พันหนึ่งราตรี - นิทานเก่าเล่าใหม่ในศตวรรษที่ 21

ท่ามกลางทะเลดาวที่พร่างพราวอยู่บนฟากฟ้าสีนิล ดวงจันทร์ทอแสงอยู่เหนือยอดโดมบนทะเลทรายที่กว้างไกลสุดสายตา เสียงขับลำนำระลึกถึงบ้านเกิดเมืองนอนอันอยู่ไกลแสนไกล คุณเคยได้ยินเรื่องราวของกษัตริย์ผู้สูญสิ้นความเชื่อมั่นในรัก และหญิงสาวผู้ต่อกรกับความเกรี้ยวกราดด้วยปัญญาตลอดเวลาหนึ่งพันกับอีกหนึ่งราตรีบ้างหรือเปล่าคะ?

พันหนึ่งราตรี หรืออาหรับราตรี (One Thousand and One Nights, Arabian Night) เป็นนิทานโบราณที่เล่าขานกันในหลายประเทศมาตั้งแต่ราวคริสศตวรรษที่สี่ กล่าวกันว่ามีผู้แต่งหลายคน ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นตำนานหรือนิทานของแต่ละท้องถิ่น ที่เหล่านางห้ามหรือนางทาสซึ่งถูกเก็บตัวไว้ในฮาเร็มเล่าสู่กันฟังเพื่อบรรเทาความเหงา ความเบื่อหน่าย และเพื่อเป็นการระลึกถึงบ้านเกิดที่ตนเองคงไม่มีโอกาสได้กลับไปอีกชั่วชีวิต

หากคุณไม่เคยทราบมาก่อน พันหนึ่งราตรีเป็นเรื่องราวของสุลต่านชาร์ยาร์ (Shahryar) กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย พระองค์มีมเหสีโฉมงามที่ทรงสนิทเสน่หากว่าสตรีใด ๆ อยู่นางหนึ่ง ทว่านางกลับตอบสนองความรักของพระองค์ด้วยการทรยศหักหลัง เมื่อสุลต่านชาร์ยาร์ทรงจับได้ว่ามเหสีของพระองค์คบชู้กับทาสผิวดำ ก็ทรงเสียพระทัยมาก มีรับสั่งให้ประหารชีวิตนางเสีย และตั้งพระทัยแน่วแน่ว่าจะไม่เชื่อถือในความสัตย์ของสตรีที่มีหัวใจเอาแน่เอานอนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

แต่นครจำเป็นต้องมีราชินี สุลต่านชาร์ยาร์จึงจำต้องมีบัญชาให้รับตัวหญิงสาวพรหมจารีเข้าวังเพื่ออภิเษกเป็นเจ้าสาวคนใหม่ แต่เจ้าสาวเหล่านั้นเป็นราชินีเพียงแค่ชั่วคืน เมื่อถึงรุ่งเช้า พวกนางจะถูกนำตัวไปประหาร เพื่อไม่ให้หญิงใดมีโอกาสทรยศต่อองค์สุลต่านได้อีก

บัญชาของสุลต่านชาร์ยาร์ ทำให้พ่อแม่ทั้งหลายที่มีบุตรีอยู่ในวัยอันสมควรมีคู่ต่างหวาดผวากันทั่วไป ด้วยเกรงว่าสักวันจะถึงคราวของครอบครัวตนเอง ในที่สุด เชเฮราซาด (Scheherazade) บุตรีของผู้นำองคมนตรีก็อาสาเข้าวังไปเป็นเจ้าสาว เพื่ออาศัยอุบายแก้ไขพระทัยอันโหดร้ายของสุลต่าน โดยมีชีวิตของนางเองเป็นเดิมพัน

เนื่องจากคืนวันส่งตัวจะเป็นคืนสุดท้ายในชีวิตของนาง เซเฮราซาดจึงได้ทูลขอพระราชานุญาติให้น้องสาวคนเล็กที่รักนางอย่างยิ่งติดตามเข้าไปในห้องหอด้วย เพื่อจะได้เล่านิทานให้ฟังเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งสุลต่านก็ทรงอนุญาต เมื่อจันทร์เคลื่อนคล้อย เซเฮราซาดก็เริ่มต้นเล่านิทานเรื่องยาว แต่เต็มไปด้วยความสนุกสนานตื่นเต้นและปริศนาที่รอคอยผู้ไข เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปรวดเร็วเสมอ ในที่สุดยามเช้าก็มาเยือนโดยที่นิทานยังดำเนินไปไม่ถึงตอนจบ สุลต่านชาร์ยาร์จึงทรงมีบัญชาให้เลื่อนการประหารออกไปอีกหนึ่งวัน เพื่อให้เซเฮราซาดมีโอกาสได้เล่านิทานของนางจนจบ

แต่นิทานของเซเฮราซาดไม่มีตอนจบ นางเล่านิทานเพียงเรื่องเดียวต่อเนื่องกันไปทุกค่ำคืน ไม่เพียงตัวนางเท่านั้นที่เล่านิทาน แต่ตัวละครในนิทานของนางก็เล่านิทานให้ตัวละครอีกตัวฟังต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่ขาดตอน เซเฮราซาดเอาตัวรอดมาได้วันต่อวันด้วยนิทานซ้อนนิทานที่นางคิดขึ้น ทุก ๆ เช้า แสงอาทิตย์จะมาเยือนพร้อมกับที่นิทานค้างคาอยู่ในช่วงที่สนุกตื่นเต้นที่สุดเสมอ สุลต่านชาร์ยาร์ซึ่งไม่อาจตัดใจสั่งประหารผู้เล่าได้ จำต้องเลื่อนการประหารออกไปวันแล้ววันเล่า เซเฮราซาดเล่านิทานเรื่องเดียวของนางติดต่อกันกว่าหนึ่งพันวัน และเรื่องราวที่นางแต่งขึ้นก็ถูกนำมาเล่าขานต่อเนื่องยาวนานกว่าหนึ่งพันปี

ความสนุกสนานของพันหนึ่งราตรี ทำให้ไม่เพียงแต่นิทานเรื่องนี้จะถูกบันทึกและแปลเป็นภาษาต่าง ๆ แพร่หลายทั่วไปในโลกเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาสร้างในรูปแบบอื่นๆ เช่น ภาพยนตร์ ละคร ละครเวที หรือการ์ตูนอีกหลายต่อหลายเวอร์ชั่น โดยส่วนใหญ่จะจับเพียงส่วนที่สนุกและเป็นที่รู้จัก เช่นอาลีบาบา อาละดิน ซินแบด มานำเสนอ และมีอีกไม่น้อยที่นำเรื่องเหล่านี้มาดัดแปลงและตีความเสียใหม่ให้มีมุมมองที่แปลกออกไปจากเดิม

20080511 พันหนึ่งราตรี เล่ม 4

เช่นเดียวกัน พันหนึ่งราตรีเล่มนี้ เป็นการ์ตูนสัญชาติเกาหลี จากผลงานการเขียนเรื่องของ Han Seung Hee ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบการ์ตูนโดย Cheon Jin Seok ซึ่งได้นำเค้าโครงเรื่องของพันหนึ่งราตรีมาเขียนขึ้นใหม่ โดยเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมมิติของเรื่องราวระหว่างสุลต่านชาร์ยาร์และเซเฮราซาด รวมทั้งยังนำเรื่องตำนานเก่า ๆ ของเอเชีย หรือประวัติศาสตร์โลกมาแทนที่นิทานที่เซเฮราซาดเคยเล่าถวายสุลต่านอีกด้วย

ในฉบับของ Han Seung Hee สุลต่านชาร์ยาร์ไม่ใช่เพียงกษัตริย์ที่เจ็บปวดกับความรักที่ถูกทรยศจนออกคำสั่งให้ทำร้ายหญิงสาวไร้ความผิดไม่เลือกหน้า แต่ยังเป็นชายหนุ่มที่มีปมทางจิตเนื่องจากเห็นบิดาสังหารมารดาตนต่อหน้า เซเฮราซาดไม่ใช่บุตรีขุนนางที่เลิศล้ำด้วยปัญญา แต่เป็นเด็กหนุ่มสามัญที่ปลอมแปลงตัวเองเข้าวังเพื่อปกป้องน้องสาวที่กำลังจะถูกทหารนำไปถวายตัว น้องสาวของเซเฮราซาดไม่ใช่เพียงเด็กหญิงไร้เดียงสาที่วิงวอนให้พี่สาวเล่านิทานให้ฟังแม้นั่นจะเป็นเสี้ยววันสุดท้ายของชีวิต แต่เป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วยไฟแค้นจากการที่สุลต่านสังหารเพื่อนรักของเธอ และชาวเมืองทั้งหลายก็ไม่ใช่เพียงประชาชนที่หวาดกลัวจนยอมรับความสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไร้หวังโดยไม่ขัดขืน แต่พวกเขาเหล่านั้นจับอาวุธขึ้นต่อสู้กับสุลต่านและทหารของพระองค์ ซ่องสุมกองกำลัง และสุดท้ายก็กลายเป็นกบฎ

ผู้อ่านถูกวางมุมมองตามสายตาของเซเฮราซาด เด็กหนุ่มที่กลายเป็นผู้ที่อยู่ตรงกลางระหว่างสุลต่านกับประชาชน เขาพยายามอธิบายถึงตัวตนที่แท้จริงของสุลต่านให้ประชาชนเข้าใจ และในขณะเดียวกันก็พยายามสื่อความรู้สึกของประชาชนให้สุลต่านทรงทราบด้วย ปมทางจิตใจของสุลต่านชาร์ยาร์ค่อย ๆ ถูกคลี่ออกทีละขั้น ๆ ตามร่องรอยที่เซเฮราซาดติดตามไปพบ และเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในจิตวิญญาณของพระองค์ เซเฮราซาดได้เล่านิทานให้พระองค์ฟัง นิทานที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดและปมทางจิตวิทยาของพระองค์ นิทานที่ให้คำตอบ หรือข้อคิดอีกด้านหนึ่ง นอกเหนือจากแง่มุมอันปวดร้าวที่สุลต่านทอดพระเนตรเห็น

20080511 พันหนึ่งราตรี เล่ม 2

ไม่เพียงแต่เรื่องราวหลักเท่านั้นที่ถูกดัดแปลงและเพิ่มเติมมิติเข้าไป แม้แต่เรื่องราวในนิทานที่เซเฮราซาดนำมาเล่า ก็ถูกนำมาตีความและเล่าใหม่ในรูปแบบของตัวเองเช่นกัน เซเฮราซาดในฉบับการ์ตูนไม่ได้เล่าเรื่องซินแบด อาลีบาบา หรืออาละดินอย่างที่เซเฮราซาดในตำนานโบราณเคยเล่า แต่เขาเรื่องราวที่เขาหยิบมาเล่า เป็นเรื่องราวจากวรรณกรรมหรือประวัติศาสตร์ที่เรารู้จักกันดี เช่นเรื่องราวของทูรันดอท เจ้าหญิงโฉมงามผู้ตั้งปริศนาเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการอภิเษกสมรส หากชายที่อาสาเข้ามาตอบไม่สามารถแก้ปริศนาของนางได้ จะต้องถูกประหาร, เรื่องราวของเด็กชายผู้ถือกำเนิดจากนางฟ้าที่ถูกคนตัดฟืนขโมยผ้าของนางไปในระหว่างที่อาบน้ำ และต้องแลกเปลี่ยนโดยการยอมเป็นภรรยาของเขา หรือเรื่องราวของคลีโอพัตรา ราชินีองค์สุดท้ายของอียิปต์ ในแง่มุมที่ไม่ใช่หญิงสาวทะเยอทะยานที่มองเห็นแต่เพียงความก้าวหน้า แต่เปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อน้องชาย และยินยอมทำทุกอย่างเพื่อน้องชายผู้นั้น

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบนิทานหรือตำนานเก่า ๆ ชอบคิดค้นตีความเรื่องราวที่ผู้คนอาจอ่านผ่านหลายต่อครั้งจนลืมไปว่ามันมีอีกหลายแง่มุมให้ขบคิด ชอบการ์ตูนลายเส้นสวย ๆ ที่แปลกตากว่าการ์ตูนญี่ปุ่น ฉันอยากแนะนำให้คุณลองอ่านพันหนึ่งราตรีเล่มนี้ รับรองว่าคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับนิทานของเซเฮราซาดที่แตกต่างไปจากที่คุณเคยรู้จักมาแล้วอย่างแน่นอนค่ะ

ความเห็น

Submitted by แสงดาว ศรัทธามั่น on

ขอบคุณ , คับ...carousal ที่ทำให้ฉันได้รับความรู้ และประวัติของเรื่องนี้ ตอนฉันเป็นวัยรุ่น ฉันดูหนัง ซินแบด แล้วชอบมาก ขอบคุณ คับ ... ขอบคุณ

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

ขอบคุณ ที่เล่าที่มาที่ไปของพันหนึ่งทิวาให้ฟังอย่างละเอียด และชวนให้ตื่นเต้น ผมอยากอ่านต้นแบบมากกว่า ไม่รู้ว่าภาษาไทยจะหาอ่านได้ที่ไหน

Submitted by carousal on

แหะ ๆ ที่เล่าเป็นพันหนึ่งราตรี หรืออาหรับราตรีค่ะ พันหนึ่งทิวาเป็นอีกเรื่องนึง เป็นเรื่องของเจ้าหญิงแห่งแคชเมียร์ที่ปฏิเสธจะแต่งงาน จึงต้องมีการเล่านิทานเพื่อโน้มน้าวใจเจ้าหญิงให้หันมามองเห็นความดีของผู้ชายค่ะ

ภาษาไทยของอาหรับราตรี ตอนนี้สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์นำมาพิมพ์ใหม่ เป็นสำนวนการแปลของ เสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป ราคา 500 บาท ปกแข็งค่ะ เคยเห็นอยู่ที่ร้านนายอินทร์ น่าจะมีตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ

Submitted by แจน on

อยากได้นิทานดีๆ และต้องทำให้ครูปื้มด้วย

Submitted by Greenpen on

อ่านฉบับการ์ตูนแล้วค่ะ สนุกดี
พออ่านแบบดัดแปลงไปแล้ว เลยอยากอ่านแบบต้นตำหรับดูบ้าง รวมทั้งพันหนึ่งทิวาด้วย(ต้องอ่านแบบแพคคู่..) เลยเข้ามาค้นๆดู ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ

Submitted by rihito on

ชาววายตามกันอ่านเพียบค่ะ ได้ความรู้แล้วยังสนุกด้วย เยี่ยมเลยค่าาาา

Submitted by อาลี on

เป็นนิทานที่สร้างความสนุกสนานให้กับผู้อ่าน ขอรับรองว่าสนุกและคลายเครียด

เหตุเกิดที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปี 1969...

 

สองหนุ่มเพื่อนซี้ชาวออสเตรเลียน John Rendall กับ Anthony Boruke เกิดได้ข่าวมาว่าที่ห้างสรรพสินค้า Harrods แผนก Exotic Pet มีลูกสิงโตที่เกิดในสวนสัตว์มาขาย ด้วยความอยากรู้อยากเห็น สองหนุ่มจึงชวนกันไปดู และเมื่อพบว่าเจ้าลูกสิงโตตัวนั้นนั่งจ๋องทำท่าซึม ๆ เหงา ๆ อยู่ในกรง เขาทั้งสองก็ตัดสินใจซื้อมันกลับมาในราคา 250 Guineas

เจ้าสิงโตน้อยผู้ได้รับการขนานนามว่า Christian ได้พักอาศัยอยู่กับสองหนุ่มผู้เป็นเจ้าของที่แฟลตชั้นใต้ดินของร้านเฟอร์นิเจอร์ที่เชลซี มันกลายเป็นขวัญใจของคนแถบนั้น ใคร ๆ ก็รอคอยที่จะได้เห็น ได้บันทึกภาพของมันตอนที่เจ้าของพาออกมาวิ่งเล่นที่หน้าโบสถ์ St. John's

เวลาผ่านไปเกือบปี สิงโตน้อย Christian ที่ตอนแรกหนักแค่ 35 ปอนด์ ก็เติบโตขึ้นมาก John กับ Anthony เริ่มประสบปัญหาด้านการเงิน เพราะ Christian กินจุขึ้นทุกวัน และในไม่ช้ามันก็จะเติบโตเป็นสิงโตหนุ่มเต็มวัย ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีปัญหาเกี่ยวกับความดุร้ายและความต้องการที่จะสืบเผ่าพันธุ์ ในที่สุด เจ้าของทั้งสองก็ตัดสินใจว่า การส่ง Christianไปสู่แอฟริกา มาตุภูมิแห่งเผ่าพันธุ์ที่บรรพบุรุษของมันเคยครอบครองเป็นเจ้าของ น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด

ด้วยความช่วยเหลือของ George Adamson เจ้าหน้าที่หน่วยงานช่วยเหลือและอนุรักษ์สัตว์ป่าที่เคนยา ในที่สุด Christian ก็กลับไปถึงแอฟริกา George ได้ส่ง Christian ไปทำความรู้จักกับ Boy สิงโตหนุ่มที่เคยแสดงในภาพยนต์เรื่อง Born Free เพื่อให้ Boy ช่วยเหลือ Christian ในการปรับสภาพเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน Christian ก็เริ่มคุ้นเคยกับการอยู่ป่า และในที่สุดก็มีฝูงเป็นของตนเอง

จากวันสุดท้ายที่ได้กล่าวอำลากันนานนับปี John และ Anthony ก็รวบรวมเงิน และเดินทางไปแอฟริกา เพื่อที่จะไปเยี่ยม Christian เพื่อนรักของพวกเขา แม้จะได้รับคำเตือนว่า Christian กลายเป็นสัตว์ป่าไปแล้ว ระยะเวลาที่ห่างกันอาจทำให้มันลืมพวกเขา และอาจเข้าจู่โจมทำร้ายได้ก็ตาม

แต่ Christian ไม่ได้ลืมพวกเขา มันไม่เคยลืมเลยแม้แต่วันเดียว

เจาะเวลาหาอดีตตอนที่ 4 : มังกรอหังการ์ หมาป่าคะนองศึก

ไปดูสามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือกันมาหรือยังคะ?

ในความรู้สึกของฉัน สามก๊กเป็นพี่น้องกับหวัด กล่าวคือ ในขณะที่บ้านเมืองปกติสุข ทั้งสามก๊กและหวัด ต่างก็มีฐานลูกค้าสนับสนุนของตนเองเรื่อย ๆ ไม่มีว่างเว้น คนเราติดหวัดกันได้โดยไม่เลือกเวล่ำเวลาหากอดหลับอดนอนหรือทำงานหนักตากแดดตากฝนฉันใด สามก๊กก็เป็นวรรณกรรมที่ไม่ว่าใครก็ใคร ต้องหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบหนังขึ้นมาดู เพื่อดื่มด่ำกำซาบทั้งรสของภาษาและเนื้อหาที่ใครต่อใครเขาก็ว่าเป็นหนึ่งในแผ่นดินโดยไม่เลือกเวล่ำเวลาฉันนั้น

หากนาน ๆ ครั้ง โรคที่เป็นในระดับนอนพักสามวันหายอย่างหวัดจะระบาดใหญ่ ทำให้คนล้มเจ็บล้มตายกันหลายพันหลายหมื่น ก็เช่นเดียวกับสามก๊ก ที่เมื่อครบรอบการฮิตเมื่อใด วรรณกรรมเรื่องนี้ก็จะถูกเฮโลสร้างออกมาเป็นการ์ตูนบ้าง หนังบ้าง เกมบ้าง หรือพิมพ์หนังสือใหม่บ้างโดยไม่มีการนัดหมาย ให้คนเฒ่าที่อยู่ทันการฮิตรอบที่แล้วปัดฝุ่นหยิบหนังสือมาอ่านใหม่ และให้เด็กรุ่นต่อไปที่ยังโตไม่ทันการฮิตรอบที่แล้วได้ทำความรู้จัก และหากแฟนรุ่นใหม่คนไหนเกิดติดอกติดใจเป็นพิเศษ ก็อาจพัฒนาการเป็นแฟนพันธุ์แท้สามก๊กรุ่นต่อไปในภายภาคหน้า

และเนื่องจากนี่คือ ‘สุดสัปดาห์กับการ์ตูน’ เพราะฉะนั้น เราก็มาคุยกันเรื่องการ์ตูนสามก๊กกันดีกว่า

Comic Party ครั้งที่ 11

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ( 6 กรกฏาคม 2551) ฉันไปงาน Comic Party ครั้งที่ 11 ที่ Central World มาค่ะ


13_7_01
บรรยากาศบนเวที ที่มี Yamaha เป็น Sponsor ใหญ่

 

คุณเคยไปงานการ์ตูนบ้างไหมคะ? ต่อให้ไม่เคยตั้งอกตั้งใจไป ฉันก็คิดว่าคุณต้องเคยผ่าน หรือเคยสะดุดตาสะดุดใจกับพลพรรคคนรักการ์ตูนที่รวมกลุ่มกันเดินทางไปร่วมงานมาบ้างแน่ ๆ เพราะงานการ์ตูนเป็นงานที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนานเข้มข้นจนแผ่ออร่าออกมาให้สัมผัสได้ ขอแค่มีการ์ตูนเรื่องที่ชอบเป็นศูนย์กลาง เหล่าชมรมคนรักการ์ตูนก็สังสรรค์ สรวลเสเฮฮากันได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อนแล้วละค่ะ

เจาะเวลาหาอดีต ตอนที่ 3 : Ryo - the Miracle girl's adventure

เมื่อสัปดาห์ก่อน เราไปทัวร์เอโดะ ยุคที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดประตูบ้านต้อนรับนานาอารยประเทศ กับจินหมอทะลุศตวรรษกันไปแล้ว สัปดาห์นี้ เรามาย้อนไปไกลยิ่งกว่านั้น สู่ญี่ปุ่นยุคที่ทั้งรุ่งเรืองด้วยศิลปะ และวรรณกรรม รวมทั้งยังเข้มข้นด้วยเรื่องราวการแก่งแย่งชิงดีทางการเมืองกับการ์ตูนเรื่องนี้กันเถอะค่ะ


Ryo – the Miracle girl’s adventure

6_07_01

เจาะเวลาหาอดีต ตอนที่ 2 : Jin หมอทะลุศตวรรษ

พร้อมที่จะเจาะเวลาหาอดีตไปกับการ์ตูนเรื่องต่อไปกันหรือยังคะ?


ในจำนวนการ์ตูนแนวเจาะเวลาหาอดีตที่ยังคงวางแผงต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ เรื่องที่ฉันสนใจและชอบมากที่สุดก็คือเรื่องนี้ละค่ะ

22_06_1

Jin หมอทะลุศตวรรษ ผลงานของ Motoka Myrakami ซึ่งจัดจำหน่ายในรูปแบบภาษาไทยโดย Nation Edutainment


Jin
หมอทะลุศตวรรษ เป็นเรื่องราวของหัวหน้าศัลยแพทย์ แผนกศัลยกรรมสมองของโรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัยโทโตะ มินาคาตะ จิน ในคืนที่เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้น จินกำลังทำหน้าที่แพทย์เวรดึกอยู่ในโรงพยาบาล เขาได้รับคนไข้นิรนามรายหนึ่งซึ่งตำรวจไปพบขณะนอนหมดสติอยู่ในสวนสาธารณะเข้าแผนกฉุกเฉิน จากบาดแผลที่หน้าผาก คณะแพทย์ได้ทำ CT scan เพื่อตรวจสมอง และพบว่า นอกจากเลือดคั่งที่เยื่อหุ้มสมองชั้นนอกซึ่งเป็นสาเหตุของการหมดสติตามที่ได้ตั้งสมมติฐานไว้แล้ว ยังพบเนื้องอกในต่อมไพเนียลอีกด้วย