียน

ไม่พูดไม่จา มือถือเอ็ม 16 มาดมั่น พร้อมจะปล่อยกระสุนเหล็กออกลำกล้องทุกวินาที ทหารพรานนี้จะมีกำลังทั้งหมดเท่าไร ไม่อาจทราบได้ เวลาพักจะเห็นนอนในเปลญวน ที่ผูกกับต้นไม้ตามป่าริมถนน ในเครื่องแบบที่พร้อมปฏิบัติการทุกวินาทีทีเดียว ทั้งสองคนทราบเพียงว่า กำลังทั้งหมดของทหารพราน ตั้งค่ายบนเนินดอยที่ห่างออกไปจากหมู่บ้านเล็กน้อย นอกจากนั้นก็มีทหารหน่วย ฉก.327(หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจที่ 327) ตั้งหน่วยอยู่ใกล้กับโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้าน ในด้านตำรวจภูธร มีสถานีตำรวจอยู่ใกล้ที่ว่าการอำเภอ ซึ่งอยู่ในตำบลเวียงแหง เป็นกำลังเสริมอีกด้านหนึ่ง

 

เช้าวันนั้น

แสงแดดสาดส่องสว่างไปทั่ว อากาศปลอดโปร่งเหมาะกับการเดินทาง ผู้โดยสารนำกระเป๋ามานั่งรอรถประจำทาง ที่ร้านอาหารเจ๊อิ้ด ทุกคนมีสีหน้าร่าเริงสบายใจที่ฝนไม่ตก เดินทางกลับบ้านจะได้ราบรื่น โรงเรียนปิดยาวหลายวัน ข้าราชการในพื้นที่อำเภอเวียงแหง จะกลับบ้านกันมาก อาจารย์ศักดิ์รพีนั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ อาจารย์เพชรเป็นผู้ขับขี่ เป็นรถจักรยานยนต์ยามาฮา เอ็นดูโร่ วงล้อใหญ่ ดอกยางเป็นบั้งๆ เหมาะสำหรับวิ่งเส้นทางบนดอย ยางชนิดนี้จะจับถนนได้มั่นคง ตัวรถสูงโย่ง เวลาจอด คนที่สูงตั้งแต่ 170 เซนติเมตรขึ้นไป จึงจะวางเท้าบนพื้นได้เต็มฝ่าเท้า รถชนิดนี้เหมาะกับการวิ่งทางมหาวิบาก เป็นโคลนเป็นฝุ่น เป็นร่องหินผาเล็กๆที่น้ำไหลผ่าน คนขับที่ชำนาญภูมิประเทศ จะบังคับรถให้วิ่งตามร่องนี้ ยางรถมีขนาดใหญ่กว่าร่องหิน ยางที่เป็นดอกลึกจะจับพื้นอย่างมั่นคง คนที่นั่งซ้อนครั้งแรกจะกลัวและคิดว่าอันตราย แต่คนขับที่มีประสบการณ์กลับบอกว่า มั่นคงปลอดภัยกว่าทางปรกติเสียอีก รถเริ่มออกวิ่ง อาจารย์ทั้งสองโบกมือทักทายคนรู้จัก อาจารย์เพชรพารถสู่ถนน เส้นทางเวียงแหงกับปากทางแม่จาอำเภอเชียงดาว

 

ท้องฟ้า

มองเห็นเป็นน้ำเงินสดใส มีเมฆเป็นหย่อมลอยเคว้งประดับฟ้า แสงแดดแจ่มใส สาดกระจายตามมถนนและป่าสนข้างทาง เสียงเครื่องยนต์ดังก้องป่าเขา นกป่าไก่ป่าร้องรับธรรมชาติอย่างร่าเริง แวบหนึ่งที่มองไปยอดไม้ข้างทาง อาจารย์ศักดิ์รพีเห็นไก่ป่าตัวลายเกาะยอดไม้ เมื่อเห็นรถมาก็โผบินหลบไป ทั้งสองคนพูดคุยกันบ้าง ปล่อยอารมณ์ไปตามจินตนาการของตน ไม่พ้นคิดถึงบ้าน คิดถึงคนในครอบครัว คิดถึงเพื่อนสนิท การท่องเที่ยวกับคนรู้ใจ รถวิ่งผ่านน้ำแตะมาแล้ว ฝนไม่ตกน้ำตื้น รถจึงวิ่งผ่านสบาย ล้อรถที่ค่อนข้างใหญ่ หมุนทับลงบนน้ำจนแตกเป็นปีกทั้งสองด้าน ล้อมีดอกเป็นบั้งๆหมุนผ่านบนทรายบนกรวดหิน คนทั้งคู่คงเหมือนคาวบอยสองคน นั่งบนหลังม้าสูงใหญ่ กำลังพาม้าคู่ใจเหยาะย่างข้ามธารน้ำไม่ผิด รถจักรยานยนต์พาทั้งสองวิ่งได้สักครู่ กำลังเลี้ยวโค้งถนน ทั้งคู่เจอภาพไม่คาดฝัน ชายคนหนึ่งผิวคล้ำ โพกศีรษะด้วยผ้าขาวม้าลาย เสื้อยาวสีเขียวเก่า ถือเอ็ม 16 ในมือ ร้องเสียงดัง

โย ! โย ! ”

เป็นภาษาไทยใหญ่แปลว่าหยุด ท่าทางมันดูลังเลเล็กน้อย อาจารย์เพชรหยุดรถ ตะแคงรถลง รถกระตุกเครื่องดับ อาจารย์ศักดิ์รพีรับรู้เหตุการณ์อย่างว่องไว ส่วนอาจารย์เพชรผู้ขับขี่ พอลงรถได้ หันหลังกลับวิ่งย้อนไปยังทิศทางไปแม่น้ำแตะ อาจารย์ศักดิ์รพีถอยหลังไป 2-3 ก้าว มือขวาล้วงลงไปในยามที่สะพายบ่า มันพอดีอะไรอย่างนั้น อุ้งมือขวาสัมผัสด้ามปืน .38 เขารีบดึงออกมา พร้อมกับเดินถอยหลัง บอกกับตนเองว่าเป็นรองด้านอาวุธ เลี่ยงหนีไม่ได้เสียแล้วไม่มีทางให้เลือกอื่น แล้วหงายหลังหล่นลงไปในหลุม ที่ใหญ่กว่าตัวเล็กน้อยอย่างบังเอิญ กระสุนเอ็ม 16 ระเบิดสนั่นป่า เสียงดังกึกก้องจนหูอื้อ ลูกกระสุนโปรยปรายเฉียดศีรษะอาจารย์ศักดิ์รพีแบบขนหัวลุกอย่างน่าหวาดเสียว เศษดินเศษหินเล็กๆกระจายฟุ้ง คมกระสุนฉีกใบไม้แห้งบนดินปลิวว่อน ความเป็นความตายใช้เวลาเพียงหายใจสั้นๆเฮือกหนึ่ง พร้อมกับปืนขนาด .38 ลำกล้อง สี่นิ้วในมืออาจารย์หนุ่ม ระเบิดโต้ตอบสามนัดซ้อน มันผลุบหายเข้าป่าข้างทาง อาจารย์ศักดิ์รพี รีบคลานออกหลุมอย่างระมัดระวังเต็มที่ มือขวาถือปืนกระชับแน่น เหลืออีก 3 นัด หากปะทะอีก จะเสียเปรียบมาก มันต้องมามากกว่าหนึ่งคน

ส่วนอาจารย์เพชรวิ่งสุดฝีเท้า ความตกใจทำให้เขาวิ่งเร็วกว่าปรกติ กระโดดข้ามลำน้ำแตะพ้นอย่างเหลือเชื่อ มีแรงเท่าไร รวมพลังไว้ที่สองเท้า ที่สุดมาถึงโรงเรียนบ้านเวียงแหงที่ตนเองสอน พูดละล่ำละลักแทบไม่รู้เรื่อง หน้าอกขยับขึ้นลงเร็วถี่ตามแรงหายใจ เหงื่อโซมหน้าโซมกาย เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้รู้จัก บอกทหารบอกตำรวจ ครูท่านอื่นขับจักยานยนต์ไปบอกอาจารย์ใหญ่ บางคนหาน้ำหาผ้ายาดมมาให้อาจารย์เพชร เมื่ออาจารย์ใหญ่มาถึง ได้รวมพลังคณะครู ชาวบ้านที่เป็นผู้ชาย ขึ้นรถกระบะบ้าง รถยนต์บ้าง มีอาวุธอะไรก็ติดตัวไป เร่งรีบมาที่เกิดเหตุ ในใจร้อนรนนั้นเป็นห่วงอาจารย์ศักดิ์รพีกัน

 

มาถึงที่เกิดเหตุ

เห็นแต่รถจักรยานยนต์ล้ม รอยกระสุนเอ็ม 16 ตรงปากหลุม หยดเลือดบริเวณคนร้ายยืนอยู่ อาจารย์เพชรเล่าเรื่องให้ทหาร ตำรวจ และคณะครูและผู้ที่มาฟังเป็นระยะ ได้ลงความเห็นร่วมกันว่า ให้ออกค้นหาอาจารย์ศักดิ์รพี อย่าเพิ่งสรุปว่าเป็นอย่างไร ทุกคนแยกย้ายกันกระจายค้นหา ต่างกู่ก้องป้องปากเรียกหาอาจารย์ศักดิ์รพี เสียงเรียกหาระงมไปทั้งป่า ป้องปากเรียกชื่อ บอกว่าเป็นใคร เป็นกลุ่มมาช่วยเหลือ หากได้ยินรีบส่งเสียงตอบด้วย สักครู่ได้ยินเสียงกู่ตอบมาจากกอไผ่ ทุกคนส่งสัญญาณบอกทั่วกันว่าพบแล้ว ให้มารวมกัน ทุกคนรีบเข้ามาหาอาจารย์ศักดิ์รพี ที่เดินเข้ามาหา หน้าตายังบอกแววตระหนก อาจารย์ใหญ่ตบบ่าตบไหล่ เพื่อนสนิทเข้ามากอด ต่างสอบถามอาการ สำรวจสภาพร่างกาย อาจารย์ศักดิ์รพีปลอดภัย จึงพากันย้อนกลับที่ว่าการอำเภอ อาจารย์ใหญ่บอกว่า ต้องแจ้งเหตุการณ์ร้ายแรง ให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับโดยด่วนที่สุด... ต่อมาอาจารย์ศักดิ์รพีได้รับคำสั่ง ให้ย้ายไปอำเภอเชียงดาวภายใน 24 ชั่วโมง อาจารย์เพชรสอนที่โรงเรียนบ้านเวียงแหงดังเดิม.

 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
รัฐภาค เพื่อนรักยิ่ง เป็นไงบ้าง คลายเครียดหรือยังล่ะ ไม่มีกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ยกขบวนแสดงพลังอะไรต่อไป กันมองเป็นเรื่องที่น่าศึกษา เป็นเรื่องของการพัฒนา การแก้ไข การสร้างถนนสายใหม่ อำนาจประชาชนเป็นอำนาจที่มีพลังยิ่งใหญ่ แต่ต้องเป็นอำนาจที่ยึดกฎหมายเป็นกรอบ กันว่าอำนาจทั้งสามต้องสมดุลกัน คือ อำนาจบริหาร (รัฐบาล) ตุลาการ (ศาล) นิติบัญญัติ (รัฐสภา) กันหมายถึงว่า คานอำนาจกันไว้ ไม่ให้หนักไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ในเวลานี้ เราอยู่ได้ก็เพราะศาล กันอยากถามแกเกี่ยวกับบ้านเมืองของเราสักหน่อย เพราะแกสนใจข่าวการบ้านการเมืองตั้งแต่เรียนมัธยมต้น ส่วนกันไม่ค่อยสนใจเท่าไร มันปวดหัวน่ะ
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
สถานที่ แข่งบ้องไฟเป็นทุ่งนาเก่า อยู่ใกล้ๆที่ว่าการอำเภอ กรรมการ 3 คน ผม ธาตรี คุณโพยม นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่   กระจายอยู่ห่างกัน คนละมุมมอง บ้องไฟส่งเข้าแข่งขัน  12  ราย กรรมการฝ่ายจุดชนวน นำบ้องไฟรายแรกไปโคนต้นไม้ กรรมการที่ไต่ต้นไม้เก่ง 2 คน  นำลำตัวบ้องไฟพาดง่ามไม้ จุดชนวน ปรากฏควันกรุ่นตรงหางบ้องไฟ   สะเก็ดประกายไฟฟู่ขึ้น  บ้องไฟพุ่งพรวดขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที  เสียงโห่ร้องของชาวบ้านที่มาชมมากมายดังขึ้น   รายแรกขึ้นสูงปานกลาง ควันมาก ผมกรอกคะแนนสบายใจ 7 คะแนน …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
งานลอยกระทงของอำเภอเวียงแหงผ่านพ้นไปแล้ว แต่ผลการตัดสินการประกวดกระทง ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์แพร่หลาย ไม่จางหายไปง่ายๆ บ้างกล่าวว่า กรรมการตัดสินลำเอียง ตัดสินให้กระทงบ้านเจ้าภาพของงานชนะเลิศ เพราะพากรรมการไปเลี้ยงดูปูเสื่อ บางกลุ่มว่าประธานกรรมการตัดสิน มีภรรยาเป็นชาวบ้านของกระทงที่ชนะเลิศ สารพัดของการณ์วิจารณ์ บ่งบอกการไม่พอใจ ไม่ยอมรับกรรมการตัดสินกระทงชุดนี้ เวลาผ่านไปเทศกาลวันเข้าพรรษาวนมาถึง ปีนี้นอกจากงานทำบุญแล้ว จะมีการประกวดบ้องไฟหรือบั้งไฟด้วยโดยบ้านเวียงแหงเป็นเจ้าภาพ หมู่บ้านใกล้ไกลได้รับแจ้งข่าว เชิญชวนส่งบ้องไฟเข้าประกวดเรื่องสำคัญที่ถูกหยิบยกมากล่าวถึงอีกได้แก่…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ใกล้สิ้นปีแล้วเหลืออีกเดือนเดียว เดือนธันวาคมเป็นเดือนสุดท้ายของปี ที่เวลาเดินเร็วที่สุด จำนวนวันก็เท่าๆกับเดือนอื่นๆ เราไม่ได้เร่งรัดวันเวลา ปล่อยวันในเดือนสุดท้ายเดินไปตามปรกติ เวลาเดินไปสม่ำเสมอ ภายใต้ความรู้สึกคึกคัก เหมือนมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษของเรา งานเลี้ยงรุ่นใกล้เข้ามาอีกปีหนึ่ง กำหนดคงเป็นต้นเดือนมกราคม 2552 จะได้พบเพื่อนที่เคยนุ่งกางเกงขาสั้นสีกากีเสื้อขาวอีกครั้ง หน้าตาคงเปลี่ยนไปตามวัยผมเผ้าน้อยลง หน้าเหี่ยวตีนกาขึ้น ลงพุงแข่งกัน ฟันฟางแท้ลดจำนวนฟันปลอมเข้ามาครองแทนที่ ไม่น่าดูเลย ช่างเป็นอนิจจังเสียจริง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ลูกเสือ ทุกหมู่ช่วยกันกางเต็นท์ ประกอบอาหาร มองเห็นควันไฟลอยกรุ่นสู่เบื้องบน ได้ยินลูกเสือพูดคุยกันแว่วมา นอกจากครูวีรภาพ และครูภาสกร ที่เป็นผู้กำกับลูกเสือแล้ว ยังมีท่านอื่นทำหน้าที่รองผู้กำกับลูกเสือ เริ่มมืดค่ำลงแล้ว แสงสว่างจากหลอดไฟฟ้าที่แขวนเป็นจุดๆ ทั่วค่ายลูกเสือส่องสว่างพอประมาณ เนื่องจากแขวนสูงและวางจุดห่างกันมาก สถานที่นี่เรียกกันว่าหน่วยอุทยานแห่งชาติศรีลานนา หรืออุทยานห้วยกุ่ม กิโลเมตรที่ 65 ฝั่งตะวันออกถนนเชียงใหม่-ฝาง ครูชาย ตั้งวงโขกหมากรุก เป็นกีฬาที่ครูชายในโรงเรียนกำลังนิยมไม่เว้นแม้ภารโรง เนื่องจากครูที่ย้ายมาใหม่จากกรุงเทพฯ ชื่อ “ภักดี”…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในวัยราว 6 ขวบ พ่ออุ้มผมที่บาดเจ็บตรงสะบ้าหัวเข่า เดินท่องน้ำที่กำลังท่วมผ่านสนามโรงเรียน ไปส่งห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นบาดแผลเกิดจากคมมีดที่ผมฟันกิ่งไม้แห้ง แล้วแฉลบมาโดนจนเนื้อแหว่ง ต้องทายาพันผ้ายาวคืบกว่า ตอนเย็นพ่อก็ไปรับอุ้มกลับบ้านอีกรอบ พ่อแม่ญาติพี่น้องให้ผมหยุดโรงเรียน แต่ผมรบเร้าจะไปโรงเรียนให้ได้ ฤดูหนาว เวียนมาถึง อากาศหนาวเย็น การอาบน้ำตอนเย็นเป็นเรื่องอิหลักอิเหลื่อของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ย่าตักน้ำใส่คุวางไว้กลางข่วงบ้าน (ลานบ้าน) ตั้งแต่เที่ยงวัน ตักอาบน้ำตอนเย็นจะได้อุ่น ใครขยันหน่อยตักน้ำใส่ปี๊บแล้วต้ม เป็นช่วง 40 กว่าปีมาแล้วยังไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมกับธาตรีสนิทสนมกันมากขึ้นผมเป็นหนุ่มใหญ่มีครอบครัวแล้วมาจากในเมืองเชียงใหม่ ธาตรีหนุ่มโสดผิวสีกาแฟลืมใส่นมวัยยี่สิบเศษมาจากกรุงเทพฯ เราทั้งคู่สูงต่ำพอกัน เวลาผ่านไปได้สองสัปดาห์ ผมชวนธาตรีเดินเตร่หาบ้านเช่าหลังใหม่ ได้บ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่อยู่ติดถนนริมทุ่งนา มีบ่อน้ำใสอยู่ข้างบ้าน ตกลงราคากันเรียบร้อย ผมชวนธาตรีมาอยู่ด้วยกัน เขาทำท่าอิดออด... ผมจึงโน้มน้าวว่า เราอยู่กันสามคนกับหัวหน้า การทำอะไรก็เกรงใจท่าน เราต้องสำรวมพอสมควรจะร้องเพลงเต้นแร้งเต้นกาก็ทำไม่สะดวก เห็นผู้หญิงสวยๆ ขาวๆ เดินผ่านหน้าบ้าน จะพูดจาทักทายเย้าแหย่ทำไม่ได้เต็มที่ ค่าเช่าบ้านไม่ต้องห่วง ผมเบิกได้…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
จำได้ว่า วันแรกที่ผมเดินทางมาถึงห้องทำงานที่ว่าการอำเภอเวียงแหง เป็นเดือนพฤศจิกายน2528 หัวหน้าหน่วยงานแนะนำให้รู้จักเจ้าหน้าที่งานต่างๆ ดูหน้าตาใครอาวุโสกว่าผม ผมยกมือไหว้ก่อนแล้วทักทาย ใครหนุ่มกว่าก็ทักทายเพียงวาจา ทุกคนอัธยาศัยดี เป็นกันเอง เด็กหนุ่มผิวเข้มคนหนึ่งทราบภายหลังว่าเป็นชาวกรุงเทพฯ ชื่อ ธาตรี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ยกมือไหว้ผม และกล่าวคำว่า “สวัสดีครับ” ผมรับไหว้กล่าวคำสวัสดีเช่นกัน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เปิดอัลบั้มเห็นภาพตนเอง ยืนคู่กับผู้บริหารโรงเรียน กอดอกวางมาดเท่ หน้าที่ว่าการอำเภอเวียงแหง สวมหมวกไหมพรมเสื้อกันหนาว ถุงมือ กางเกงสีทึมทึบและรองเท้าผ้าใบ ถ่ายนานหลายปี ภาพๆ เดียวทำให้เกิดภาพชีวิตจริงในอดีตปี 2530 ทยอยเคลื่อนมาสู่มโนคติมากมาย มันตื่นเต้นระทึก เข็ดขยาด น่าจดจำ ภาพรถติดโคลนยาวเหยียดบนดอย ภาพจอดรถจักรยานยนต์ ยืนกินข้าวเหนียวกับไส้อั่วกลางฝนกลางป่า ดื่มน้ำฝนที่ไหลผ่านหน้าผาก จมูก ผ่านปากกลั้วคอ ภาพบ่างโฉบจากต้นไม้ ภาพเป่าเขา ควาย เพิงขายของริมทาง ภาพนั่งเฮลิคอปเตอร์เลียบเลาะผ่านหุบเหว เหตุการณ์บนรถยนต์กลางดอยยามดาวสาดแสง ยุงกัดตลอดคืน ฝูงหิ่งห้อยบินส่องแสงวิบ ๆ กลางป่ามืด…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำใกล้ลับขอบดอย บอกการอำลาท้องฟ้าไปทุกขณะ ช่างเหมือนข้าราชการเกษียณ ที่ต้องอำลาชีวิตราชการในวันนี้ ทุกอย่างมีเริ่มและสิ้นสุด ผู้คนเริ่มทยอยเข้าร้าน “เงาจันทร์” ทุกคนนั่งประจำที่ เครื่องดื่มถูกลำเลียงบริการ ข้าราชการเกษียณนั่งเรียงกันครบ 12 คน อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ ผู้บริหารนั่งกระจายไป หัวหน้าการนั่งประจำหัวโต๊ะ ท่าทางผึ่งผายแย้มยิ้มสำรวม นักร้องครูชายหญิงที่เสียงเพราะพริ้งที่สุด สับเปลี่ยนกันเกริ่นกล่อมบรรยากาศ เสียงหัวเราะหยอกเย้า เสียงชนแก้วเริ่มคึกคัก ชิดชัยผู้อำนวยการโรงเรียนหนุ่ม จอดรถจักรยานยนต์ไว้หน้าร้าน โดยหันหน้าขึ้นในตำแหน่งทิศเหนือ ซึ่งบ้านของตนตั้งอยู่…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เมื่อผมย้าย มาอยู่ที่สามหลัง ได้รู้จักกับครอบครัวหนึ่ง บ้านใกล้กัน สามีภรรยาอยู่ในวัยทำงาน ขยันทั้งคู่ เขามีบุตรชาย คนหนึ่งเป็นเด็กที่น่าสนใจ น่าเรียนรู้ ผลการเรียนเกรด 4 ทุกวิชา ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ...อยู่ในครรภ์มารดา 7 เดือนเศษก็คลอด หลังคลอดต้องนอนห้องไอซียู อีก 1 เดือน เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ปอดไม่ปรกติ หมอต้องเจาะรักษา จากนั้นมานอนพักฟื้นที่ห้องพิเศษอีก 7 วัน จึงกลับบ้านได้ ขณะเรียนหนังสือ เวลาว่างชอบอ่านหนังสือเสมอ ปั่นจักรยานเล่นในหมู่บ้าน มือถือหนังสือ ท่อนแขนกดแฮนด์รถไว้ อ่านหนังสือไปด้วย จนคนในครอบครัวต้องว่ากล่าว เกรงจะได้รับอันตราย ในด้านสัมมาคารวะ ระเบียบวินัย…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
คำว่า “เพื่อน”มีความหมายมากมาย เป็นคนที่ไปเที่ยวด้วยกัน ช่วยเหลือกัน กินด้วยกัน มีอะไรในใจพูดได้ทุกอย่างพูดแล้วสบายใจ เป็นที่ปรึกษาปัญหาสารพัด ยืมเงินได้แต่ต้องใช้ตรงเวลา บางคนรักเพื่อนมาก เพื่อนทำผิดยังปกป้อง ก็ต้องพิจารณารักเพื่อนมากไปไหม เพื่อนผมคนหนึ่ง พ่อแม่เลิกกัน แม่แยกมาอยู่กับน้องสาว น้องสาวมีครอบครัว สามีน้องสาวคงไม่เต็มใจต้อนรับนัก เพื่อนผมมักมีเรื่องโต้เถียงกับสามีพี่แม่ ผมได้ยินครั้งหนึ่ง ทั้งคู่พูดกูมึง ซึ่งนับว่ารุนแรง แม่ผมคงรู้เรื่องนี้ดีและรู้จักคุ้นเคยกับแม่เพื่อน แม่ขี้สงสาร เห็นอกเห็นใจคน จึงบอกให้เพื่อนผมว่า“หากไม่สบายใจ..มาอยู่กับสันทัดก็ได้ มานอนที่บ้านแม่…