Skip to main content
 

สองหนุ่มเพื่อนซี้ชาวออสเตรเลียน John Rendall กับ Anthony Boruke เกิดได้ข่าวมาว่าที่ห้างสรรพสินค้า Harrods แผนก Exotic Pet มีลูกสิงโตที่เกิดในสวนสัตว์มาขาย ด้วยความอยากรู้อยากเห็น สองหนุ่มจึงชวนกันไปดู และเมื่อพบว่าเจ้าลูกสิงโตตัวนั้นนั่งจ๋องทำท่าซึม ๆ เหงา ๆ อยู่ในกรง เขาทั้งสองก็ตัดสินใจซื้อมันกลับมาในราคา 250 Guineas


เจ้าสิงโตน้อยผู้ได้รับการขนานนามว่า Christian ได้พักอาศัยอยู่กับสองหนุ่มผู้เป็นเจ้าของที่แฟลตชั้นใต้ดินของร้านเฟอร์นิเจอร์ที่เชลซี มันกลายเป็นขวัญใจของคนแถบนั้น ใคร ๆ ก็รอคอยที่จะได้เห็น ได้บันทึกภาพของมันตอนที่เจ้าของพาออกมาวิ่งเล่นที่หน้าโบสถ์ St. John's


เวลาผ่านไปเกือบปี สิงโตน้อย Christian ที่ตอนแรกหนักแค่ 35 ปอนด์ ก็เติบโตขึ้นมาก John กับ Anthony เริ่มประสบปัญหาด้านการเงิน เพราะ Christian กินจุขึ้นทุกวัน และในไม่ช้ามันก็จะเติบโตเป็นสิงโตหนุ่มเต็มวัย ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีปัญหาเกี่ยวกับความดุร้ายและความต้องการที่จะสืบเผ่าพันธุ์ ในที่สุด เจ้าของทั้งสองก็ตัดสินใจว่า การส่ง Christianไปสู่แอฟริกา มาตุภูมิแห่งเผ่าพันธุ์ที่บรรพบุรุษของมันเคยครอบครองเป็นเจ้าของ น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด


ด้วยความช่วยเหลือของ George Adamson เจ้าหน้าที่หน่วยงานช่วยเหลือและอนุรักษ์สัตว์ป่าที่เคนยา ในที่สุด Christian ก็กลับไปถึงแอฟริกา George ได้ส่ง Christian ไปทำความรู้จักกับ Boy สิงโตหนุ่มที่เคยแสดงในภาพยนต์เรื่อง Born Free เพื่อให้ Boy ช่วยเหลือ Christian ในการปรับสภาพเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน Christian ก็เริ่มคุ้นเคยกับการอยู่ป่า และในที่สุดก็มีฝูงเป็นของตนเอง


จากวันสุดท้ายที่ได้กล่าวอำลากันนานนับปี John และ Anthony ก็รวบรวมเงิน และเดินทางไปแอฟริกา เพื่อที่จะไปเยี่ยม Christian เพื่อนรักของพวกเขา แม้จะได้รับคำเตือนว่า Christian กลายเป็นสัตว์ป่าไปแล้ว ระยะเวลาที่ห่างกันอาจทำให้มันลืมพวกเขา และอาจเข้าจู่โจมทำร้ายได้ก็ตาม


แต่ Christian ไม่ได้ลืมพวกเขา มันไม่เคยลืมเลยแม้แต่วันเดียว


ทันทีที่เห็น John กับ Anthony สิงโตหนุ่มที่ไม่มีใครเรียกขานมันด้วยชื่อ Christian มานานกว่าปีแล้วก็ชะงักไปนิดหนึ่ง มันเหยาะย่างเข้าหาภาพตรงหน้าอย่างเชื่องช้าด้วยสายตาที่เหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น และแล้วเมื่อมั่นใจว่านั่นไม่ใช่ความฝัน มันก็ซอยเท้าเร็วจี๋ กระโจนเข้าหาสองหนุ่ม กอดรัดฟัดเหวี่ยง จูบพวกเขาด้วยความรักและคิดถึงอย่างสุดหัวใจ


สัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวทำให้ Christian อยู่รอด หากความรักและความคิดที่มันมี แม้จะอย่างสัตว์ ทำให้มันยังคงแยกแยะและจดจำเพื่อนรักที่เคยเลี้ยงดูและอยู่ร่วมกันมาได้อย่างแม่นยำ


มันเป็นความกลมกลืนระหว่างทั้งสองสิ่ง สัญชาตญาณ กับความรู้คิด


หลังจากที่ได้อ่านรายละเอียดและดู vdo clip จากคำแนะนำของสมาชิก pantip.com ห้องเฉลิมไทย ฉันก็คิดถึงการ์ตูนเรื่องนี้ขึ้นมา Wild Cat

27_7_01


Wild Cat เป็นเรื่องราวของซีซาร์ สิงโตน้อยเพศเมีย (แต่ชื่อแมนจัง) ที่ถูกใครก็ไม่รู้เอามาวางใส่กล่องทิ้งเอาไว้ในคืนวันฝนตกร่วมกับลูกแมวอีกฝูงหนึ่ง ถึงจะตัวใหญ่ไปหน่อย แต่สำหรับเด็กชายวัยสิบขวบอย่างริวอิจิ ก็มองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างลูกสิงโตกับลูกแมว เขารับมันมาเลี้ยง แล้วพร่ำบอกกับมันทุกวันว่า ความฝันของเขาคือการได้เป็นเจ้าของแมวจ่าฝูงที่สง่างามเหมือนสิงโต


แล้วสิงโต ก็เลยมีปณิธานว่า เมื่อเติบโตขึ้น จะเป็น ‘แมวจ่าฝูงที่สง่างามราวกับสิงโต' ให้จงได้ เพื่อให้เป็นไปตามความปรารถนาของคุณหนูริวอิจิ

(ลักลั่นย้อนแย้งจริง ๆ)


แต่ซีซาร์ไม่ได้เติบโตเป็นแมวจ่าฝูงที่สง่างามเหมือนสิงโตหรอกค่ะ ตรงกันข้าม มันกลับกลายเป็นแมวที่ไม่เอาไหนที่สุดในหมู่บ้าน เพราะนอกจากจะทำอะไรต่อมิอะไรอย่างที่แมวทำไม่ค่อยได้แล้ว (ก็คุณจะคาดหวังให้สิงโตตัวโต ๆ กระโดดจับนกหรือจิ้งจกบนข้างฝาได้ยังไงกันล่ะ) มันยังมีนิสัยขี้กลัวเป็นที่หนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ตัวโตกว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในหมู่บ้าน แต่มันกลับถูกแมวจรจัดหรือหมาไล่ฟัด ได้แผลกลับบ้านมาบ่อย ๆ


น่าเศร้าไปหน่อย สำหรับสิ่งมีชีวิตที่มีฉายาว่า ‘เจ้าป่า'


ถึงแม้ว่าทุกคนในหมู่บ้านจะรู้ว่าซีซาร์ไม่มีวันสร้างปัญหาอะไรให้ (ก็สิงโตที่วิ่งหนีหมา จะกล้ากัดคนได้ยังไงกัน) แต่สำหรับริวอิจิ เขากลับรู้สึกว่ามันเป็นปัญหา ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กสิบขวบอีกต่อไปแล้ว เขารู้ว่าซีซาร์เป็นสิงโต ไม่ใช่แมว และมันเป็นสิงโตที่ขี้ขลาดที่สุดในโลก ริวอิจิสะท้อนใจกับเรื่องนี้ เพราะตัวเขาเองกับซีซาร์มีบางส่วนที่เหมือนกัน ในขณะที่ซีซาร์เป็นสิงโตซึ่งควรจะอยู่ในป่า แต่กลับต้องมาอยู่ในเมืองร่วมกับมนุษย์ ตัวเขาก็เป็นลูกเมียน้อยที่มีแม่เป็นชาวต่างชาติ ทำให้สีผมกับสีตาของเขาไม่เหมือนกับคนญี่ปุ่นทั่วไป ทั้งเขาและซีซาร์ต่างเป็นคนแปลกหน้าของสังคมนี้ ต่างอ่อนแอ ต่างถูกรังแก และไม่กล้าที่จะลุกขึ้นต่อสู้กับความอยุติธรรมที่ได้รับ


แทนที่ปัญหาของตัวเองที่ไม่สามารถแก้ตก ริวอิจิพยายามเคี่ยวเข็ญให้ซีซาร์กลับไปเป็นสิงโต เขาพยายามบอกให้มันลืมคำสั่งของเขาที่อยากให้มันเป็นแมวจ่าฝูงที่สง่างามนั่นซะ (ซึ่งมันก็ทำได้เพียงครึ่งเดียว คือครึ่งเป็นแมว ส่วนครึ่งสง่างามตกหายไประหว่างทาง) เขาหาวีดีโอการล่าสัตว์ของฝูงสิงโตมาให้มันดู (ซึ่งซีซาร์กลัวจนต้องเอามือปิดหัวหนีไปชนกำแพง) หาลูกนกมาให้มันหัดล่า (ซึ่งมันคาบไปเลียให้ความอบอุ่นแทนแม่) เขาทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้สัญชาตญาณสัตว์ป่าของมันกลับคืนมา อย่างน้อยที่สุด มันก็จะได้กลับเป็นสิงโต เผ่าพันธุ์ที่น่าเกรงขาม มันจะไม่ถูกรังแก ไม่ถูกผู้คนหัวเราะเยาะอีกต่อไป


แต่แล้ว ริวอิจิก็ได้รู้ว่า การที่ซีซาร์ขี้กลัว การที่ซีซาร์ไม่รังแก ไม่กัดใคร ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นสิงโตนั้น ไม่ใช่เพราะว่ามันลืมเลือนสัญชาตญาณของตัวเองอย่างที่เขาเข้าใจ


แม้แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุด คนที่ขี้ขลาดที่สุด เมื่อยามโกรธเกินระงับยังลืมตัวจู่โจมทำร้าย ซีซาร์ก็เช่นกัน ตัวมันเองอาจไม่ยี่หระกับการถูกกลั่นแกล้ง แต่เจ้าของคือสมบัติล้ำค่าที่มันอยากรักษาไว้ด้วยชีวิต เมื่อซีซาร์เห็นริวอิจิถูกรังแก มันก็พุ่งเข้าหาคนที่ทำร้ายเจ้านายผู้เป็นที่รักด้วยความก้าวร้าว อย่างที่แม้แต่ริวอิจิเองก็ยังคิดว่าซีซาร์ต้องทำร้ายเด็กคนนั้นแน่ ผู้เคราะห์ร้ายจากการถูกซีซาร์ทำร้ายหมดสติ เลือดออกที่หัว และต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วนที่สุด


แต่คมเขี้ยวของซีซาร์ไม่ได้ต้องตัวเด็กคนนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว


ริวอิจิได้รู้ความจริงว่า การที่ซีซาร์เป็นสิงโตใจดีที่ไม่ทำร้ายใคร ไม่ได้หมายความว่ามันขี้ขลาด หรือลืมสัญชาตญาณของความเป็นสัตว์ผู้ล่า แต่เพราะมันเป็นสิงโตที่รู้จักคิด มันรู้ว่าถ้ามันทำร้ายคน มันต้องไปจากริวอิจิ แม้ในยามที่มันโกรธที่สุด ซีซาร์ก็ยังสำนึกถึงขอบเขตของตัวมันเอง


ก่อนที่จะได้เห็น VDO Clip ของ Christian ฉันก็คิดเหมือนกันว่าซีซาร์ออกจะรู้ดีไปหน่อย แต่เมื่อได้ดูแล้ว ฉันก็รู้สึกขึ้นมาว่า มันอาจจะเป็นไปได้


สัญชาตญาณเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวสัตว์ทุกชนิด (แม้แต่สัตว์มนุษย์) มันเป็นสิ่งที่ทรงอิทธิพล และเข้าครอบงำการกระทำเกือบทุกอย่าง หากไม่มี ‘ความรู้คิด' เข้ามาขัดแย้ง ระหว่างสัญชาตญาณกับความรู้คิด สิ่งไหนจะเข้ามามีอิทธิพลและความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตมากกว่า ก็ขึ้นอยู่กับสังคมที่สิ่งมีชีวิตชนิดนั้นอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีสังคมไหนที่เรียกร้องสัญชาตญาณแท้และความรู้คิดถาวร ทั้งสองอย่างพึงผสมกลมกลืนไปด้วยกันเพื่อความสมดุลเสมอ


โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นมนุษย์ การใช้สัญชาตญาณแต่เพียงอย่างเดียว ย่อมสร้างความวุ่นวายให้แก่สังคม แต่หากคุณใช้ความรู้คิดแต่เพียงอย่างเดียว บางครั้ง มันก็ทำให้คุณออกห่างจากความเป็น ‘สิ่งมีชีวิต'

บล็อกของ Carousal

Carousal
คุณมีนักร้องหรือนักดนตรีในดวงใจ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคงร้องเพลงของเขาได้อยู่บ้างไหมคะ?แทบจะเรียกได้ว่าเป็นความฝันอันเหลือเชื่อ เมื่อ X-Japan วง J-Rock ในตำนาน ซึ่งประกาศแยกวงไปตั้งแต่ปี 1997 ได้ตัดสินใจกลับมารวมวงกันใหม่ และเปิดคอนเสิร์ต X Japan to Resume its Attach in 2008 I.V. ต้อนรับการกลับมาของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมางานนี้ เหล่าแฟนพันธุ์แท้ (ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นในสมัยนั้น แต่มิวเตชั่นเป็นป้าแก่ ๆ ไปเรียบร้อยแล้วในสมัยนี้) ที่ลงทุนถึงกับจับเครื่องบินไปญี่ปุ่นเพื่อช่วยกันปลงสังขารลุง ๆ ที่แก่แล้ว แต่ก็ยังอุตสาหะเล่นดนตรี Rock…
Carousal
ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาของคุณ คุณคิดว่าตัวคุณเองได้ใช้เวลาทั้งหมดที่มีไปอย่างคุ้มค่าแล้วหรือเปล่าคะ?คุณเคยมีช่วงเวลาที่ปล่อยปละละเลยตัวเองและคนรอบข้าง ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไป ก็ให้นึกเสียดายว่า น่าจะให้ความสำคัญกับช่วงเวลานั้นมากกว่านี้บ้างไหม?คุณเป็นคนผลัดวันประกันพรุ่งหรือเปล่า? มีคำที่คุณอยากพูด มีคนที่คุณอยากพบ มีความฝันที่คุณยังไม่ได้ตั้งต้นลงมือทำให้เป็นความจริงอยู่บ้างไหม?และถ้ารู้ตัวล่วงหน้าว่าชะตากรรมของคุณได้ถูกกำหนดมาให้ต้องตายในอีกหนึ่งวันข้างหน้า คุณจะใช้ช่วงเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงสุดท้ายไปทำอะไร?
Carousal
มีใครเคยบอกว่าคุณเป็นคนแปลกบ้างไหมคะ?การเป็นคนแปลกในสายตาคนทั่วไปนี่ จะว่าดีก็คงดี แต่จะว่าไม่ดีก็คงได้ ในบางมุม ความแปลกแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ แสดงถึงอิสระเสรี แสดงถึงการไม่ตามกระแสและไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของใคร แต่ในอีกบางมุม ความแปลกก็อาจหมายถึงความอุตริไม่เข้าเรื่อง หมายถึงช่องว่างอันใหญ่โตโอฬาร ระหว่างสิ่งที่สังคมยอมรับนับถือกับสิ่งที่คนแปลก ๆ คนนั้นยอมรับนับถือ หมายถึงความไม่เข้าใจ และในบางครั้งก็ลากยาวไปถึงความอยากดัง หรือความเกรียนไปโน่น ๆถ้างั้นจริง ๆ แล้ว ความแปลกมันหมายถึงอะไรกันแน่นะ?ฉันมีสาวน้อยอันเป็นตัวอย่างของความแปลกคนหนึ่งมาแนะนำให้คุณรู้จักค่ะ เธอคือนาคาฮาร่า ซูนาโกะ…
Carousal
คุณคะ คุณกำลังมีความทุกข์อยู่หรือเปล่าคะ? ถ้าคุณกำลังอยู่ในภาวะที่ตึงเครียด ท้อถอย วิตกกังวล ไม่มั่นใจ ไม่ว่าจะกับสิ่งที่คุณได้เลือกไปแล้วในอดีต หรือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต คุณต้อนรับตอนเช้าด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งจนไม่อยากลืมตาตื่น และใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดหวั่นต่อเนื่องวันแล้ววันเล่า คุณอยากพูดคุยกับใครสักคน แต่เมื่อมองดูรอบข้างแล้ว คุณกลับไม่เห็นใครเลยที่เหมาะสมจะเป็นที่ปรึกษาพูดคุยปรับทุกข์ ในเวลาอย่างนี้ ที่เมืองในหมอกแห่งหนึ่งที่ชื่อเมืองนาซุมิ จะมีธรรมเนียมโบราณที่เรียกว่า การขอ ‘คำทำนายตรงหัวมุม’ อยู่ค่ะ การขอคำทำนายตรงหัวมุม…
Carousal
คุณเคยจินตนาการถึงความตายของตัวคุณเองบ้างไหมคะ?คงไม่ใช่ทุกคนที่เมื่อถึงเวลาก็หลับตาตายบนที่นอนน้อยของตัวเองอย่างสงบเหมือนเตียวจูล่งหยุนแห่งสามก๊ก ความตายไม่เลือกวันเวลา ไม่เลือกอายุอานาม ไม่สามารถผ่อนผัน และไม่รับส่วย ดังนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกหากความตายที่เดินทางมาหา จะเป็นความตายที่คุณไม่อยากได้ ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าคุณจะได้ตายในรูปแบบที่ตัวเองชอบ ไม่แน่ด้วยซ้ำว่าจะได้ตายอยู่ท่ามกลางพี่น้องและญาติมิตรอันแสนอบอุ่นซึ่งคอยกระซิบข้างหูให้คุณไปดี คุณอาจจะตายอย่างปัจจุบันทันด่วนด้วยอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน หรือถูกฆาตกรรมอำพราง ศพถูกนำไปทิ้งไว้ในที่รกร้างไม่มีใครหาพบ ต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน…
Carousal
เคยมีบ้างสักครั้งไหมในชีวิตของคุณ ที่คิดว่าหากสามารถนำชีวิตของบุคคลผู้เป็นที่รักกลับคืนมาจากความตายได้ แม้ต้องขายวิญญาณจองตัวเองให้กับปิศาจก็จะทำ?หากถือว่าพระเจ้าคือกฎเกณฑ์แห่งความถูกต้องอันเป็นนิรันดร์ และปิศาจคือผู้ต่อต้านที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อโค่นล้มความถูกต้องนั้น สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ก็คือเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ปิศาจใช้นำทางไปสู่ความสำเร็จ...มนุษย์เป็นผู้ที่อัดแน่นด้วยความอ่อนแอ ฉงนสงสัย และความไม่แน่นอน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเปิดถ่างช่องว่างแห่งศรัทธา เพียงแค่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง ระหว่างพระเจ้าที่อยู่ไกลและเต็มไปด้วยปริศนา…
Carousal
คุณเคยรู้สึกมีปัญหา กับรูปร่างหน้าตาของตัวเองบ้างไหมคะ?ถ้าคุณเป็นคนหน้าตาดี หรือมีความมั่นใจในตัวเองสูงจนรูปลักษณ์ภายนอกไม่อาจมีอิทธิพลเหนือตัวคุณ คุณอาจไม่เข้าใจเท่าไรนักก็ได้ว่า ทำไมในโลกนี้จึงมีคนที่พยายายามขวนขวายทำทุกวิธีการเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น ทำไมผลิตภัณฑ์เสริมความงามจึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หรือแม้กระทั่งทำไมถึงยอมเจ็บตัวเพื่อผ่าตัดทำศัลยกรรม คุณอาจสามารถพูดได้อย่างเป็นอุดมคติว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของรูปธรรมนามธรรม ความสวยงามเป็นเพียงเรื่องของความนิยมในแต่ละยุคสมัย ไม่ใช่สิ่งที่บ่งบอกสมรรถภาพในตัวแต่ละบุคคล และคนเราควรให้ความสำคัญกับความคิดมากกว่ารูปร่างหน้าตาคุณอาจพูดอย่างนั้นได้…
Carousal
คุณรู้หรือเปล่าคะ ว่าในนิทานพื้นบ้านฉบับดั้งเดิมนั้น เจ้าหญิงนิทราไม่ได้ตื่นขึ้นมาด้วยมนตราแห่งจุมพิตอันเปี่ยมไปด้วยความรักแสนบริสุทธิ์จากเจ้าชายผู้เป็นเนื้อคู่ แต่แท้ที่จริง เธอถูกลักหลับโดยพระราชาที่มีมเหสีแล้ว จนตั้งครรภ์ให้กำเนิดลูกแฝด?คุณรู้หรือเปล่าคะ ว่าหนูน้อยหมวกแดงตัวจริง ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าคุณยายที่เธอตั้งใจจะไปหา และไม่ได้กลับสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของพ่อแม่อีกตลอดกาล เพราะเธอถูกนายพรานข่มขืนและถูกหมาป่าฉีกเนื้อกินจนตายในป่านั่นเองและคุณรู้หรือเปล่าคะ ว่าเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ผู้งามเลิศในปฐพี ได้ตอบแทนแม่เลี้ยงที่พยายามฆ่าเธอมาตลอด…
Carousal
เวลาอ่านการ์ตูนหรือนิยาย คุณเคยตกหลุมรักตัวร้าย แทนที่จะเป็นพระเอกนางเอกบ้างไหมคะ?
ในการ์ตูนสำหรับเด็กเล็ก ความดีกับความชั่วร้ายมักถูกแบ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจนเหมือนสีขาวกับสีดำ เพื่อให้เด็กเข้าใจความแตกต่างและเรียนรู้วิธีการแยกแยะระหว่างความดีกับความเลว ดังนั้น พระเอกนางเอกในการ์ตูนเด็กจึงมักจะเป็นคนดีแบบตรงไปตรงมา ดีแบบไม่มีเหตุผล พอ ๆ กับตัวร้ายที่หลับหูหลับตาร้ายแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีใครดีโดยสิ้นเชิงและร้ายอย่างสุดขั้ว การ์ตูนที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กโตหรือผู้ใหญ่ เราจึงมักจะพบว่าปัจจัยในการเป็นคนดีของพระเอก และความชั่วร้ายของตัวร้าย…
Carousal
คุณรู้ไหมคะว่าทำไมผู้หญิง (บางกลุ่ม) ถึงชอบอ่านการ์ตูนชายรักชาย?
การ์ตูนที่มีตัวละครรักเพศเดียวกันมีชื่อเรียกหลายชื่อ ตามแต่ยุคสมัยและผู้ที่เรียกขานมัน เป็นต้นว่า การ์ตูนโฮโม, การ์ตูน boy’s love, การ์ตูนวาย, การ์ตูนเกย์ ฯลฯ แต่ในความรู้สึกของฉัน ความหมายของคำเหล่านั้นไม่เท่ากันเสียทีเดียว โดยเฉพาะคำว่าการ์ตูนเกย์ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่อ่าน อาจจะคิดว่ามันเป็นคำที่ชัดเจนที่สุด แต่สำหรับคนที่อ่าน มันกลับเป็นคำที่มีความหมายคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงมากที่สุด
การ์ตูนวายไม่ใช่การ์ตูนเกย์ แม้ว่ามันจะเป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครชาย แต่เป้าหมายและความหมายของมันก็ไม่เหมือนกัน…
Carousal
ในโลกอนาคต ยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าถึงขีดสุด ถึงขั้นที่มนุษย์สามารถสร้างสรรค์สิ่งมีชีวิตขึ้นเองได้โดยไม่ต้องอาศัยกระบวนการทางธรรมชาติ การผลิตมนุษย์สังเคราะห์เพื่อเป็นแรงงานแทนมนุษย์กลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีประโยชน์มหาศาล ด้วยความสามารถทางวิทยาศาสตร์ มนุษย์สังเคราะห์เหล่านี้จะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทุกประการ แต่มีความสามารถทางกายภาพสูงกว่ามาก เนื่องจากสามารถดึงพลังงานจากเซลล์ต้นกำเนิดมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า ทำให้เขาเหล่านั้นแข็งแรงกว่า และมีความสามารถในระดับที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถเทียบได้การคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนทำให้การสร้างมนุษย์สังเคราะห์ถูกต่อต้าน…
Carousal
คุณเคยคิดบ้างไหมคะว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนไม่เพียงแต่สิ่งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนอย่างระบบโครงสร้างของร่างกายที่ตั้งฉากกับพื้นโลก  ซึ่งแตกต่างจากสัตว์มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างระบบสมอง การรับรู้ และความรู้สึกนึกคิดอีกด้วย การทำงานของเซลล์ประสาทสีเทานับล้าน ๆ เซลล์ที่กระจุกตัวรวมกันอยู่ใต้กระโหลกของเรา ทำให้มนุษย์สามารถแปลผลและวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ที่ได้พบเป็นข้อมูลที่ลึกซึ้งได้และด้วยความซับซ้อนของสมองนี้เอง เมื่อมันต้องทำงานภายใต้สภาวะที่ไม่เหมาะสมกับตัวมัน เช่นมีความกดดันหรือความเครียด…