Skip to main content

เรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ หรือความผิดโทษฐานที่เกิดมาเป็นรักร่วมเพศในโลกนี้ยังมีให้เห็นอีกหลายมุมของโลก อันเนื่องมาจากวัฒนธรรมประเพณี ธรรมเนียมที่แตกต่างกัน


ชาน่าเคยได้รับเมล์ส่งต่อจากเพื่อนที่ส่งภาพของสองหนุ่มน้อยวัยเบญจเพส ชาวตะวันออกกลางที่ถูกประหารด้วยการแขวนคอประจาร โทษฐานที่เป็นรักร่วมเพศของประเทศในตะวันออกกลางเมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนั้นดูด้วยความสลดและเกิดความสงสารจนพูดไม่ออก


วันนี้อยากนำเรื่องราวของชายสองคนนี้มากล่าวถึงเพราะได้เข้าไปอ่านจดหมายฉบับหนึ่งของหนุ่มรักร่วมเพศจากอิหร่านที่เขียนมาถึงเว็บไซด์เกย์ชื่อดังของโลก เพื่อถ่ายทอดและระบายความในใจ


จดหมายฉบับนี้เขียนมาจาก Arsham Parsi เป็นวัยรุ่นหนุ่มที่เกิดมาบนประเทศที่ต้องห้ามสำหรับการแสดงตัวตนเป็นคนรักร่วมเพศ ในเนื้อความของจดหมายนั้นเขาได้เล่าถึงความลำบากที่ต้องใช้ชีวิตแบบเกย์ ซึ่งหลายครั้งที่เขาได้อฐิษฐานให้ตัวเขาเองได้กลายเป็นคนปกติที่มีจิตใจรักในเพศตรงข้าม แต่สุดท้ายมันก็เป็นไปไม่ได้ ในโลกวิถีของเกย์ในประเทศปิดและไม่ยอมรับอย่างตะวันออกกลางนั้น มันเป็นสิ่งที่ทรมานเหลือเกิน ยากที่จะพบปะ “ชาวเรา” หรือ “คนที่เข้าใจ”


สุดท้ายนายปาร์ซี่ ก็เข้าใจตัวเองและยอมรับกับสิ่งที่เป็นอยู่ จนเขาคิดที่อยากจะก่อตั้งสมาคมเพื่อเรียกร้องแต่สุดท้ายความฝันกับความจริงก็แตกต่างกัน เขาต้องอพยพระเหเร่ร่อนออกนอกประเทศ เพื่อความปลอดภัยในชีวิต เขาได้นั่งรถไฟไปตุรกีในฐานะผู้ลี้ภัยซึ่งได้ไปรายงานตัวที่ Ankara (หนึ่งในเมืองของประเทศตุรกี) แม้เขาจะไปถึงตุรกีแล้วเขาก็ยังไม่หยุดที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิเกย์มนุษยชน “When I fled to Turkey, I promised my God that I would continue my support for Iranian queers and that would be my form of worship.” หลังจากนั้นแปดเดือนต่อมา เขาก็ได้ติดต่อและได้เข้าไปประเทศแคนาดา



เขาเล่าว่าก่อนที่จะหนีเข้าประเทศตุรกีนั้นเพื่อนรักของเขาสามคนก็ได้ฆ่าตัวตายเพราะไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร “ทำยังไงได้ก็ในเมื่อเกิดมาเป็นเกย์” มากกว่านั้นล่าสุดตำรวจชาวอิหร่านก็ได้จับกุมเกย์สองคน ที่จัดงานปาร์ตี้ร่วมกลุ่มกันขึ้นอย่างลับๆ โดยไม่รู้ว่าผลจะเป็นเช่นไร


เขาเล่าว่า "Since childhood I could not find any attraction to the opposite sex; yes of course I am a homosexual," says Farsad, 26 “ตั้งแต่ผมยังเด็กแล้ว ผมไม่เคยมีความรู้สึก (ทางเพศ) อะไรกับเพศตรงข้ามเลย แน่นอนหละผมเป็นรักร่วมเพศ”


การใช้ชีวิตในประเทศที่ปิดเช่นนั้น หนทางที่จะพบกลุ่มชาวเรา ทางหนึ่งที่เขาทำคือการพบเพื่อนทางอินเตอร์เน็ต ถึงกระนั้นก็ตาม ตำรวจก็ยังค้นพบจาก IP address และจับกุมอยู่เสมอ บ้างก็หนีรอด บ้างก็โดนจับ


ฤดูหนาวที่ผ่านมา เขาได้พบเพื่อนเกย์ในห้องแชทรูม หลังจากนั้นจึงตัดสินใจพบปะ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน วันหนึ่งจึงเชิญเพื่อนคนสนิทมาร่วมสังสรรค์อย่างลับๆ ในช่วงปีใหม่ แค่ 15 นาทีหลังจากปาร์ตี้ได้เริ่มตำรวจก็เข้าจับกุมทุกคน และได้ลำเลียงเข้าคุกจึงฉลองปีใหม่อย่างสุดเศร้า ไม่ใช่แค่จับเฉยๆ บางครั้งยังมีการชกต่อย รังเกียจเดียดฉันท์ของเจ้าหน้าที่ I still feel the pain caused by the fists pounding my face" “ผมยังคงเจ็บปวดเพราะโดนกำปั้นชกที่หน้า” เขากล่าว

 


บัญญัติกฏหมายว่าด้วย

Article 111 of the Islamic Penal Code states that, "Lavat is punishable by death so long as both the active and passive partners are mature, of sound mind, and have acted of free will." According to Articles 121 and 122 of the Penal Code, Tafkhiz (the rubbing together of thighs or buttocks, or other forms of non-penetrative "foreplay" between men) is punishable by one hundred lashes for each partner. Recidivism is punishable by death on the fourth conviction.


Article 123 of the Penal Code further provides that, "if two men who are not related by blood lie naked under the same cover without any necessity," each will receive 99 lashes. Iranian lesbians are not allowed to have an existence in Iran either. Many are forced by society and/or family to live a lie and marry a man. Women convicted of lesbian sex face flogging or, after conviction for a fourth time, the death penalty.”


หากชายสองคนที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันนอนเปลื้องผ้า ภายใต้ผ้าผืนเดียวกันโดยไม่มีความจำเป็น” ก็ถือว่าผิดมหันต์ ขัดต่อกฏหมายได้


ข่าวการตายของสองหนุ่มน้อย ในวันที่ 13 เดือนพฤศจิกายน ปี คศ.2005 หนังสือพิมพ์ Tehran daily Kayhan รายงานว่ามีสองหนุ่มคือนาย Mokhtar อายุ 24 ปี และนาย Ali อายุ 25 ปี ในเมือง Gorgan รัฐบาลตัดสินประหารสองหนุ่มที่ขัดต่อกฏหมาย “Lavat” ในวันที่ 15 เดือน มีนาคม ปี คศ. 2005 หนังสือพิมพ์ Etemad รายงานว่า สองหนุ่มน้อยได้ถูกฆ่าตายเพียงเพราะว่า หนึ่งในภรรยาของสองหนุ่มนั้นได้ค้นพบว่าพวกเขาร่วมรักกัน โดยมีหลักฐานเป็นวีดีโอเทป (เหมือนการค้นพบการเป็นเกย์ของพระเอกหนังเรื่อง Brokeback mountain ที่ศรีภรรยาเห็นต่อตาว่าสองหนุ่มดูดปากกันอย่างถึงพริกถึงขิง)


ภายในเดือนเดียวกันนั้น หนุ่มน้อยวัย 18 ปีในเมือง Rasht ก็ถูกเผาไฟโดยพ่อผู้บังเกิดเกล้า เพราะรู้ว่าลูกชายเป็นเกย์จึงต้องเผาไฟ ราดน้ำมัน แล้วเผาตัวเองตายตามเพื่อไม่ให้อับอายต่อสังคม หนุ่มน้อยตายแต่พ่อรอดชีวิตได้


เขาได้เล่าอีกว่า กลุ่มรักร่วมเพศชาวอิหร่านหลายคนพยายามหนีออกนอกประเทศเหมือนกับที่เขาทำ


นอกจากนี้ เขายกตัวอย่าง Taraneh สาวเลสเบี้ยน ผู้หนีภัยมาอยู่ยุโรปด้วยวัย 21 ปี เมื่อก่อนเธอเคยจับเข้าคุกเพราะเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ โดยอยู่ 27 เดือน โดยได้รับการทรมานอย่างมากและเธอก็ถูกบังคับให้ยอมรับถึงความเป็นเลสเบี้ยนของเธอ



ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นแค่ตัวอย่างที่เห็นถึงความไม่เป็นธรรม ความอันตราย และการถูกทำร้ายของกลุ่มรักร่วมเพศในประเทศอิหร่าน


ประธานาธิบดี นาย Ahmadine jad กล่าวว่า “พวกเราไม่มีกลุ่มรักร่วมเพศเหมือนประเทศคุณ” มันไม่จริงเลยPresident Ahmadinejad's statement that "we don't have homosexuals like in your country" is simply not true.


ในตอนท้ายของจดหมาย เขาบอกว่า

There are many gay and lesbian people in Iran, and they need your support. Right now.”


จดหมายฉบับนี้เขียนเมื่อวันที่ 28 เดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ ส่งถึงเว็บเกย์ชื่อดังของโลก “เกย์โรมีโอ” โดยนายArsham Parsiตำแหน่ง Executive director of the Iranian Queer Organization (IRQO) based in Toronto. ประเทศแคนาดา ติดตามรายระเอียดและความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ที่ www.irqo.net หรือ IRanian Queer Organization – IRQO, Formerly Persian Gay & Lesbian Organization – PGLO info@irqo.net Tel 001-416-548-4171


สิทธิและความเท่าเทียมกันเป็นสิ่งที่คนทุกคน และ “ชาวเรา” พยายามเรียกร้องแต่บางครั้งอุปสรรคและปัญหานั้นมีมากกว่าที่จะต่อสู้ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของศีลธรรม ประเพณี เป็นสิ่งที่ลำบากยากที่จะเปลี่ยนแปลงและยอมรับได้


กลุ่มรักร่วมเพศไทยทั้งหลายโชคดีเหลือเกินที่เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย ทำอะไรก็ไม่เดือดร้อน แต่ขออย่างเดียวอย่าทำเรื่องเดือดร้อนและเป็นภัยสู่สังคมไทย แค่นี้คุณก็อยู่ผืนแผ่นดินไทยอย่างสงบสุขดังเช่นคนทุกเพศ ทุกวัยได้เช่นกัน


เป็นกำลังใจให้ “รักร่วมเพศ” ทุกคนทั่วโลกเป็นอยู่อย่างสันติสุข ในโลกใบนี้และชีวีนี้ที่เกิดมา....


ภาพจาก ISNA


บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
สัปดาห์นี้ มีแขกพิเศษมาร่วมบันทึกเรื่องราวจากประสบการณ์จริงของผู้ชาย(ป้ายเหลือง) ที่ถ่ายทอดออกอย่างเป็นธรรมชาติผ่านตัวหนังสือ ชาน่ารู้จักน้อง Once in a blue moon เพราะเค้าเป็นแฟนหนังสือเล่มเก่า “เม้าท์แตก...ชาวเรา” จนเราสนิทสนมแชทคุยกันตลอด จึงอยากให้น้องถ่ายทอดเรื่องราว Untold story เพื่อเป็นอุทาหรณ์ สอนใจ กลั่นลึกจากห้วง ก้นบึ้ง เปิดให้รู้ลึก รู้สึกของชายกลุ่มหนึ่งที่ทำงาน อาชีพ... “ขายบริการ” บางประโยคอาจจะถ่ายทอดอย่างตรงเกินกว่าจะรับได้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเค้า และเค้าเหล่านั้น ลองอ่านดูฮ่ะ...
ชาน่า
เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสไปเข้าร่วมสัมมนาว่าด้วยเรื่อง “สื่อของเกย์และกะเทยในสังคมไทย” ณ ห้องกิ่งเพชร โรงแรมเอเซีย กรุงเทพฯ ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งนี้ได้รับการสนับสนุน โดยมูลนิธิไฮน์ริค เบิลล์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย และศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เริ่มกันตั้งแต่เช้าของวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 9.30 – 10.00 น. ได้เปิดลงทะเบียน รับเอกสาร รับประทานอาหารว่างหลังจากนั้นได้เริ่มแสดงวีดีโอ พรีเซ็นเทชั่น นำโดยคุณโสภิดา วีรกุลเทวัญ พิธีกรในงาน โดยมี ดร.ปีเตอร์ แจ็คสัน กล่าวเปิดงาน ต่อแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนมากมาย การสัมมนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสื่อต่าง ๆ…
ชาน่า
เมื่อเดือนก่อน ข่าวฮอตสุดฮิตของคนในวงการบันเทิงปรี๊ดทะลุทะลวง เรื่องของ "อ้น" หนุ่มชวนฝันพระเอกช่องน้อยสี ตกเป็นข่าวคลิปฉาว คาวโลกีย์ ขณะร่วมรักกับหญิงสาว ได้ปรากฏสู่สายตามหาชนยิ่งกว่าเรียลลิตี้ทีวีโชว์(เอ็กซ์) "มันเป็นความไม่ตั้งใจ แค่อยากลองด้วยความคึกคะนองและถ่ายเก็บไว้" หรือว่า "ความลับ อาจรั่วไหลได้ ความลับของซูเปอร์สตาร์จะไม่มีในโลก" กรณีของอ้นเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า ความโชคร้ายบางครั้งเกิดเพียงเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความไม่ตั้งใจ ความจนใจเพราะมันแก้ไขอะไรไม่ได้ ไม่ได้เป็นเพราะอ้น ตั้งใจถ่ายทำเพื่อหารายได้มาเกี่ยวข้องแม้แต่นิด ซึ่งแตกต่างจากกรณีของการถ่ายหนังโป๊…
ชาน่า
การประกวดขวัญใจชาวเราหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการประกวดสาวงาม สาวประเภทสองเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายงานการประกวด ที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นสาวมั่น สาวเก่ง สาวร่างใหญ่ สาวไทย สาวเทศ หรือหนุ่มมาดมั่น หวานใจ กายกำยำ หล่อเร้าใจได้โล่ห์ จากหลากหลายสังกัด ผับ บาร์ ห้างร้าน บริษัทที่จัดขึ้น เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551 ชาน่าได้มีโอกาสได้ไปร่วมงานประกวดหนุ่มหล่อ อีกงานหนึ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับลูกค้าและชาวสีลม ซอย 4 นั่นคือ “มิสเตอร์สีลม ซอย 4” ซึ่งการประกวดนี้เค้าจัดขึ้นทุกปี ได้รับการสนับสนุนจากหลายผับ บาร์ในซอย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหา หนุ่มหล่อ ขวัญใจ ชาวสีลม ซอย 4…
ชาน่า
"ก็ฉันชอบเที่ยวมันผิดหรือไง ฉันรักในเสียงดนตรี เมื่อไรเจอจังหวะดี ดี หนึ่งสองสามสี่ถึงมีเฮ เย อี เย อี เย อีเย้ เย อี เย อี เย อี้ เย...." เสียงเพลง playgirl ของ ส้ม อมรา ก้านคอคลับ บ่งบอกให้รู้ว่า นักท่องราตรีหลายคนรักเที่ยวกลางคืน คนกลางคืนไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเป็นคนไม่ดี ด้วยหลากหลายจุดประสงค์ของนักเที่ยว บ้างชอบพบเพื่อนใหม่ บ้างชอบออกกำลังกาย บริการกล้ามเนื้อ เต้นออกเหงื่อ หรือแม้แต่ดูคนอื่นเต้น ชาน่าเป็นคนไม่ดื่ม ไม่เมาแต่ชอบเที่ยว เพราะคิดว่าเป็นอีกหนึ่งการผ่อนคลาย และอีกอย่างเราก็โตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน พักผ่อนหย่อนใจ ฟังเพลง ไม่เสียหายอะไร หรือแม้แต่น้องๆ…
ชาน่า
กลางเดือนสิงหาคม ชาน่าเดินทางถึงเมืองไทย เป็นการพักร้อนในช่วงฤดูฝนพรำ  น้ำท่วม  เศรษฐกิจยังทรุด การเมืองแรง ๆ เข้ามาแทรก  แต่ถึงกระนั้นก็ยังสวนกระแส ไม่ยอมแพ้ต่อสถานการณ์  ตั้งหน้าก้าวต่อไป จึงได้ฟอร์มกับเพื่อน ๆ ที่กรุงเทพฯ ว่าเราจะร่วมกันจัดทำหนังสือเล่มหนึ่ง หลังจากทำธุระกับต้นสังกัดงาน "เดินแบก" ต่างแดนเสร็จ  จึงเร่งรีบทำหนังสือเล่มนี้  "ใช่ว่าจะดอก...ท้อ" ให้จงได้  โดยจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่  ข่าวสาร ความรู้ ความบันเทิง ให้หลายกลุ่มโดยทั่วถึง   อีกอย่างพูดง่าย ๆ คือเป็นความต้องการส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งโครงการทำดีที่เราพอทำได้ …
ชาน่า
สองเดือนที่ผ่านมา ช่วงที่ชาน่ากลับมาพักร้อนเมืองไทย หยิบข่าวมาอ่าน ทั้งเรื่องข่าวบ้านการเมืองและเรื่องรักเรื่องใคร่ ข่าวทั่วไป เรื่องร้ายๆ แรงๆ พอทราบข่าวแล้วน่าเป็นห่วงสังคมไทยในปัจจุบัน นอกจากข่าวการเมืองจะหาที่ยุติไม่ได้ ข่าวร้ายของชาวรักร่วมเพศก็แรงไม่แพ้กัน จำได้ว่าผ่านไปสองเดือน มีข่าวอนาจาร ข่าวน่าสลดที่เกิดขึ้นกับเด็กชายถึงการเป็นเหยื่อหลายราย นสพ.หัวสีหลายเล่มประชันกันทำข่าวเกรียวกราวกันถ้วนหน้า วันนี้อดใจไม่ไหวขอหยิบข่าวหนึ่งที่ร้อนตอนนี้ ไม่แพ้กับข่าวการเมืองนั่นก็คือ เด็กนักเรียนชายโดนบังคับให้อมนกเขา ซึ่งผู้ต้องหานั้นใช่ใคร คือคุณครูของหนูนี่เอง
ชาน่า
ช่วงนี้ “งานเข้า” เรียกได้ว่าหลังจากปิดต้นฉบับหนังสือเรื่อง “ใช่ว่าจะดอก...ท้อ” จีบปากจีบคอ โดยอิชั้นเอง ชาน่า (จำง่าย ๆ กลับผวนได้ใจ หน้าชา ว่าซ้านนนนน) ก็มีงานรับเชิญจากพี่ๆ สื่อมวลชน องค์กร สมาคมและห้างร้านต่าง ๆ เพื่อไปร่วมงานของชาวเรา อันเกี่ยวข้องด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ชาน่าได้ไปร่วมชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า “xxy” ซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชฑูตอาร์เจนติน่าและสมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ องค์การยูเนสโก โครงการประกวดหนังสั้นสีรุ้ง สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย…
ชาน่า
สวีดัด สวัสดีค๊าคุณขา (ดัดเสียงให้สวนกระแสเรื่องเศร้าๆ ทางการเมืองนะฮ้า) กลับมาเมืองไทยนานทีปีละหนสองหน กลับมาคราวนี้มีหลายเรื่องต้องให้ติดตาม ข่าวบ้านการเมือง ร้ายๆ แรงๆ ยังไงๆ ชาน่าเป็นห่วงทุ๊กกกกกกกกกก ทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม ชาน่าอยู่ฝ่ายไทยเลือดไทยทั้งแท่ง... “ความรุนแรงไม่ได้เป็นทางออกของปัญหานะคะ” เลือดไทยด้วยกันอย่าทำร้ายทำลายกันเลยนะ .... แต่ถึงอย่างไรก็ตาม วิถีชีวิตของเราต้องดำเนินเดินทางต่อไปค่า เจตนารมย์และความมุ่งมั่นในการทำหนังสือเพื่อการกุศลของชาน่ากับเพื่อน ๆ นั้นยังไม่หยุด เราจะเดินหน้าต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม กลับมาเรื่องของชาวเรากันบ้าง (…
ชาน่า
ข่าวคาว มาเป็นคราว ๆ กับเรื่องรักน้ำเน่า เจ้านั่น หรือ พ่อคนนี้เป็น “แอ๊บจัง” เป็น “เกย์” หรือไม่ แฟนดารา คู่หมั้นนักร้องดัง อย่างทาทา มีประชาชนชาวไทยอยากรู้ถามไถ่ว่า ป้อจายที่หมายหมั้นแล้วถอนหมั้นคนนั้นเป็นหรือไม่... มากมายหลายคำถาม เพราะสังคมทุกวันนี้มีทางออกและทางเลือกมากมาย ชายใดไม่แต่งงาน บ้างก็ฟันธง “เป็นแน่ๆ เลยสู” ชายใด ชอบชาย อันนี้แน่นอน “เป็นแน่ๆ เลยตัว”
ชาน่า
ความเป็นอิสระเสรีของชีวิตเกย์ ไม่ว่าจะเกย์มีคู่ เกย์สันโดษ เกย์ไม่มีพันธะ จะสังเกตได้ว่า หลายคนชอบเดินทางเพื่อให้รางวัลของชีวิตหรือจะเป็น "การเดินทางที่แสนพิเศษ" เพื่อหลากหลายจุดประสงค์ก็ตาม "แหม..แก ตัวคนเดียว เที่ยวรอบโลก คิดอะไรมากไปเปิดหูเปิดตาซะมั่ง รึหล่อนจะเก็บเงินไว้ซื้อโลงศพฝังเพชรกระไดยิงกันยะ" เสียงของเพื่อนสาวขาเม้าท์แตก การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมที่รองรับเกย์ รักร่วมเพศ นักเดินทางมากมายทั่วทุกมุมโลกที่แสวงหาความสุขทางการเดินทางท่องเที่ยว
ชาน่า
ชาน่าไม่ได้อยู่เมืองไทยเป็นเวลาสิบปีแต่ทุกปีก็จะกลับมาพักร้อนที่เมืองไทย บางข่าวบางเรื่องราวแทบจะเรียกได้ว่า “ตกยุค” ไม่ค่อยอัพทูเดท กับความล้ำ และความแปลกใหม่หลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองไทยจนทำให้ชาวโลกต้องหันมามองถึงความเป็นไปได้ มีเยี่ยงนี้เชียวหรือ อือ...มันแปลกดีนา เมื่อคืนก่อนเห็นข่าวทางสำนักข่าว บีบีซี ถ่ายทำสกู๊ปเรื่อง “ห้องน้ำสีชมพู” ซึ่งเป็นห้องน้ำพิเศษแยกเพศที่สามไว้โดยเฉพาะ เรื่องนี้เกิดขึ้นในสถานศึกษา “ชาน่ารู้จัก ซีสะเก็ต (ศรีสะเกษ) เมื่อคืนฉันเห็นทีวีช่องข่าวบีบีซี น้องสาว (กะเทย) นักเรียนเต็มไปหมดเลย” เพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติถามยามเช้า “ไอ ซี ล้ำ…