Skip to main content

เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา
“เจียงใหม่” ครั้งกระนั้นเป็นอย่างไร อยากฉายภาพให้คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันได้รับรู้ อยากเล่าเรื่องราวที่ผมได้พบเห็น ได้โลดแล่นบนแผ่นดินนี้ ได้เดินไปมาบนถนน ได้หายใจได้สัมผัส และยังเหลือร่องรอยเค้าเดิม มากบ้างน้อยบ้าง ให้ผู้คนในวันนี้ได้มองเห็นบ้านเรือน ถนนหนทาง สะพานนวรัฐ เจดีย์กิ๋ว เจดีย์หลวง ประตูท่าแพ ดอยสุเทพ ห้วยแก้ว ฯลฯ วัฒนธรรมอันดีงามของคนเมือง ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงเรื่องราวที่ผ่านมาไม่นานกับปัจจุบันได้ โดยสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ สิ่งตีพิมพ์เก่าได้ไม่ยากนัก


มีความจริงประการหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงนั้น มันไม่ใช่จะเปลี่ยนไปปุบปับรวดเร็วเหมือนภาพในจอโทรทัศน์ แต่มันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอย่างช้าๆ เช่น การสาดน้ำในวันสงกรานต์ ระหว่างวันที่
13- 15 เมษายน เดิมนั้นจะมีผู้คนเล่นน้ำกันหนาแน่นที่สะพานนวรัฐ หรือที่คนเมืองเรียกว่า “ขัวเหล็ก” แล้ว กระจายยาวตลอดถนนท่าแพ ถนนอื่นๆรอบเมือง มีการเล่นสาดน้ำกันเป็นจุด จุดหนึ่งมีหลายคน รอบๆคูเมืองไม่มีการเล่นน้ำเลย หรือน้อยมากๆ มีเพียงเด็กไม่กี่คนสาดน้ำ บางทีก็ว่ายน้ำในคูเมือง แต่วันนี้มีคนเล่นน้ำรอบคูเมืองกันแน่นหนามากเลย ถนนเต็มไปด้วยผู้คน รถราวิ่งไม่ได้ กลับกลายเป็นถนนคนเดิน ถนนคนเล่นน้ำ...เหตุการณ์ครั้งนั้น ผมยังอยู่ในวัยเด็ก เป็นวัยที่ว่ากันว่า จดจำเรื่องราวที่ผ่านมาได้ดี ปรากฏเป็นภาพชัดเจนในยามนึกถึง ขอเริ่มเลยนะครับ

ในวันเสาร์วันอาทิตย์
เด็กๆอย่างผมจะไปเที่ยวที่ไหน ห้วยแก้ว สวนรุกขชาติ สวนสัตว์ โรงหนัง ไกลออกไปอีกนิดเป็นดอยสุเทพ การไปดูหนังนั้น อายุราว 10-11 ขวบ พ่อแม่จะเป็นผู้พาไปดู โดยย่าจะบอกผมให้ทราบตั้งแต่ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน วันนั้นผมรู้สึกตื่นเต้น โรงเรียนเลิกรีบกลับบ้าน อาบน้ำกินข้าว แล้วย่าจะพาผมเดินออกบ้านตั้งแต่ตอนเย็น ไปถึงโรงหนังย่าจะซื้อตั๋วชั้นหน้าสุด ราคาใบละ 3 บาท ชั้นหน้าสุดมีม้านั่งยาวราว 5 แถว แยกเป็นสองฝั่ง มีทางเดินตรงกลางและสองข้าง ย่าหลานพากันไปนั่งแถวหลังสุด 2 ที่ ย่าล้วงเสื้ออีกตัวที่ซ่อนไว้มาวางที่ว่างระหว่างเราทั้งสอง กะเนื้อที่เท่ากับคนที่นั่งสองคน เป็นการจองที่เผื่อพ่อแม่ที่จะตามมาทีหลัง ย่าชอบดูหนังอินเดีย ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระศิวะ พระนารายณ์ ยักษ์มารทั้งหลาย ย่าบอกว่าเป็นเรื่องที่มีในธรรม

ส่วนแม่จะชอบหนังบู้ประเภทคาวบอยฝรั่ง เช่นเรื่อง “สองสิงห์เมืองเสือ” แสดงนำโดย เบิร์ตแลง คาสเตอร์ แกรี่ คูปเปอร์ “เชน”
(SHANE) แสดงนำโดย อแลน แลดด์ “เจ็ดคู่ชู้ชื่น” “แด่คุณครูด้วยดวงใจ” แสดงนำโดยพระเอกผิวหมึก ซิดนีย์ ปอยเตียร์ “แซมซั่น” เป็นหนังที่พระเอกทรงพลัง ถ้าถูกตัดผมจะหมดแรง มีฉากต่อสู้สิงโตด้วยมือเปล่า น่าดูมากครับ อีกเรื่องที่พระเอกทรงพลังคือ “เฮอร์คิวลิส” มีการแห่รถโฆษณาไปตามถนนต่างๆในเมืองเชียงใหม่ บนหลังรถมีนักกล้ามนุ่งผ้าเตี่ยวเล็กๆ ใส่หนวดเคราปลอมผมปลอม มีโซ่ผูกข้อมือ มีทหารถืออาวุธล้อมรอบ นางเอกนั่งทำตาละห้อยใกล้ๆพระเอก คนยืนดูตามริมถนน เด็กๆวิ่งตามกันเกรียว ฯลฯ


ส่วนพ่อดูได้หมด ไม่ขัดคอใคร จะชอบน้อยชอบมากไม่เคยพูดให้แม่เคือง ผมเลยติดนิสัยพ่อดูได้ทุกประเภท พอโตขึ้นอีกนิด กลางคืนในวันศุกร์วันเสาร์ หากไม่ทราบจะไปไหน ผมกับเพื่อน
4-5 คน เดินไปเที่ยวตามโรงหนังต่างๆ ไปดูรูปภาพหนังเรื่องต่างๆ ที่ติดในกระดานมีกระจกปิดตามหน้าโรง หน้ากระจกจะมีตัวหนังสือบอกว่า ฉายวันนี้ ฉายโปรแกรมหน้า เรียกตามภาษาพวกเราว่า “ดูหนังแผ่น” รวมทั้งดูคนมาเที่ยวและชมแสงสี

พวกเราจะเดินชมตั้งแต่โรงหนังศรีนครพิงค์ ซึ่งอยู่ปลายถนนราชวงค์ ต่อไปเป็นโรงหนังเวียงพิงค์
(เดิมชื่อศรีเวียง) ย่านช้างคลาน ชมหมดแล้วเดินย้อนออกมา เดินคุยกับเพื่อนมาตามถนนท่าแพ เดินมาครู่หนึ่งถึงร้านตันตราภัณฑ์ ตาก็มองดูรถราผู้คนตามถนน จนมาถึงโรงหนังศรีวิศาล (ตงก๊ก) หน้าโรงมีลานกว้างสำหรับฝากรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ เมื่อหนังเริ่มฉาย เสียงเพลงหน้าโรงจะปิดเงียบ ผู้คนจะเปลี่ยนเป็นโหรงเหรง โรงหนังนี้ห้องน้ำไม่ค่อยสะอาด เปิดผ้าม่านเข้าไป กลิ่นปัสสาวะฉุนกึก ผมเคยเข้าไปดูหลายครั้ง ก่อนหนังฉายต้องไปฉี่ ออกมาแทบเวียนหัวกับกลิ่นฉุนรุนแรงของห้องน้ำ ที่นั่งเป็นไม้ที่เป็นแถวยาว เป็นที่นั่งเดียวติดกันตลอดแถว แถวเก้าอี้วางเรียงอยู่สองฝั่งหน้าจอหนัง มีทางเดินตรงกลางและสองข้าง พอเปิดประตูโรงหนังเข้าไป จะเจอพัดลมตัวใหญ่เบ้อเริ่มตั้งบนพื้น ตรงกับทางเดินแถวกลาง ใบพัดลมเป็นสีแดง พัดแรงมากเสียงดังพับๆเมื่อเปิดครั้งแรกแล้วดังหึ่งๆ เมื่อพัดเร็วเต็มที่ ที่นั่งของผู้ชม บางตัวบางแถวจะมีตัวเรือดอาศัยอยู่ตามซอกหลืบของไม้ ดูหนังเพลินๆ มันจะกัดเจ็บจิ๊ดตรงก้น โคนขา บางทีมันเกาะกางเกงหรือกระโปรงไปขยายพันธุ์ที่บ้าน โรงหนังที่มีเรือด ได้แก่ ศรีนครพิงค์ ศรีวิศาล เวียงพิงค์

เมื่อเราดูหนังหมดทุกมุมแล้ว กำลังขาเด็กยังกระฉับกระเฉง ออกจากโรงย้อนมาทางเดิม เลี้ยวซ้ายไปตามถนนท่าแพทางทิศตะวันตก บนถนนรถราเริ่มเบาบาง รถยนต์ไม่มีมากมายนัก รถจักรยานยนต์มีบ้าง ที่มากเป็นจักรยาน รองลงไปเป็นสามล้อปั่น ถนนท่าแพเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางธุรกิจ ห้างตันตราภัณฑ์อยู่ตรงข้ามตรอกเล่าโจ๊ หรือซอยเมรุ โดยมีถนนท่าแพคั่นกลาง
.

 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
รัฐภาค เพื่อนรักยิ่ง เป็นไงบ้าง คลายเครียดหรือยังล่ะ ไม่มีกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ยกขบวนแสดงพลังอะไรต่อไป กันมองเป็นเรื่องที่น่าศึกษา เป็นเรื่องของการพัฒนา การแก้ไข การสร้างถนนสายใหม่ อำนาจประชาชนเป็นอำนาจที่มีพลังยิ่งใหญ่ แต่ต้องเป็นอำนาจที่ยึดกฎหมายเป็นกรอบ กันว่าอำนาจทั้งสามต้องสมดุลกัน คือ อำนาจบริหาร (รัฐบาล) ตุลาการ (ศาล) นิติบัญญัติ (รัฐสภา) กันหมายถึงว่า คานอำนาจกันไว้ ไม่ให้หนักไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ในเวลานี้ เราอยู่ได้ก็เพราะศาล กันอยากถามแกเกี่ยวกับบ้านเมืองของเราสักหน่อย เพราะแกสนใจข่าวการบ้านการเมืองตั้งแต่เรียนมัธยมต้น ส่วนกันไม่ค่อยสนใจเท่าไร มันปวดหัวน่ะ
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
สถานที่ แข่งบ้องไฟเป็นทุ่งนาเก่า อยู่ใกล้ๆที่ว่าการอำเภอ กรรมการ 3 คน ผม ธาตรี คุณโพยม นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่   กระจายอยู่ห่างกัน คนละมุมมอง บ้องไฟส่งเข้าแข่งขัน  12  ราย กรรมการฝ่ายจุดชนวน นำบ้องไฟรายแรกไปโคนต้นไม้ กรรมการที่ไต่ต้นไม้เก่ง 2 คน  นำลำตัวบ้องไฟพาดง่ามไม้ จุดชนวน ปรากฏควันกรุ่นตรงหางบ้องไฟ   สะเก็ดประกายไฟฟู่ขึ้น  บ้องไฟพุ่งพรวดขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที  เสียงโห่ร้องของชาวบ้านที่มาชมมากมายดังขึ้น   รายแรกขึ้นสูงปานกลาง ควันมาก ผมกรอกคะแนนสบายใจ 7 คะแนน …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
งานลอยกระทงของอำเภอเวียงแหงผ่านพ้นไปแล้ว แต่ผลการตัดสินการประกวดกระทง ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์แพร่หลาย ไม่จางหายไปง่ายๆ บ้างกล่าวว่า กรรมการตัดสินลำเอียง ตัดสินให้กระทงบ้านเจ้าภาพของงานชนะเลิศ เพราะพากรรมการไปเลี้ยงดูปูเสื่อ บางกลุ่มว่าประธานกรรมการตัดสิน มีภรรยาเป็นชาวบ้านของกระทงที่ชนะเลิศ สารพัดของการณ์วิจารณ์ บ่งบอกการไม่พอใจ ไม่ยอมรับกรรมการตัดสินกระทงชุดนี้ เวลาผ่านไปเทศกาลวันเข้าพรรษาวนมาถึง ปีนี้นอกจากงานทำบุญแล้ว จะมีการประกวดบ้องไฟหรือบั้งไฟด้วยโดยบ้านเวียงแหงเป็นเจ้าภาพ หมู่บ้านใกล้ไกลได้รับแจ้งข่าว เชิญชวนส่งบ้องไฟเข้าประกวดเรื่องสำคัญที่ถูกหยิบยกมากล่าวถึงอีกได้แก่…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ใกล้สิ้นปีแล้วเหลืออีกเดือนเดียว เดือนธันวาคมเป็นเดือนสุดท้ายของปี ที่เวลาเดินเร็วที่สุด จำนวนวันก็เท่าๆกับเดือนอื่นๆ เราไม่ได้เร่งรัดวันเวลา ปล่อยวันในเดือนสุดท้ายเดินไปตามปรกติ เวลาเดินไปสม่ำเสมอ ภายใต้ความรู้สึกคึกคัก เหมือนมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษของเรา งานเลี้ยงรุ่นใกล้เข้ามาอีกปีหนึ่ง กำหนดคงเป็นต้นเดือนมกราคม 2552 จะได้พบเพื่อนที่เคยนุ่งกางเกงขาสั้นสีกากีเสื้อขาวอีกครั้ง หน้าตาคงเปลี่ยนไปตามวัยผมเผ้าน้อยลง หน้าเหี่ยวตีนกาขึ้น ลงพุงแข่งกัน ฟันฟางแท้ลดจำนวนฟันปลอมเข้ามาครองแทนที่ ไม่น่าดูเลย ช่างเป็นอนิจจังเสียจริง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ลูกเสือ ทุกหมู่ช่วยกันกางเต็นท์ ประกอบอาหาร มองเห็นควันไฟลอยกรุ่นสู่เบื้องบน ได้ยินลูกเสือพูดคุยกันแว่วมา นอกจากครูวีรภาพ และครูภาสกร ที่เป็นผู้กำกับลูกเสือแล้ว ยังมีท่านอื่นทำหน้าที่รองผู้กำกับลูกเสือ เริ่มมืดค่ำลงแล้ว แสงสว่างจากหลอดไฟฟ้าที่แขวนเป็นจุดๆ ทั่วค่ายลูกเสือส่องสว่างพอประมาณ เนื่องจากแขวนสูงและวางจุดห่างกันมาก สถานที่นี่เรียกกันว่าหน่วยอุทยานแห่งชาติศรีลานนา หรืออุทยานห้วยกุ่ม กิโลเมตรที่ 65 ฝั่งตะวันออกถนนเชียงใหม่-ฝาง ครูชาย ตั้งวงโขกหมากรุก เป็นกีฬาที่ครูชายในโรงเรียนกำลังนิยมไม่เว้นแม้ภารโรง เนื่องจากครูที่ย้ายมาใหม่จากกรุงเทพฯ ชื่อ “ภักดี”…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในวัยราว 6 ขวบ พ่ออุ้มผมที่บาดเจ็บตรงสะบ้าหัวเข่า เดินท่องน้ำที่กำลังท่วมผ่านสนามโรงเรียน ไปส่งห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นบาดแผลเกิดจากคมมีดที่ผมฟันกิ่งไม้แห้ง แล้วแฉลบมาโดนจนเนื้อแหว่ง ต้องทายาพันผ้ายาวคืบกว่า ตอนเย็นพ่อก็ไปรับอุ้มกลับบ้านอีกรอบ พ่อแม่ญาติพี่น้องให้ผมหยุดโรงเรียน แต่ผมรบเร้าจะไปโรงเรียนให้ได้ ฤดูหนาว เวียนมาถึง อากาศหนาวเย็น การอาบน้ำตอนเย็นเป็นเรื่องอิหลักอิเหลื่อของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ย่าตักน้ำใส่คุวางไว้กลางข่วงบ้าน (ลานบ้าน) ตั้งแต่เที่ยงวัน ตักอาบน้ำตอนเย็นจะได้อุ่น ใครขยันหน่อยตักน้ำใส่ปี๊บแล้วต้ม เป็นช่วง 40 กว่าปีมาแล้วยังไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมกับธาตรีสนิทสนมกันมากขึ้นผมเป็นหนุ่มใหญ่มีครอบครัวแล้วมาจากในเมืองเชียงใหม่ ธาตรีหนุ่มโสดผิวสีกาแฟลืมใส่นมวัยยี่สิบเศษมาจากกรุงเทพฯ เราทั้งคู่สูงต่ำพอกัน เวลาผ่านไปได้สองสัปดาห์ ผมชวนธาตรีเดินเตร่หาบ้านเช่าหลังใหม่ ได้บ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่อยู่ติดถนนริมทุ่งนา มีบ่อน้ำใสอยู่ข้างบ้าน ตกลงราคากันเรียบร้อย ผมชวนธาตรีมาอยู่ด้วยกัน เขาทำท่าอิดออด... ผมจึงโน้มน้าวว่า เราอยู่กันสามคนกับหัวหน้า การทำอะไรก็เกรงใจท่าน เราต้องสำรวมพอสมควรจะร้องเพลงเต้นแร้งเต้นกาก็ทำไม่สะดวก เห็นผู้หญิงสวยๆ ขาวๆ เดินผ่านหน้าบ้าน จะพูดจาทักทายเย้าแหย่ทำไม่ได้เต็มที่ ค่าเช่าบ้านไม่ต้องห่วง ผมเบิกได้…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
จำได้ว่า วันแรกที่ผมเดินทางมาถึงห้องทำงานที่ว่าการอำเภอเวียงแหง เป็นเดือนพฤศจิกายน2528 หัวหน้าหน่วยงานแนะนำให้รู้จักเจ้าหน้าที่งานต่างๆ ดูหน้าตาใครอาวุโสกว่าผม ผมยกมือไหว้ก่อนแล้วทักทาย ใครหนุ่มกว่าก็ทักทายเพียงวาจา ทุกคนอัธยาศัยดี เป็นกันเอง เด็กหนุ่มผิวเข้มคนหนึ่งทราบภายหลังว่าเป็นชาวกรุงเทพฯ ชื่อ ธาตรี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ยกมือไหว้ผม และกล่าวคำว่า “สวัสดีครับ” ผมรับไหว้กล่าวคำสวัสดีเช่นกัน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เปิดอัลบั้มเห็นภาพตนเอง ยืนคู่กับผู้บริหารโรงเรียน กอดอกวางมาดเท่ หน้าที่ว่าการอำเภอเวียงแหง สวมหมวกไหมพรมเสื้อกันหนาว ถุงมือ กางเกงสีทึมทึบและรองเท้าผ้าใบ ถ่ายนานหลายปี ภาพๆ เดียวทำให้เกิดภาพชีวิตจริงในอดีตปี 2530 ทยอยเคลื่อนมาสู่มโนคติมากมาย มันตื่นเต้นระทึก เข็ดขยาด น่าจดจำ ภาพรถติดโคลนยาวเหยียดบนดอย ภาพจอดรถจักรยานยนต์ ยืนกินข้าวเหนียวกับไส้อั่วกลางฝนกลางป่า ดื่มน้ำฝนที่ไหลผ่านหน้าผาก จมูก ผ่านปากกลั้วคอ ภาพบ่างโฉบจากต้นไม้ ภาพเป่าเขา ควาย เพิงขายของริมทาง ภาพนั่งเฮลิคอปเตอร์เลียบเลาะผ่านหุบเหว เหตุการณ์บนรถยนต์กลางดอยยามดาวสาดแสง ยุงกัดตลอดคืน ฝูงหิ่งห้อยบินส่องแสงวิบ ๆ กลางป่ามืด…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำใกล้ลับขอบดอย บอกการอำลาท้องฟ้าไปทุกขณะ ช่างเหมือนข้าราชการเกษียณ ที่ต้องอำลาชีวิตราชการในวันนี้ ทุกอย่างมีเริ่มและสิ้นสุด ผู้คนเริ่มทยอยเข้าร้าน “เงาจันทร์” ทุกคนนั่งประจำที่ เครื่องดื่มถูกลำเลียงบริการ ข้าราชการเกษียณนั่งเรียงกันครบ 12 คน อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ ผู้บริหารนั่งกระจายไป หัวหน้าการนั่งประจำหัวโต๊ะ ท่าทางผึ่งผายแย้มยิ้มสำรวม นักร้องครูชายหญิงที่เสียงเพราะพริ้งที่สุด สับเปลี่ยนกันเกริ่นกล่อมบรรยากาศ เสียงหัวเราะหยอกเย้า เสียงชนแก้วเริ่มคึกคัก ชิดชัยผู้อำนวยการโรงเรียนหนุ่ม จอดรถจักรยานยนต์ไว้หน้าร้าน โดยหันหน้าขึ้นในตำแหน่งทิศเหนือ ซึ่งบ้านของตนตั้งอยู่…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เมื่อผมย้าย มาอยู่ที่สามหลัง ได้รู้จักกับครอบครัวหนึ่ง บ้านใกล้กัน สามีภรรยาอยู่ในวัยทำงาน ขยันทั้งคู่ เขามีบุตรชาย คนหนึ่งเป็นเด็กที่น่าสนใจ น่าเรียนรู้ ผลการเรียนเกรด 4 ทุกวิชา ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ...อยู่ในครรภ์มารดา 7 เดือนเศษก็คลอด หลังคลอดต้องนอนห้องไอซียู อีก 1 เดือน เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ปอดไม่ปรกติ หมอต้องเจาะรักษา จากนั้นมานอนพักฟื้นที่ห้องพิเศษอีก 7 วัน จึงกลับบ้านได้ ขณะเรียนหนังสือ เวลาว่างชอบอ่านหนังสือเสมอ ปั่นจักรยานเล่นในหมู่บ้าน มือถือหนังสือ ท่อนแขนกดแฮนด์รถไว้ อ่านหนังสือไปด้วย จนคนในครอบครัวต้องว่ากล่าว เกรงจะได้รับอันตราย ในด้านสัมมาคารวะ ระเบียบวินัย…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
คำว่า “เพื่อน”มีความหมายมากมาย เป็นคนที่ไปเที่ยวด้วยกัน ช่วยเหลือกัน กินด้วยกัน มีอะไรในใจพูดได้ทุกอย่างพูดแล้วสบายใจ เป็นที่ปรึกษาปัญหาสารพัด ยืมเงินได้แต่ต้องใช้ตรงเวลา บางคนรักเพื่อนมาก เพื่อนทำผิดยังปกป้อง ก็ต้องพิจารณารักเพื่อนมากไปไหม เพื่อนผมคนหนึ่ง พ่อแม่เลิกกัน แม่แยกมาอยู่กับน้องสาว น้องสาวมีครอบครัว สามีน้องสาวคงไม่เต็มใจต้อนรับนัก เพื่อนผมมักมีเรื่องโต้เถียงกับสามีพี่แม่ ผมได้ยินครั้งหนึ่ง ทั้งคู่พูดกูมึง ซึ่งนับว่ารุนแรง แม่ผมคงรู้เรื่องนี้ดีและรู้จักคุ้นเคยกับแม่เพื่อน แม่ขี้สงสาร เห็นอกเห็นใจคน จึงบอกให้เพื่อนผมว่า“หากไม่สบายใจ..มาอยู่กับสันทัดก็ได้ มานอนที่บ้านแม่…