ท่ามกลางทะเลดาวที่พร่างพราวอยู่บนฟากฟ้าสีนิล ดวงจันทร์ทอแสงอยู่เหนือยอดโดมบนทะเลทรายที่กว้างไกลสุดสายตา เสียงขับลำนำระลึกถึงบ้านเกิดเมืองนอนอันอยู่ไกลแสนไกล คุณเคยได้ยินเรื่องราวของกษัตริย์ผู้สูญสิ้นความเชื่อมั่นในรัก และหญิงสาวผู้ต่อกรกับความเกรี้ยวกราดด้วยปัญญาตลอดเวลาหนึ่งพันกับอีกหนึ่งราตรีบ้างหรือเปล่าคะ?
พันหนึ่งราตรี หรืออาหรับราตรี (One Thousand and One Nights, Arabian Night) เป็นนิทานโบราณที่เล่าขานกันในหลายประเทศมาตั้งแต่ราวคริสศตวรรษที่สี่ กล่าวกันว่ามีผู้แต่งหลายคน ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นตำนานหรือนิทานของแต่ละท้องถิ่น ที่เหล่านางห้ามหรือนางทาสซึ่งถูกเก็บตัวไว้ในฮาเร็มเล่าสู่กันฟังเพื่อบรรเทาความเหงา ความเบื่อหน่าย และเพื่อเป็นการระลึกถึงบ้านเกิดที่ตนเองคงไม่มีโอกาสได้กลับไปอีกชั่วชีวิต
หากคุณไม่เคยทราบมาก่อน พันหนึ่งราตรีเป็นเรื่องราวของสุลต่านชาร์ยาร์ (Shahryar) กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย พระองค์มีมเหสีโฉมงามที่ทรงสนิทเสน่หากว่าสตรีใด ๆ อยู่นางหนึ่ง ทว่านางกลับตอบสนองความรักของพระองค์ด้วยการทรยศหักหลัง เมื่อสุลต่านชาร์ยาร์ทรงจับได้ว่ามเหสีของพระองค์คบชู้กับทาสผิวดำ ก็ทรงเสียพระทัยมาก มีรับสั่งให้ประหารชีวิตนางเสีย และตั้งพระทัยแน่วแน่ว่าจะไม่เชื่อถือในความสัตย์ของสตรีที่มีหัวใจเอาแน่เอานอนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
แต่นครจำเป็นต้องมีราชินี สุลต่านชาร์ยาร์จึงจำต้องมีบัญชาให้รับตัวหญิงสาวพรหมจารีเข้าวังเพื่ออภิเษกเป็นเจ้าสาวคนใหม่ แต่เจ้าสาวเหล่านั้นเป็นราชินีเพียงแค่ชั่วคืน เมื่อถึงรุ่งเช้า พวกนางจะถูกนำตัวไปประหาร เพื่อไม่ให้หญิงใดมีโอกาสทรยศต่อองค์สุลต่านได้อีก
บัญชาของสุลต่านชาร์ยาร์ ทำให้พ่อแม่ทั้งหลายที่มีบุตรีอยู่ในวัยอันสมควรมีคู่ต่างหวาดผวากันทั่วไป ด้วยเกรงว่าสักวันจะถึงคราวของครอบครัวตนเอง ในที่สุด เชเฮราซาด (Scheherazade) บุตรีของผู้นำองคมนตรีก็อาสาเข้าวังไปเป็นเจ้าสาว เพื่ออาศัยอุบายแก้ไขพระทัยอันโหดร้ายของสุลต่าน โดยมีชีวิตของนางเองเป็นเดิมพัน
เนื่องจากคืนวันส่งตัวจะเป็นคืนสุดท้ายในชีวิตของนาง เซเฮราซาดจึงได้ทูลขอพระราชานุญาติให้น้องสาวคนเล็กที่รักนางอย่างยิ่งติดตามเข้าไปในห้องหอด้วย เพื่อจะได้เล่านิทานให้ฟังเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งสุลต่านก็ทรงอนุญาต เมื่อจันทร์เคลื่อนคล้อย เซเฮราซาดก็เริ่มต้นเล่านิทานเรื่องยาว แต่เต็มไปด้วยความสนุกสนานตื่นเต้นและปริศนาที่รอคอยผู้ไข เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปรวดเร็วเสมอ ในที่สุดยามเช้าก็มาเยือนโดยที่นิทานยังดำเนินไปไม่ถึงตอนจบ สุลต่านชาร์ยาร์จึงทรงมีบัญชาให้เลื่อนการประหารออกไปอีกหนึ่งวัน เพื่อให้เซเฮราซาดมีโอกาสได้เล่านิทานของนางจนจบ
แต่นิทานของเซเฮราซาดไม่มีตอนจบ นางเล่านิทานเพียงเรื่องเดียวต่อเนื่องกันไปทุกค่ำคืน ไม่เพียงตัวนางเท่านั้นที่เล่านิทาน แต่ตัวละครในนิทานของนางก็เล่านิทานให้ตัวละครอีกตัวฟังต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่ขาดตอน เซเฮราซาดเอาตัวรอดมาได้วันต่อวันด้วยนิทานซ้อนนิทานที่นางคิดขึ้น ทุก ๆ เช้า แสงอาทิตย์จะมาเยือนพร้อมกับที่นิทานค้างคาอยู่ในช่วงที่สนุกตื่นเต้นที่สุดเสมอ สุลต่านชาร์ยาร์ซึ่งไม่อาจตัดใจสั่งประหารผู้เล่าได้ จำต้องเลื่อนการประหารออกไปวันแล้ววันเล่า เซเฮราซาดเล่านิทานเรื่องเดียวของนางติดต่อกันกว่าหนึ่งพันวัน และเรื่องราวที่นางแต่งขึ้นก็ถูกนำมาเล่าขานต่อเนื่องยาวนานกว่าหนึ่งพันปี
ความสนุกสนานของพันหนึ่งราตรี ทำให้ไม่เพียงแต่นิทานเรื่องนี้จะถูกบันทึกและแปลเป็นภาษาต่าง ๆ แพร่หลายทั่วไปในโลกเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาสร้างในรูปแบบอื่นๆ เช่น ภาพยนตร์ ละคร ละครเวที หรือการ์ตูนอีกหลายต่อหลายเวอร์ชั่น โดยส่วนใหญ่จะจับเพียงส่วนที่สนุกและเป็นที่รู้จัก เช่นอาลีบาบา อาละดิน ซินแบด มานำเสนอ และมีอีกไม่น้อยที่นำเรื่องเหล่านี้มาดัดแปลงและตีความเสียใหม่ให้มีมุมมองที่แปลกออกไปจากเดิม
เช่นเดียวกัน พันหนึ่งราตรีเล่มนี้ เป็นการ์ตูนสัญชาติเกาหลี จากผลงานการเขียนเรื่องของ Han Seung Hee ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบการ์ตูนโดย Cheon Jin Seok ซึ่งได้นำเค้าโครงเรื่องของพันหนึ่งราตรีมาเขียนขึ้นใหม่ โดยเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมมิติของเรื่องราวระหว่างสุลต่านชาร์ยาร์และเซเฮราซาด รวมทั้งยังนำเรื่องตำนานเก่า ๆ ของเอเชีย หรือประวัติศาสตร์โลกมาแทนที่นิทานที่เซเฮราซาดเคยเล่าถวายสุลต่านอีกด้วย
ในฉบับของ Han Seung Hee สุลต่านชาร์ยาร์ไม่ใช่เพียงกษัตริย์ที่เจ็บปวดกับความรักที่ถูกทรยศจนออกคำสั่งให้ทำร้ายหญิงสาวไร้ความผิดไม่เลือกหน้า แต่ยังเป็นชายหนุ่มที่มีปมทางจิตเนื่องจากเห็นบิดาสังหารมารดาตนต่อหน้า เซเฮราซาดไม่ใช่บุตรีขุนนางที่เลิศล้ำด้วยปัญญา แต่เป็นเด็กหนุ่มสามัญที่ปลอมแปลงตัวเองเข้าวังเพื่อปกป้องน้องสาวที่กำลังจะถูกทหารนำไปถวายตัว น้องสาวของเซเฮราซาดไม่ใช่เพียงเด็กหญิงไร้เดียงสาที่วิงวอนให้พี่สาวเล่านิทานให้ฟังแม้นั่นจะเป็นเสี้ยววันสุดท้ายของชีวิต แต่เป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วยไฟแค้นจากการที่สุลต่านสังหารเพื่อนรักของเธอ และชาวเมืองทั้งหลายก็ไม่ใช่เพียงประชาชนที่หวาดกลัวจนยอมรับความสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไร้หวังโดยไม่ขัดขืน แต่พวกเขาเหล่านั้นจับอาวุธขึ้นต่อสู้กับสุลต่านและทหารของพระองค์ ซ่องสุมกองกำลัง และสุดท้ายก็กลายเป็นกบฎ
ผู้อ่านถูกวางมุมมองตามสายตาของเซเฮราซาด เด็กหนุ่มที่กลายเป็นผู้ที่อยู่ตรงกลางระหว่างสุลต่านกับประชาชน เขาพยายามอธิบายถึงตัวตนที่แท้จริงของสุลต่านให้ประชาชนเข้าใจ และในขณะเดียวกันก็พยายามสื่อความรู้สึกของประชาชนให้สุลต่านทรงทราบด้วย ปมทางจิตใจของสุลต่านชาร์ยาร์ค่อย ๆ ถูกคลี่ออกทีละขั้น ๆ ตามร่องรอยที่เซเฮราซาดติดตามไปพบ และเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในจิตวิญญาณของพระองค์ เซเฮราซาดได้เล่านิทานให้พระองค์ฟัง นิทานที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดและปมทางจิตวิทยาของพระองค์ นิทานที่ให้คำตอบ หรือข้อคิดอีกด้านหนึ่ง นอกเหนือจากแง่มุมอันปวดร้าวที่สุลต่านทอดพระเนตรเห็น
ไม่เพียงแต่เรื่องราวหลักเท่านั้นที่ถูกดัดแปลงและเพิ่มเติมมิติเข้าไป แม้แต่เรื่องราวในนิทานที่เซเฮราซาดนำมาเล่า ก็ถูกนำมาตีความและเล่าใหม่ในรูปแบบของตัวเองเช่นกัน เซเฮราซาดในฉบับการ์ตูนไม่ได้เล่าเรื่องซินแบด อาลีบาบา หรืออาละดินอย่างที่เซเฮราซาดในตำนานโบราณเคยเล่า แต่เขาเรื่องราวที่เขาหยิบมาเล่า เป็นเรื่องราวจากวรรณกรรมหรือประวัติศาสตร์ที่เรารู้จักกันดี เช่นเรื่องราวของทูรันดอท เจ้าหญิงโฉมงามผู้ตั้งปริศนาเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการอภิเษกสมรส หากชายที่อาสาเข้ามาตอบไม่สามารถแก้ปริศนาของนางได้ จะต้องถูกประหาร, เรื่องราวของเด็กชายผู้ถือกำเนิดจากนางฟ้าที่ถูกคนตัดฟืนขโมยผ้าของนางไปในระหว่างที่อาบน้ำ และต้องแลกเปลี่ยนโดยการยอมเป็นภรรยาของเขา หรือเรื่องราวของคลีโอพัตรา ราชินีองค์สุดท้ายของอียิปต์ ในแง่มุมที่ไม่ใช่หญิงสาวทะเยอทะยานที่มองเห็นแต่เพียงความก้าวหน้า แต่เปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อน้องชาย และยินยอมทำทุกอย่างเพื่อน้องชายผู้นั้น
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบนิทานหรือตำนานเก่า ๆ ชอบคิดค้นตีความเรื่องราวที่ผู้คนอาจอ่านผ่านหลายต่อครั้งจนลืมไปว่ามันมีอีกหลายแง่มุมให้ขบคิด ชอบการ์ตูนลายเส้นสวย ๆ ที่แปลกตากว่าการ์ตูนญี่ปุ่น ฉันอยากแนะนำให้คุณลองอ่านพันหนึ่งราตรีเล่มนี้ รับรองว่าคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับนิทานของเซเฮราซาดที่แตกต่างไปจากที่คุณเคยรู้จักมาแล้วอย่างแน่นอนค่ะ