Skip to main content

บล็อกกาซีน ประชาไท

จีรนุช เปรมชัยพร
มีเพื่อนแนะนำให้อ่านบทความในบลอก BioLawCom.De เรื่องเกี่ยวกับสื่อและประชาชน คลิกไปอ่านแล้ว น่าสนใจดีค่ะ ขออนุญาตเก็บมาฝากทุกท่านนะคะ ยกมาเฉพาะหนังตัวอย่างพอเป็นน้ำจิ้ม อยากอ่านฉบับเต็มๆ แนะนำให้คลิกไปอ่านที่เว็บต้นทางเลยนะคะ เคยมีคนกล่าวว่า "นอกเหนือจากอำนาจสามเสาในหลักการแบ่งแยกอำนาจ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ แล้ว สื่อ ยังเปรียบเสมือนอำนาจที่สี่ แห่งรัฐสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐในยุคข้อมูลข่าวสาร" ...และด้วยพลังอำนาจ และความทรงประสิทธิภาพเช่นนี้นี่เอง ในด้านหนึ่ง สื่อจึงไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือ หรือตกอยู่ภายใต้ "อำนาจรัฐ" ทั้งปวง รวมทั้งของ "ผู้กุมอำนาจอื่น ๆ" ในรัฐ (เช่น ทุน, ความจงรักภักดี ฯลฯ) และถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมี "กฎหมาย" คุ้มครองความเป็นอิสระ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็ควรมีเครื่องมือในการ "ตรวจสอบ" บทบาท และการทำหน้าที่ของสื่อ เชกูวารา พูดถึงสื่อพลเมืองไว้น่าสนใจด้วยค่ะ แต่ว่าการพูดถึงมิติสัมพันธ์ของเสรีภาพสื่อ vs เสรีประชาชน ก็น่าสนใจจนไม่ยกมาให้อ่านเป็นน้ำจิ้มไม่ได้ แต่เรื่องที่เขียนในบล็อกตอนนี้ เป็นเหตุผลในแง่  "เสรีภาพแห่งสื่อ" (Freedom of the Press) อันเป็นเรื่องที่ "สื่อหรือคนทำงานสื่อ สู้กับอำนาจรัฐ (รวมทั้งอำนาจอื่นใด)" ไม่ให้พวกเขาต้องทำงานด้วยเจตจำนงค์อันไม่เป็น "อิสระ" ตัวอย่างที่ชัดเจน ก็เช่น การต่อสู้ของไอทีวีในยุคจะถูกควบกลืนโดยรัฐ รวมทั้งการต่อสู้ของ "พนักงาน" ไอทีวีในยุคทุนทักษิณ เป็นต้น  สิ่งที่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างเหตุผลแรก กับเหตุผลหลัง ก็คือ เสรีภาพอย่างหลัง ซึ่งน่าจะเรียกเต็ม ๆ ได้ว่า "เสรีภาพในการ (จัดการ) สื่อสาร (สู่มวลชน)" นี้ ไม่ได้ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ จะ หรือ ควรจะได้รับ "ความคุ้มครอง" โดยตัวมันเอง เสมอ  แต่ "ความคุ้มครอง" จะมาพร้อม ๆ กับ "การทำหน้าที่" เท่านั้น กล่าวให้ง่ายก็คือ "สิ่งที่กฎหมายประสงค์จะคุ้มครอง" ในกรณีนี้ไม่ใช่ "ตัวสื่อ หรือตัวคนทำสื่อ" แต่คือ "บทบาท และหน้าที่ของสื่อ"  ต่างหาก โดยมีเป้าหมายซ่อนอยู่เบื้องหลังอีกที ก็คือ เพื่อให้ „การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน“ อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานมี „เสรีภาพ“ อย่างแท้จริง คือ ได้รับข้อมูลทุกแง่มุม  ไม่ถูกปิดบัง หรือกระทั่งถูกบิดเบือนไป เพราะความไม่อิสระของสื่อ หรือด้วยการใช้อำนาจในทางมิชอบโดยตัวสื่อเอง ภายใต้แนวคิดเช่นนี้ จึงย่อมเป็นเรื่องเข้าใจได้นะครับ ว่าสื่อที่ไม่ทำหน้าที่แห่งสื่อที่แท้จริง หรือพูดให้ง่าย ก็คือ "สื่อที่ไม่มีจรรยาบรรณ" ย่อมมีโอกาส หรือควรต้องถูก "คนรับสื่อ" ตรวจสอบ เพื่อจำกัดความคุ้มครอง และลงโทษได้เช่นกัน โดยอาจอาศัยกฎหมาย หรือการเรียกร้องในเชิงสังคม เพราะสื่อแบบนั้นนั่นแหละ คือ ตัวการในการทำลาย "เสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร“ ของประชาชนเสียเอง ดังนั้น คำว่า "เสรีภาพแห่งสื่อ" หรือ "สื่อเสรี" ในที่นี้จึงเป็น "ภาพสองมิติ"  ที่นอกจาก "คุ้มครองเสรีภาพสื่อจากอำนาจรัฐ" (สื่อ VS. รัฐ) แล้ว ยังหมายถึง "คุ้มครองเสรีภาพผู้รับจากอำนาจสื่อ" (ประชาชน VS. สื่อ) ด้วย อย่างไรก็ตาม นับเป็นเรื่องน่าเสียดายทีเดียวที่คำนี้ ที่ผ่านมาในบ้านเราถูกจำกัดให้แคบ และแสดงให้เห็นภาพมิติแรกเพียง "มิติเดียว" อ่านเต็มๆแบบครบถ้วนกระบวนความคลิกที่นี่เลย
นาโก๊ะลี
หนทางทอดยาวเหยียด ยาวเพียงไหน หากเอาถนนทั้งหมดมาต่อกันเป็นเส้นเดียว ถนนนั้นจะยาวไปถึงดาวดวงใด ก็ในเมื่อ ทุกแผ่นดินในโลก มนุษว์สามารถเดินไปถึงสุดแท้แต่สภาพสภาวะของตน ด้วยความจริงข้อนี้หรือเปล่า ที่มันทำให้ผู้คนทั้งหลายต่างแสวงหาเสรีภาพ พร้อมกับที่เราเปรียบเปรยต่างๆ นานา เพื่อบ่งบอกถึงอิสรภาพ เสรีภาพ หรือว่าแท้จริงแล้ว ถนนหนทางทุกสายต่างหากที่เป็นผลพวงของความปรารถนามนุษย์
ontheland
เมื่อเวลา 10.00 – 12.00 น. ของวันนี้ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย(คปท.) ได้จัดเวทีสัมมนาเรื่อง “โฉนดชุมชนกับการแก้ไขปัญหาที่ดินในสังคมไทย”ณ ห้องประชุมสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีวิทยากรมาร่วมเวที 4 ท่านคือ คุณไพโรจน์ พลเพชร จากสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน(สสส.) คุณเหมราช  ลบหนองบัวจากเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน คุณกันยา ปันกิตติ จากเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย และคุณสุรพล สงฆ์รักษ์ จากสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้   คุณไพโรจน์   พลเพชร ได้นำเสนอประเด็นความหมายที่แท้จริงของโฉนดชุมชน ขั้นตอนการทำโฉนดชุมชน  และคุณสมบัติขององค์กรชุมชนในการทำโฉนดชุมชนโดยได้เน้นไปที่ “การให้คำนิยามของคำว่า โฉนดชุมชน” ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันที่ดินหลุดมือในอนาคตของเกษตรกร “หลักการสำคัญของโฉนดชุมชน คือ การให้สิทธิชุมชนในการบริหารจัดการที่ดินแบบร่วมกัน ชุมชนได้ใช้ประโยชน์และวางกติกาในการบริหารจัดการที่ดินแบบรวมหมู่ การใช้ประโยชน์ในที่ดินต้องมีการวางแผนที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในแปลงระดับปัจเจก สมาชิกแต่ละคนก็ยังสามารถเลือกที่จะวางแผนการทำการผลิตได้ด้วยตนเอง เช่น สมาชิกคนไหนจะปลูกพืชชนิใดต้องนำเสนอและได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มเสียก่อน ซึ่งตรงนี้อาจเรียกว่า กรรมสิทธิ์รวมหมู่เหนือกรรมสิทธิ์ระดับปัจเจก ทั้งนี้เพื่อเท่ากับเป็นการป้องกันผลกระทบในทางลบที่อาจจเกิดขึ้นทั้งต่อตนเองและชุมชนในอนาคต เฉกเช่น การปลูกพืชเชิงเดี่ยวจะนำมาซึ่งหนี้สิน และท้ายที่สุดก็จะนำมาซึ่งการสูญเสียที่ดินเหมือนดังที่เคยเกิดขึ้นให้เห็นได้ทั่วไปเมื่อครั้งอดีต นอกจากนี้แล้ว คุณไพโรจน์ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ณ ตอนนี้ การจัดการที่ดินในลักษณะของโฉนดชุมชน ยังไม่มีรูปแบบการจัดการที่ชัดเจน เนื่องจากแต่ละชุมชนยังอยู่ในช่วงของการทดลองหาแนวทางที่สอดคล้องและเหมาะสมกับพื้นที่ของตนเองให้มากที่สุด ประเด็นสำคัญ คำว่าโฉนดชุมชนไม่ได้อยู่ที่การออกเอกสารรับรองสิทธิ์แบบโฉนดที่ดินที่มีตราครุฑทั่วไป แต่คนในชุมชนต้องมีสำนึกร่วมที่จะวางแผนการครอบครองที่ดินและแนวทางที่ชัดเจน คุณเหมราช ลบหนองบัว  ได้นำเสนอบทเรียน 2 ปี ของการทำโฉนดชุมชนบ้านทุ่งซำเสี้ยว  ต.สระโพนทอง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิว่า หลังจากที่ชุมชนทุ่งซำเสี้ยวซึ่งเป็นพื้นที่กรณีปัญหาการประกาศเขตที่สาธารณประโยชน์ทับที่ราษฏร พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 500 กว่าไร่ ได้ต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิในที่ดินทำกินตั้งแต่ปี 2475 เรื่อยมาจนปัจจุบัน รวมระยะเวลาเกือบ 80 ปี ชุมชนได้เรียนรู้วิธีการ แนวทางการต่อสู้หลากหลายแบบ ได้เรียนรู้ว่า การต่อสู้แบบหวังพึ่งบุคคลภายนอกให้มาช่วยแก้ไขปัญหาให้นั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนได้จริง หลายครั้งยังพบว่า นอกจากบุคคลภายนอกจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนได้แล้วกลับสร้างปัญหาให้กับชุมชนหนักขึ้นไปอีก ดังนั้น จึงสรุปร่วมกันว่า ปัญหาของชุมชน ชุมชนต้องลุกขึ้นมาแก้ไขเอง คุณเหมราชเล่าต่อว่า เมื่อไม่นานมานี้ ชุมชนทุ่งซำเสี้ยวได้จัดเวทีในพื้นที่เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การการทำโฉนดชุมชนกับชุมชนบ้านโป่ง ต.แม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่  จากประสบการณ์ครั้งนั้น ทำให้กลุ่มชาวบ้านได้กลับมานั่งคุยแลกเปลี่ยนถึงคำนำยามของคำว่าโฉนดชุมชน และเริ่มลงมือปฏิบัติการ “โฉนดชุมชนทุ่งทุ่งซำเสี้ยว” อย่างจริงจัง จนทุกวันนี้โฉนดชุมชนทุ่งซำเสี้ยวเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ    จากประสบการณ์การต่อสู้ร่วม 80 ปี สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นผลพวงจากการต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกิน คือ กลุ่มชาวบ้านมีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด กล้าที่จะลุกขึ้นพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการ กล้าที่จะเจรจาต่อรองกับเจ้าหน้าที่รัฐเมื่อพบความไม่ถูกต้องในเรื่องต่างๆ เช่น กรณีโครงการกำจัดขยะของจังหวัดชัยภูมิ ได้มีการเสนอให้เทศบาลตำบลสระโพนทอง นำที่ดินบางส่วนในบริเวณพื้นที่ทุ่งซำเสี้ยวมาทำเป็นที่ทิ้งขยะ แต่กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วย จึงเข้าแสดงตน พร้อมทั้งอ้างสิทธิ์ว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของชุมชนบ้านทุ่งซำเสี้ยว คนข้างนอกไม่มีสิทธิ์เข้าทำอะไรได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากชุมชน วิธีการที่ใช้ในตอนนั้นคือ การเข้าไปพูดคุยและเจรจากับนายกเทศมนตรี ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพัฒนาการดังกล่าว     ในประเด็นเรื่องโฉนดชุมชน คุณเหมราช กล่าวว่า ปัจจุบันชุมชนทุ่งซำเสี้ยวได้พยายามที่จะทำให้ สิทธิในที่ดินทำกินของชุมชนให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น กล่าวคือ การทำให้โฉนดชุมชนมีความชัดเจนมากขึ้น มีระบบการจัดการที่ดินแบบองค์รวม ทุกคนในชุมชนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ซึ่งหลักการดังกล่าวแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับโฉนดที่ดินของทางราชการ ในส่วนของระบบการผลิต ชุมชนได้มีการพูดคุยถึงแผนการจัดการที่ดิน ค้นหาวิธีการทำการผลิตในรูปแบบที่จะทำให้ชุมชนสามารถอยู่รอดได้ รวมถึงวิธีการผลิตที่ช่วยลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดค่อนข้างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่า “โฉนดชุมชนคือคำตอบ คือทางออกที่สามารถแก้ปัญหาที่ดินหลุดมือจากชุมชนได้”  คุณกันยา ปันกิตติ พูดคุยถึงความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยระหว่าง เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยกับรัฐบาลในประเด็นโฉนดชุมชนว่า ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นคือ รัฐบาลได้มีการทำงานจริง คือท่านรัฐมนตรีสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ได้ลงพื้นที่บ้านทับเขือ ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง  เพื่อตรวจสอบสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ที่เครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ได้เสนอให้จัดทำเป็นพื้นที่นำร่องแล้ว และได้มีการประชุมติดตามความก้าวหน้าของอนุกรรมการและคณะทำงานชุดต่างๆ ส่วนปัญหาจากการดำเนินงานที่ผ่านมาดูเหมือนจะไม่ไปไหนมาไหน ชาวบ้านยังติดคดีเหมือนเดิม เจ้าหน้าที่รัฐไม่เคยเปลี่ยนทัศนคติของตนเอง เช่น ยังคงใช้มาตรการทางกฎหมายเป็นหลักในการแก้ไขปัญหา(ยึดมติ ครม. 30 มิถุนายน 2541) ชาวบ้านยังคงถูกจับกุม เฉพาะกรณีชาวบ้านในเขตเทือกเขาบรรทัด มีผู้ถูกจับกุมจำนวนถึง 70 ราย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากและยังไม่ได้นับรวมชาวบ้านที่ถูกจับกุมในภาคอื่นๆ สุรพล สงฆ์รักษ์ ได้นำเสนอข้อเสนอของคณะทำงานศึกษาโครงสร้างระบบภาษีที่ดิน มาตรการการเงินการคลังและแนวทางการจัดตั้งธนาคารที่ดิน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประการ คือ ประการแรก รัฐบาลควรผลักดันให้มีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอย่างจริงจัง เพื่อก่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคมมากขึ้นประการที่สองการจัดเก็บภาษีที่ดิน ควรจัดเก็บภาษีกับที่ดินที่ผู้เป็นเจ้าของไม่ได้ทำประโยชน์ ทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่าเป็นเวลานานในอัตราภาษีที่สูงกว่าอัตราภาษีที่ดินที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆประการที่สามควรมีการยกเว้นภาษีให้กับผู้ที่มีที่ดินถือครองในมูลค่าน้อยหรือเกษตรกรที่ยากจน เพื่อไม่ให้ภาระภาษีตกแก่กลุ่มคนที่มีฐานะยากจนและต้องอาศัยที่ดินเป็นปัจจัยการผลิตเพื่อดำรงชีพ นอกจากนี้แล้ว เพื่อให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินอย่างแท้จริง ควรมีการจัดเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้าตามขนาดการถือครองที่ดิน แต่ทั้งนี้ต้องมีการศึกษาว่าขนาดการถือครองที่ดินที่เหมาะสมในการใช้ประโยชน์ในแต่ละประเภทควรจะเป็นเท่าไร จึงจะสามารถกำหนดอัตราภาษีแบบก้าวหน้าได้อย่างเหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ในประเด็นเรื่อง ธนาคารที่ดิน คุณสุรพล กล่าวว่า ธนาคารที่ดิน คือมาตรกรที่เสนอควบคู่มากับการปฏิรูปที่ดิน เป็นกลไกกลางในการจัดการที่ดินเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม รัฐต้องสร้างกลไกตัวนี้ขึ้นมา โดยให้ธนาคารที่ดินมีรายรับจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างร้อยละ 2 เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับจัดตั้งและบริหารจัดการของธนาคารที่ดิน เพื่อใช้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยต่อไป คณสุรพลทิ้งท้ายว่า พื้นที่ของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยจำนวน 40 พื้นที่ จะมีการนำเสนอนายกรัฐมนตรีในช่วงเย็นของวันนี้(16.00 น.) รัฐบาลต้องมีการรองรับสิทธิของชุมชนเหล่านี้ เพื่อให้ชุมชนเหล่านี้ได้ปฏิบัติการและเดินตามแนวทางการปฏิรูปที่ดินโดยชุมชนอย่างแท้จริง  
การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์
เคยฟังเพลงนี้กันไหมคะ...กุหลาบในมือเธอ (ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ขับร้อง, ขุนวิจิตรมาตรา คำร้อง, เรือโท มานิต เสนะวีนิน ทำนอง)   …ใจพี่หายวาบเมื่อเห็นกุหลาบกลีบกระจาย   จำกลิ่นได้คลับคล้ายว่าดอกที่ถือในมือเธอ   พี่เพ้อขอมานาน…     เจ้าให้หลังพี่ เพราะเจ้ามีที่ต้องการ…     แต่ว่าเดี๋ยวนี้ดอกถูกขยี้ทิ้งกระจาย   พี่แสนจะเสียดาย...เพราะไปหมายอื่นให้เขาชื่นชม     เขาดมเล่นแล้วทิ้ง…   ...ผู้ที่หวังจริงก็เลยต้องยิ่งหัวใจราญ… T-T   ราศีเมษ Aries (13 เมย.-13 พค.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ ราชินีเหรียญ การจัดการเงิน เงินก้อนใหญ่ เกี่ยวพันกับผู้มีฐานะหรือมีอำนาจตัดสินใจเรื่องทรัพย์สิน เรื่องทางบัญชี   ความรัก ความสัมพันธ์ 9 เหรียญ คุณอาจเป็นคนที่มีความพร้อมทุกอย่าง แต่ส่วนลึกในใจเหมือนไม่ถูกเติมเต็ม ความสัมพันธ์กับคนรักมีลักษณะอุปถัมภ์หรือให้กันด้วยเสน่หา แต่ก็ไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกอย่าง   สถานการณ์การเงิน 7 ดาบ อาจเกี่ยวข้องกับการเงินที่ไม่โปร่งใส มีนอกในหรือเรื่องลับลวงพรางทางบัญชี บางคนใช้เงินในการแก้พลิกแพลงปัญหา อย่างไรก็ดี ระวังเรื่องทรัพย์สินสูญหายด้วยค่ะ ธุรกิจ การงาน The Devil คุณอาจกำลังทำงานไม่มีความสุข ตกในความกดดัน หรือพันธนาการอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องฝืนทนต่อสิ่งที่เป็นความทุกข์อย่างมาก   คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น The Hermit ความสุขสงบทางใจที่ไม่อาจหาได้ ไม่ว่าจะอยู่ลำพังอย่างไรก็ตาม   คำแนะนำพิเศษ The Sun พระอาทิตย์ขึ้นทุกเช้า วันเก่าผ่านไปวันใหม่เยือนมา เบิกบานไว้ รักษาแสงสว่างในใจให้ดี ไม่ว่าสิ่งใดร้ายเลว สุดท้ายย่อมคลายลง   ราศีพฤษภ Taurus (14 พค.-13 มิย.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ มหาดเล็กถ้วย ความรู้สึกอ่อนไหว ความรักหรือผูกพันกับคนต่างวัย ข่าวจากคนที่มีใจต่อกัน ความรัก ความสัมพันธ์ 1 ดาบ จะมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกันง่าย ความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นในช่วงนี้ อาจมีเรื่องต้องตัดสินใจขั้นเด็ดขาด สถานการณ์การเงิน Judgement การรอคอยใดๆ จะมีคำประกาศออกมาในเร็ววันนี้ แต่จะเป็นแง่ดีหรือร้าย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุผลและข้อเท็จจริง ธุรกิจ การงาน 9 ดาบ มีเรื่องกลุ้มใจ ไม่สบายใจนัก ระวังปัญหาจากความเครียดจนกระทบต่อสุขภาพ เป็นช่วงกิจการต่างๆ มีแต่เรื่องน่ากังวล คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 1 ถ้วย ความสัมพันธ์ใหม่ๆ (หากมี) หรือสิ่งที่เคยเป็นความสุข เป็นการเติมเต็มจิตใจ มาอยู่ในจุดแห้งแล้ง ขาดแคลน   คำแนะนำพิเศษ 8 เหรียญ เพิ่มเติมความรู้และทักษะต่างๆ ให้มาก คุณมีทุนในเบื้องต้นที่ดีมากอยู่แล้ว ความขยันหมั่นเพียรนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จ หรือผลตอบแทนที่คุณต้องการ     ราศีเมถุน Gemini (14 มิย.-14 กค.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ 7 ถ้วย ความปรารถนาหลายหลากมากมี สิ่งที่คุณอยากได้ อยากเป็นแต่ก็ให้ระวังภาพลวงตา แม้แต่การหลอกตัวเอง   ความรัก ความสัมพันธ์ Justice มีเรื่องต้องใช้สมองมากกว่าหัวใจ การไตร่ตรองหรือจัดการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย การลงนามในเอกสารสำคัญ การใช้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมแก้ปัญหา สถานการณ์การเงิน The Emperor มีผู้ใหญ่เปิดทางหรือให้การสนับสนุน อาจได้งานที่มีแนวโน้มได้ค่าตอบแทนงามๆ ในอนาคต แต่ก็อาจมีค่าใช้จ่ายในการนี้ ธุรกิจ การงาน ราชาคทา มีผู้เห็นผลงาน ได้รับมอบหมายงานสำคัญ มีจังหวะได้งานเด่นๆ การบริหารจัดการต่างๆ ราบรื่น ได้ร่วมงานกับคนเก่ง   คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 10 คทา การทำงานหนัก แบกรับภาระความรับผิดชอบเกินกำลัง ปัญหากับคนหมู่มากที่ร่วมงานกัน   คำแนะนำพิเศษ The Star สิ่งใดที่คุณคาดหวังไว้ จะประสบผลในไม่ช้านี้ จะมีความสุขร่มเย็นด้วยมิตรภาพและกัลยาณมิตร   ราศีกรกฎ Cancer (15 กค.-16 สค.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ ราชินีคทา อาจได้รับมอบหมายงานสำคัญ มีโอกาสแสดงฝีมือ ได้ร่วมงานกับคนเก่ง มีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ   ความรัก ความสัมพันธ์ 3 ดาบ ระวังปัญหาทางอารมณ์ ความสัมพันธ์กับคนใจร้อนขี้หงุดหงิดง่าย อาจเกิดปากเสียงกันบ่อยในช่วงนี้ คนโสดยังอุตส่าห์มีศัตรู :-) สถานการณ์การเงิน 6 เหรียญ ธุรกรรมทางการเงินต่างๆ มักผ่านฉลุย การใช้เครดิต กู้ยืม ขอวงเงินเพิ่มเติม ฯลฯ ราบรื่นไม่มีปัญหา แต่คุณอาจได้ “ให้” คนอื่นด้วย เป็นการทำบุญทำทานที่ไม่สูญเปล่า ธุรกิจ การงาน ราชาถ้วย ทำงานด้วยความสุข มักได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก หรือร่วมงานกับคนมีเสน่ห์ มีประสบการณ์น่าชื่นชม อย่างไรก็ดี ใช่ว่าจิตใจจะมั่นคงมาก บางครั้งก็เบื่อเอาดื้อๆ คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ราชินีดาบ การปะทะกับผู้มีอำนาจ การจำต้องพึ่งตนเองอย่างไม่เต็มใจ   คำแนะนำพิเศษ 2 ถ้วย หากคุณจะมีรักใหม่ หรือกำลังพบใครถูกใจเป็นพิเศษ อย่าด่วนผลีผลาม ไม่ว่าจะดูสวยงามหรือชวนใจละลายแค่ไหน ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์เป็นสัจธรรม   ราศีสิงห์ Leo (17 สค.-16 กย.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ 1 เหรียญ มีโอกาสได้เงินก้อนใหม่ ช่องทางดีๆ ทางการเงิน การลงทุนใดๆ จะมีแนวโน้มดีไปในอนาคต ความรัก ความสัมพันธ์ 1 คทา อาจได้พบปะหรือร่วมงานกับคนเก่ง บางคนมีผู้เข้ามาชื่นชมความสามารถกระทั่งพัฒนาไปเป็นความรู้สึกพิเศษ แต่ในคู่รักคู่ครองมักหมายถึงช่วงงานเป็นใหญ่ ไม่ค่อยหวือหวากันนัก สถานการณ์การเงิน มหาดเล็กเหรียญ มีช่องทางงามๆ เกี่ยวกับรายได้ ได้พบหรือร่วมงานกับผู้มีหัวคิดทางธุรกิจ ได้ประโยชน์จากความสัมพันธ์กับคนอายุน้อยกว่า ธุรกิจ การงาน The Magician เป็นช่วงความคิดสร้างสรรค์คึกคักเป็นพิเศษ อาจมีการเล่นแร่แปรธาตุกระทั่งได้ผลประโยชน์อย่างงาม การเจรจาค้าขายประสบความสำเร็จอย่างดี คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อัศวินเหรียญ ธุรกิจที่ดูดีในตอนต้น ช่องทางแสวงหาผลประโยชน์ที่ไม่ยั่งยืน   คำแนะนำพิเศษ 4 เหรียญ อย่ากลัวมากนัก ในเรื่องของทรัพย์สินหรือการเงินต่างๆ บางคนอาจเข้าสู่ภาวะตระหนี่ถี่เหนียวหรือยึดมั่นถือมั่นในผลประโยชน์ของตนมากเกินไป ทั้งที่ความจริง คุณก็ “มี” มากกว่าใครอีกหลายคน   ราศีกันย์ Virgo (17 กย.-16 ตค.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ The Fool การเปลี่ยนแปลงใหม่ โอกาสก้าวไปข้างหน้า ประตูสู่ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น การโยกย้าย การเดินทาง   ความรัก ความสัมพันธ์ 4 ถ้วย อาจต้องเลือกหรือตัดสินใจในสิ่งที่ไม่พร้อม ไม่มีข้อมูลพอ บางคนอยู่ในระหว่างใคร่ครวญว่าจะ “รับ - ไม่รับ” หรือจะ “เลิก - ไม่เลิก” สถานการณ์การเงิน The Chariot ยังต้องผจญปัญหาหลายอย่าง มีความตั้งใจดีที่จะมุ่งสู่อนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเงิน การหาเงิน ทุกอย่างไม่ง่ายสำหรับคุณ ที่สำคัญคือการรักษาวินัยในตัวเอง ธุรกิจ การงาน 8 ดาบ อาจเจอมุมอับในการทำงาน ถูกมัดมือชก หรือจำใจในเรื่องไม่พึงประสงค์ ร่วมงานกับคนมีปัญหามาก ตกเป็นชนกลุ่มน้อยในที่ทำงาน คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 6 ดาบ ปัญหาที่รอการคลี่คลาย กลับดูยืดเยื้อออกไปอีก   คำแนะนำพิเศษ มหาดเล็กดาบ อย่ากังวลสนใจข่าวร้าย ข่าวลือ หรือสถานการณ์แวดล้อมที่ดูปรวนแปรไปมา ให้ยืนหยัดมั่นคงตามแนวทางของตัวเองไว้     ราศีตุลย์ Libra (17 ตค.-15 พย.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ The World การอยู่ในบรรยากาศที่ดี ได้ยกระดับคุณภาพชีวิต ได้พบคนซึ่งนำความสงบร่มเย็นมาสู่จิตใจ ความรัก ความสัมพันธ์ 2 คทา ได้คู่ที่เข้ามาช่วยเหลือการงาน หากมีความรักคนรัก จะมีส่วนช่วยเหลือกิจการต่างๆ มีความนับถือกันและกัน สถานการณ์การเงิน 8 คทา มีแนวโน้มที่ดี ค่าตอบแทนจากการทำงานก้อนใหญ่ใกล้มาถึง อาจยังไม่เห็นผลในตอนนี้ แต่เชื่อได้ว่าจะรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต ธุรกิจ การงาน Strength จัดการกับปัญหาต่างๆ ได้ดี แม้อาจเจอคู่ปรับหรือคู่แข่งขันที่มีพลังอำนาจเสมอกัน ที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับคุณคือ การใช้พลังในทางสร้างสรรค์ การควบคุมตัวเอง คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 7 เหรียญ การขาดแคลนทุนสำรอง ประสบการณ์เก่าๆ ในอดีตกลายเป็นของไร้ค่า   คำแนะนำพิเศษ The Tower อาจมีเรื่องไม่คาดหมายเกิดขึ้น แต่บางเรื่องก็ต้องการการ “รื้อ” หรือ “พังลง” เพื่อก่อร่างสร้างใหม่ให้ดีและมั่นคงกว่าเดิม   ราศีพิจิก Scorpio (16 พย.-15 ธค.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ 8 ถ้วย หากมีการเดินทางจะไม่ราบรื่น พบกับปัญหาชวนผิดหวัง มีเหตุให้เสียใจกับความผิดพลาดของตัวเอง ความรัก ความสัมพันธ์ The Hanged Man ความสัมพันธ์มีเรื่องค้างใจ หรือมีปัญหาซ่อนไว้ใต้พรม อาจรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังแลกเปลี่ยนหรือต้องเสียสละในสิ่งไม่เต็มใจ สถานการณ์การเงิน 2 ดาบ ระวังค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องใช้ที่เสียหายหรือเสื่อมสภาพ ปัญหาทางการสื่อสารต่างๆ การเงินชะงักเพราะความเข้าใจไม่ตรงกัน ธุรกิจ การงาน 3 ถ้วย มีเรื่องให้ยินดี ให้เบิกบานใจ อาจมีรายได้พิเศษ หรือเพื่อนฝูงนำช่องทางพิเศษมาให้ บางคนได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและมีความสุขมาก ได้พบปะผู้คนที่สอดคล้องกัน คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 10 ดาบ ปัญหายังจะสุมรุมเร้าเข้ามาอีก เตรียมตัวรับมือไว้ โดยเฉพาะเรื่องจากครอบครัวหรือคนหมู่มาก   คำแนะนำพิเศษ อัศวินคทา รักษาไฟในตัวไว้ ก้าวไปข้างหน้าอย่างกระตือรือร้น บางครั้งคุณอาจจำเป็นต้องรุกแทนการรอรับ   ราศีธนู Sagittarius (16 ธค.-13 มค.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ 9 ถ้วย อาจพัวพันกับปัญหารักซ้อน มีความรู้สึกที่ต้องการเก็บงำ คบหาคนรักหลายคน หรือมีเรื่องที่ไม่เปิดเผยต่อคนรักตัวเอง ความรัก ความสัมพันธ์ 5 คทา อาจมีปากเสียงกระทบกระทั่งกันง่าย ความคิดเห็นขัดแย้งกันบ่อย ไม่เหมาะกับการทำงานร่วมกับคนรักในช่วงนี้ สถานการณ์การเงิน มหาดเล็กคทา อาจได้รับค่าจ้างพิเศษหรือค่าตอบแทนจากงานที่นอกเหนืองานประจำ แต่บางครั้งแสดงถึงค่าตอบแทนที่น้อยกว่าการทำงานจริง ธุรกิจ การงาน 5 ถ้วย มีเรื่องไม่สมหวัง ร่วมงานกับคนซึ่งขัดแย้งกัน มีปัญหาแต่พูดได้ไม่ถนัด มีเหตุผิดหวังอยู่เนืองๆ คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น The Lovers ความผิดพลาดในการตัดสินใจ หรือช่วงเวลาที่ต้องเลือกแต่ก็ยังทำไม่ได้   คำแนะนำพิเศษ The Empress หากมีคู่รักคู่ครองอาจเป็นที่พึ่งพิงแก่กันได้ดี แต่ความมั่นคงทางใจของคุณก็ย่อมขึ้นกับอีกฝ่ายอย่างมีนัยสำคัญ ขึ้นอยู่กับว่าตัวคุณเองต้องการอะไรในชีวิต   ราศีมังกร Capricorn (14 มค.-12 กพ.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ ราชาเหรียญ การเงินก้อนใหญ่ ความสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจหรือสิทธิทางการเงิน การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ความรัก ความสัมพันธ์ 2 เหรียญ มักไม่ค่อยมีเวลาให้กัน มีปัญหาเฉพาะหน้าต้องคอยแก้ไข บางคนอยู่ในช่วงชีวิตสับสนอลหม่าน ความสัมพันธ์ก็ลุ่มๆ ดอนๆ ตามไปด้วย สถานการณ์การเงิน 7 คทา ถือว่าเหน็ดเหนื่อยพอสมควร แต่ไพ่ใบนี้มักเป็นไพ่ของคนสู้ชีวิต ไม่ได้อะไรง่ายๆ แต่ก็ไม่ใช่คนที่เงินขาดมือขั้นวิกฤติ ธุรกิจ การงาน อัศวินถ้วย หากมีการเดินทางจะราบรื่นดี อาจได้ทำงานร่วมกับคนน่ารัก มีเสน่ห์ เป็นที่พึงใจเป็นพิเศษ หรือได้ทำในสิ่งที่ทำให้ตัวเองชุ่มชื่นใจ คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ราชาดาบ การร่วมงานกับคนที่ไม่ยอมฟังใครง่ายๆ การปะทะกับผู้มีอำนาจ คำแนะนำพิเศษ 5 ดาบ อาจจำเป็นต้องปลีกตัวออกจากบางสถานการณ์ หรือยอมรับเงื่อนไขซึ่งไม่พึงประสงค์ ดูเผินๆ หรือยอมแพ้ แต่ความจริงอาจเป็นการตั้งหลักที่เหมาะสมที่สุดแล้ว   ราศีกุมภ์ Aquarius (13 กพ.-13 มีค.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ Death อาจมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ การยุติบทบาท หรือสูญเสียผู้คนรักใคร่ แต่อาจเป็นเพียงการตัดใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ได้ อย่าเพิ่งกังวลมาก :-) ความรัก ความสัมพันธ์ 4 ดาบ อาจอยู่ในช่วงพักรบชั่วคราว เหมือนคนที่เจอกันทีไรก็มีเรื่องให้เหนื่อยกันสองฝ่าย บางคนชะลอความสัมพันธ์ อยู่ระหว่างการทบทวนการตัดสินใจ สถานการณ์การเงิน The High Priestess การใช้สติปัญญาเข้าแก้ไขปัญหาทางการเงิน รายได้หรือค่าตอบแทนที่ไม่อาจเปิดเผย บางคนได้ลาภจากความเสน่หา ธุรกิจ การงาน The Moon อาจอยู่ในช่วงซึมเซา ทำงานไม่สนุก มีความระแวงแคลงใจต่อเพื่อนร่วมงาน หรือถูกผู้อื่นระแวงแคลงใจ บรรยากาศรอบด้านอึมครึมพิกล คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 6 ถ้วย ปัญหาจากคนที่เกี่ยวข้องกันมาแต่อดีต   คำแนะนำพิเศษ Temperance การปรับสมดุลแก่ตัวเอง การเดินทางสายกลาง ประนีประนอมต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เรียกว่ายืดหยุ่นให้เป็นว่างั้นเถอะ :-)     ราศีมีน Pisces (14 มี ค.-12 เมย.)   เรื่องสำคัญของคุณในสัปดาห์นี้ 4 คทา การก่อร่างสร้างตัว วางรากฐานให้เป็นปึกแผ่น อาจเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนหรือก่อตั้งธุรกิจที่จะมีความมั่นคงต่อไปในอนาคต ความรัก ความสัมพันธ์ 3 เหรียญ ความสัมพันธ์พิเศษ การมอบสิ่งดีๆ ต่อกันในขั้นแรก การไม่คาดหวังถึงอนาคตยืดยาว การแลกเปลี่ยนสิ่งที่มีค่าต่อกัน แม้จะดูเล็กน้อยในทัศนะคนอื่น สถานการณ์การเงิน 10 ถ้วย หากมีปัญหาทางการเงิน ครอบครัวหรือบุคคลที่รักใคร่กันจะเข้ามาช่วยเหลือ โดยทั่วไปมักหมายถึงผู้ที่มีฐานะพื้นฐานดีอยู่ก่อนแล้วด้วย   ธุรกิจ การงาน อัศวินดาบ ไม่ค่อยราบรื่นนัก มีอุปสรรคโน่นนี่นั่นตลอดเวลา อาจต้องเดินทางหรือต่อกรกับคนที่ชวนเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ คำเตือนหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 10 เหรียญ การเงินของครอบครัว รายจ่ายก้อนใหญ่ ค่าใช้จ่ายเพื่อการรักษาสถานภาพทางครอบครัว คำแนะนำพิเศษ Wheel of Fortune จะมีโอกาสดีๆ มาถึงในเร็ววันนี้ เป็นช่วงชีวิตไม่หยุดนิ่ง เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง แต่ตอนนี้ขาขึ้นกำลังมาถึงอีกครั้งแล้วนะ    
nokpukbung
  เนื่องด้วยศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม จ.กาญจนบุรี ได้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของบริษัท ทีที แอนด์ ที ความเร็ว 3 Mb จ่ายเดือนละ 1070 บาท ในช่วงแรกใช้ และทางบริษัทได้เปลี่ยนแพ็คเก็จให้ใหม่ เป็น 5 Mb ตามโปรโมชั่นใหม่ แต่ที่ผ่านมาจากการตรวจสอบความเร็วอินเตอร์เน็ต พบว่าโดยเฉลี่ยแล้วในแต่ล่ะวันความเร็วอินเตอร์เน็ตไม่ถึง 2.5 Mb ซึ่งต่ำกว่าที่จ่ายเงินมาก   -----> ข้อความข้างต้นเป็นหนังสือร้องเรียนที่ทางศูนย์ฯ ได้ส่งให้กับบริษัท ทีที แอน ที เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขและปรับปรุง ทุกคนลองตรวจสอบกันดูนะคะ ว่าความเร็วเน็ตที่ใช้นั้นคุ้มกับเงินที่เราได้จ่ายไปหรือไม่   ช่วยกันตรวจสอบเพื่อสิทธิของพวกเราผู้บริโภคกันเถอะค่ะ   ^_______________________________^
ชาน่า
เข้าสู่กลางปีของ พ.ศ . 2552 เหตุบ้านการเมืองก็ยังคงทรง ๆ ทรุด ๆ ส่วนภาวะเศรษฐกิจนั้นเห็นได้ชัดว่าย่ำแย่ ส่งผลกระทบต่อทุกคน ทั้งลูกเล็กเด็กแดง รวมทั้งพลเกย์อย่างเรา ๆ เช่นกัน ธุรกิจของเกย์บางอย่างก็ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก แต่บางอย่างก็ไปรุ่งอยู่รอดได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถึงอย่างไรก็คงต้องสู้กันต่อไปเพื่อความอยู่รอด และประคับประคองบ้านเมืองให้ไปถึงจุดหมาย พร้อมด้วยสภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมให้เป็นสุข
ชนกลุ่มน้อย
พ่อของลูกคือลูกของพ่อ ล้วงหนังสือ “เจ้าชายน้อย” ออกจากกระเป๋าสะพาย เป็นเล่มเดียวที่ติดตัวไปด้วยทุกครั้งที่ลูกชายเดินทางไปด้วย และไม่อาจรู้หรอกว่าจะได้เปิดอ่านในช่วงไหนเวลาไหน ลูกของพ่อคือหลานของปู่กำลังง่วนอยู่กับสมุด ดินสอ สีในกระเป๋าเช่นกัน เขาคงนึกอยากเขียนภาพ
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ผมและเพื่อนๆเดินเลียบมาตามรางรถไฟ ผ่านเวทีวงดนตรี "สุรพล สมบัติเจริญ" ได้ยินนักร้องลูกวง ออกมาร้องเพลง อวดลูกคอแบบฉบับลูกทุ่งเต็มที่ ผมกับเพื่อนเดินไปยังสถานีรถไฟเล็กในงาน ซื้อบัตรขึ้นไปนั่งกับเพื่อน ผู้คนมากจริงๆ มีผู้ปกครองและเด็กเล็กมากกว่ากลุ่มอื่น รางรถไฟถูกสร้างขึ้นเป็นวงกลม ล้อมรอบอัฒจันทร์และสนามฟุตบอล หัวรถไฟค่อยๆลากขบวนไปช้าๆ ชายหญิงที่เป็นคู่รักกัน นั่งเบียดกัน คงช่วยให้คลายหนาวจากอากาศได้บ้าง รถไฟแล่นมาครึ่งรอบ มันค่อยแล่นเข้าถ้ำ ซึ่งสร้างจำลองขึ้นมา ถ้ำมืดสนิท มีเฉพาะไฟหน้ารถ ในถ้ำบางคนแอบมาปัสสาวะ รถไฟวิ่งเขาไป ถ่ายยังไม่เสร็จก็ต้องรีบก้มหัวซ่อนหน้า ครู่เดียวรถไฟขบวนน้อยก็พ้นถ้ำ รถไฟวิ่งโค้งไปตามราง คนขับต้องกดแตรเป็นพักๆ เพราะมีคนเดินข้ามรางรถข้างหน้าเสมอๆ แสงไฟจากร้านรวงสว่างจ้าขึ้นไปข้างบนและโดยรอบ เสียงจากลำโพงรอบงาน ส่งเสียงประชันกันอื้ออึง
The Thin Red Line
กรกช เพียงใจ     ใครบางคนบอกว่า “ข้อเท็จจริง” (fact) นั้นแตกต่างจาก “ความจริง” (truth) บันทึกนี้จึงอาจกล่าวอ้างได้เพียงว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของข้อเท็จจริงอันมากมายมหาศาล แต่ก็คือทั้งหมดที่ฉันเห็น สังเกต และรู้สึก ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์ผู้ไม่ได้ไปอยู่ ณ จุดปะทะสำคัญใดๆ กับเขาเลย หากใครคาดหวังเช่นนั้น ขออภัยล่วงหน้า ....   - - - - - - - - - - - -     วันที่ 14 เมษายน 2552     ฉันกลับไปพักที่บ้านพี่สาวคนเดิม ได้นอนเต็มอิ่ม ตื่นอีกทีสายมากแล้วและดูข่าวทีวีเห็นว่าที่ทำเนียบฯ ประกาศยุติและสลายการชุมนุม เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม กล้องจับไปที่ใบหน้าณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งดูออกอาการกว่าคนอื่นๆ มีรอยยิ้มแบบฝืนๆ บนใบหน้า   ฉันรีบเดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล แต่เข้าไม่ได้ และไปติดอยู่แถวสี่แยกวังแดง ซึ่งมีทั้งตำรวจ และทหารกั้น ผู้คนเริ่มหนาตาขึ้นเรื่อยๆ ในบริเวณนั้น มีรถกระบะติดลำโพงของใครไม่รู้กำลังกล่าวโจมตีทหารที่เพิ่งนั่งรถจีเอ็มซีผ่านฝูงชนที่กำลังก่อตัวไป โดยยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจอย่างมาก พวกเขาเก็บปลอกกระสุนได้และนำมาให้นักข่าวบางส่วนที่อยู่บริเวณนั้นดู   จากนั้นชาวบ้านก็ผลัดกันขึ้นปราศรัย เรียกร้องให้ทหารกลับเข้ากรมกอง และนำรัฐธรรมนูญ 40 มาใช้ น่าสังเกตว่าพวกเขาประกาศตัวว่าเป็นชาวบ้านธรรมดา และไม่ใช่สีอะไรทั้งนั้น แต่ทนไม่ได้กับความอยุติธรรม   หลายต่อหลายคนดูท่าทางเป็นคนชั้นกลางที่ทำมาค้าขายอยู่แถวนั้น ประกอบกับคนอื่นๆ ที่มาสบทบกันมากขึ้นเรื่อย กระทั่งกลายเป็นการชุมนุมย่อมๆ อีกจุดหนึ่ง   ฉันเดินไปที่รั้วกั้นระหว่างทหารกับชาวบ้าน พบกลุ่มผู้หญิงทั้งสูงและไม่สูงวัยกำลังโวยวายกับตำรวจซึ่งยืนอยู่ด่านหน้า และตะโกนต่อว่า (และด่าทอ) ไปถึงทหาร ซึ่งยืนอยู่ถัดไปด้านใน   “ยิงป้าเลยลูก ยิงเลย หนูจะได้เลื่อนขั้นเร็ว จะได้เป็นนายพล” ป้าคนหนึ่งตะโกนโบกไม้โบกมือเรียกทหารยิงตนเอง   “บ้านเมืองกำลังจะชิบหายหมดแล้ว เพราะพวกคุณทำสองมาตรฐานมาตลอด ประชาชนไม่โง่อย่าคิดว่าเขาไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเขาทำอะไรอยู่ เขาทนดูได้ยังไง” หญิงสาวคนหนึ่งพูดทั้งร้องไห้ตลอดเวลาด้วยความคับแค้นและเป็นห่วงแม่ เธอต่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและสื่อมวลชนจนไม่เหลือชิ้นดี ดูลักษณะก็รู้ได้ไม่ยากว่าเป็นคนชั้นกลางค่อนข้างมีเงิน   เธอเล่าว่าแม่เธออายุ 60 กว่า เข้าไปชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดงที่ทำเนียบฯ และไม่ได้เอามือถือเข้าไปเพราะใช้ไม่เป็น และแม่เธอก็ยืนยันว่าอยู่กับเสื้อแดงไม่อันตราย ไม่ต้องห่วง และถึงตอนนี้เธอติดต่อกับแม่ไม่ได้ตั้งแต่เมื่อคืน เข้าไปในที่ชุมนุมก็ไม่ได้ จึงรู้สึกเป็นห่วงมาก   ท้ายที่สุด รถปราศรัยประกาศขอให้ตำรวจ ทหารเปิดทางให้รถและตัวแทนเข้าไปส่งข้าวส่งน้ำคนข้างใน เพราะรู้มาว่าอาหารและน้ำกำลังขาดแคลน เจ้าหน้าที่พยายามบอกว่าที่ทำเนียบฯ ประกาศสลายการชุมนุมแล้ว แต่พวกเขาไม่เชื่อ และยืนยันว่าขอเข้าไปดูเอง   “เราไม่เชื่อถือข่าวจากใครอีกแล้ว” ชายคนหนึ่งตะโกน มีการเจรจาต่อรองกันพักหนึ่ง แล้วเจ้าหน้าที่ต้องยอมให้รถกระบะพร้อมตัวแทนเข้าไปได้ โดยคนที่จะเข้าไปต้องให้เจ้าหน้าที่ค้นตัว หญิงสาวคนที่กำลังตามหาแม่ กระโดดขึ้นไปอยู่บนรถกับเขาด้วย เธอยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ขณะที่รถกระบะเคลื่อนเข้าไปด้านใน ส่วนคนที่เหลือยังปักหลักชุมนุมอยู่ที่เดิมไม่ยอมสลายตัว   ฉันติดอยู่ตรงนั้นค่อนข้างนาน เพราะดูเหมือนจะเป็นจุดที่เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และไม่ยอมสลายแม้เวทีกลางจะประกาศสลายตัวนานแล้ว กว่าจะเดินเข้ามาถึงลานพระบรมรูปทรงม้าได้ ปรากฏว่าผู้ชุมนุมที่ทำเนียบฯ ทยอยกลับบ้านกันไปมากแล้ว มีเพียงบางส่วนนั่งจับกลุ่มรอขึ้นรถบัสที่รัฐบาลเตรียมไว้ให้   ฉันเดินเข้าไปพูดคุยกับหญิงสาวคู่หนึ่งที่ยืนอยู่ด้วยกัน คนหนึ่งตาแดงๆ เหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้ และเพียงเอ่ยปากถามถึงความรู้สึกเท่านั้น ทุกอย่างก็พรั่งพรู เธอดูคับแค้นใจกับการปิดล้อมของทหารมาก และกล้ำกลืนกับการที่ต้องต่อแถวเพื่อให้ทหารถ่ายรูปพร้อมกับชูบัตรประชาชนทีละคนๆ ก่อนจะออกจากพื้นที่ชุมนุมได้   “มันเจ็บใจ เราเป็นคนไทยคนนึง ทำกับเราเหมือนเป็นอาชญากร ผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่มีอะไรเลยเดินผ่านทหารเป็นร้อยคน แล้วถ่ายรูป ทำกับเราเหมือนเป็นผู้ร้าย แล้วทำไมให้ใส่ชุดทหารมายิงพวกเราได้ ไม่คิดอะไร...ที่เจ็บใจ ที่ร้องไห้ เพราะศักดิ์ของความเป็นคนของเรามันอยู่ตรงไหน”    “ถ้าเค้าจะปราบเราก็ยอม เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราแค่มาปกป้องสิทธิและเสรีภาพของเรา เราไม่ได้ไปปล้น ไปจี้ ไปชิงใคร พันธมิตรฯ ฆ่าคนตายไม่จัดการอะไรเลย เราไม่ได้ทำอะไรใครแถมถูกใส่ร้ายสารพัด แผ่นดินนี้เราเหยียบไม่ได้เหรอ เราทำอะไม่ได้เลยเหรอ”   อารมณ์ผู้คนในตอนนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่เฉยๆ ทำใจได้ เสียอกเสียใจ ไปจนกระทั่งคับแค้น จากการพูดคุยกับผู้คนที่เหลืออยู่บางส่วนในเวลานั้น ประเด็นสำคัญที่พวกเขาทั้งหมดพูดกันมากคือ เรื่อง 2 มาตรฐานในสังคมไทย การวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของสื่อมวลชน โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการรายงานเพียงช่วง 2 -3 วันนั้นเท่านั้น แต่เป็นความเก็บกดมานานสำหรับคนเสื้อแดงซึ่งรู้สึกเหมือนตนเองเป็นพลเมืองชั้น 2 และการรายงานเหตุการณ์ในช่วงสงกรานต์นี้ดูจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับความอดทน ... ระหว่างกัน   ที่สำคัญคือ ข่าวลือเรื่องผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในการสลายการชุมนุม การปะทะ ณ จุดต่างๆ โดยเฉพาะที่สามเหลี่ยมดินแดงตอนเช้ามืดวันที่ 13 เมษายน อันเป็นที่มาของคำว่า “สงกรานต์เลือด” ก็กระจายตัวและค้างคาในใจผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ   0000     พี่ชายที่รู้จักอีกคนหนึ่งมายังที่ชุมนุมด้วย ฉันเจอเขาโดยบังเอิญและเล่าเรื่องราวให้เขาฟัง เขาพูดติดตลก แต่เป็นตลกร้ายว่า การกลับบ้านของพวกเสื้อแดงก็เหมือนหนังฮ่องกงที่ อู๋ม่งต๊ะ ชอบเล่นเป็นมาเฟีย แล้วมักมีบทที่โดนสั่งให้ลอดหว่างขาของศัตรูเพื่อเอาชีวิตรอด   “มันก็เหมือนกัน ถ้าคุณอยากกลับอย่างปลอดภัย ก็จงถอดเสื้อแดง ถ่ายรูป แล้วขึ้นรถศัตรูกลับบ้านไป ... ถอดศักดิ์ศรีของคุณซะ”   แม้ผู้คนจะทยอยกันกลับไปเยอะแล้ว แต่รถยนต์ยังต่อแถวยาวเพื่อตรวจค้นอาวุธทีละคันๆ ก่อนออกจากพื้นที่ แกนนำส่วนใหญ่ถูกคุมตัวไปไว้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันนั้นแล้ว คงเหลือแต่หมอเหวงที่ยืนประกาศอำนวยความสะดวกกับประชาชนอยู่บนรถเครื่องเสียงจนหยดสุดท้าย พร้อมเสียงที่เริ่มแหบแห้ง   จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวหมอเหวงมาที่กองบัญชาการ โดยมีการ์ดคนหนึ่งถูกคุมตัวเดินมาด้วย ระหว่างทาง ป้าเสื้อแดงคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับหมอเหวง “เค้าจับหมอของเราแล้ว ป้า” การ์ดร่างใหญ่ตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้   ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นักข่าวรอทำข่าวที่นั่นเต็มไปหมด ฉันจึงออกจากพื้นที่นั้น มาดูสถานการณ์ที่วังแดงอีกครั้ง ที่นั่นคนเริ่มน้อยลงแต่ก็ยังคงมีเหนียวแน่นอยู่จำนวนหนึ่ง   พี่คนเดิมนำพาฉันไปเจอลุงไสวจากอุดรธานี ซึ่งนั่งอยู่ริมฟุตบาทแถวนั้น เจ๊ๆ ซึ่งดูเป็นชาวบ้านเจ้าถิ่นกำลังจัดแจงลงขันกันส่งค่ารถให้ลุง เมื่อฉันไปถึง ฉันควักให้เขาด้วย 100 รวมแล้วลุงได้เงินหลายร้อยบาทเป็นค่ารถกลับบ้าน   ลุงเล่าว่ามาชุมนุมกับกลุ่มคนรักอุดรมา 20 กว่าวันแล้ว และวันนี้เมื่อสลายการชุมนุมก็ต่างคนต่างกลับ ลุงกับลูกสาวตัวน้อยวัยไม่เกิน 6 ขวบตกค้างอยู่ที่นี่ และไม่มีค่ารถกลับบ้าน เงินที่เอามาพันกว่าบาทก็กินใช้ และซื้อเสื้อแดงจนหมดแล้ว เหลือแต่เพียงข้าวห่อติดตัวและเศษเงินอีกไม่กี่สิบบาท   “เราจะมากันใหม่ พวกบ้านผมเขาไม่ยอมเลย ถ้าหากไม่ได้ทักษิณกลับมาเขาไม่ยอม อยู่นี่กันหมดเพราะอะไร เพราะถ้าหากไม่น็อกกูไม่กลับบ้าน พวกแถวหมู่บ้านก็เอาข้าวมาให้ เป็นกระสอบๆ ทั้งสาด ทั้งหมอน เสื้อผมยังไม่มีซักตัวจะกลับบ้าน มีแต่เสื้อสีแดง ตัวนี้ (สีขาวที่ใส่อยู่) เขาก็ให้มา”   แท็กซี่คนหนึ่งที่อยู่ในวงรับอาสาจะไปส่งลุงไสวที่หมอชิต “ไปรถผมก็ได้ ผมขับแท็กซี่” ทุกคนอวยพรแก ฉันเขียนเบอร์โทรศัพท์ตัวเองยัดใส่มือแก เผื่อว่ามีปัญหาอะไรจะได้โทรบอก เราแยกย้ายกันไป และหลังจากนั้นพักใหญ่แกจึงโทรกลับมาบอกว่าได้ตั๋วรถเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณทุกคนมาก ฉันรับคำขอบคุณนั้นไว้โดยไม่รู้จะไปบอกใครต่อ เพราะทุกคนแยกย้ายกันไปนานแล้วโดยที่ยังไม่ทันได้รู้จักกันด้วยซ้ำ     0000     มันเป็นบรรยากาศที่บอกไม่ถูกในเย็นวันนั้น แม้คนที่ไม่เห็นด้วยกับเสื้อแดงเลยก็น่าจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นความเศร้าประหลาดๆ ของความไม่เท่าเทียม   ฉันกลับมายังโลกใบเดิมอีกครั้ง ในค่ำคืนที่ผู้คนเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน แม้เทียบกับปีก่อนแล้วจะดูเงียบเหงาไปมาก เพื่อนฝูงคนชั้นกลางบางคนพากันเงียบซึม บางคนตาแดงก่ำ ขณะที่บางคนโล่งอก กระทั่งก่นด่า สมน้ำหน้าคนเหล่านั้น   ฉันนึกถึงบรรดาคนต่างจังหวัดที่สละวันพบญาติปีนี้เพื่อมาเรียกร้องในสิ่งที่พวกเขาเชื่อ ต่อสู้เพื่อยืนยันสิทธิและเสรีภาพบางอย่าง เขาคงกำลังนั่งรถกลับบ้าน ระหว่างทางอันยาวนานสายนั้น...พวกเขากำลังครุ่นคิดถึงสิ่งใดกัน ...  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  คำถาม : เราจะรู้จักตัวเองได้อย่างไร กฤษณมูรติ : ท่านรู้จักหน้าของตัวเองเพราะท่านมองดูมันในกระจกบ่อยๆ และเราก็มีกระจกอีกบานที่จะมองตัวเองให้ชัดเจน ไม่เฉพาะใบหน้าเท่านั้น แต่จะมองเห็นทั้งหมดที่ท่านคิด ที่ท่านรู้สึก รวมถึงแรงจูงใจ ความปรารถนาของท่าน แรงกดดัน และความรู้สึกกลัวต่างๆของท่าน กระจกบานนั้น - ได้แก่กระจกแห่งความสัมพันธ์  ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับพ่อแม่ของท่าน ระหว่างท่านกับครูของท่าน ระหว่างท่านกับแม่น้ำ ต้นไม้ โลก ระหว่างท่านกับความคิดของท่าน   ความสัมพันธ์จึงเป็นกระจกที่ท่านจะเห็นตัวเอง มิใช่ตามที่ท่านปรารถนา แต่ตามที่ท่านเป็นอยู่อย่างแท้จริง เมื่อมองดูกระจกธรรมดา ข้าพเจ้าอาจปรารถนาที่จะเห็นตัวเองสวยงามในนั้น แต่สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะว่ากระจกจะสะท้อนอย่างชัดเจนให้เห็นใบหน้าของข้าพเจ้าอย่างที่มันเป็น และดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่สามารถหลอกตนเองได้     ในทำนองเดียวกัน ข้าพเจ้าสามารถเห็นตนเองอย่างแท้จริง-ในกระจกแห่งความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับผู้อื่น ซึ่งสุภาพอ่อนน้อมที่สุด กับผู้ที่ข้าพเจ้าคิดว่า...เขาสามารถจะให้ประโยชน์แก่ตัวข้าพเจ้าได้ แต่จะไม่สุภาพและเหยียดหยาม...ผู้ซึ่งไม่สามารถจะให้ประโยชน์แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะสนใจเป็นพิเศษ...กับผู้ซึ่งข้าพเจ้ารู้สึกกลัว และข้าพเจ้าจะรีบลุกขึ้นยืน...เมื่อมีบุคคลที่สำคัญเดินมา แต่กับคนรับใช้แล้ว...ข้าพเจ้าจะไม่ให้ความสนใจใดๆเลย   ดังนั้น การสังเกตดูตัวเองในความสัมพันธ์กับผู้อื่น ข้าพเจ้าก็จะพบว่า ข้าพเจ้าให้ความนับถือผู้คนอย่างไม่ถูกต้องอย่างไรบ้าง และข้าพเจ้าจะพบตนเองอย่างที่เป็นจริงได้อีก ก็โดยสังเกตความสัมพันธ์ของข้าพเจ้ากับต้นไม้ กับฝูงนก กับความคิด กับหนังสือ และอื่นๆ   ท่านอาจมีปริญญาของทุกๆสาขาวิชาในโลก แต่หากท่านไม่รู้จักตัวเองแล้ว ท่านก็จะเป็นบุคคลที่โง่เขลา การรู้จักตนเองเป็นเป้าหมายแห่งการศึกษาทั้งหมด หากปราศจากความรู้ในตนเองแล้ว การเก็บข้อเท็จจริง หรือการจดการบรรยายเพื่อสอบให้ได้นั้น - จะเป็นชีวิตอย่างโง่เขลา   ท่านอาจสามารถ อ้างถึงคัมภีร์ภควัทคีตา อุปนิษัท คัมภีร์อัลกุรอาน หรือคัมภีร์ของคริสต์ศาสนา แต่ถ้าท่านไม่รู้จักตนเองแล้ว ท่านจะเป็นเหมือนนกแก้วนกขุนทอง - ที่จำคำพูดของคนอื่นมาพูดเท่านั้น   ในวินาทีที่ท่านรู้จักตนเอง ไม่ว่ามันจะเล็กน้อยเพียงใด กระแสของความคิดสร้างสรรค์จะเริ่มเกิดขึ้น มันเป็นการค้นพบอย่างทันทีในตัวเองอย่างที่ท่านเป็นจริง ไม่ว่าท่านจะโลภ ชอบเอาชนะ โกรธ อิจฉา หรือโง่เขลา การสังเกตดูความจริงที่เป็นอยู่ โดยไม่ต้องพยายามที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลง พยายามมองสิ่งที่ท่านเป็นอย่างชัดเจน เป็นการค้นพบที่น่าประหลาดใจมาก และจากที่นั่นเอง ที่ท่านจะสามารถพิจารณาสิ่งที่ลึกซึ้ง...ลงไปได้อีกไม่มีที่สิ้นสุด เพราะการรู้จักตัวเองนั้นไม่มีที่สิ้นสุด...   ในกระบวนการรู้จักตนเองนั่นเอง ที่ท่านจะเริ่มรู้จักพระผู้เป็นเจ้า และความจริง และภาวะเหนือกาลเวลาอันเป็นอนันตกาล ครูของท่านอาจจะถ่ายทอดความรู้ - ที่เขาได้รับมาจากครูอีกทอดหนึ่งให้ท่าน ท่านอาจทำคะแนนได้ดีเยี่ยมในการสอบ ได้ปริญญาและได้สิ่งอื่นๆอีก แต่หากไม่มีความรู้ในตน ดังเช่นการมองใบหน้าของตนในกระจกแล้ว ความรู้อื่นๆก็จะมีความหมายน้อยเหลือเกิน   ผู้ที่ได้รับการศึกษาสูง แต่ไม่รู้จักตนเองนั้น เป็นบุคคลที่ไม่มีปัญญา เขาจะไม่รู้จักความคิด ไม่รู้จักชีวิต ด้วยเหตุนี้ การที่ครูต้องได้รับการศึกษาในความหมายที่แท้จริงซึ่งหมายถึงว่า เขาต้องรู้ ถึงการทำงานของจิตใจและหัวใจของเขา เห็นตนเองชัดเจนอย่างที่เป็นจริง - ในกระจกแห่งความสัมพันธ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก การรู้จักตน เป็นการเริ่มต้นของปัญญา จักรวาลทั้งหมดจะอยู่ในการรู้จักตนเอง มันจะครอบคลุมการดิ้นรน และการแสวงหาทุกอย่างของมนุษยชาติ.     หมายเหตุ : ครับ นี่เป็นคำบรรยายเกี่ยวกับการรู้จักตัวเองของกฤษณมูรติ อีกตอนหนึ่ง ที่บรรยายลงลึกและกว้าง มาถึงประเด็นที่สำคัญที่สุด นั่นคือ การทำความรู้จักตัวเอง จากกระจกแห่งความสัมพันธ์ ระหว่างตัวเรากับผู้คน ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คำบรรยายนี้ ผมคัดมาจากรวมงาน ”แห่งความเข้าใจชีวิตและการศึกษาที่แท้” แปลโดย โสรีย์ โพธิแก้ว เหมือนตอนที่แล้ว และต้องขออนุญาตอาจารย์ในที่นี้ด้วยนะครับ   ด้วยความสัตย์จริงโดยส่วนตัวผม ตั้งแต่ผมเกิดมา ผมยังไม่เคยมีใคร มาให้ความรู้ที่เป็นดรรชนีชี้ทางให้ผม ทำความรู้จักตัวเองได้ดีที่สุดเท่ากับกฤษณมูรติ และเรื่องอื่นๆอีกมากมายเกี่ยวกับภายในของมนุษย์ ที่ท่านถอนรากถอนโคนออกมาตีแผ่ให้เราพินิจพิเคราะห์และทำความเข้าใจ ที่ผมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนถูกทุบหัว และต้องยอมรับว่าแท้จริงแล้ว ตัวเองแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ของตัวเอง เมื่อพบงานของท่าน ผมจึงรู้สึกเหมือนได้พบขุมทรัพย์ทางจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณนักแปลทุกท่าน ที่นำงานของกฤษณมูรติมาเผยแพร่ในบ้านเรา   แน่นอน ผมยังไม่จบการนำเสนองานของกฤษณมูรติ ที่ผมอ่านแล้วอ่านอีกด้วยความซาบซึ้ง แก่ท่านผู้อ่าน สลับกับข้อเขียนของตัวเอง ตามวาระอันควร  สำหรับท่านที่สนใจหนังสือเล่มนี้ของกฤษณมูรติ รวมทั้งเล่มอื่นๆของท่าน เชิญติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง โทร. 024 110-774 และ 028 661-557   30 มิถุนายน 2552 กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่     
กฤนกรรณ สุวรรณกาญจน์
ผมคิดว่าโครงใบหน้าของคนไตดูสวยดี โดยเฉพาะ ,ผู้หญิง ถึงแม้ว่า วันนี้ พวกเธอหลายคนจะต้องออกไปหางานทำนอกหมู่บ้าน , สิ่งที่มากกว่านั้น คือ ความรักและแรงศรัทธาในการร่วมงานบุญ ,และรอยยิ้มของพวกเธอ
สวนหนังสือ
นายยืนยงชื่อหนังสือ           :           824ผู้เขียน               :           งามพรรณ เวชชาชีวะประเภท              :           นวนิยาย  พิมพ์ครั้งที่ 2 มีนาคม 2552จัดพิมพ์โดย        :           เวิร์คพอยท์พับลิชชิ่ง จำกัด

แท็กล่าสุด

แท็กยอดนิยม