Skip to main content

การประกวดขวัญใจชาวเราหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการประกวดสาวงาม สาวประเภทสองเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายงานการประกวด ที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นสาวมั่น สาวเก่ง สาวร่างใหญ่ สาวไทย สาวเทศ หรือหนุ่มมาดมั่น หวานใจ กายกำยำ หล่อเร้าใจได้โล่ห์ จากหลากหลายสังกัด ผับ บาร์ ห้างร้าน บริษัทที่จัดขึ้น

 

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551 ชาน่าได้มีโอกาสได้ไปร่วมงานประกวดหนุ่มหล่อ อีกงานหนึ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับลูกค้าและชาวสีลม ซอย 4 นั่นคือ “มิสเตอร์สีลม ซอย 4” ซึ่งการประกวดนี้เค้าจัดขึ้นทุกปี ได้รับการสนับสนุนจากหลายผับ บาร์ในซอย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหา หนุ่มหล่อ ขวัญใจ ชาวสีลม ซอย 4 และอีกหนึ่งจุดประสงค์หลักที่น่าชื่นชม ยกย่อง คือ การหารายได้เพื่อมอบให้กับการกุศล ที่วัดพระบาทน้ำพุ


แทบจะทุกปีที่เราจัดงานมิสเตอร์สีลมซอย 4 จะเป็นคืนที่ฝนตก แต่ด้วยคอนเซ็ปต์ที่เราต้องเดิน โชว์ตัวในซอยสี่ จนบางทีจำเป็นต้องลุยฝน แต่ก็ไม่เป็นไร” เสียงของพี่ไท้ ผู้บริหารผับ แอนด์ เรสเตอร์รอง เทเลโฟน สีลมซอย 4

 

ส่วนตัวแล้วรู้จักกับพี่ไท้ พี่ชายที่แสนดีคอยให้คำแนะนำปรึกษา ซึ่งชาน่านับถือเสมอ พอได้ทราบวัตถุประสงค์ถึงเรื่องของการจัดงานประกวดมิสเตอร์สีลม ซอย 4 คราวนี้พลาดไม่ได้ แม้ช่วงนั้นชาน่าจะเดินสาย คืนนั้นไปงานที่นั่น วันนี้ไปงานนี่ วันดี คืนดีต้องติดต่อประสานงานพิมพ์หนังสือ “ใช่ว่าจะดอก...ท้อ”

 

ฝนพรำอย่างไม่รู้ว่าจะหยุดหรือไม่ เมื่อไหร่ แต่ The show must go on บรรดาชายหนุ่มจากหลายสังกัดตบเท้ากันเข้ามารายงานตัว ชาน่านั่งดูกับพี่ๆ อย่างใจจดใจจ่อ มีการสัมภาษณ์สอบถามประวัติต่างๆ

จนเมื่อถึงเวลาอันสมควรทางคณะกรรมการต่างลงความเห็นกันว่า คงต้องเดินโชว์ตัวท่ามกลางสายฝน โดยเป็นการเดินแบบภายใต้ร่มใบใหญ่ แม้ฝนจะตกพรำบ้าง หรือตกปรอยบ้างตามจังหวะ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการจัดงานครั้งนี้ โดยสังเกตุเห็นแขกผู้มาเยือนโต๊ะเต็มตลอดซอย และสื่อมวลชนก็ให้ความสนใจไม่น้อยทีเดียว

 

ฝนปรอยจนถึงดึก และแล้วยามเมื่อฝนซา ฟ้าก็ใส กาลเวลาผ่านไป ความสดใสของหนุ่ม ๆ เข้ามาแทนที่

 

รางวัลที่ได้มีมากมาย อาทิ หนุ่มเฟรชชี่ หนุ่ม Popular vote โดยตำแหน่งนี้ตัดสินจาก “ดอก” ที่ได้ไม่ได้หมายความถึงร่านดอกงิ้วนะคะคุณขา ดอกที่ว่าคือดอกกุหลาบสีแดง โดยมีการจำหน่ายดอกกุหลาบสีแดง ดอกละ 20 บาท โดยรายได้จะนำไปมอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุ เชื่อหรือไม่ว่ามีผู้ใจบุญชาวต่างชาติกระหน่ำซื้อ ยิ่งกว่าเทหุ้น ยี่สิบบาทไปจนถึงครั้งละห้าพัน หมื่น สองหมื่นบาท ความคิดนั้นแว๊บเข้ามาในจิตของชาน่าก็คือ ดีใจแทนผู้ป่วยวัดพระบาทน้ำพุที่มีผู้ใจบุญร่วมกันช่วยเหลือ

 

พิธีกรโดยคุณไท้ ชัยกานต์ และแมทธิว ซึ่งเข้าใจได้ทั้งสองภาษา

 

แม้รางวัลที่ได้จะไม่มากมายนัก แต่ความภาคภูมิใจและการได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือสังคม ร่วมงานเพื่อหารายได้ให้กับการกุศล คงทำให้น้อง ๆ ผู้เข้าประกวดทุกคนเป็นสุขทั้งภายภาคนี้และภาคหน้านะคะ ภาพที่นำมาลงในครั้งนี้ไม่ได้เจตนาจะสื่อไปทางลามกจกเปรต แม้การประกวดนางสาวไทยระดับประเทศยังใส่ชุดว่ายน้ำได้ การประกวดครั้งนี้คงไม่ทำให้ บางคนหวั่นไหว ต่อต้านชุดว่ายน้ำจากชายได้นะคะ

 

 

การประกวดมิสเตอร์ทั้งหลาย อยากให้คุณเปิดใจให้กว้างว่า น้องชายเหล่านี้บางคนเค้าไม่ได้เป็นเกย์ กะเทย อย่าง ดาราช่องน้อยสี หลายสีชื่อดังหลายคนก็เคยมาจากการประกวด เวทีก้าวแรกขั้นนี้อย่างเวทีเกย์ ก็มีเหมือนกันค่ะ

 

 

ชาน่ายินดีและมอบหนังสือ “ใช่ว่าจะดอก...ท้อ” ให้เพื่อเป็นกำลังใจและที่ระลึกแด่ผู้ได้รับรางวัลด้วยค่ะ ในภาพนี้ พี่ไท้ คุณแมทธิว และหนุ่มหล่อที่ได้ตำแหน่ง มิสเตอร์สีลม ซึ่งชาน่าไม่ได้มอบหนังสือให้เอง เพราะวันนั้น ฝนพรำไม่สะดวกต่อการแต่งสาว ออกงาน เกรงว่าน้ำเหลือง อุ๊บส์ ... พิมพ์ผิด น้ำหมึกเขี่ยคิ้ว แป้งแต่งหน้า สีทาปากจะเลอะเจ้าค่ะ ไม่อยากจะสยองผิดงานไม่ใช่วันฮาโลวีน

 

 

อยากให้ชาวไทย ชาวเกย์ ชาวโลกรักกัน หันหน้าเข้าหากัน ร่วมสร้างสรรค์สังคมและโลกใบนี้ให้น่าอยู่ “ความรักและความเข้าใจ” จะทำให้โลกหมุนไปอย่างสงบสุขนะคะ ภาพนี้ทำให้เราได้ข้อคิดว่า “ชาติภาษาไม่สำคัญเท่าใจเรารักกัน” ถ้าจะเรียกว่าพ่อยก ลุงยก แทนแม่ยกก็คงไม่ผิดกระมังคะ

 

ความรักไม่ได้แยกเพศ และอายุ ... แล้วคนไทย การเมืองไทยจะกลับมารักกันได้ดังเดิมไหมหนอ...

 

กราบขอบพระคุณโครงการดี ๆ ที่จัดขึ้น ขอบพระคุณผู้ใจบุญแทนผู้ป่วยวัดพระบาทน้ำพุ ขอบคุณสื่อมวลชน โดยเฉพาะหนังสือ บางกอกวาไรตี้ , แม็กซ์ แมกกาซีน ,ไทยเพื่อน แม็กกาซีน เว็บไซด์ ทีวีทูเดย์ แบงค์คอก มาสซาส , บาบีลอน , เอ็กซ์ ไซส์ บอย , เมนแอ็ทโมดโมเดล ,เทเลโฟน , บัลโคนี่ และพี่น้องสื่อมวลชนทุกคนด้วยฮ่ะ

 

แม้จะเป็นเรื่องเก่าผ่านไปนานเป็นเดือน แค่อยากนำมาเล่าใหม่ หมื่นคำขอบคุณด้วยเหตุผลเดียวที่อยากบอกไว้ว่า นั่นก็เพียงเพราะชื่นชมในกลิ่นความหอม ความดีที่ช่วยเหลือสังคม ... (ไม่ใช่กลิ่นผู้ชายนะเจ้าคะ) อีกหนึ่งโครงการดี ๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟังสัปดาห์นี้

 

ปล.เขียนจาก เมืองอากาสหนาวทางตอนใต้ของเวนิส อู่ต่อเรือ มอนฟาคอนเน่ เทรสเต้ อิตาลี่

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…