Skip to main content
 

สองหนุ่มเพื่อนซี้ชาวออสเตรเลียน John Rendall กับ Anthony Boruke เกิดได้ข่าวมาว่าที่ห้างสรรพสินค้า Harrods แผนก Exotic Pet มีลูกสิงโตที่เกิดในสวนสัตว์มาขาย ด้วยความอยากรู้อยากเห็น สองหนุ่มจึงชวนกันไปดู และเมื่อพบว่าเจ้าลูกสิงโตตัวนั้นนั่งจ๋องทำท่าซึม ๆ เหงา ๆ อยู่ในกรง เขาทั้งสองก็ตัดสินใจซื้อมันกลับมาในราคา 250 Guineas


เจ้าสิงโตน้อยผู้ได้รับการขนานนามว่า Christian ได้พักอาศัยอยู่กับสองหนุ่มผู้เป็นเจ้าของที่แฟลตชั้นใต้ดินของร้านเฟอร์นิเจอร์ที่เชลซี มันกลายเป็นขวัญใจของคนแถบนั้น ใคร ๆ ก็รอคอยที่จะได้เห็น ได้บันทึกภาพของมันตอนที่เจ้าของพาออกมาวิ่งเล่นที่หน้าโบสถ์ St. John's


เวลาผ่านไปเกือบปี สิงโตน้อย Christian ที่ตอนแรกหนักแค่ 35 ปอนด์ ก็เติบโตขึ้นมาก John กับ Anthony เริ่มประสบปัญหาด้านการเงิน เพราะ Christian กินจุขึ้นทุกวัน และในไม่ช้ามันก็จะเติบโตเป็นสิงโตหนุ่มเต็มวัย ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีปัญหาเกี่ยวกับความดุร้ายและความต้องการที่จะสืบเผ่าพันธุ์ ในที่สุด เจ้าของทั้งสองก็ตัดสินใจว่า การส่ง Christianไปสู่แอฟริกา มาตุภูมิแห่งเผ่าพันธุ์ที่บรรพบุรุษของมันเคยครอบครองเป็นเจ้าของ น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด


ด้วยความช่วยเหลือของ George Adamson เจ้าหน้าที่หน่วยงานช่วยเหลือและอนุรักษ์สัตว์ป่าที่เคนยา ในที่สุด Christian ก็กลับไปถึงแอฟริกา George ได้ส่ง Christian ไปทำความรู้จักกับ Boy สิงโตหนุ่มที่เคยแสดงในภาพยนต์เรื่อง Born Free เพื่อให้ Boy ช่วยเหลือ Christian ในการปรับสภาพเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน Christian ก็เริ่มคุ้นเคยกับการอยู่ป่า และในที่สุดก็มีฝูงเป็นของตนเอง


จากวันสุดท้ายที่ได้กล่าวอำลากันนานนับปี John และ Anthony ก็รวบรวมเงิน และเดินทางไปแอฟริกา เพื่อที่จะไปเยี่ยม Christian เพื่อนรักของพวกเขา แม้จะได้รับคำเตือนว่า Christian กลายเป็นสัตว์ป่าไปแล้ว ระยะเวลาที่ห่างกันอาจทำให้มันลืมพวกเขา และอาจเข้าจู่โจมทำร้ายได้ก็ตาม


แต่ Christian ไม่ได้ลืมพวกเขา มันไม่เคยลืมเลยแม้แต่วันเดียว


ทันทีที่เห็น John กับ Anthony สิงโตหนุ่มที่ไม่มีใครเรียกขานมันด้วยชื่อ Christian มานานกว่าปีแล้วก็ชะงักไปนิดหนึ่ง มันเหยาะย่างเข้าหาภาพตรงหน้าอย่างเชื่องช้าด้วยสายตาที่เหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น และแล้วเมื่อมั่นใจว่านั่นไม่ใช่ความฝัน มันก็ซอยเท้าเร็วจี๋ กระโจนเข้าหาสองหนุ่ม กอดรัดฟัดเหวี่ยง จูบพวกเขาด้วยความรักและคิดถึงอย่างสุดหัวใจ


สัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวทำให้ Christian อยู่รอด หากความรักและความคิดที่มันมี แม้จะอย่างสัตว์ ทำให้มันยังคงแยกแยะและจดจำเพื่อนรักที่เคยเลี้ยงดูและอยู่ร่วมกันมาได้อย่างแม่นยำ


มันเป็นความกลมกลืนระหว่างทั้งสองสิ่ง สัญชาตญาณ กับความรู้คิด


หลังจากที่ได้อ่านรายละเอียดและดู vdo clip จากคำแนะนำของสมาชิก pantip.com ห้องเฉลิมไทย ฉันก็คิดถึงการ์ตูนเรื่องนี้ขึ้นมา Wild Cat

27_7_01


Wild Cat เป็นเรื่องราวของซีซาร์ สิงโตน้อยเพศเมีย (แต่ชื่อแมนจัง) ที่ถูกใครก็ไม่รู้เอามาวางใส่กล่องทิ้งเอาไว้ในคืนวันฝนตกร่วมกับลูกแมวอีกฝูงหนึ่ง ถึงจะตัวใหญ่ไปหน่อย แต่สำหรับเด็กชายวัยสิบขวบอย่างริวอิจิ ก็มองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างลูกสิงโตกับลูกแมว เขารับมันมาเลี้ยง แล้วพร่ำบอกกับมันทุกวันว่า ความฝันของเขาคือการได้เป็นเจ้าของแมวจ่าฝูงที่สง่างามเหมือนสิงโต


แล้วสิงโต ก็เลยมีปณิธานว่า เมื่อเติบโตขึ้น จะเป็น ‘แมวจ่าฝูงที่สง่างามราวกับสิงโต' ให้จงได้ เพื่อให้เป็นไปตามความปรารถนาของคุณหนูริวอิจิ

(ลักลั่นย้อนแย้งจริง ๆ)


แต่ซีซาร์ไม่ได้เติบโตเป็นแมวจ่าฝูงที่สง่างามเหมือนสิงโตหรอกค่ะ ตรงกันข้าม มันกลับกลายเป็นแมวที่ไม่เอาไหนที่สุดในหมู่บ้าน เพราะนอกจากจะทำอะไรต่อมิอะไรอย่างที่แมวทำไม่ค่อยได้แล้ว (ก็คุณจะคาดหวังให้สิงโตตัวโต ๆ กระโดดจับนกหรือจิ้งจกบนข้างฝาได้ยังไงกันล่ะ) มันยังมีนิสัยขี้กลัวเป็นที่หนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ตัวโตกว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในหมู่บ้าน แต่มันกลับถูกแมวจรจัดหรือหมาไล่ฟัด ได้แผลกลับบ้านมาบ่อย ๆ


น่าเศร้าไปหน่อย สำหรับสิ่งมีชีวิตที่มีฉายาว่า ‘เจ้าป่า'


ถึงแม้ว่าทุกคนในหมู่บ้านจะรู้ว่าซีซาร์ไม่มีวันสร้างปัญหาอะไรให้ (ก็สิงโตที่วิ่งหนีหมา จะกล้ากัดคนได้ยังไงกัน) แต่สำหรับริวอิจิ เขากลับรู้สึกว่ามันเป็นปัญหา ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กสิบขวบอีกต่อไปแล้ว เขารู้ว่าซีซาร์เป็นสิงโต ไม่ใช่แมว และมันเป็นสิงโตที่ขี้ขลาดที่สุดในโลก ริวอิจิสะท้อนใจกับเรื่องนี้ เพราะตัวเขาเองกับซีซาร์มีบางส่วนที่เหมือนกัน ในขณะที่ซีซาร์เป็นสิงโตซึ่งควรจะอยู่ในป่า แต่กลับต้องมาอยู่ในเมืองร่วมกับมนุษย์ ตัวเขาก็เป็นลูกเมียน้อยที่มีแม่เป็นชาวต่างชาติ ทำให้สีผมกับสีตาของเขาไม่เหมือนกับคนญี่ปุ่นทั่วไป ทั้งเขาและซีซาร์ต่างเป็นคนแปลกหน้าของสังคมนี้ ต่างอ่อนแอ ต่างถูกรังแก และไม่กล้าที่จะลุกขึ้นต่อสู้กับความอยุติธรรมที่ได้รับ


แทนที่ปัญหาของตัวเองที่ไม่สามารถแก้ตก ริวอิจิพยายามเคี่ยวเข็ญให้ซีซาร์กลับไปเป็นสิงโต เขาพยายามบอกให้มันลืมคำสั่งของเขาที่อยากให้มันเป็นแมวจ่าฝูงที่สง่างามนั่นซะ (ซึ่งมันก็ทำได้เพียงครึ่งเดียว คือครึ่งเป็นแมว ส่วนครึ่งสง่างามตกหายไประหว่างทาง) เขาหาวีดีโอการล่าสัตว์ของฝูงสิงโตมาให้มันดู (ซึ่งซีซาร์กลัวจนต้องเอามือปิดหัวหนีไปชนกำแพง) หาลูกนกมาให้มันหัดล่า (ซึ่งมันคาบไปเลียให้ความอบอุ่นแทนแม่) เขาทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้สัญชาตญาณสัตว์ป่าของมันกลับคืนมา อย่างน้อยที่สุด มันก็จะได้กลับเป็นสิงโต เผ่าพันธุ์ที่น่าเกรงขาม มันจะไม่ถูกรังแก ไม่ถูกผู้คนหัวเราะเยาะอีกต่อไป


แต่แล้ว ริวอิจิก็ได้รู้ว่า การที่ซีซาร์ขี้กลัว การที่ซีซาร์ไม่รังแก ไม่กัดใคร ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นสิงโตนั้น ไม่ใช่เพราะว่ามันลืมเลือนสัญชาตญาณของตัวเองอย่างที่เขาเข้าใจ


แม้แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุด คนที่ขี้ขลาดที่สุด เมื่อยามโกรธเกินระงับยังลืมตัวจู่โจมทำร้าย ซีซาร์ก็เช่นกัน ตัวมันเองอาจไม่ยี่หระกับการถูกกลั่นแกล้ง แต่เจ้าของคือสมบัติล้ำค่าที่มันอยากรักษาไว้ด้วยชีวิต เมื่อซีซาร์เห็นริวอิจิถูกรังแก มันก็พุ่งเข้าหาคนที่ทำร้ายเจ้านายผู้เป็นที่รักด้วยความก้าวร้าว อย่างที่แม้แต่ริวอิจิเองก็ยังคิดว่าซีซาร์ต้องทำร้ายเด็กคนนั้นแน่ ผู้เคราะห์ร้ายจากการถูกซีซาร์ทำร้ายหมดสติ เลือดออกที่หัว และต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วนที่สุด


แต่คมเขี้ยวของซีซาร์ไม่ได้ต้องตัวเด็กคนนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว


ริวอิจิได้รู้ความจริงว่า การที่ซีซาร์เป็นสิงโตใจดีที่ไม่ทำร้ายใคร ไม่ได้หมายความว่ามันขี้ขลาด หรือลืมสัญชาตญาณของความเป็นสัตว์ผู้ล่า แต่เพราะมันเป็นสิงโตที่รู้จักคิด มันรู้ว่าถ้ามันทำร้ายคน มันต้องไปจากริวอิจิ แม้ในยามที่มันโกรธที่สุด ซีซาร์ก็ยังสำนึกถึงขอบเขตของตัวมันเอง


ก่อนที่จะได้เห็น VDO Clip ของ Christian ฉันก็คิดเหมือนกันว่าซีซาร์ออกจะรู้ดีไปหน่อย แต่เมื่อได้ดูแล้ว ฉันก็รู้สึกขึ้นมาว่า มันอาจจะเป็นไปได้


สัญชาตญาณเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวสัตว์ทุกชนิด (แม้แต่สัตว์มนุษย์) มันเป็นสิ่งที่ทรงอิทธิพล และเข้าครอบงำการกระทำเกือบทุกอย่าง หากไม่มี ‘ความรู้คิด' เข้ามาขัดแย้ง ระหว่างสัญชาตญาณกับความรู้คิด สิ่งไหนจะเข้ามามีอิทธิพลและความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตมากกว่า ก็ขึ้นอยู่กับสังคมที่สิ่งมีชีวิตชนิดนั้นอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีสังคมไหนที่เรียกร้องสัญชาตญาณแท้และความรู้คิดถาวร ทั้งสองอย่างพึงผสมกลมกลืนไปด้วยกันเพื่อความสมดุลเสมอ


โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นมนุษย์ การใช้สัญชาตญาณแต่เพียงอย่างเดียว ย่อมสร้างความวุ่นวายให้แก่สังคม แต่หากคุณใช้ความรู้คิดแต่เพียงอย่างเดียว บางครั้ง มันก็ทำให้คุณออกห่างจากความเป็น ‘สิ่งมีชีวิต'

บล็อกของ Carousal

Carousal
  สองหนุ่มเพื่อนซี้ชาวออสเตรเลียน John Rendall กับ Anthony Boruke เกิดได้ข่าวมาว่าที่ห้างสรรพสินค้า Harrods แผนก Exotic Pet มีลูกสิงโตที่เกิดในสวนสัตว์มาขาย ด้วยความอยากรู้อยากเห็น สองหนุ่มจึงชวนกันไปดู และเมื่อพบว่าเจ้าลูกสิงโตตัวนั้นนั่งจ๋องทำท่าซึม ๆ เหงา ๆ อยู่ในกรง เขาทั้งสองก็ตัดสินใจซื้อมันกลับมาในราคา 250 Guineasเจ้าสิงโตน้อยผู้ได้รับการขนานนามว่า Christian ได้พักอาศัยอยู่กับสองหนุ่มผู้เป็นเจ้าของที่แฟลตชั้นใต้ดินของร้านเฟอร์นิเจอร์ที่เชลซี มันกลายเป็นขวัญใจของคนแถบนั้น ใคร ๆ ก็รอคอยที่จะได้เห็น ได้บันทึกภาพของมันตอนที่เจ้าของพาออกมาวิ่งเล่นที่หน้าโบสถ์ St. John'…
Carousal
ไปดูสามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือกันมาหรือยังคะ? ในความรู้สึกของฉัน สามก๊กเป็นพี่น้องกับหวัด กล่าวคือ ในขณะที่บ้านเมืองปกติสุข ทั้งสามก๊กและหวัด ต่างก็มีฐานลูกค้าสนับสนุนของตนเองเรื่อย ๆ ไม่มีว่างเว้น คนเราติดหวัดกันได้โดยไม่เลือกเวล่ำเวลาหากอดหลับอดนอนหรือทำงานหนักตากแดดตากฝนฉันใด สามก๊กก็เป็นวรรณกรรมที่ไม่ว่าใครก็ใคร ต้องหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบหนังขึ้นมาดู เพื่อดื่มด่ำกำซาบทั้งรสของภาษาและเนื้อหาที่ใครต่อใครเขาก็ว่าเป็นหนึ่งในแผ่นดินโดยไม่เลือกเวล่ำเวลาฉันนั้น หากนาน ๆ ครั้ง โรคที่เป็นในระดับนอนพักสามวันหายอย่างหวัดจะระบาดใหญ่ ทำให้คนล้มเจ็บล้มตายกันหลายพันหลายหมื่น…
Carousal
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ( 6 กรกฏาคม 2551) ฉันไปงาน Comic Party ครั้งที่ 11 ที่ Central World มาค่ะ บรรยากาศบนเวที ที่มี Yamaha เป็น Sponsor ใหญ่   คุณเคยไปงานการ์ตูนบ้างไหมคะ? ต่อให้ไม่เคยตั้งอกตั้งใจไป ฉันก็คิดว่าคุณต้องเคยผ่าน หรือเคยสะดุดตาสะดุดใจกับพลพรรคคนรักการ์ตูนที่รวมกลุ่มกันเดินทางไปร่วมงานมาบ้างแน่ ๆ เพราะงานการ์ตูนเป็นงานที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนานเข้มข้นจนแผ่ออร่าออกมาให้สัมผัสได้ ขอแค่มีการ์ตูนเรื่องที่ชอบเป็นศูนย์กลาง เหล่าชมรมคนรักการ์ตูนก็สังสรรค์ สรวลเสเฮฮากันได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อนแล้วละค่ะ
Carousal
เมื่อสัปดาห์ก่อน เราไปทัวร์เอโดะ ยุคที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดประตูบ้านต้อนรับนานาอารยประเทศ กับจินหมอทะลุศตวรรษกันไปแล้ว สัปดาห์นี้ เรามาย้อนไปไกลยิ่งกว่านั้น สู่ญี่ปุ่นยุคที่ทั้งรุ่งเรืองด้วยศิลปะ และวรรณกรรม รวมทั้งยังเข้มข้นด้วยเรื่องราวการแก่งแย่งชิงดีทางการเมืองกับการ์ตูนเรื่องนี้กันเถอะค่ะ Ryo – the Miracle girl’s adventure
Carousal
พร้อมที่จะเจาะเวลาหาอดีตไปกับการ์ตูนเรื่องต่อไปกันหรือยังคะ? ในจำนวนการ์ตูนแนวเจาะเวลาหาอดีตที่ยังคงวางแผงต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ เรื่องที่ฉันสนใจและชอบมากที่สุดก็คือเรื่องนี้ละค่ะ Jin หมอทะลุศตวรรษ ผลงานของ Motoka Myrakami ซึ่งจัดจำหน่ายในรูปแบบภาษาไทยโดย Nation Edutainment Jin หมอทะลุศตวรรษ เป็นเรื่องราวของหัวหน้าศัลยแพทย์ แผนกศัลยกรรมสมองของโรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัยโทโตะ มินาคาตะ จิน ในคืนที่เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้น จินกำลังทำหน้าที่แพทย์เวรดึกอยู่ในโรงพยาบาล เขาได้รับคนไข้นิรนามรายหนึ่งซึ่งตำรวจไปพบขณะนอนหมดสติอยู่ในสวนสาธารณะเข้าแผนกฉุกเฉิน จากบาดแผลที่หน้าผาก คณะแพทย์ได้ทำ CT…
Carousal
หมู่นี้เดินผ่านร้านหนังสือแล้วเจอหนังสือแนวเจาะเวลาหาอดีตบ่อย ๆคุณชอบอ่านหนังสือ หรือดูหนังที่ตัวละครในเรื่องต้องพลัดมิติเวลาไปสู่โลกในอดีตหรืออนาคตบ้างไหมคะ? ฉันชอบมากเลยละค่ะ เพราะถึงแม้ว่า พลอตนี้จะเป็นพลอตเก่าที่นักจินตนาการทั้งหลายใช้สร้างสรรค์ผลงานกันมากลายสิบปีแล้ว แต่มันก็ยังคงความน่าสนใจอยู่เสมอ เพราะแม้จะเป็นพลอตเรื่องแนวเดียวกัน แต่ความแตกต่างของสถานที่ ยุคสมัย และลักษณะความคิด รวมถึงความสามารถเฉพาะตัวของตัวละคร ก็ทำให้พลอตเรื่องที่มีจุดเริ่มต้นเหมือนกันนี้ สามารถดำเนินไปตามทิศทางของมันเองได้เป็นร้อยเป็นพันแบบด้วยแนวความคิดที่ว่า มนุษย์ควรเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีต…
Carousal
คุณเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกเรียกว่าชีวิต มนุษย์ และความเป็นนิรันดร์บ้างไหมคะ? เป็นเวลากว่าพันปีมาแล้ว ที่มนุษย์เฝ้าขบคิดค้นหาตัวตน คำนิยาม ความหมาย และขอบเขตของสิ่งที่ตนเองมีและเป็น แต่ยิ่งคิด ยิ่งพิจารณามากขึ้นเท่าไร คำถามก็ยิ่งเพิ่มขึ้น และซับซ้อนขึ้นเป็นเงาตามตัว...แม้จะเฝ้าค้นหากันมาเนิ่นนาน ส่งผ่านกระบวนการคิดคนแล้วคนเล่า ยุคสมัยแล้วยุคสมัยเล่า แต่ก็ดูเหมือนว่า เราจะยังไม่เคยเข้าใกล้ผลลัพธ์มากพอที่จะทำให้รู้สึกพอใจได้เลย  
Carousal
เวลาที่คุณนั่งลงตรงหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตแล้ว คุณทำอะไรกันบ้างคะ?เมื่อปี 2004 ตำนานแห่งโลกอินเตอร์เน็ตบทหนึ่งได้เริ่มต้นขึ้นบนกระดานหนุ่มโสดแห่ง 2 channel (กระดานข่าวที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น คงทำนองเดียวกันกับ pantip.com ของบ้านเรา) เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งได้โพสต์กระทู้เล่าเรื่องราวที่เขาเพิ่งประสบมาบนรถไฟระหว่างทางกลับจากอาคิฮาบาระ เรื่องราวน่าตื่นเต้น ที่เขาคิดว่ามันคงจะมีชีวิตอยู่เพียงชั่ววัน และมีอายุอยู่ในใจเขานานกว่านั้นอีกเพียงนิดหน่อย กลับกลายเป็นเพียงจุดเริ่มต้นจุดเล็ก ๆ ของตำนานที่น่าประทับใจซึ่งถูกนำมาถ่ายทอดเป็นหนังสือ หนังสือการ์ตูน…
Carousal
คุณชอบฟังดนตรีคลาสสิคหรือเปล่าคะ?ถ้าพูดถึงการ์ตูนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิค คงมีหลายคนนึกถึงการ์ตูนที่กลายมาเป็นซีรีส์เรื่องดัง อย่าง Nodame Cantabile (วุ่นรักนักดนตรี) แต่วันนี้ ฉันจะมาชวนคุณคุยถึงการ์ตูนอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งถึงแม้จะไม่ดังเท่า แต่ก็เป็นหนึ่งเดียวในดวงใจของนักอ่านหลายคนเลยละค่ะ Piano-no Mori (ป่าแห่งเปียโน)
Carousal
คุณคะ คุณเคยมีประสบการณ์แปลก ๆ ที่อธิบายไม่ได้ เช่นเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น ได้ยินสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ยิน หรือได้กลิ่นที่คนอื่นไม่ได้กลิ่นบ้างไหมคะ?เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้กำลังจะมาชวนคุณเล่าเรื่องผี (ถึงแม้ว่าจริง ๆ แล้วฉันจะชอบฟังมากก็ตาม) แต่กำลังจะชวนคุณคุยเรื่องสมองและการทำงานของมันค่ะเกริ่นอย่างคร่าว ๆ สำหรับท่านที่ไม่ได้เรียนสายวิทย์ สมองเป็นอวัยวะศูนย์กลางของระบบประสาท ทำหน้าที่รับกระแสประสาทที่ส่งมาจากเซลล์รับสัมผัสที่ตา หู จมูก ลิ้น และผิวกาย นำมาแปลผลเป็นความรู้สึกต่าง ๆ ไม่ว่าเจ็บ ร้อน รสชาติ เสียง หรือภาพที่มองเห็นยกตัวอย่างการมองเห็น เมื่อเราลืมตาขึ้น…
Carousal
ท่ามกลางทะเลดาวที่พร่างพราวอยู่บนฟากฟ้าสีนิล ดวงจันทร์ทอแสงอยู่เหนือยอดโดมบนทะเลทรายที่กว้างไกลสุดสายตา เสียงขับลำนำระลึกถึงบ้านเกิดเมืองนอนอันอยู่ไกลแสนไกล คุณเคยได้ยินเรื่องราวของกษัตริย์ผู้สูญสิ้นความเชื่อมั่นในรัก และหญิงสาวผู้ต่อกรกับความเกรี้ยวกราดด้วยปัญญาตลอดเวลาหนึ่งพันกับอีกหนึ่งราตรีบ้างหรือเปล่าคะ?พันหนึ่งราตรี หรืออาหรับราตรี (One Thousand and One Nights, Arabian Night) เป็นนิทานโบราณที่เล่าขานกันในหลายประเทศมาตั้งแต่ราวคริสศตวรรษที่สี่ กล่าวกันว่ามีผู้แต่งหลายคน ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นตำนานหรือนิทานของแต่ละท้องถิ่น…
Carousal
นักเขียนการ์ตูนคนแรกที่คุณจำชื่อได้ คือใครคะ?สมัยที่ฉันยังเด็ก เพิ่งอ่านหนังสือออก และเริ่มต้นอ่านการ์ตูนเป็นครั้งแรก ๆ นั้น เป็นยุคที่การ์ตูนไม่มีลิขสิทธิ์กำลังเฟื่องฟู มีสำนักพิมพ์มากมายที่นำการ์ตูนญี่ปุ่นมาแปลเป็นภาษาไทยขาย โดยไม่ใส่ใจว่าใครเป็นคนเขียนหรือคนวาดการ์ตูนเรื่องนั้น มีนักเขียนการ์ตูนหลายคนที่ฉันตามอ่านงานของเขาที่วางตลาดแทบทุกเล่ม แต่ไม่เคยได้รู้เลยว่าเขาชื่ออะไร จนกระทั่งโตและตลาดการ์ตูนบ้านเราเปลี่ยนไปเป็นตลาดลิขสิทธิ์อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันแต่ทั้ง ๆ ที่ตลาดการ์ตูนช่วงนั้นเป็นอย่างนั้น และทั้ง ๆ ที่ยังเด็ก แต่ฉันก็ยังอุตส่าห์รู้จักชื่อนักเขียนการ์ตูนเข้าคนหนึ่งจนได้เขาคือ…