เคยมีบ้างสักครั้งไหมในชีวิตของคุณ ที่คิดว่าหากสามารถนำชีวิตของบุคคลผู้เป็นที่รักกลับคืนมาจากความตายได้ แม้ต้องขายวิญญาณจองตัวเองให้กับปิศาจก็จะทำ?
หากถือว่าพระเจ้าคือกฎเกณฑ์แห่งความถูกต้องอันเป็นนิรันดร์ และปิศาจคือผู้ต่อต้านที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อโค่นล้มความถูกต้องนั้น สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ก็คือเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ปิศาจใช้นำทางไปสู่ความสำเร็จ...มนุษย์เป็นผู้ที่อัดแน่นด้วยความอ่อนแอ ฉงนสงสัย และความไม่แน่นอน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเปิดถ่างช่องว่างแห่งศรัทธา เพียงแค่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง ระหว่างพระเจ้าที่อยู่ไกลและเต็มไปด้วยปริศนา กับปิศาจที่อยู่ใกล้และเป็นฝ่ายเข้าอกเข้าใจในตัวมนุษย์
แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่ใช่ความคลางแคลงหรือความสูญสิ้นศรัทธาหรอกที่ปิศาจใช้เป็นไม้ตาย อาวุธที่ร้ายแรงที่สุดที่ปิศาจใช้ทำสงครามกับพระเจ้าโดยผ่านมือของมนุษย์ ก็คือสิ่งเดียวกันกับที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่มนุษย์ และมีโองการให้มนุษย์มอบมันให้แก่กันและกันนั่นเอง
สิ่งนั้นคือความรัก
D.Grey-man เป็นเรื่องราวของสงครามที่มีความรักความผูกพันของมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ระหว่างฝ่ายหนึ่ง ปิศาจผู้มีชีวิตอยู่บนโลกมาเนิ่นนานที่เรียกกันว่า ‘ท่านเคาทน์พันปี’ (The earl of millennium) กับอีกฝ่ายหนึ่ง นักรบของพระเจ้าที่มีตัวตนอยู่อย่างไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสังคมซึ่งเรียกว่าศาสนจักรแห่งความมืด โดยมีเหล่าเอ็กโซซิสท์ซึ่งถูกเลือกโดยพระเจ้าให้ครอบครองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่าอินโนเซนส์เป็นกำลังพลหลัก
ท่านเคาทน์พันปีจะเดินทางไปท่ามกลางหมู่มนุษย์ จากที่หนึ่งสู่ที่หนึ่ง ผ่านกาลเวลา ผ่านยุคสมัย คอยสดับฟังเสียงคร่ำครวญจากมนุษย์ที่เพิ่งสูญเสียบุคคลที่ตนเองรักที่สุดให้กับความตายในรูปแบบที่ไม่อาจยอมรับได้...ความตายที่ก่อให้เกิดความเสียใจ ความเสียใจที่ก่อให้เกิดคำถาม ทำไมพระเจ้าจึงต้องพรากชีวิตที่ตนรักไป? ทำไมพระเจ้าจึงมองไม่เห็นความดีและศรัทธาที่มีต่อพระองค์? คำถามที่แสดงความสั่นคลอนความเชื่อมั่นที่มีต่อพระเจ้านี้เองคือเสียงเรียกหาท่านเคาทน์พันปี ท่านเคาทน์จะมาพบคนผู้นั้น ยื่นมืออันมีเมตตามาพร้อมข้อเสนอที่จะมอบชีวิตที่จากไปคืนให้โดยไม่มีเงื่อนไข
หากมนุษย์รับข้อเสนอ และยินยอมใช้ความผูกพันของตนเรียกหาวิญญาณของผู้ที่จากไป วิญญาณนั้นจะถูกดึงกลับคืนมาจากภพแห่งความตาย และเข้าสู่โครงสร้างร่างกายแบบง่าย ๆ ที่ท่านเคาทน์พันปีสร้างขึ้นจากวัตถุที่เรียกว่าดาร์ค มาเธอร์...ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างมีความสุข แต่จริง ๆ แล้วเปล่า เพราะนี่เพิ่งเป็นแค่จุดเริ่มต้น เพราะคนตายที่กลับคืนมาสู่โลกไม่สามารถอยู่ในร่างที่สร้างจากดาร์ค มาเธอร์ได้ตลอดไป พวกเขาต้องการเปลือกนอกที่เป็นมนุษย์ และเปลือกนอกที่พวกเขาจำเป็นจะต้องใช้ ก็คือกายเนื้อของคนที่เรียกเขากลับมานั่นเอง
มาถึงตอนนี้ คุณคงพอจะเดาเล่ห์กลของท่านเคาทน์พันปีและเรื่องราวในบทต่อไปได้บ้างแล้ว...ความตายถูกเปลี่ยนมือ ผู้ตายกลับฟื้นคืนชีวิต ผู้ที่เรียกหากลับเป็นฝ่ายตาย ผู้ตายในร่างที่สร้างจากดาร์ค มาเธอร์จะต้องฆ่าผู้ที่เรียกหาตน และสอดร่างเข้าไปสวมผิวหนังของคนผู้นั้น กายเนื้อที่มีร่างของดาร์ค มาเธอร์ และดวงวิญญาณของผู้ตายสิงสถิตย์อยู่จะถูกเรียกว่า AKUMA ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงปิศาจ
แรกเริ่ม AKUMA จะมีสติสัมปชัญญะที่ค่อนข้างจำกัด แต่เมื่อฆ่าคนต่อไปเรื่อย ๆ พลังของ AKUMA ก็จะมากขึ้น เช่นเดียวกับสติสัมปชัญญะที่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อถึงตอนนั้น วิญญาณของพวกเขาเหล่านั้นก็ถูกย้อมด้วยบาปแห่งการฆาตกรรมเสียจนไม่สามารถกลับไปพบพระผู้เป็นเจ้าได้อีก และวิญญาณบาปเหล่านี้เองที่ท่านเคาทน์พันปีใช้เป็นกองทัพในการทำสงครามกับพระผู้เป็นเจ้า
และแน่นอน หน้าที่ของเหล่าเอ็กโซซิสท์ ก็คือการต่อต้านท่านเคาทน์พันปี และกำจัด AKUMA เหล่านี้นั่นเอง
แม้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างฝ่ายปิศาจที่นำทีมโดยท่านเคาทน์พันปี และเอ็กโซซิสท์ของศาสนจักรแห่งความมืดโดยผ่านทางมุมมองของอเลน วอล์คเกอร์ พระเอกของเรื่อง แต่ประเด็นสำคัญของ D.Grey-man ก็ไม่ได้อยู่ที่การต่อสู้ แต่กลับเน้นย้ำถึงความเป็นมนุษย์ และการต่อสู้กับความอ่อนแอในจิตใจ อันเป็นพื้นฐานของมนุษย์ทุกผู้ทุกนามมากกว่า
คุณคิดว่าตัวคุณเองเป็นคนเข้มแข็งไหมคะ? หากมีเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตามที่ทำให้คุณต้องตัดสินใจเลือกเพียงทางใดทางหนึ่ง คุณมั่นใจไหมคะว่าคุณจะเลือกทางที่ถูกต้องเสมอ? และคุณมั่นใจได้อย่างไรคะว่าทางที่คุณเลือกเป็นทางที่ถูกต้องแล้วจริง ๆ?
นั่นคือสิ่งที่การ์ตูนเรื่องนี้กำลังถามคุณค่ะ
คงเคยมีบ้างสักครั้งในชีวิตคุณ เวลาที่คุณมองการตัดสินใจหรือการกระทำของคนอื่น แล้วคิดสงสัยว่าทำไมเขาจึงเลือกทางที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นความผิดตามมาตรฐานของคุณเองหรือของสังคม และคิดว่าถ้าเป็นตัวคุณเอง คุณจะไม่เลือกทางนั้นอย่างเด็ดขาด...เหมือนอย่างคนที่รู้เรื่องของท่านเคาทน์พันปีเป็นอย่างดี แต่เมื่อถึงคราวที่ตัวเองต้องเสียคนที่รัก ก็ยอมตอบรับข้อเสนอของปิศาจ เหมือนเอ็กโซซิสท์ซึ่งได้รับเกียรติสูงสุดจากพระเจ้าให้ครอบครองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งควรจะยินดีและทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มความสามารถ แต่กลับทรยศต่อศาสนจักรเพียงเพราะเหตุผลง่าย ๆ ที่ดูไร้ความสำคัญอย่างการอยากกลับไปอยู่กับครอบครัว เหมือนมนุษย์ที่เลือกเข้าข้างท่านเคาทน์พันปีด้วยความตั้งใจของตนเอง ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นทายาทของ ‘โนอา’ ผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลกในพระคัมภีร์ ซึ่งควรจะมีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด
แต่อย่าลืมว่า ความรู้สึกนึกคิดเป็นปัจเจกเฉพาะบุคคล เมื่อผนวกเข้ากับสถานการณ์ในแต่ละรูปแบบ ทำให้มนุษย์แต่ละคนเลือกทางเดินที่แตกต่างกัน และตราบเท่าที่คุณเองไม่ใช่ตัวเขาไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมของเขา และไม่ได้ประสบเหตุการณ์แบบเดียวกันกับเขา คุณย่อมไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องประสบอย่างลึกซึ้ง และย่อมไม่สามารถตัดสินชี้ขาดได้ว่าสิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิด ไม่แน่ว่าหากคุณต้องสูญเสียคนรักบ้าง คุณเองก็อาจจะเรียกหาท่านเคาทน์พันปี ไม่แน่ว่าหากคุณต้องเสี่ยงชีวิตต้องทำงานเอ็กโซซิสท์ทั้งที่คุณอยากใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่กับครอบครัว คุณก็อาจจะทรยศต่อศาสนจักร และไม่แน่ว่า ถ้าคุณอยู่บนโลกมาเนิ่นนาน เฝ้ามองดูพฤติกรรมของมนุษย์ ปิศาจ พระเจ้า และมีบทเรียนจากบรรพบุรุษของตนเหมือนอย่างพวกลูกหลานของโนอา คุณเองก็อาจจะเลือกเข้าข้างท่านเคาทน์พันปีก็ได้
ถ้าคุณสนใจเกี่ยวกับแรงจูงใจเบื้องลึกของพฤติกรรมมนุษย์ ฉันอยากให้คุณลองอ่าน D.Grey-man ลองเอาจินตนาการตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ของตัวละครแต่ละตัว และลองคิดว่าถ้าเป็นคุณ คุณจะตัดสินใจอย่างไร
บางทีสิ่งที่คุณเลือกกับสิ่งที่ถูกต้องอาจจะขัดแย้งกันก็ได้