Skip to main content
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลายคนคงจะได้ดูรายการทีวี รายการ "จับเข่าคุย" ซึ่งดำเนินรายการโดย คุณสรยุทธ์ มีผู้ร่วมรายการคือ คุณเกย์นที และคุณวัลลภ นามวงศ์พรหม ซึ่งเป็นกรรมการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่

คุณคงจะได้ชมและใช้พิจารณญาณในการชมรายการโทรทัศน์ที่กล่าวถึงประเด็นข่าวเด่นของบ้านเมือง ในรายการมีผู้ร่วมรายการที่ออกมาแฉถึงพฤติกรรมที่เสื่อมทำลายศาสนา คือคุณนที และผู้ให้เหตุผลและตอบรับ ขัดแย้ง โดยคุณวัลลภ โดยสรุปรวมๆ ของเนื้อเรื่อง พูดประเด็นการใช้ย่ามสีชมพู การห่มดอง จีวร พฤติกรรมที่แสดงออกถึงอาการแต๋วแตก แต๋วแหว๋ว แต๋วไม่เหมาะสม เป็นต้น


แม้ชาน่าจะอยู่ต่างแดนไม่ได้ชมรายการทีวีนี้ แต่ก็สามารถมองเห็นภาพคม ชัด ลึกซึ้งเข้าใจได้ เพราะแม้รายการทีวีจะจบไป แต่การ "จับเข่าคุย" ช่วยกันเม้าท์ยังไม่จบ เพราะทางเว็บกระทู้ดีมีสาระอย่างพันทิป นำมาเม้าท์แตกกันต่อ จากหลากหลายคนที่มาช่วยร่วมแสดงความคิดเห็น โดยหนึ่งในกระทู้ที่ช่วยกันเม้าท์ได้โล่ห์นั้นถูกนำเสนอโดยคุณ Kayool พันทิปดอทคอม ห้องวิทยุ-โทรทัศน์ กระทู้ที่ A7461282 จนเป็นกระทู้แนะนำจากเพื่อนสมาชิก

"เชียงใหม่นี่แหละครับ
หลายปีที่แล้ว มีกลุ่มเณรได้เข้าไปทัศนศึกษาในคณะของผม
ผมก็ไม่ได้สังเกตอะไรจนกระทั่ง มีการทดลองจุดระเบิดด้วยเสียงดังในระดับหนึ่ง

พลัน...สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เสียงกรี๊ดมาจากคนกลุ่มนึง
เหลียวมองไปไม่เห็นใคร นอกจากเสือเหลืองย่ามชมพู

อารมณ์นั้น อยากจะกระทืบจริงๆล่ะครับ
ถ้าไม่เกรงใจผ้าเหลืองล่ะก็นะ
เศร้า เมืองพุทธ

จากคุณ : kayool"

เป็นกระทู้ร้อนแรง เข้าถึงประเด็นที่น่าจับตามอง (แฉ) ด้วยเหตุและผล นั่นคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ไม่ใช่แค่ตอนนี้ มันเกิดขึ้นมานานผ่านมาหลายปีแล้วฮ่ะ


  

 


ในกระทู้ผู้รู้บางท่านมาช่วยให้คำตอบที่กระจ่างอย่างเช่น เรื่องย่ามสีชมพู สีชมพูคือสีวันพระราชสมภพ ร.5 และ ร.5 พระองค์ท่านสถาปนามหาวิทยาลัยสงฆ์ คือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) จึงไม่ผิดอะไรที่พระจะใช้สีเฉดนี้ แต่บังเอิญว่า พระแต๋วจ๋าเลือกสีให้เข้ากับใบหน้าที่ตกแต่งเป็นสีชมพู

 

อันที่จริงเรื่องของการบวชเณร บวชพระนั้นมีข้อห้ามสำหรับคนที่เป็นกะเทย หรือเกย์ อย่างเช่นตอนบวชนาคอยู่ในโบสถ์ พระคู่สวดจะถามเป็นภาษาบาลีว่าเป็นผู้ชายหรือเปล่า และถามคุณสมบัติอีกหลายข้อ

   

ในตำราบอกว่าบันเฑาะก์ (คือคนที่ชอบผู้ชายด้วยกัน) บางชนิดที่ไม่ร้ายแรงบวชได้ แต่ส่วนมากบวชไม่ได้ ซึ่งชื่อบันเฑาะก์นี้มีอยู่หลายประเภทเป็นภาษาบาลี อาทิ คำแปลแต่ละพวกจะติดเรทด้วยซ้ำคือบางพวกชอบสำเร็จความใคร่ทางปาก บางพวกเห็นคนอื่นสำเร็จแล้วสำเร็จตาม เป็นต้น

แต่หากตั้งใจจะบวชเพื่อเรียนทางธรรม หรือต้องการศึกษาทางศาสนาก็ควรจะสำรวมและปฎิบัติตามศีลอย่างเคร่งครัด ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นศีล 8 ตอนไปฝึกปฏิบัติ
๑. เว้นจากทำลายชีวิต
๒. เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้
๓. เว้นจากประพฤติผิดพรหมจรรย์ คือเว้นจากร่วมประเวณี
๔. เว้นจากพูดเท็จ
๕. เว้นจากของเมา คือ สุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
๖. เว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล คือเที่ยงแล้วไป
. เว้นจากฟ้อนรำ ขับร้อง บรรเลงดนตรี ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ การทัดทรงดอกไม้ ของหอม และเคลื่องลูบไล้ซึ่งใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง
๘. เว้นจากที่นอนอันสูงใหญ่ หรูหราฟุ่มเฟือย


ชาน่าเคยได้รับเมล์ส่งต่อเมื่อสองสามปีก่อน ตอนนั้นเห็นแล้วก็นึกสมเพชและรู้สึกถึงความสูญเสีย และความเสื่อมของพระผู้ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดศาสนา เป็นสมณเพศ ถือศีล เพราะภาพที่ออกมาสู่สายตาประชาชน โดยเฉพาะชาวพุทธแล้วทำให้ความรู้สึกนั้นเสียอย่างเรียกกลับลำบากนัก

  

โดยส่วนตัวแล้วในชีวิตนี้ผ่านการบวชเพราะอยากให้แม่ได้เห็นชายผ้าเหลือง เพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ ในระยะที่บวชนั้นชาน่าตั้งใจศึกษาพระธรรม และปฎิบัติตามวินัยสงฆ์อย่างเคร่งครัด ลด ละ เลิก กิเลสในช่วงที่อยู่ใต้ร่มชายผ้าเหลือง สำรวมกริยา ลืมคำว่าเกย์ กะเทย ผู้ชาย(ที่รัก)ไปเลยในตอนนั้น ยิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ก็ยิ่งระวังการแสดงออก โดยเฉพาะบทบาท หน้าที่และความรู้สึกที่ผู้บังเกิดเกล้ามาก้มกราบเพราะเราเป็นพระในตอนนั้นชาน่าน้ำตาร่วงอย่างปลื้มปิติ แต่ก็บวชชั่วคราว ไม่ใช่ตลอดชีพ เพราะยังคิดว่าตัวเองยังต้องเวียนว่ายตายเกิด และมีภาระหน้าที่ กิเลส และความต้องการทางโลกอยู่ จึงไม่สามารถบวชตลอดชีพได้

ในกรณีนี้ชาน่าก็ไม่เห็นด้วยที่พระ เณร บวชแล้วไม่สำรวมกริยา มิหนำซ้ำแต๋วแตก และยังปฎิบัติตามพระธรรมไม่ได้ ควรหาทางออกอย่างอื่นจะดีกว่ามั้ยคะ

ส่วนใครหลายคนที่คิดอยากจะเลิกกราบพระภิกษุ สงฆ์(เรียกอีกอย่างว่าสมมติสงฆ์) ชาน่าว่าอย่าเพิ่งเดือดแค้นที่จะเลิกกราบพระภิกษุเลยค่ะ เราไม่ได้กราบคนผู้นั้นแต่เรากราบสงฆ์ทั้งมวล บางคนบอกว่าจะเลิกนับถือพระสงฆ์ เพราะมีพระ เณรทำพฤติกรรมแบบนี้ ชาน่าว่าผู้ที่ทำพฤติกรรมแบบนี้คือคนที่ทำลายพระวินัยซึ่งก็คือพระศาสดาอย่างโจ่งแจ้ง ก็ไม่ใช่คุณสมบัติของพระสงฆ์อย่างแน่นอน น่าจะเรียกว่าพวกอลัชชี หรือนักบวชปลอม ดังนั้น การกราบพระภิกษุนั้น เราไม่ได้กราบที่ตัวบุคคล แต่เรากราบสิ่งซึ่งแทนพระสงฆ์ทั้งหลายอันเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย

 

ชาน่าขอนำประโยคความคิดเห็นเด็ดๆ โดนๆ มาฝากค่ะ (ขอขอบคุณ เว็บพันทิป "วิทยุ-โทรทัศน์" และผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ)

"ผมไม่สนใจว่าเรื่องนี้คุณนทีจะผลักดันเพราะมีเบื้องลึกเบื้องหลังมีอะไรแอบแฝง หรือว่ามาจากความบริสุทธิ์ใจของคุณนทีก็ตามแต่เรื่องนี้ผมขัดหูขัดตามานานและอยากทำอะไรมากกว่านั่งด่าเฉยๆ แต่ก็ไม่ได้ทำ ในเมื่อคุณนทีลุกขึ้นมากระตุ้นเรื่องนี้ให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการพุทธศาสนารู้สึกและร้อนตัวกัน ผมก็ขอขอบคุณคุณนทีไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ลุยต่อไปนะครับ เรื่องนี้ผมเห็นด้วยสุดลิ่มทิ่มประตูเลย"
จากคุณ : นายภูติ

"เป็นไปได้หรือไม่ว่าใช้จีวรต่างสีกัน มีข้อห้ามอันใดหรือไม่ ที่ผมคิดเช่นนี้เพราะผมนำไปเปรียบเทียบกับทางคริสต์ - คาทอลิก บาดหลวงทางคริสต์กว่าจะบวชได้ ทางพระศาสนจักรให้เวลาพิสูจน์ตัวเองก่อนถึงเจ็ดปี กระนั้นก็ตาม ยังมีบาทหลวงบางองค์ที่นอกลู่นอกทางออกไป แม้โดยเปอร์เซ็นต์แล้วน่าจะน้อยกว่าทางพุทธ เพราะเตรียมตัวมานานกว่ามาก แต่ก็ยังมีอยู่ดี มนุษย์หนอ!!"

จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม

 

"นี่ชั้นกำลังนับถือศาสนาที่มีผู้สืบทอด (บางส่วน) เป็นแบบนี้หรอเนี่ยยย ตามหลักศาสนาคุ้นๆ ว่า พุทธศาสนิกชนที่ดีตักบาตรทำบุญทำสังฆทานต้องไม่เลือกพระ แต่.. ช้านขอเลือกหน่อยจะได้มั๊ย!!!! ถ้านิมนต์มาทำบุญบ้าน 9 รูป เจอสาวแตกเข้าซักคนสองคน ชักซองออกไม่ให้แล้วจะบาปมั๊ยอ่ะ เอาเหอะ เพราะถึงต่อหน้าจะดูมีสง่าราศีรัศมีแห่งธรรมเจิดจ้าก็เหอะ แต่ลับหลังทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ ก็ต้องมาปลอบใจชาวพุทธกับคำพูดที่ว่า ของอย่างนี้อยู่ที่ใจและเจตนาของเรา แต่ก็เอาน่ะ ถึงจะเริ่มไม่เชื่อมั่นในผู้สืบทอดศาสนา แต่ก็ควรจะเชื่อมั่นในหลักธรรมคำสอนของศาสนากันต่อไป สุดท้าย.. ขอบคุณคุณนทีที่ออกมาปกป้องศาสนา ส่วนลุงนั่นก็ได้แต่ถอนหายใจยาวๆ เฮ้อออออ.."
จากคุณ : >> Sebastian <<


"ดูแล้วก็ขัดใจเหมือนกันค่ะ คิดอยู่ว่าจะมาตั้งกระทู้ อย่างเช่นตอนที่คุณวัลลภพูดเหมือนกับว่า "พวกเกย์จะชอบจับผิดหรือสายตาจู้จี้" อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ ฟังแล้วแบบ เอ๊ะ นี่ดูถูกกันนิ เป็นเรานะจะสวนกลับเลย แต่ชื่นชมคุณนทีว่า ควบคุมอารมณ์ได้ดี และพยายามตอบกลับอย่างสุภาพแต่แอบเจ็บ จริงๆ ถ้าพระแต่งตัวอย่างนี้ เราว่าไม่น่าจะใช่เรื่องที่ปล่อยปละละเลยได้น่ะค่ะ คุณวัลลภอยากให้เด็กรุ่นหลังจำการแต่งกายของพระว่าเป็นแบบสไบชุดไทยหรือค่ะ เราว่าการแต่งกายก็ไม่เรียบร้อยแล้ว ดูแล้วไม่น่าเคารพ คนส่วนมากเขาแยกแยะได้อยู่แล้วค่ะว่า พระที่เคารพเป็นแบบใด ไม่เหมารวมพระทั้งหมดว่าดีหรือไม่ดีหรอกค่ะ พระดีๆยังมีอีกเยอะ แต่พระที่ไม่ดี เราก็สมควรต้องทำอะไรสักอย่างเหมือนที่คุณนทีทำค่ะ ถ้ารอยื่นเรื่องเขาขั้นตอน เราว่าปีหน้าก็ยังไม่สำเร็จ"
จากคุณ : Reda

 

"ความบกพร่องของหน่วยงาน ผุ้รับผิดชอบก็แถไปเรื่อย ก็ไม่เจริญกันซักที ครั้งนี้ชื่นชมคุณนทีนะ เขายอมรับว่าเขาเป็นเกย์แต่ก็ออกมาต่อต้านพวกเดียวกัน ก็ทำในฐานะพุทธศาสนิกชน ตอนนี้มีพวกไม่ดีมาห่มผ้าเหลืองเยอะ มีคนกล้าออกมาช่วยกันดูแลนี่ก็ดีอยู่แล้ว ว่าแต่กระทรวงวัฒนธรรมก็อีกแล้วนะ คราวที่แล้วยังจำได้กับคำพูดว่า "ดิชั้นเป็นข้าราชการ ว่าชั้นไม่ได้" อะไรทำน้องนี้ ขออภัยจำเต็มๆ ไม่ได้ สรุปว่ากระทรวงนี้แตะต้องกันไม่ได้มั้งนี่"
จากคุณ : จันทร์จริงใจ


"คุณนทีก็กำลังโกหกอยู่เช่นกัน รูปพระที่นอนให้พนักงานคลีนิกทำหน้านั่นเป็นรูปที่คุณ "ป้าจะอิ๊บ" ห้องโต๊ะแป้งถ่ายไว้แล้วมีหนังสือพิมพ์ มาขโมยไปลง จนเป็นเรื่องเป็นราวกันมาแล้ว เรื่องเกิดขึ้นสองปีที่แล้ว ณ คลีนิกในกรุงเทพฯ แต่คุณนทีบอกว่า เป็นคลีนิกที่เชียงใหม่ มีคนร้องเรียนคุณนทีมาให้ไปตรวจสอบ แล้วไปคุยกับพนักงานและเจ้าของร้านมาแล้ว ฯลฯ ไม่เข้าใจว่าจะเติมน้ำไปทำไม? มันทำให้ ความน่าเชื่อถือลดลงไปเยอะเลยค่ะ"
จากคุณ : Taffy~*

 

"แล้วพ่อแม่ที่ให้ลูกไปบวช เค้านึกหรือเปล่าว่าจะเป็นแบบนี้  หรือรู้อยู่แล้วเลยปล่อยเลยตามเลย"
จากคุณ : ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์


"
เกย์นที ไม่เห็นด้วย แต่ชายแท้เห็นเป็นเรื่องปกติ"
จากคุณ : นิราศสองภพ


"
แปลกที่ ตาคนนั้นเหมือนสนับสนุน แต่คุณนทีเองไม่ได้พูดเข้าข้างพวกเดียวกัน แต่แยกแยะออก
โอ้โห เจอคุณนที ด่าตรงๆ เลย ไม่แปลกเลยที่มีพระตุ๊ดมากขนาดนี้ เพราะมีผู้ดูแลแบบนี้ ทำไมเขาต้องพยายามแก้ตัวนะ ทำไมไม่พยายามรับฟัง และหาทางไปแก้ไขนะ ยิ่งพูดแบบนี้เขายิ่งเข้าตัว"

จากคุณ : bokeaboh

 

"ถ้าคุณลุงยอมรับก็แสดงว่าแกบกพร่องในหน้าที่น่ะสิคะ อีกอย่างวัดต่างๆ ถ้าเป็นวัดใหญ่ๆ เจ้าอาวาส หรือลูกศิษย์ก็มีอิทธิพลไม่น้อยนะคะ คนในจังหวัดเดียวกันรู้จักกันหมด ทำให้แกอาจไม่กล้าที่จะจัดการอะไรลงไป แต่ก็นั่นแหละ บาปที่แกปล่อยให้พวกทำศาสนาเสื่อมเสีย ออกมามากมายอย่างนี้ โดยที่แกไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองก็ทำให้แกได้รับกรรมออกอากาศแล้วล่ะค่ะ......โดนเกย์ด่าออกทีวี ....อายซะ"
จากคุณ : แม่อิคคิว

 

"ปล. คุณนที..เรื่องอื่นบางเรื่องเราอาจไม่ค่อยเห็นด้วยกับคุณ แต่เรื่องพระนอกรีตที่คุณเอามาเปิดเผยในคราวนี้เราขอชมจากใจจริงว่าคุณกล้าหาญมากและทำได้ถูกต้องแล้ว เราให้คะแนนคุณเพิ่มจากประโยคที่คุณพูดว่า "ถึงจะเป็นเกย์แต่ถ้าทำผิดก็จะไม่ปกป้องและจะออกมาประนามเหมือนกัน" (จำประโยคเต็มๆ ไม่ได้แต่ความหมายราวๆ นี้) การเลือกเข้าข้างความถูกต้องแทนเข้าข้างพวกเดียวกัน (ที่ทำตัวแย่ๆ) ในครั้งนี้ทำให้เราต้องมองคุณใหม่ทีเดียว ขอเป็นกำลังใจให้เดินหน้าเรื่องนี้ต่อไปได้จนถึงที่สุดนะ"
จากคุณ : Nov

 

"กำลังคิดอยู่ ว่าคุณสรยุทธ์กำลังจัดฉากหรือเปล่า ให้รายการมันดูน่าสนใจ ดีกว่าที่ทั้งสองฝ่ายจะเห็นไปแนวทางเดียวกัน มันไม่มันส์อ่ะ"
จากคุณ : วิญญาณไม่ขายใคร

 

"ลุงแกคงร้อนใจ เพราะโดนส่วนกลางด่าเละเทะ และคาดโทษไว้ล่ะสิ ถึงได้มาบอกว่า ไม่น่าออกสื่อ เพราะทำให้ตัวเองเสียหาย"
จากคุณ : น่องไก่ตุ๋น

 

"ขอย้ำว่าเชียงใหม่เยอะมาก ไม่ใช่แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์อย่างที่ผู้ใหญ่บางคนบอก แล้วที่บอกว่ารอหน่วยงานที่ดูแลค่อยๆ จัดการ ขอโทษเถอะที่ผ่านมาได้จัดการอะไรแล้วเหรอคะมันถึงได้พรึบไปหมด ขอขอบคุณคุณนทีจริงๆ ที่ออกมาเป็นปากเป็นเสียง ...."
จากคุณ : นราเกตต์

 

"ผมว่าพูดได้มีส่วนถูกทั้งสองคน อย่างเรื่องสื่อ เรื่องความคิดคน เพราะเวลามันออกไปเเล้ว มันเเล้วแต่กันอยู่ว่าใครจะคิดยังไง ต่างคนต่างความคิด แต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน ผมว่าสังคมก็เห็นมามากเเล้ว ไอแบบเรื่องอย่าง สื่อไปอย่าง คนคิดไปอย่าง เข้าใจผิดกัน บางทีรับความไม่ครบ วิเคราะห์ผิดๆไป  เสียหายไปหมด ผมว่าลุงก็พูดได้ถูกบ้าง แต่ให้ปิดก็ไม่ใช่ ครั้งนี้ถ้าฟังดีๆ ถือว่าดี คุยกันด้วยเหตุผลแย้งกันอย่างมีเหตุผล ถ้าฟังโดยใช้อารมณ์จะเป็นอย่างลุงแกว่า"
จากคุณ : ! (Lick-My-L-Ball)

 

"กว่าจะทำตามขั้นตอนได้ พระพวกนั้นคงสบัดจีวรเต้นระบำฟลามิงโก้ ควับๆ กันหมดแล้วม้าง.......ลุงงงง"
จากคุณ : phatmini

 

ปัญหามีไว้เพื่อแก้ไข อยากให้ทุกคนร่วมกันแก้ไขสังคม ศาสนา และวัฒนธรรมไทยให้เหมาะสม น่าเลื่อมใส เป็นสุขทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องของเราทุกคนที่จะช่วยกันแก้ไข อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ไม่ใช่เป็นเมืองพระตุ๊ด แต๋วแตก มันจะงามมากเกินไป อุ๊บส์...งามหน้านะคะ

 

ขอบคุณภาพประกอบ จากคุณวสันดิลก, แมลงปิศาจ, ซิกโก้, อุดมไปด้วยความสุข, นิราศสองภพ, yehyeh.com และแน่นอนที่สุด เว็บพันทิป

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…