Skip to main content

กลางเดือนสิงหาคม ชาน่าเดินทางถึงเมืองไทย เป็นการพักร้อนในช่วงฤดูฝนพรำ  น้ำท่วม  เศรษฐกิจยังทรุด การเมืองแรง ๆ เข้ามาแทรก  แต่ถึงกระนั้นก็ยังสวนกระแส ไม่ยอมแพ้ต่อสถานการณ์  ตั้งหน้าก้าวต่อไป จึงได้ฟอร์มกับเพื่อน ๆ ที่กรุงเทพฯ ว่าเราจะร่วมกันจัดทำหนังสือเล่มหนึ่ง

หลังจากทำธุระกับต้นสังกัดงาน "เดินแบก" ต่างแดนเสร็จ  จึงเร่งรีบทำหนังสือเล่มนี้  "ใช่ว่าจะดอก...ท้อ" ให้จงได้  โดยจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่  ข่าวสาร ความรู้ ความบันเทิง ให้หลายกลุ่มโดยทั่วถึง   อีกอย่างพูดง่าย ๆ คือเป็นความต้องการส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งโครงการทำดีที่เราพอทำได้  และสุดแสนดีใจที่ตรวจโรคภัยไม่มี คราวนี้ไม่รีรอ ทำตามกุศลกรรมและเจตนาที่ตั้งไว้  



"ลูกอยากทำกรรมดีที่พอทำได้ด้วยการทำหนังสือเพื่อเป็นวิทยาทาน  ไม่เน้นยอดขาย  หรือชื่อเสียง แต่หากพอมีรายได้เราทำบุญ"

ติดต่อไปหาเพื่อนสนิท มิตรสหายมาร่วมด้วยช่วยกัน คนละไม้คนละมือ  ได้พี่น้อง คนรู้จักมักจี่ บอกอเล่มก่อนๆ มาร่วมเป็นสเปเชี่ยลเกสต์ ที่ปรึกษา ช่วยเหลือสนับสนุนมากมาย  ดารา นักแสดง  นางโชว์ นางงาม ประชาชน คนทั่วไป ร่วมเขียนคำให้กำลังใจ สำหรับใครที่กำลังท้อ ช่วยกันขีด ช่วยกันเขียนคนละนิด  ที่พอทำได้ ชาน่าไม่ได้ให้สำนักพิมพ์ที่ไหนจัดทำ แต่เป็นการพิมพ์ โฆษณา จัดจำหน่ายเองทั้งหมด   แน่นอนว่าย่อมมีความท้าทายมากมายสำหรับการทำงานที่ต้องติดต่อสื่อสาร  ประสานงานในหลาย ๆ ฝ่าย โดยผองเพื่อนหลายคนก็ยังต้องทำงานประจำ  หากใครว่าง พอมาช่วยได้ทุกคนก็มาด้วยความเต็มใจและใจรัก  แต่กองบัญชาการ และงานหลัก ๆ ชาน่าต้องประสานเอง  ซึ่ง(ช่าง)กล้าพูดได้คำเดียวว่า ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพี่ พ้อง น้องเพื่อน ในวงการก็คงจำบังเกิดผลไม่ได้

หนังสือ 
"ใช่ว่าจะดอก...ท้อ"   ส่วนหนึ่งนำมาจากการรวมคอลัมน์ตอนเด็ด เว็บข่าวประชาไท  รวมกับอีกหลายหัวข้อที่เขียนเพื่อเล่มนี้โดยเฉพาะ  เพราะชื่อเรื่องบ่งบอก  แม้กระแสหลายคนจะบ่นว่า  "ชื่อหนังสือแรงโคตะระ  คิดได้ไง"  มากมายหลายเหตุผล   แต่เราก็มีที่มาที่ไป โดยอยากจะอธิบายว่า ...  บนทางเดินของคนเราใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบดอกเสมอไป ชีวิตอาจมีสุข เศร้า เหงา ท้อแท้ อีกนัยใช่ว่าจะเป็นดอกไม้จริง  อาจจะเป็นดอกไม้เหล็ก  ชายจริงก็ไม่ใช่ หญิงแท้ก็ไม่เชิง  

"ใช่ว่าจะดอก...ท้อ"  ในอีกนัย  หลายคนเปรียบเปรยดอกไม้เป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิต แต่บางครั้งบางคำ "ดอก" ก็ทำให้หลายคนมองคุณค่าที่แตกต่างกันไป  บ้างชอบประณามกันว่า "ดอกทอง"  เปรียบเหมือนหญิงที่ร่าน หลับนอนกับผู้ชายไม่เลือกหน้าไม่เลือกเวลา ถึงใครจะเรียกว่ากระไรก็แล้ว แต่ สามจุดที่เหลือหลังจากดอก ก็คงขึ้นอยู่กับชีวิตของแต่ละคนที่จะให้เป็นไป สไตล์ใครก็สไตล์มัน "ฉันจะอยู่สวรรค์" หรือ "ฉันคงลงนรก"  สวยหรือไม่สวย รวยหรือจน เกย์ แอบ เสือไบ กะเทย ชายหญิง ล้วนเลือกได้    ่เราเลือกทางเดินได้ไม่ใช่หรือ  ...   

หนังสือเล่มนี้จะเป็น(กุญแจ) ดอกหนึ่งที่ไขปัญหา วิถีแรงกล้า ไลฟสไตล์ของเกย์ กะเทยเมืองไทยและทั่วโลก


แม้บางครั้ง บางครา ที่เรา "ท้อ"
  หมดหวัง หมดหนทาง อ่อนล้า เพื่อนและคนที่รักเราเท่านั้นเค้าจะอยู่กับเราได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราก็ตาม  ท้อที่ตามหลังดอก  พอจะบอกได้ว่าเราจะร่วมทางเดินด้วยกัน เราจะมีเรา คอยให้กำลังใจและเป็นเพื่อนกัน   

"ใช่ว่าจะดอก...ท้อ" จึงเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้ ด้วยสาระเนื้อหาที่ไม่แย่ แต่ตอแหลได้โล่ห์ ถ่ายทอดเรื่องราวหลากหลาย หวาน มัน ขมขื่น ล้ำ รส แซ่บ มากมายหัวข้อที่เกี่ยวกับชีวิตชาวดอก (ไม้เหล็ก)  หลายตอนที่หาอ่านไม่ได้ ชาน่าและเพื่อน ๆ จะถ่ายทอดให้คุณทุกเพศ ในอีกมุมมองที่แตกต่าง 

นอกจากนี้ชาน่าตั้งใจนำเงินรายได้จากการจำหน่ายหนังสือเล่มนี้บริจาคการกุศล ตามความจำเป็น เพื่อตอบแทนสังคม  โดยเป็นจุดประสงค์ของการเผยแพร่และพิมพ์จำหน่ายครั้งนี้    

คุณคะ วันก่อนได้มีโอกาสไปสัมมนา และประชุมว่าด้วย
"เรื่องของสื่อเกย์ต่อสังคมไทย"  เหมือนดังที่หลายท่านพอจะทราบว่า  บางครั้ง (อันที่จริงแทบจะทุกครั้ง) ที่คนทั่วไป เพศจริง ผู้หญิง ผู้ชาย ผู้ใหญ่ ผู้น้อยมักจะมองกลุ่มหลากหลายทางเพศ แบบเป็นกรอบ เป็นอะไรที่พิเศษ หรือประหลาดอย่างแยกเสียไม่ได้

อย่างหนังสือเล่มนี้  ช่วงที่ชาน่าพิมพ์เสร็จแล้วก็ต้องเดินสาย ติดต่อเพื่อฝากขายหน้าร้าน เพราะชาน่าไม่ได้ให้บริษัทใดเป็นผู้จัดจำหน่าย  อันเนื่องมาจากบางคืน บางครั้งก็ต้องเดินสายโปรโมทหนังสือและนำไปจำหน่ายเองด้วย  จึงผิดต่อหลักการสัญญาที่เราจะทำอย่างนั้นไม่ได้หากให้บริษัทจัดจำหน่าย  แต่ถึงกระนั้นก็ต้องขอกล่าวขอบพระคุณเป็นลายลักษณ์อักษร สำหรับบริษัทอนิศ ดิสทริบิวชั่น ที่ได้เป็นพี่เลี้ยง คอยช่วยเหลือชาน่าและทีมงานมาตลอด  

คุณขา การติดต่อกับร้านหนังสือทั่วไปไม่ใช่เรื่องง่าย และเป็นสิ่งที่ท้าทายเสมอ  ร้านหนังสือบางร้าน แค่บอกว่าเป็นหนังสือของหลายวัย หลากเพศ โดยเฉพาะกลุ่มหลากหลายทางเพศ  โดยบอกชื่อหนังสือ และบางเนื้อหา แค่นี้หละค่ะ วิ่งหนีกันกระจาย(บางร้าน) เกรงและกลัวจะเป็นหนังสือเฉพาะกลุ่มที่เน้นเรื่องประหลาด ความพิสดารทางเพศหรือเปล่า ?  


????????? มากมายหลายคำถาม  บ้างก็บอกว่าแรงไม่กล้ารับจำหน่าย  แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ต้องขอชื่นชมและกราบขอบพระคุณ ร้านหนังสือดีมีคุณภาพชั้นนำของเมืองไทย อย่างบุ๊คสไมล์ ในเซเว่น อีเลฟเว่น  ร้านซีเอ็ดบุ๊ค ทั่วไทย ร้านแพร่พิทยา สาขาลาดพร้าว ปิ่นเกล้า วังบูรพา ร้านมีเดีย เน็ตเวิร์ก รีเทล  บาบีลอน สาธร สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย  องค์กรบางกอกเรนโบว์  อีดีที อโศก ที่ให้โอกาสหนังสือเล่มน้อยเล่มนี้ วางแทรกพื้นที่ไปสู่สายตามหาชน  อย่างทั่วถึง และเปิดโลกทัศน์ที่กว้างและก้าวไกล ล้ำ เริ่ด ๆ ได้ใจทุกเพศเช่นร้านที่กล่าวถึง

ใช่ว่าจะดอก...ท้อ จึงคลอดออกมาภายในเวลาเกือบสิบวัน (ซึ่งหนังสือบางเล่มใช้เวลาทั้งหมดเกือบสามเดือน)  ชาน่าและทีมงานหลายคนอดหลับอดนอน โดยเฉพาะอาร์ตไดเร็คเตอร์ อย่าง
"คุณลุย" ซึ่งเราทำกันให้แล้วเสร็จภายในวันที่เก้า เดือนเก้า เวลาเก้าโมงกว่า ๆ  ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของชาน่า วันนั้นปลื้มปีติ ยินดี และซาบซึ้งถึงพระคุณบิดา มารดร  ยากจะอธิบายได้  แม้พ่อของชาน่าจะไม่อยู่ในภพโลกนี้  แต่แม่อันเป็นที่รักของชาน่า ท่านใจดีมากที่อนุญาตให้ชาน่าได้ใช้เวลาในการพักร้อนนี้ ได้ทำหนังสือร่วมกับเพื่อน  (แม้ชาน่าจะไม่ได้เรียนให้ท่านทราบว่า เป็นหนังสือเกย์และผมก็เป็นเกย์นะครับ)

"นี่แก ... ทำงานเรือสำราญทำงานเดินแบก (ถาดอาหารเครื่องดื่ม) ทุกวัน กลับมาพักร้อนไม่พักผ่อนบ้าง  กิน เที่ยว เปรี้ยวไปวัน ๆ ไม่ต้องเดือดร้อน อะไร"  เสียงของเพื่อนติง หลังจากที่บอกกล่าวถึงความท้อในบางครา
"ฉันทำอย่างนั้นก็ได้  แต่ใครจะไปรู้หละว่าถ้าวันนี้ช้านไม่ทำ  แล้ววันรุ่งพรุ่งนี้ฉันจะมีโอกาสได้ทำอะไรดี ๆ แบบนี้ได้หรือเปล่า"   ชาน่าตอบอย่างไม่คิด

แน่นอนที่สุดว่าการทำงานย่อมมีผิดพลาด  อย่างยกตัวอย่างง่าย ๆ  โปรแกรมที่จัดหน้าหนังสือ  ทุกตัวอักษร ค (คอ ควาย) จะต้องกลายเป็นตัวอักษร ฃ (ขอ ขวด) ซึ่งทางทีมงานก็ต้องแหกตา แก้ไข แต่ก็ยังผิดพลาดกันได้อยู่เสมอ  แม้หลายคนจะบอกว่าเป็นการสุกเอาเผากิน แต่ความคิดของชาน่า  มองโลกในแง่ดีว่า การทำงาน หากคนที่ทำงานย่อมจะมีข้อผิดพลาดกันได้  ถึงอย่างไร ขอกราบขอโทษ และขอน้อมรับความผิดทั้งหมดทั้งปวงแด่เพียงผู้เดียว


กราบขอบพระคุณสื่อมวลชน ทุกแขนง  รายการทีวี โดยเฉพาะ วาไรตี้บันเทิง only the lonely  พี่ดีเจ โดยเฉพาะ ดีเจอ้อย  หนังสือพิมพ์ทุกเล่ม  วารสารทุกเล่ม  (ที่กล่าวไม่หมดภายในหน้านี้) ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ อีดีที อโศก รับส่งพัสดุภัณฑ์ทั่วโลก โทร. 086 5488824, Docu-TV tv production Event etc. โทร. 086-6288568  The Departure ,tour  & travel sukhumvit โทร.087-909 3477 Babylon ,bed & Breakfast , sauna  โทร.0-2679-7984  พี่ เพื่อน พ้อง น้องพี่ ทุกคนที่ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงาน  "ใช่ว่าจะดอก...ท้อ" เล่มนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนทุกเพศ ทุกวัยต่อไป  ที่ลืมไม่ได้ "คุณ" ผู้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้   กุศลผลกรรมดีที่เราทำร่วมกัน  จักทำให้กายและใจเป็นสุขไม่มากก็น้อย

หากท่านสนใจอยากได้หนังสือเล่มนี้ ติดต่อซื้อได้โดยตรง  ในราคา
99 บาท ค่าขนส่ง 20 บาท รวม 129 บาทส่งตรงถึงหน้าบ้าน...

EDT groups,co,ltd.
155/4-6 BNT Bldg. Sukhumvit Rd.  Soi 21  Klongtoey Nua,Wattana  BKK 10110
Tel: 0-2260-4969  Fax : 0-2260-4968  
Mobile : 086 5488 824

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…