Skip to main content

สุขสันต์ปีใหม่แด่ทุกท่าน ผู้ซึ่งให้เกียรติแวะเวียนเข้ามาอ่านบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ทั้งขาประจำและขาจร ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงอำนวยอวยพรให้ทุกท่านมีความสุขกาย สบายใจ และสามารถดำรงชีวิตอย่างมีสติ (และมีสตางค์ใช้อย่างพอเพียง)


ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นปีใหม่ ด้วยอีกหนึ่งงานเขียนที่มุ่งสื่อสารให้ผู้คนในวงกว้าง ตระหนักถึงผลกระทบที่ ICT มีต่อการดำเนินชีวิตในทุกระดับ เพื่อให้ทุกท่านสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างเท่าทัน อีกทั้งสามารถประยุกต์ใช้มันอย่างมีประโยชน์


โดยในบทความชิ้นนี้ ข้าพเจ้าอยากชวนทุกท่านนั่งคิดว่า อะไรคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัยและมีความสุขในยุคปัจจุบัน ยุคที่ซึ่ง ICT ได้ทวีความสำคัญในการดำรงชีวิต


ปัจจุบันภาพของ ICT ที่ทุกคนมองเห็นอย่างชัดเจน และโอบอุ้มมันไว้อย่างมั่นคง คือภาพที่ ICT ช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้น โดยอนุญาติให้เราสามารถทำกิจกรรมและธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างง่ายดายขึ้น ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น และได้ตามต้องการมากขึ้น


ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นภาพที่เราทุกคนกำลังใช้ชีวิตออนไลน์มากขึ้น โดยเหตุผลสำคัญ ซึ่งสนับสนุนภาพดังกล่าว คือการที่เราทุกคน เล็งเห็นและต้องการประโยชน์จากการเชื่อมต่อเข้ากับโครงข่ายต่างๆ โดยมีความก้าวหน้าทาง ICT เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้เป็นจริง


นั่นหมายความว่า ชีวิตของเราทุกคนถูกเชื่อมต่อ เข้ากับโครงข่ายหรือเครือข่ายต่างๆมากมาย หลากหลาย และตลอดเวลา เช่น โครงข่ายอินเตอร์เนต โครงข่ายโทรศัพท์มือถือ และเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งทำให้ปัจจัยหรือสิ่งเร้าต่างๆ มากมายสามารถเข้าถึงชีวิตของเรา ผ่านทางโครงข่ายและเครือข่ายออนไลน์ต่างๆ เหล่านี้มีอิทธิพลต่อชีวิตของเราทุกคนอย่างง่ายดาย ตลอดเวลา และมากขึ้นทุกที


และนี่ทำให้เกิดอีกภาพหนึ่งของ ICT ที่ชัดเจน หากแต่ยังไม่ได้รับความใส่ใจ และไม่ได้รับการโอบอุ้มจากทุกคนมากนัก คือภาพที่ ICT ทำให้ชีวิตเราทุกคนดำเนินเร็วขึ้นและเร็วขึ้น และด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น หรือพูดได้ว่าในปัจจุบัน ชีวิตของเรามีโอกาสที่จะถูกกระทำได้มากขึ้น ในทุกวินาทีที่เข็มนาฬิกาเดินไป


อะไรคือสิ่งที่ข้าพเจ้าเรียกว่า “ชีวิตถูกกระทำ”


ชีวิตที่ถูกกระทำ คือคำที่ข้าพเจ้าใช้เรียกชีวิตที่ถูกกระตุ้นและผลักดัน โดยปัจจัยหรือสิ่งเร้าต่างๆ รอบตัว ให้ดำเนินหรือกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปอย่างไม่รู้เท่าทัน และยากที่จะควบคุมให้ชีวิตดำเนินอย่างปลอดภัย


ชีวิตของเราทุกคน มีแนวโน้มจะถูกกระทำมากขึ้น สืบเนื่องจากการที่เราทุกคนใช้ชีวิตออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้การดำเนินการต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าย่อมทำให้ผลลัพธ์ของการกระทำหนึ่งๆ เกิดขึ้นในแทบจะทันที อีกทั้งยังมีผลต่อการกระทำอื่นๆต่อไปอย่างรวดเร็วและในวงกว้างอีกด้วย


สภาพการณ์ดังกล่าวกำลังส่งผลทั้งในระดับปัจเจกบุคคลและในระดับสังคมวงกว้าง


ในระดับปัจเจกบุคคล เราทุกคนถูกนำเสนอโปรแกรมหรือระบบใหม่ๆ ผ่านโครงข่ายและเครือข่ายต่างๆ ที่เราถูกเชื่อมต่อ เรียกได้ว่าแทบจะรายวัน หลายคนกระโจนใส่พวกมัน เนื่องด้วยมองเห็นความน่าสนใจหรือประโยชน์อันฉาบฉวย ที่ผู้สร้างต้องการสื่อออกมาให้เห็น เพื่อใช้มันดึงดูดผู้คนให้เข้าร่วม หากแต่ขาดการพิจารณาถึงผลดีและผลเสียอันเกิดจากการใช้งานของตนเองอย่างรอบคอบ


อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทุกท่านต้องตระหนักคือ โปรแกรมหรือระบบใหม่ๆเหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจของผู้สร้างเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ทั้งโดยตรงและข้างเคียงต่างๆที่อาจเกิดขึ้น จากการเข้าใช้โปรแกรมหรือระบบ หรือการเข้าร่วมสังคมออนไลน์ต่างๆ เป็นความเสี่ยงส่วนบุคคล ที่ผู้ใช้แต่ละคนจะต้องรับความเสี่ยงต่างๆ นี้เอง


ตัวอย่างที่ดีและเห็นได้ชัดคือ เครือข่ายสังคมออนไลน์ เกมออนไลน์ และการพนันออนไลน์ต่างๆ ที่เข้ามาถึงทุกประตูบ้าน ทุกคนที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เนตความเร็วสูงสามารถเข้าร่วมระบบดังกล่าวได้โดยง่าย นั่นหมายความว่า เราทุกคนมีความเสี่ยงที่จะโดนมอมเมา ทำให้สูญเสียเงินทอง และเสียงโอกาสที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อชีวิตได้โดยง่าย


ในระดับสังคมวงกว้าง การที่โลกทั้งโลกถูกเชื่อมโยงโดยเครือข่ายออนไลน์ และประยุกต์ใช้ ICT ประเภทเดียวกัน แบบเดียวกัน หรือมาตรฐานเดียวกัน ทำให้โลกทั้งใบถูกตีกรอบด้วยมาตรฐานทางเทคโนโลยีแบบเดียวกัน ทำให้ได้รับอิทธิพลแบบเดียวกัน และทำให้มองเห็นสถานการณ์ และตัดสินใจดำเนินการต่างๆเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงต่างๆ คล้ายกัน ซึ่งนั้นอาจทำให้เกิดสภาพที่ซึ่งสถานการณ์ทั่วโลกเลวร้ายลงได้อย่างรวดเร็ว


ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ สภาวะความทดถอยทางเศรษฐกิจล่าสุด ที่เกิดขึ้นและมีผลกระทบไปทั่วโลก ข้าพเจ้าเชื่อว่าสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่ง คือการที่สถาบันการเงินและประเทศต่างๆ เชื่อมโยงระบบการเงินเข้าด้วยกัน ทำให้ระบบการเงินของทั้งโลกอ่อนไหว หมายถึง สถาบันการเงินหรือประเทศ ที่ใช้ระบบ ICT คล้ายๆ กัน ทำให้มองเห็นสถานการณ์คล้ายๆ กัน ดำเนินการคล้ายๆ กัน จนทำให้เกิดปัญหาคล้ายๆ กัน ทำให้ตอบสนองต่อปัญหาคล้ายๆ กัน จนทำให้เมื่อเกิดปัญหาหนึ่งขึ้นมา ปัญหาดังกล่าวจึงทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และในวงกว้าง


ภาพทั้งหมดที่ข้าพเจ้าสะท้อนให้เห็น เป็นความพยายามที่จะชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันเราทุกคน ได้รับผลกระทบจากความก้าวหน้าของ ICT ในทุกวินาทีที่เข็มนาฬิกาเดินไป เราทุกคนสามารถถูกถาโถมด้วยข่าวสาร ข้อมูลและสามารถเข้าถึงระบบต่างๆ อย่างมากมาย ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งทำให้เราทุกคนทำอะไรต่างๆ และได้รับผลกระทบจากการกระทบต่างๆ อย่างรุนแรงและในทันที


ข้าพเจ้ามองว่า ในปัจจุบัน เราทุกคนกำลังใช้ชีวิตแบบ “ชีวิตเสี้ยววินาที” การตัดสินใจทำอะไรในเพียงเสี้ยววินาที สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราได้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว นั่นทำให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวัน จำเป็นต้องดำเนินไปอย่างมีสติ ซึ่งถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เราบริหารจัดการความเสี่ยงของชีวิต และดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยในที่สุด


หากคุณกำลังปล่อยให้ชีวิตในแต่ละวันของคุณถูกกระทำโดยข้อมูลต่างๆ ซึ่งถาโถมเข้าใส่ตัวคุณในทุกวินาที หากคุณกำลังดำเนินชีวิตไปโดยเพียงตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นเหล่านี้โดยไร้สติ ชีวิตคุณกำลังเผชิญกับความเสี่ยงในทุกเสี้ยววินาทีที่ผ่านพ้นไป





บล็อกของ SenseMaker

SenseMaker
น้ำมาถึงไหนแล้วหว่า...บ้านฉันน้ำจะท่วมมั้ยเนี่ย...จะหาข้อมูลที่จำเป็นได้จากที่ไหนบ้างหว่า...เวลาเดือดร้อนจะต้องแจ้งใคร...ทำไมโทรไป 1111 กด 5 แล้วถามอะไรไปก็ตอบไม่ได้... ........ใครก็ได้ช่วยบอกทีเหอะว่าฉันกับครอบครัวต้องทำยังไงบ้าง.......ข้อมูลประกอบการตัดสินใจอะไรๆก็ไม่มี ที่มีก็ไม่รู้จะเชื่อได้มากขนาดไหน เชื่อได้รึเปล่า.........
SenseMaker
ขอสวัสดีปีใหม่แด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยจงอวยพรให้ทุกท่าน สุขกาย สบายใจมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ และมีสติในการดำเนินชีวิตอยู่เสมอ
SenseMaker
  จากที่สัญญาว่าในบทความนี้ ข้าพเจ้าจะมาต่อยอดบทความจากครั้งที่แล้วในหัวข้อ “ความร่ำรวยข้อมูล” ด้วยการวิเคราะห์ความจำเป็น ที่เราจักต้องพัฒนาทั้ง 3 ส่วนประกอบสำคัญ อันได้แก่ ความอุดมทางด้านข้อมูล ความยากง่ายในการเข้าถึงข้อมูล และมุมมองที่มีในการวางแผนโครงสร้างข้อมูลบนเว็บ ไปพร้อมๆกัน เพื่อทำให้ทุกท่านเข้าใจประเด็นดังกล่าวนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
SenseMaker
เป็นอีกครั้งที่ข้าพเจ้าไม่สามารถส่งบทความเข้ามาได้ตามกำหนด โดยคราวนี้ทิ้งระยะไปนานมาก จนทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกผิดต่อผู้อ่านและผู้บริหาร blogazine เป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
SenseMaker
ต่อเนื่องจากบทความที่แล้วในหัวข้อ ความเป็นส่วนตัวของคุณราคาเท่าไหร่ ข้าพเจ้าอยากชวนท่านผู้อ่านคิดต่อไปอีกนิดว่า ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่า ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ที่ท่านเปิดเผยไว้บนพื้นที่ออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครือข่ายสังคมออนไลน์ (social network sites) ต่างๆ เช่น Facebook และ MySpace จะไม่ทำให้ท่านสูญเสียอะไร หรือเสียใจในอนาคต
SenseMaker
จากบทความที่แล้วในหัวข้อ การจัดระเบียบโลกใหม่ การเมืองไทย และICT ข้าพเจ้าได้ชี้ให้เห็นว่า เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ICT ในปัจจุบัน ทำให้ความสามารถของมนุษย์ ในการจัดการและจัดเก็บข้อมูล ซึ่งหากอาศัยเพียงประสาทสัมผัสของมนุษย์ จะไม่สามารถเข้าถึงและจัดการได้ และความด้วยความก้าวหน้านี้ ทำให้มนุษย์สามารถเห็นและรับรู้ ในข้อมูลที่เคยยากที่จะเห็นและรับรู้ อีกทั้งยังทำให้เข้าใจในสิ่งที่เคยยากต่อการวิเคราะห์
SenseMaker
ความก้าวหน้าทาง ICT ในปัจจุบัน ช่วยให้เราๆท่านๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ซึ่งยากที่จะเข้าถึงในอดีต ได้ง่ายขึ้น เช่น ข้อมูลของบุคคลหรือข้อมูลขององค์กรที่เราสนใจ ข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศใดประเทศหนึ่ง รวมถึงองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เป็นต้น
SenseMaker
หลังจากบทความที่เรียกได้ว่า บทบรรณาธิการแรก ได้ชี้แจงเป้าหมายการดำรงอยู่ ของพื้นที่ทางความคิดแห่งนี้ บัดนี้เวลาล่วงเลยมาครึ่งปี โอกาสแห่งการพูดคุย กับท่านผู้อ่านอีกครั้ง ก็มาถึงทุกๆ12 บทความ ที่ได้ทำหน้าที่ของมันผ่านพ้นไป ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่ผู้เขียนกับผู้อ่านจะได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน เพื่อทำให้พื้นที่แห่งนี้ เป็นประโยชน์กับทุกๆคน อย่างแท้จริงในทัศนะของข้าพเจ้าแล้ว ICT เข้ามามีบทบาท ต่อชีวิตของเราทุกคน ในทุกวันนี้มากขึ้นทุกที แต่ละคนได้รับประโยชน์ ผลกระทบ และผลลัพธ์ ที่แตกต่างกันไป จากการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ซึ่งมี ICT เป็นปัจจัยต้นเหตุ
SenseMaker
Peer Review อาจไม่ใช่คำในภาษาอังกฤษ ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมคุ้นเคย แต่เป็นคำคุ้นเคยเป็นอย่างดีในสังคมนักวิชาการ อาจารย์ หรือ นักวิจัย เนื่องจากสังคมดังกล่าว มีวัฒนธรรมและกิจกรรมหลัก ในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ด้วยการต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิม ผ่านการพัฒนาผลงานวิจัยใหม่ ซึ่งการยอมรับจากสมาชิกในสังคมเดียวกัน มีความสำคัญกับผลงานวิจัยแต่ละชิ้นมาก เนื่องจากไม่ว่าผลงานดังกล่าว จะมีคุณภาพในสายตาผู้พัฒนาเพียงใด แต่หากไม่ได้รับการตอบรับจากสมาชิกในสังคม ผลงานนั้นก็ถือได้ว่า ไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับสังคมมากนัก
SenseMaker
ในอดีต การเกิดขึ้นของสังคม มักจะถูกจำกัดด้วยเส้นขอบเขตของเวลาและสถานที่ การเป็นส่วนหนึ่งในสังคม เกิดจากการมีส่วนร่วมอยู่ในเวลาและสถานที่เดียวกัน เช่น การอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน การไปโรงเรียนหรือสถานศึกษาเดียวกัน การทำงานในบริษัทหรือสถานที่ทำงานเดียวกัน หรือ การอยู่ในกลุ่มทำกิจกรรมเดียวกัน เป็นต้นแต่ด้วยความก้าวหน้าของ ICT และการขยายตัวของอินเตอร์เนต ทำให้ในปัจจุบัน การมีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ของเราแต่ละคน ไม่ถูกจำกัดโดยสองข้อจำกัดข้างต้น อีกต่อไป และทำให้ในปัจจุบันนั้น เราแต่ละคน มีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่ถูกสร้างขึ้นบนอินเตอร์เนต เพิ่มมากขึ้นๆทุกที
SenseMaker
  หลังจากหลายบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ข้าพเจ้าได้ใช้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่นับวันดูเหมือนว่า "เป็นการยากสำหรับประชาชน ที่จะทำความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างเท่าทัน" บทความวันนี้ จึงถูกเขียนขึ้นเพื่อแสดงทัศนะเกี่ยวกับกลไกทางสังคม ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพื่อทำหน้าที่คุ้มกันและช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบหรือถูกกระทำ จากความเปลี่ยนแปลงทางสังคมเหล่านี้ โดยไม่อาจป้องกันตนเองได้อย่างเท่าทัน หากขาดไปซึ่งกลไกทางสังคมที่จะขอกล่าวถึงในวันนี้เรามาเริ่มทบทวนกันก่อนว่าความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งถูกกล่าวถึงในคอลัมน์แห่งนี้…
SenseMaker
สุขสันต์ปีใหม่แด่ทุกท่าน ผู้ซึ่งให้เกียรติแวะเวียนเข้ามาอ่านบทความในคอลัมน์แห่งนี้ ทั้งขาประจำและขาจร ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงอำนวยอวยพรให้ทุกท่านมีความสุขกาย สบายใจ และสามารถดำรงชีวิตอย่างมีสติ (และมีสตางค์ใช้อย่างพอเพียง) ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นปีใหม่ ด้วยอีกหนึ่งงานเขียนที่มุ่งสื่อสารให้ผู้คนในวงกว้าง ตระหนักถึงผลกระทบที่ ICT มีต่อการดำเนินชีวิตในทุกระดับ เพื่อให้ทุกท่านสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้อย่างเท่าทัน อีกทั้งสามารถประยุกต์ใช้มันอย่างมีประโยชน์