เมื่อสัปดาห์ก่อน เราไปทัวร์เอโดะ ยุคที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดประตูบ้านต้อนรับนานาอารยประเทศ กับจินหมอทะลุศตวรรษกันไปแล้ว สัปดาห์นี้ เรามาย้อนไปไกลยิ่งกว่านั้น สู่ญี่ปุ่นยุคที่ทั้งรุ่งเรืองด้วยศิลปะ และวรรณกรรม รวมทั้งยังเข้มข้นด้วยเรื่องราวการแก่งแย่งชิงดีทางการเมืองกับการ์ตูนเรื่องนี้กันเถอะค่ะ
Ryo – the Miracle girl’s adventure
เรียว เป็นผลงานแนวแฟนตาซีของอาจารย์ UEDA RINKO ที่จับเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงตามประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นสมัยเฮอัน มาดัดแปลงเป็นแนวย้อนเวลา โดยเรื่องที่ดัดแปลงไปนั้น นอกจากจะสนุกแล้ว ยังดำเนินเลียบไปตามประวัติศาสตร์จริงได้กลมกลืนอย่างน่าทึ่งด้วยค่ะ
ปฐมเหตุเรื่องราวของเรียว เกิดขึ้นจากความวุ่นวายทางการเมืองระหว่างขุนนางสองตระกูลในช่วงปลายสมัยเฮอัน – ฝ่ายหนึ่งคือเกนจิ ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ทรงอิทธิพลทั้งทางด้านการทหารและการปกครองในราชสำนักมาช้านาน กับอีกฝ่ายหนึ่ง เฮเคะ ที่ปรึกษาราชการแผ่นกินที่องค์จักรพรรดิ์ชิราคะวะทรงแต่งตั้งขึ้นใหม่ โดยมีจุดมุ่งหมายให้ถ่วงดุลอำนาจกับฝ่ายเกนจินั่นเอง
แน่นอนว่าการถูกลดทอนอำนาจ ย่อมทำให้เหล่าขุนนางฝ่ายเกนจิไม่พอใจ และอำนาจก็ไม่ใช่สิ่งที่จะประนีประนอมยอมมีผู้ครอบครองสองคน ในไม่ช้า ความไม่พอใจก็สะสมเพิ่มพูนจนกลายเป็นความขัดแย้ง และจากความขัดแย้งก็เปลี่ยนแปลงเป็นสงคราม...ผลจากสงครามที่มีฝ่ายเฮเคะเป็นผู้ชนะ ทำให้อำนาจในการปกครองเมืองหลวง และคุ้มครองจักรพรรดิ์ตกอยู่ในเงื้อมมือของไทระ คิโยโมริ ผู้นำตระกูลฝ่ายเฮเคะอย่างสมบูรณ์ เกนจิผู้พ่ายแพ้ต้องสูญเสียและแตกฉานซ่านเซ็น...มินาโมโตะ โยชิโทโมะ ผู้นำฝ่ายเกนจิเสียชีวิต, โทคิวะ ภรรยาของโยชิโทโมะจำต้องเสียสละตนเอง ยอมเป็นชู้รักของคิโยโมริเพื่อแลกกับการไว้ชีวิตลูก ๆ ของนาง ส่วนเด็ก ๆ ที่มีสายเลือดของโยชิโทโมะ บ้างถูกเนรเทศไปยังดินแดนกันดารอันไกลโพ้น บ้างถูกส่งตัวไปเลี้ยงไว้ในวัด เพื่อรอเวลาบวชเรียนในเพศสมณะเมื่อถึงวัยอันสมควรเป็นการขอชีวิต
และในจำนวนเด็กที่ถูกส่งไปเลี้ยงที่คุรามะ หนึ่งในนั้นก็คืออุชิวากามารุ (หรือที่รู้จักกันภายหลังพิธีบรรลุนิติภาวะในนาม มินาโมโตะ โยชิซึเนะ) บุตรคนที่เก้าของโยชิโทโมะ ผู้ซึ่งอาจารย์ UEDA RINKO นำมาดัดแปลงเป็น ‘นางเอก’ (?) ในการ์ตูนเรื่องนี้นั่นเอง
เรียว เป็นเรื่องราวของโทยามะ เรียว เด็กสาวนักเรียนชั้นมัธยมปลายธรรมดาคนหนึ่ง ที่ถูกนักบวชปริศนาที่พบบนสะพานโกโจปองร้ายหมายชีวิตในระหว่างการไปทัศนศึกษาที่เกียวโตกับทางโรงเรียน เมื่อถูกจับได้แล้ว นักบวชผู้นั้นก็ให้การว่าตนเองชื่อมุซาชิโบ เบนเค เป็นนักบวชแห่งเขาฮิเอซึ่งมีใจฝักใฝ่ฝ่ายเกนจิ...ด้วยคำสาบานที่จะไล่ล่าฝ่ายเฮเคะ ทุกค่ำคืน เบนเคจะถือง้าวไปเฝ้ารออยู่บนสะพานโกโจ เพื่อคอยท้าประลองกับนักรบที่ผ่านไปมา โดยมีดาบอันเปรียบเสมือนจิตวิญญาณแห่งนักรบเป็นเดิมพัน
ดาบเล่มแล้วเล่มเล่าที่มีอันต้องเปลี่ยนมือผู้ครอบครอง นักดาบคนแล้วคนเล่าที่ต้องถูกบังคับให้ยอมรับความพ่ายแพ้...เบนเคกลายเป็นฝันร้ายแห่งสะพานโกโจไปในที่สุด
จนกระทั่งค่ำคืนที่ดาบเล่มที่พันปรากฏกายขึ้นพร้อมกับเจ้าของมัน – เด็กหนุ่มหน้าสวยราวกับผู้หญิงที่ขานนามตนเองว่าอุชิวากามารุ – เด็กหนุ่มผู้นั้นได้ต่อสู้กับเบนเคอย่างกล้าหาญด้วยชั้นเชิงดาบที่ตึงมือที่สุดในจำนวนผู้ถูกท้าประลองทั้งหมดที่เบนเคเคยต่อสู้ด้วย ก่อนที่เด็กคนนั้นจะหายตัวไปในหุบเขาไร้คนที่เขาคุรามะ...เบนเคติดตามมาด้วยยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ และแล้วก็ปรากฏว่า เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง เขาก็เข้ามาอยู่ในโลกที่ไม่เคยพบเห็น ซึ่งก็คือโลกยุคปัจจุบันนั่นเอง
สิ่งที่เบนเคเล่าได้รับการตอบรับเป็นเสียงหัวเราะงอหาย ไม่มีใครเชื่อเป็นอื่นไปได้นอกจากเบนเคเป็นหนุ่มจิตเสื่อมที่คว้าเอาตำนานแห่งสะพานโกโจ เรื่องของอุชิวากามารุและเบนเค สองบุคคลผู้มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์มาเติมแต่งเป็นเรื่องราวของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้าหนุ่มจิตหลุดที่คิดว่าตัวเองเป็นเบนเคยอดฝีมือ ยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าเรียว ลูกสาวสำนักเคนโด้โทยามะที่ไม่เคยจับดาบเลยคนนี้นี่แหละคือเด็กหนุ่มที่เขาไล่ตามมาจากค่ำคืนนั้น
แต่แล้ว เรื่องตลกของเบนเคก็เริ่มไม่มีใครหัวเราะออก เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เรียวได้รู้ความจริงว่า ที่แท้จริงแล้ว เด็กหญิงที่ชื่อโทยามะ เรียว ซึ่งปรากฏตัวอยู่ในรูปถ่ายของครอบครัว และเธอเข้าใจว่านั่นเป็นรูปถ่ายของตัวเธอเองนั้น ได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปตั้งแต่อายุเจ็ดขวบแล้ว ส่วนตัวเธอเองเป็นเด็กที่ถูกพบนอนสลบอยู่ที่ในป่าที่เชิงภูเขาไฟฟูจิ สวมใส่เครื่องแต่งกายแบบเด็กผู้ชายสมัยเฮอัน พร้อมกับพร่ำพูดว่าตัวเองคืออุชิวากามารุ ทายาทแห่งตระกูลมินาโมโตะ เพื่อเยียวยาความเจ็บปวดที่สูญเสียบุตรสาวคนเดียวไป นายตำรวจที่ทำคดีเรื่องของเรียว จึงได้รับอุปการะเด็กหญิงปริศนาที่พบในป่านั้นไว้เป็นลูกของตัวเอง และได้ขอร้องให้จิตแพทย์ช่วยสะกดจิตเปลี่ยนแปลงความทรงจำให้เชื่อว่าตัวเองคือโทยามะ เรียว เพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่แทนที่เด็กหญิงที่ตายไป
ความจริงที่ได้รับรู้ ประกอบกับสถานการณ์ที่บีบคั้นเนื่องจากทางบ้านของเธอไล่ล่าเบนเคผู้ทำให้ตะกอนแห่งอดีตที่เคยถูกกลบฝังไปครั้งหนึ่งแล้วฟุ้งกลับขึ้นมา ทำให้เรียวตัดสินใจลาจากศตวรรษที่ 20 ที่เธอคุ้นเคย แล้วเดินทางย้อนกลับไปสู่อดีตเพื่อตามหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
และแล้ว เมื่อได้ตัวละครที่ขาดหายไปกลับคืนมา เรื่องราวที่หยุดชะงักไปก็เริ่มต้นดำเนินต่ออีกครั้ง
เรียวกลับไปสู่ฐานะที่แท้จริงของเธอ โดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าโศกนาฏกรรมของอุชิวากามารุ หรือบัดนี้ก็คือตัวเธอเองนั้น ได้ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ว่าอย่างไรบ้าง และด้วยใจจริงแล้ว เธอก็ไม่มั่นใจเลยสักนิดว่า ลำพังกำลังสมองและสองมือของเธอเองจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์อันโหดร้าย ที่ทำให้เธอต้องตายด้วยน้ำมือของพี่ชายตนเองได้หรือไม่
ในความรู้สึกของฉัน เรียวเป็นการ์ตูนที่สนุกมากเรื่องหนึ่งค่ะ ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่มีปรัชญาลึกซึ้ง แง่คิดแปลกใหม่ หรือคติสอนใจอะไรให้นำไปขบคิดต่อ แต่เรียวก็เปล่งประกายแพรวพราวไปด้วยชีวิตชีวา เรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นยาขมสำหรับคนที่ไม่ชอบจำ กลับกลายเป็นเรื่องง่ายที่ไม่เพียงแต่จำ ยังทำความเข้าใจได้ง่ายดายอีกด้วย เมื่อบุคคลเหล่านั้นไม่ได้เป็นเพียงชื่อที่ถูกจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ แต่เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่มีบทบาท แนวคิด และแรงบันดาลใจเป็นของตนเอง โลดแล่นอยู่ในสถานการณ์เที่เราสามารถจินตนาการตามและทำความเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เขากระทำเช่นนั้น และหากเป็นตัวเราเองเล่า จะทำในสิ่งเดียวกับเขาเหล่านั้นหรือไม่
เทคนิคการช่วยจำวิชาประวัติศาสตร์โดยใช้การ์ตูนเป็นสื่อนี้ ประเทศไทยก็นำมาใช้กันบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นการ์ตูนสำหรับเด็กที่เพียงแค่นำเรื่องราวในประวัติศาสตร์มาถ่ายทอดในรูปแบบการ์ตูนเฉย ๆ เท่านั้น การดำเนินเรื่องยังไม่มีการขบคิดตีความหรือนำเสนอในรูปแบบใหม่ ๆ และตัวละครก็ยังไม่มีชีวิตชีวาเหมือนอย่างการ์ตูนญี่ปุ่น ซึ่งถึงแม้จะช่วยให้จำได้ดีขึ้น แต่ก็ยังต้องใช้กระบวนการจำในการเรียนรู้อยู่ดี หากมีการปรับปรุงมาเป็นการเรียนรู้โดยการทำความเข้าใจกับสถานการณ์บ้างก็คงจะดีไม่ใช่น้อย
ประวัติศาสตร์ยุคเฮอันที่ซับซ้อน ยังกลายเป็นเรื่องสนุกได้ เมื่อสื่อสารผ่านการ์ตูน แล้วทำไมประวัติศาสตร์ไทยอันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว จะกลายเป็นเรื่องสนุกบ้างไม่ได้ ถ้าเรารู้จักใช้ประโยชน์จากสื่อที่มี จริงไหมคะ?