Skip to main content

ท่ามกลางความหนาแน่นของผู้คน นักเดินทางโดยเครื่องบิน ขาเข้าและขาออกนอกประเทศ ณ สนามบินสุวรรณภูมิในค่ำวันหนึ่ง

หวัดดีครับชิน ยินดีที่ได้รู้จัก ได้ยินแต่ชื่อเสียงเลียงนามมานานแล้วครับ” เสียงของพี่หนึ่งทักทายเมื่อครั้นที่เราพบกันครั้งแรกที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ผมกำลังจะบินไปทำงานต่อที่ต่างประเทศ

 

 

พี่หนึ่งเป็นพนักงานที่ทำงานบริษัทเดียวกัน แต่แยกย้ายกันคนละสาขา ทำให้ไม่เคยได้ทำงานร่วมกันมาก่อน เราเริ่มรู้จักกันมากขึ้นหลังจากที่เครื่องบินไฟล์ท จากฮ่องกงไปลงที่โรม ซึ่งเป็นไฟล์ทที่ค่อนข้างยาวนานมากกว่า 11 ชั่วโมง ช่วงนั้นไม่ได้เป็นฤดูไฮ ซีซัน บนเครื่องบินจึงมีผู้โดยสารไม่เต็มทุกที่นั่ง


ชินย้ายไปนั่งด้วยกันก็ได้นะครับ ผมนั่งกับวัฒน์ สองคนที่โน่น ชินจะได้ไม่เหงา” พี่หนึ่งมาเชิญให้ไปนั่งด้วย

อ๋อไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากเลยนะครับที่มาชวน แต่ว่าที่นี่ก็ว่างไม่แออัดอะไร กะว่าจะงีบหลับก่อนเพราะมัวแต่จัดกระเป๋าจนนาทีสุดท้าย วันนี้จึงอดนอน ถ้านอนไม่หลับแล้วจะไปนั่งคุยด้วยละกันครับ” ผมตอบพี่เค้า พร้อมกับส่งสายตาขอบคุณอย่างเป็นมิตร


ชีวิตของชาวสลีบเลส โซไซตี้ (สาวกของ Sleepless society :new albums by Narongwitt ,Grammy) บางครั้งทั้งๆ ที่ง่วง พอถึงเวลาที่อยากจะหลับใจเจ้าเอยก็ไม่หลับไม่นอน หรือผมมีภาระหน้าที่ทางหัวใจ มีงานเข้ามาอย่างไม่รู้ตัว ผมจำได้ว่างีบหลับไปไม่กี่ชั่วโมง ด้วยบรรยากาศและที่นั่งแคบๆ ทำให้ผมสะดุ้งตื่น ยากที่จะหลับต่อได้อีก ตื่นมาจากภวังค์ในใจครุ่นคิดแอบปลื้มพี่หนึ่ง ชายวัยทำงานที่รูปร่างหน้าตา ไม่เป็นสองรองใคร โอ้ เอย....หัวใจเกิดอะไรขึ้นกับผม

ในขณะที่กำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ยืนยืดเส้นยืดสาย พี่หนึ่งก็เข้ามาทักด้วยความเป็นห่วง เราใช้พื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำ ด้านหลังสุดของเครื่องบินสายการบินประจำชาติฮ่องกง คุยกันเกือบสองชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องชีวิต หรือแม้แต่เรื่องของความรัก... “รัก....เอย”


.....................



แกๆ พี่เค้าดูดีเน๊อะ เคยพบกันกับพี่เค้าครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน หลังจากนั้นก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย นี่ถ้าหากยังไม่มีแฟนกะว่าจะจีบเค้าซักหน่อย หุหุ พี่เค้าก็เป็นคนที่เปิดเผยดีนะ เค้าเล่าเรื่องราวให้เราฟังเยอะเลยหละ เมื่อกี้พี่เค้ายังชมแกให้เราฟังเลยว่า ชินเป็นคนน่ารักมีเสน่ห์ ท่าทางจะเจ้าชู้ไม่เบา เป็นคนน่าค้นหา” วัฒน์บอกผมเมื่อตอนที่รอเครื่องที่สนามบินฮ่องกง


ผมจำไม่ได้ว่านานหรือยังที่ผมไม่มีความรัก และคนรักมาร่วมคู่ครอง ทำงานจนงานแทบจะขึ้นสมอง ทั้งงานประจำ งานอดิเรก ธุรกิจหลายอย่างที่ต้องดูแล จนบางครั้งเกือบลืมไปว่า บางทีเราต้องทำอะไรเพื่อหัวใจเราบ้าง

...................


พี่เคยมีลูก และเมียเมื่อหลายปีก่อน แต่สุดท้ายเราก็ไปกันไม่ได้ เพราะพี่ต้องทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับครอบครัว จนวันหนึ่งที่พี่กลับเมืองไทย พี่รู้ว่าเค้าได้ปันใจให้กับชายคนใหม่ที่พร้อมและให้ความสุข ความต้องการเค้ามากกว่าพี่ และแล้วครอบครัวของเราก็จบ โดยแฟนเก่าของพี่เอาลูกมาให้ย่าเลี้ยงที่ต่างจังหวัดแล้วเธอก็ใช้ชีวิตอยู่กับแฟนใหม่ที่กรุงเทพ ฯ”
พี่หนึ่งเล่าเรื่องราวอดีตให้ผมฟัง จนผมเริ่มรู้สึกและเข้าใจถึงความพลัดพรากและแยกทางกันอยู่ของคนที่เคยรัก และรักกันมาก่อน มันเป็นสิ่งที่ทรมานเหลือเกิน ไม่ว่าคุณจะมีความรักแบบไหนให้ใครก็ตาม


พี่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าพี่จะเป็นเกย์ หรือเสือไบ เพราะพี่ไม่เคยนอกใจกับแฟนผู้หญิงมาก่อนจนวันหนึ่งที่เราแยกทางกัน มีชายคนหนึ่งที่เค้ามาผูกพัน มอบความรักและความห่วงใยให้ โดยทำทุกอย่างเพื่อพี่ จากวันนั้นถึงวันนี้พี่ถึงได้รู้ว่า ความรักมันไม่ได้แบ่งแยกเพศหรืออายุ วรรณะแต่อย่างใด พี่จึงเริ่มปันใจให้กับชายคนนี้” ผมฟังพี่เค้าเล่าอย่างปอกเปลือก รับฟังอย่างเข้าใจถึงหัวอกของชายคนหนึ่ง


แต่ตอนนี้พี่ก็แทบจะเรียกว่าเป็นโสด ทั้งกายและหัวใจ พี่คงจะไม่มีความรักให้ใครได้อีกต่อไป หลังจากที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพี่เค้าจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งปกติเค้าก็มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว พอแม่ทิ้งเค้าให้อยู่กับย่า เค้าคงจะเหงาและตรอมใจ จนทรุดและจากไปในที่สุด พี่ทำหน้าที่พ่อไม่ดีเลย ไม่มีเวลาให้เค้า เพราะพี่คิดแต่ว่าสักวันหนึ่งหากมีเงินพอแล้วจะกลับไปตั้งเนื้อตั้งตัวและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยกันพร้อมหน้า”

จากประโยคที่พี่เค้าเล่าให้ฟังนั้นมันทำให้ผมเคยคิดเสมอว่า ความสุขของคนเรานั้นบางครั้งไม่ได้อยู่ที่เงินเพียงอย่างเดียว หากเพียงแต่ได้มีโอกาสได้อยู่กับคนที่เรารัก และได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักแค่นั้นก็อาจจะทำให้เราเป็นสุขได้ไม่น้อยทีเดียวไม่ใช่เหรอ ความคิดของผมตอนนั้นครุ่นคิดถึงพ่อเสียเหลือเกิน อยากใช้ชีวิตอย่างอบอุ่นเหมือนในวัยเด็กที่มีพี่ พ่อ แม่ อยู่กันอย่างพร้อมหน้า นั่งกินข้าวด้วยกันแทบจะทุกมื้อ กลางคืนนอนดูดาว คุยกันถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ และเล่าเรื่องราวอย่างเป็นสุข ของแต่ละวันที่ผ่านไปอย่างอบอุ่นในครอบครัวสมบูรณ์


พี่หนึ่งชวนผมไปนั่งคุยที่เบาะนั่งผู้โดยสารอย่างเบา ๆ จนผมเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็มีมืออุ่นๆ ของพี่เค้ามากุมจับอย่างเป็นห่วงเป็นใย

..............


หลังจากที่เครื่องลงถึงสนามบินกรุงโรม พนักงานจากเมืองไทยเดินทางเข้าบริษัท มันเป็นความบังเอิญหรือพรหมลิขิตที่ทำให้ผมกับพี่หนึ่งได้พักอยู่ห้องเดียวกัน เราเริ่มรู้จักกันและกันมากขึ้น ใช้ชีวิต อบรม ทำงาน ร่วมกัน


เป็นไงบ้างจ๊ะ ได้ข่าวว่าพอมาถึงก็ได้อยู่ห้องหอเดียวกันเลยเหรอ แล้วอย่างงี้จะไปเหลืออะไร ใครได้ใครเสีย” เพื่อนล้อ และแหย่ตามประสาคนสนิทชิดเชื้อกัน ผมจึงตอบเพื่อนไปว่า

ผมไม่ใช่คนง่าย หรือแค่ใคร่เซ็กส์อย่างเดียว ลูกมีพ่อมีแม่นะเฟ้ย ใช่ว่าจะได้กันง่าย ๆ” ผมตอบไปอย่างรักศักดิ์ศรี แม้จะไม่ค่อยมีก็ตาม


หลายวันผ่านไป เราแค่ดูใจโดยที่พี่เค้าก็ให้เกียรติและเป็นลูกผู้ชายเสมอ ความสุภาพบุรุษของเค้าทำเอาผมแทบจะตายใจและเกือบจะเผลอใจ

ชินได้ข่าวว่าพี่เค้ามีแฟนแล้วเหรอ เป็นชาวต่างชาติ ตอนนี้เค้ายังติดต่อกันอยู่หรือเปล่า เค้าเล่าให้แกฟังบ้างปะ” วัฒน์ถามด้วยความใคร่รู้

อื่อ... เค้าก็เล่าให้ฟังนะ นั่นก็คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราไม่สามารถจะตัดสินใจอะไรได้ในตอนนี้หวะเพื่อน” ผมตอบวัฒน์เพื่อนเกย์คนสนิทอย่างเปิดใจ

................


คืนหนึ่งหลังเลิกงาน พี่หนึ่งไปปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ กลับมาที่ห้องพักด้วยความเมาทำให้กล้าหรือว่า ต้องการจะระบาย เปิดใจพูดคุย คุณคงไม่คิดมากว่าหลังจากเมาเหล้าแล้ว คนสองคนที่กำลังมีใจให้กัน แล้วนาทีต่อจากนั้นไปจะเกิดอะไรขึ้น


คุณอาจจะเดาผิดก็ได้ครับ ผมเลือกทางที่ตัวเองคิดว่าทำถูกแล้ว.... ถึงแม้ผมจะไม่ได้ทำตามใจที่ตัวเองต้องการ แต่ผมก็ได้เลือกที่จะทำตามศีลธรรมอย่างเข้าใจในชีวิต


ชินรู้มั้ยว่าพี่ชอบชิน และชอบมากด้วย แต่ทำไมพี่ถึงไม่สามารถทำอะไรๆ ตามใจพี่ได้ พี่อยากเป็นแฟนกับชิน อยากมีเซ็กส์กับชิน ถ้าชินจะลืมว่าพี่มีแฟนในตอนนี้ พี่กับแฟนใหม่ที่เป็นเกย์ชาวต่างชาติเราอยู่ห่างกัน ชินไม่รับรักและไม่มีความสัมพันธ์กับพี่มากไปกว่านี้ได้หรือ มันทรมานมากรู้มั้ยที่เราอยู่ใกล้กัน” พี่หนึ่งบอกผมอย่างเปิดใจด้วยเพียงเพราะความกล้าหลังจากที่ได้ดื่มน้ำมึนลงไป หรือถึงกาลเวลาที่ต้องเปิดอกคุยกันสักที


ผมเข้าใจในความรู้สึกของพี่นะ แต่พี่ต้องเข้าใจว่า .... ผมมาทีหลัง พี่หนึ่งมีแฟนอยู่แล้วตอนนี้ แม้พี่กับเค้าจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ผมก็ไม่สามารถจะไปตีท้ายครัว เข้ามาแทนความผูกพันหรือความต้องการของหัวใจได้ ผมสงสารแฟนของพี่ และผมก็ไม่อยากให้ความผูกพันของเรามันเกินเลยไปมากกว่านี้” ผมบอกพี่หนึ่ง พี่หนึ่งโผกอดผมอย่างแนบแน่น มันทำให้น้ำตาจากต่อมไหลคลอเบ้าเสียไม่ได้ เสียใจและเสียดายที่เราเจอกันช้าไป ถึงยังไงผมก็คงเลือกที่จะไม่ขอเป็นคนเลวที่รักเธอ แม้ในใจผมจะรักพี่เค้ามากแค่ไหนก็ตาม


....ก็อยากดูแล ให้มากกว่านี้เหลือเกิน แต่กลัวจะเผลอ ทำเพลินจนเกินหน้าที่

ก็ถูกให้เป็นแค่คนรู้จักเลื่อนเป็นคนรักไม่ได้สักที จึงทำเท่าสิทธิ์ที่มี ยามเห็นเธอเป็นทุกข์ใจ

ห่วงอยู่ไกล ๆ เจอหน้ายิ้มให้ด้วยสายตา คอยเป็นธุระในเรื่องที่พอช่วยได้

ขอโทษบางคราที่ต้องเหินห่างและมีบางครั้งที่เคยขัดใจ

บางอย่างที่ขอมากไปเจ้าที่หัวใจเขาหวงแหน

.... คนที่ไม่ใช่แฟน ทำแทนทุกเรื่องไม่ได้

เหนื่อยก็รู้ เหงา ...ก็เข้าใจ แต่ไม่อาจให้ยืมอ้อมแขน

คนที่ไม่ใช่แฟนทำแทน ทำแทนทุกเรื่องไม่ได้

หน้าที่ตามฐานะใจ ห้ามเดินก้าวล้ำเส้นแดน

ภาระในเขตอ้อมแขน ... ไม่ใช่แฟน ทำแทนไม่ได้.....”


เพลงของตั๊กแตน ชลดา แต่งโดยครูสลา เพื่อให้คนไม่ผิดระเบียบและทำตามฐานะ ภาระ หน้าที่ สภาพทางจิตใจ ที่ไม่อยากเห็นใครล้ำเส้นแดน แย่งแฟนคนอื่น


ผมรักพี่หนึ่งเสมอ แต่ผมเข้าใจว่าผมมาทีหลัง มันจึงไม่ควรที่จะสร้างความผูกพันกันจนเกินเลย เพราะสุดท้ายแม้หากผมจะได้พี่หนึ่งมาเป็นคู่ครอง ผมคงโดนตราหน้าว่า “แย่งสามีชาวบ้านมากิน” และผมก็รู้สึกและเข้าใจถึงความสูญเสียคนที่เรารักมันเป็นยังไง ผมคงจะเป็นสุขบนกองน้ำตาของแฟนเค้าไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ผม .... ผู้คนมีอีกเป็นหมื่นล้านคนมากมายในโลก คงจะมีสักวันที่ผมจะพบใครสักคนที่เป็นของผมจริงทั้งร่างกายและจิตใจ หรือแม้วันนี้ วันหน้า วันต่อไปผมจะไม่เจอใคร ผมก็ยังดีใจที่ไม่ได้ไปแย่งของใครมากิน


แม้เพื่อนบางคนจะแปลงเนื้อเพลงร้องให้ฟังเสมอว่า “คนที่ไม่ใช่แฟน ทำแทนยิ่งแซ่บมากกว่า” แต่ผมขอเลือกไม่อยากให้เค้าแซ่บจนติดใจ ถ้าหากวันใดเค้าทิ้งแฟนมาอยู่กับเราได้ ต่อไปเค้าก็คงทิ้งเราไปอยู่กับคนอื่นได้เช่นกัน นอกจากนั้นเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา เค้าเป็นของคนอื่นท่องเอาไว้ในใจ เค้าไม่ได้เป็นของ ๆ เรา คืนของเค้าไป ทุกทางเดินของรักมักมีทางออกสักทางเสมอ

 
ชาตินี้ที่รัก เราคงรักกันไม่ได้ เพราะว่าหัวใจของเธอนั้นมีเจ้าของ

... เพราะเธอมีคู่ อยู่แล้วเธออย่ามารัก แม้หากชาติหน้ามีรัก ขอเป็นคนรักคนแรก....ของเธอ”


ความรักมีทั้งสุข และทุกข์ รักมีครบทุกรสชาด ถ้าหากความรักของคุณที่มีต่อคนๆ หนึ่งเป็นสิ่งที่สวยงาม รักอย่างเข้าใจ รักอย่างไม่ผิด รักโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ รักแค่ต้องการอยากเป็นผู้ให้รัก รักยังไงก็สุดแล้วแต่ ถ้าหากความรักนั้นไม่ทำให้ใคร
(สักคน) เดือดร้อน ปรับแต่งความรักของคุณและเค้าให้เป็นสิ่งที่ดีอันบังเกิดขึ้นในชีวิตของคุณและเค้า ทำอย่างไรที่จะให้รักของเค้าและคุณเป็นสุข เลือกทำในสิ่งที่ดีงาม เลือกรักให้ถูกที่และเป็นผลดีต่อคนทุกคน จงรัก....อย่างถูกทาง “ผมยังรักคุณเสมอ”...


ปล. เรื่องสั้นนี้เขียนบนพื้นฐานจากเรื่องจริง มีการปรับแต่งเพื่อความบันเทิง ชื่อตัวละครเป็นเพียงนามสมมติ ที่สำคัญเป็นการเขียนเรื่องสั้นครั้งแรกของชาน่า หากผิดพลาด ไม่ได้อรรถรสประการใด น้อมรับแต่เพียงผู้เดียวเจ้าฮ่า...

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…