ไปดูสามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือกันมาหรือยังคะ?
ในความรู้สึกของฉัน สามก๊กเป็นพี่น้องกับหวัด กล่าวคือ ในขณะที่บ้านเมืองปกติสุข ทั้งสามก๊กและหวัด ต่างก็มีฐานลูกค้าสนับสนุนของตนเองเรื่อย ๆ ไม่มีว่างเว้น คนเราติดหวัดกันได้โดยไม่เลือกเวล่ำเวลาหากอดหลับอดนอนหรือทำงานหนักตากแดดตากฝนฉันใด สามก๊กก็เป็นวรรณกรรมที่ไม่ว่าใครก็ใคร ต้องหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบหนังขึ้นมาดู เพื่อดื่มด่ำกำซาบทั้งรสของภาษาและเนื้อหาที่ใครต่อใครเขาก็ว่าเป็นหนึ่งในแผ่นดินโดยไม่เลือกเวล่ำเวลาฉันนั้น
หากนาน ๆ ครั้ง โรคที่เป็นในระดับนอนพักสามวันหายอย่างหวัดจะระบาดใหญ่ ทำให้คนล้มเจ็บล้มตายกันหลายพันหลายหมื่น ก็เช่นเดียวกับสามก๊ก ที่เมื่อครบรอบการฮิตเมื่อใด วรรณกรรมเรื่องนี้ก็จะถูกเฮโลสร้างออกมาเป็นการ์ตูนบ้าง หนังบ้าง เกมบ้าง หรือพิมพ์หนังสือใหม่บ้างโดยไม่มีการนัดหมาย ให้คนเฒ่าที่อยู่ทันการฮิตรอบที่แล้วปัดฝุ่นหยิบหนังสือมาอ่านใหม่ และให้เด็กรุ่นต่อไปที่ยังโตไม่ทันการฮิตรอบที่แล้วได้ทำความรู้จัก และหากแฟนรุ่นใหม่คนไหนเกิดติดอกติดใจเป็นพิเศษ ก็อาจพัฒนาการเป็นแฟนพันธุ์แท้สามก๊กรุ่นต่อไปในภายภาคหน้า
และเนื่องจากนี่คือ ‘สุดสัปดาห์กับการ์ตูน’ เพราะฉะนั้น เราก็มาคุยกันเรื่องการ์ตูนสามก๊กกันดีกว่า
การ์ตูนที่เขียนโดยยึดเอาเรื่องสามก๊กเป็นฉาก เฉพาะที่มีแปลและวางขายในประเทศไทยก็มีหลายเรื่อง มีทั้งที่อ้างอิงตามฉบับดั้งเดิม (เป็นที่รู้กันว่า หมายถึงฉบับนิยายที่ประพันธ์โดยหลอกว้านจง ซึ่งนำมาแปลเป็นฉบับหอพระสมุด หรือฉบับแปลใหม่ของคุณวรรณไวย พัฒโนทัย ไม่ใช่ฉบับพงศาวดาร หรือจดหมายเหตุเรื่องสามก๊ก อันเป็นเรื่องจริงตามประวัติศาสตร์) และที่ดัดแปลงรายละเอียด หรือนำมาตีความใหม่ ที่กำลังโด่งดังอยู่ในช่วงนี้ก็ได้แก่หงสาจอมราชันย์ ที่จับเอาสุมาอี้ขึ้นมาเป็นตัวละครเอก หรือจอมราชันย์อหังการ์ ที่ดำเนินเรื่องจากมุมของโจโฉ ซึ่งตามปกติมักถูกวางเอาไว้ในตำแหน่งของตัวร้ายประจำสามก๊ก
แต่วันนี้ ฉันอยากชวนคุณคุยถึงการ์ตูนเรื่องนี้ค่ะ
Ryu-Ro-Den หรือ มังกรอหังการ์ หมาป่าคะนองศึก
มังกรอหังการ์ หมาป่าคะนองศึก เป็นการ์ตูนที่ออกต่อเนื่องกันมาตั้งแต่รอบการระบาดใหญ่ของสามก๊กครั้งที่แล้ว (รอบการระบาดของสามก๊กครั้งที่แล้ว ถ้าจำไม่ผิดเป็นช่วงปี 2536 – 2537 ค่ะ เป็นช่วงที่สามก๊กซึ่ง TPBS เพิ่งฉายจบไปเมื่อไม่นานนี้เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ ๆ และประเทศไทยก็นำมาฉายทางช่อง 9 อสมท. ก่อนประเทศจีนเองจะได้ฉายเสียอีก กระแสสามก๊กฟีเวอร์ช่วงนั้น ทำให้มีสามก๊กฉบับต่าง ๆ มาฉายทางโทรทัศน์อยู่หลายเรื่อง รวมถึงการ์ตูนสามก๊กหลาย ๆ เล่มก็ได้รับการแปลและตีพิมพ์ในช่วงนั้น) จนกระทั่งมาถึงรอบนี้แล้วก็ยังไม่จบ กล่าวคือ การ์ตูนเรื่องนี้เขียนขึ้นโดยอาจารย์ Yoshito Yamahara ในปี 1993 และนำมาแปลวางขายในรูปแบบภาษาไทยเป็นครั้งแรกในปี 1996
มังกรอหังการ์ หมาป่าคะนองศึก เป็นเรื่องราวของเด็กชายหญิงคู่หนึ่ง อามาจิ ชิโร่ และอิซึมิ มาซึมิ ทั้งสองเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมของญี่ปุ่น ซึ่งกำลังจะเดินทางไปทัศนศึกษาที่ประเทศจีนพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้น (โอ้ว้าว เด็กนักเรียนมัธยมของญี่ปุ่นนี่ทัศนศึกษากันหรูจัง!) แล้วในระหว่างการเดินทาง ท้องฟ้าก็เกิดแปรปรวน แล้วอยู่ ๆ มังกร (จีน) ตัวหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นท่ามกลางหมู่เมฆ (ได้ยังไง?) แล้วก็คาบเอาเด็กทั้งสอง ซึ่งอยู่ตรงทางเดินระหว่างเก้าอี้เครื่องบินสองแถว พาหายลับไปโดยเครื่องบินไม่เสียหายเลยแม้แต่นิดเดียว
ทั้งสองไปปรากฏตัวอีกครั้งในปี ค.ศ. 207 กลางสมรภูมิรบเมืองซินเอี๋ย ระหว่างการโรมรันกันของสองนักรบผู้เกรียงไกรแห่งยุคสามก๊ก จูล่งแห่งเสียงสาน กับโจหยิน แม่ทัพใหญ่แห่งทัพมหาอุปราช!
(ขออนุญาตร้องว้าว)
เพียงชั่วแวบจากการปรากฏตัวของชิโร่และมาซึมิกลางสมรภูมิ ก็ได้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ไปจากหน้ากระดาษที่เราเคยรู้จักมักคุ้นกันทันที ตันฮก หรือที่เรารู้จักกันในนามชีซี ที่ปรึกษาของเล่าปี่ ซึ่งภายหลังควรจะได้ไปสู่ร่มบุญของโจโฉเนื่องจากถูกบังคับจับเอาแม่ไปเป็นตัวประกันนั้น กลับเสียชีวิตลงในการรบที่ซินเอี๋ยหน้าตาเฉย เพราะพลาดท่าเสียทีจากการขับม้าเข้าไปช่วยเด็กน้อยทั้งสองที่ถูกมังกรพาตัวมา ก่อนตาย ชีซีได้ขอร้องให้ชิโร่ ซึ่งถูกอุปโลกน์ให้เป็น ‘บุตรมังกร’ ทำหน้าที่กุนซือแห่งกองทัพเล่าปี่ต่อไป อย่างน้อยก็เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจให้กับทหาร
เด็กหนุ่มธรรมดาจากศตวรรษที่ยี่สิบ กลายเป็นกุนซือที่มิได้มีดีแค่เพียงชื่อเสียง แต่พร้อมด้วยสติปัญญา เพราะเจ้าเด็กธรรมดาคนนั้นเคยอ่านหนังสือสามก๊ก เล่นเกมสามก๊กจนเจดจัดประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก ซึ่งเป็นคุณสมบัติอัศจรรย์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของยุคนี้เป็นอย่างยิ่ง
เพื่อเห็นแก่ชีซีที่ยอมเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเขาและมาซึมิ ชิโร่ยินยอมรับบทกุนซือของกองทัพเล่าปี่ ช่วยวางแผนการทัพจนกองทัพโจหยินแตกพ่าย ชื่อเสียงของ ‘บุตรมังกร’ กุนซือคนใหม่ของเล่าปี่ขจรขจายไปทั่วทุกทิศ ชิโร่และมาซึมิกลายเป็นที่จับตามองของขุนศึกทั้งหลาย กองทัพน้อยที่แทบจะไร้ความหมายของเล่าปี่กลายเป็นกองทัพน่ากลัวที่ไม่พึงประมาท ชิโร่กับมาซึมิอาศัยอยู่ภายใต้ร่มบุญของเล่าปี่ด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ ด้วยพวกเขาไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสงครามที่น่าหวาดหวั่น หากพวกเขาไม่สามารถกลับสู่ยุคที่จากมาได้ อย่างน้อยก็อยากจะอยู่อย่างสงบสุขโดยไม่ต้องเข้าไปข้องเกี่ยวกับการฆ่าคน ชิโร่กับมาซึมิถึงกับปรึกษากันว่าจะไปสู่วุยก๊ก ซึ่งเข้มแข็งมากจนไม่มีใครเป็นฝ่ายเข้าโจมตีก่อนได้
แต่ความตั้งใจของชิโร่และมาซึมิก็ไม่มีทางเป็นความจริงได้ตลอดกาล เพราะพวกเขาถูกโจมตีโดย ‘ชงต๊ะ’ (หรือที่เรารู้จักกันในนาม ‘สุมาอี้’) ชิโร่ตกหน้าผา และถูกเข้าใจว่าเสียชีวิต ส่วนมาซึมิถูกพาตัวไปสู่วุยก๊ก และอยู่ภายใต้การคุ้มครองของโจโฉ ในฐานะเทพธิดาผู้คุ้มครองวุยก๊ก
ชิโร่กลับมาอีกครั้ง หลังจากได้รับการรักษาพยาบาลและได้รับการฝึกฝนวิชาโดยนักพรตจ่อฉือ ซึ่งบังเอิญได้พบในป่าหลังจากที่ตกหน้าผา เขากลับไปสู่กองทัพของเล่าปี่ ร่วมต่อสู้เพื่อหาโอกาสที่จะไปช่วยมาซึมิจากเงื้อมมือของโจโฉ ในขณะเดียวกัน มาซึมิซึ่งอยู่ในพระราชวังหลวง ได้คุ้นเคยกับทหารฝ่ายโจโฉ ก็เกิดความรู้สึกผูกพัน เธอได้รับความรักและเทิดทูนอย่างยิ่งจากทหารชั้นผู้น้อยซึ่งเชื่อว่าเธอมีอำนาจให้ความคุ้มครองพวกเขาได้ พวกเขาทุกคนไม่ได้รบเพราะอยากรบ พวกเขาเพียงต้องการปกป้องญาติพี่น้อง สิ่งที่ทหารแต่ละฝ่ายแตกต่างกันก็มีเพียงความเชื่อมั่นในตัวผู้นำแต่ละคนเท่านั้น แล้วใครจะสามารถบอกได้ว่าผู้นำคนไหนถูกหรือผิด?
มังกรอหังการ์ หมาป่าคะนองศึก ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่สุด หรือสนุกที่สุดในจำนวนการ์ตูนสามก๊กทั้งหมดที่วางตลาด รวมทั้งถ้าคุณไม่ชอบการ์ตูนต่อสู้และ Gary Stu คุณอาจจะไม่ชอบมันเลยก็ได้ แต่จุดเริ่มต้นของมันน่าสนใจ ฉันเชื่อว่านักอ่านสามก๊กแต่ละคน คงมีความคิดเห็นเป็นของตนเองอยู่ในใจ ว่าผู้นำคนไหนคือคนที่ดีที่สุดในความคิดของคุณ มันไม่น่าสนุกหรอกหรือหากจะลองจินตนาการดูบ้างว่า หากคุณสามารถย้อนกลับไปสู่ประวัติศาสตร์ยุคที่เรารู้จักกันดีอย่างสามก๊ก คุณจะใช้ความรู้ที่ได้จากยุคปัจจุบันไปทำประโยชน์ให้กับฝ่ายไหน และประวัติศาสตร์ตอนใดที่คุณอยากจะเปลี่ยนแปลงมันมากที่สุด?