Skip to main content

วันนี้อิฉันได้มีโอกาสอ่านข่าวแฉของเกย์ และโพสขึ้นกระทู้ที่ค่อนข้างแรง หัวข้อ "ช็อค ม.บูรพาเป็นแหล่งขายบริการทางเพศชายรักชาย องค์กรนิสิตจี้มหา′ลัยแก้ไขด่วน ตร.วางแผนป้องกัน" อันเนื่องจากเนื้อหาข้อมูลนั้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายรักชาย และพวกท่าน หลานเธอ(ที่เป็นวัยรุ่น) จึงอดไม่ได้ที่จะหยิบมาเม้าท์เล่ากระจายกัน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากจะไม่เหมาะสมแล้วยังสร้างความเสียหายแก่สถาบันการศึกษาอีกด้วย อันเป็นเรื่องจริงผ่านจอ ผ่านหน้าคอมพิวเตอร์ (จริงเหรอ)

แหล่งข่าวแฉรายได้นี้ถูกเปิดโปงโดยเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัตินักศึกษาภาควิชานิเทศศาสตร์  สาขาวารสารศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา "ลานมะพร้าว ออนไลน์" (www.coconews.in.th) ซึ่งเป็นการจัดทำโดยคณะนักศึกษา รายงานถึงพฤติกรรมของชายรักชายกลุ่มหนึ่งที่ใช้สถานที่บริเวณกองกิจการนักศึกษา ของมหาวิทยาลัย ทางแหล่งข่าวได้มีการสัมภาษณ์เก็บข้อมูลจากพนักงานทำความสะอาดและผู้ใช้บริการบางคน

*"วิธีการปฏิบัติส่วนใหญ่จะเป็นการสำเร็จความใคร่ด้วยปากและมือเท่านั้น มีเพียงส่วนน้อยที่จะมีการร่วมเพศภายในห้องน้ำ ซึ่งระหว่างการทำนั้นจะมีการกดชักโครกเพื่อกลบเสียงอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันคนภายนอกรับรู้"

นายศักดา (สงวนนามสกุล)อายุ ๑๙ ปี บุคคลภายนอกผู้ใช้บริการทางเพศบริเวณกองกิจการนิสิต เผย "ตนมาใช้บริการเพื่อหาความสุขทางเพศ และบางครั้งเพื่อขายบริการทางเพศ โดยใช้บริเวณสวนวงกลมกลางกองกิจการนิสิตเป็นแหล่งนัดพบ มีทั้งนิสิตและบุคคลภายนอกที่เป็นกลุ่มชายรักร่วมเพศ หากชอบพอกัน ก็เข้ามาพูดคุยนัดกันไปใช้ห้องน้ำ ภายในกองกิจการนิสิต หรือสถานที่ภายนอกมหาวิทยาลัย พฤติกรรมการนัดจะสังเกตได้โดยการส่งสายตาแล้วเข้ามารอพบในห้องน้ำ หรืออาจมีการนัดหมายผ่านโปรแกรมสนทนาทางอินเทอร์เน็ต ห้องน้ำที่ใช้ประจำจะอยู่ทั้งชั้น ๑ และ ชั้น ๒"

นายบอย (นามสมมติ) นิสิตคณะที่เพิ่งจัดตั้งใหม่ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าว * "ตนเป็นหนึ่งที่ใช้บริการค่อนข้างบ่อย เมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศจะมาใช้บริการบริเวณดังกล่าว แต่จะทำเพียงการสัมผัสภายนอกเท่านั้น ซึ่งกลุ่มนิสิตที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศในลักษณะนี้มีมาก โดยจะมารวมตัวในช่วงเวลาประมาณ ๑๙.๐๐-๒๔.๐๐ น. เป็นประจำทุกวัน"

ทางด้านนายสุรชัย โชควิสิฐกุล อุปนายกฝ่ายกิจกรรมพิเศษ องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า "พอทราบอยู่บ้าง ถ้าหากเป็นความจริง อยากให้ผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ควรมีจิตสำนึกเนื่องจากเป็นสถานที่ราชการ  เพราะไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง อยากให้ทุกคนระมัดระวังในการใช้ห้องน้ำ ด้านการแก้ปัญหาควรเพิ่มความรัดกุมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อีกทั้งควรติดไฟบริเวณมุมมืดรอบ ๆ กองกิจการนิสิต"

แหล่งข่าวได้สัมภาษณ์นางรสจรินทร์ ช่วงโชติ พนักงานทำความสะอาดห้องน้ำชายบริเวณกองกิจการนิสิต "พบถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วบ่อยครั้ง กลายเป็นเรื่องธรรมดาจนเกิดความเคยชิน บริเวณผนังของห้องน้ำจะมีข้อความในเชิงขายบริการทางเพศ พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ มหาวิทยาลัยควรมีมาตรการป้องกันให้มาก โดยเฉพาะการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อสอดส่องดูแลความเรียบร้อย"


* ผศ. ชัยยศ วนิชวัฒนานุวัติ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต กล่าวว่า ทราบมาเช่นกัน แต่เป็นเพียงการบอกเล่าไม่มีหลักฐานยืนยัน ข้อมูลที่มีก็ไม่ชัดเจน แต่ยังดีที่มีนิสิตคอยเป็นหูเป็นตาให้ หลังจากได้ข้อมูลเรื่องนี้จะประสานกับทางมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งกำชับกับบริษัทรักษาความปลอดภัยให้พยายามตรวจตรามากขึ้น และจะประสานงานกับทางตำรวจให้เข้ามาช่วยเหลืออีกแรง การกระทำผิดลักษณะนี้ในมหาวิทยาลัยถือว่าผิดระเบียบวินัยนิสิตทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียง ต้องลงโทษตามระเบียบ แต่ถ้าเป็นบุคคลภายนอกจะส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีเพราะที่นี่เป็นสถานที่ราชการ

พ.ต.ท. อนุชา พงศ์เรืองรองรองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สภ. แสนสุข กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดฐานค้าประเวณี ไม่ว่าจะเป็น การร่วมเพศระหว่างชาย-ชาย หญิง-หญิง หรือชาย-หญิง เรื่องในลักษณะนี้เคยมีการร้องเรียนเกิดขึ้นบ้างภายนอกแต่ยังไม่เคยเกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยมาก่อน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองได้เข้าไปตรวจสอบภายในมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นภายในห้องน้ำจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเฝ้าตรวจสอบอยู่ตลอดนั้นคงทำไม่ได้ น่าจะเป็นหน้าที่ของทางมหาวิทยาลัยที่ควรจะตรวจสอบในเบื้องต้น

ในส่วนของความรับผิดชอบนั้น ควรจะเป็นการรับผิดชอบร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางมหาวิทยาลัย ส่วนมาตรการป้องกันนั้น ทางตำรวจได้มีการวางแนวทางป้องกันในเรื่องนี้เอาไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนในเรื่องของบทลงโทษนั้น ทั้งผู้กระทำและผู้ซื้อจะมีบทลงโทษแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำความผิดและอายุของผู้กระทำความผิด โดยลักษณะความผิดเบื้องต้นโดยทั่วไปนั้น คือ ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท จำคุกตั้งแต่ ๑-๑๐ ปีหรือ ทั้งจำทั้งปรับ และในเรื่องนี้ถ้ามีผู้แจ้งเบาะแสมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการแก้ไขเป็นอย่างยิ่ง



ทางด้านผู้ติดตามข่าวสารนี้ มีหลายเสียงที่ออกมาค้านการเสนอข่าว ไม่ว่าจะเป็นน้อง ๆ นักศึกษาและศิษย์เก่าจากสถาบันดังกล่าวหลายคนที่ไม่เห็นด้วย 

"เด็กที่ไหนก็แรงกันทั้งนั้นแหละคับสถาบันใคร ใครก็รักปลาตายตัวเดียว เน่าทั้งบ่ออ่านข่าวอะไร ก็กรุณาใช้วิจารณญาณบ้างนิดนึงคนดีมีอยู่เยอะ อย่า เอาความผิดของคนกลุ่มนึงมาเหมาพาลว่า ไม่ดีทั้งมหา'ลัย อยู่มา สาม ปี เพิ่งจะรู้วันนี้แหละ ว่าห้องน้ำที่นี้เค้ามีแบบนี้ด้วย ปล.มอบู ออกจะสวย ^^" จาก ท่านเปา

"คนที่ทำก็เลิกทำเถอะ ที่อื่นเยอะแยะ คนลงข่าวก็อีก เข้าใจว่าอยากเปิดเผยความจริง แต่ก็นะ เอาข่าวสร้างสรรค์มาก็ได้ อ่านข่าวและต้องสั่งห้ามแฟนเข้าห้องน้ำที่นั้น น่ากลัวเกิน.....ผู้ชายแท้ๆ ยิ่งหายากอยู่" จาก คุณ na-noei

"หนังสือพิมพ์ลานมะพร้าว มักจะเขียนข่าวที่ สะเทือนอารมณ์ตลอด จำได้ว่าตอนปี 3 เขียนข่าว+ถ่ายภาพเด็กนิสิต ใส่เสื้อฟิตปรินมและคนที่สัมภาษณ์+ภาพที่ถ่าย ก็คือเด็กนิเทศฯ เอง เป็นว่าที่ สื่อมวลชน แต่ทำไมไม่หัดทำข่าวที่สร้างสรรค์ให้เด่นจริงๆ แล้วข่าวด้านดีที่เขียนก็มีนะ แต่ไม่เอามาเป็นประเด็นแล้วจะบอกว่า ภาพที่เห็น ไม่ใช่ภาพในม.บู ล้านเปอร์เซ็นต์ถ้าไม่มีภาพ ก็อย่าเอามาลงให้คนอื่นเค้า เสียความรู้สึกต่อสถาบันเลย" จาก อดีตเด็กม.บู

ส่วนตัวของชาน่า เชื่อว่าทุกสถาบัน ทุกซอก ทุกหลืบมักจะมีกลุ่มรักร่วมเพศปนอยู่ในทุกสังคม บางคนมักจะมองแต่ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะคนกลุ่มหนึ่งได้สร้างไว้ จึงทำให้อีกหลายกลุ่มต้องแบกภาระและช่วยกันแก้ปัญหา จากเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนกลายเป็นประเด็นที่ต้องนำมากล่าวถึง สมัยที่ชาน่าเรียนมหาวิทยาลัย ตอนกลางคืน(เงียบสงัด) ณ ใต้ซุ้ม ใต้ถุนอาคาร ใต้ร่มใม้ ใบหญ้าก็มีซุกซ่อนแบบว่ามีทุกรู ทุกหลืบ เอาไม่สอย เอาไฟรน เอาน้ำหยอดก็วิ่งออกมาจากรู เพราะเข้าใจทฤษฎี "ผีเห็นผี" เพียงแต่เค้าไม่ทำกันเอิกเริก ส่วนเรื่องการค้าประเวณีนั้นก็แล้วแต่ใครจะตกลง บางคนทำเพราะความอยากลอง คึกคะนอง บ้างมีการซื้อขาย จับจ่ายกันยิ่งตลาดสด หลายคนคงจะเคยได้ยินศัพท์เฉพาะของกลุ่มเกย์ที่เรียกกันว่า "ตลาดวาย" เพราะหากไปไม่ถูกเวลา สินค้า(ชายขายบริการ)ก็จะวาย หายไปหมด ผู้ชายบางคน (อันที่จริงไม่เฉพาะแต่ผู้ชายเท่านั้น) ลุ่มหลงด้านวัตถุนิยม หาทุกหนทางเพื่อให้มีรายได้มีเงินใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยจนหาทางออกไม่ได้สุดท้ายก็รับขายตัวเพื่อแลกกับเงิน เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าเทอม ค่าเสื้อผ้า เครื่องใช้ มือถือรุ่นใหม่สุด น่าเป็นห่วงลูก(ของ)ท่าน หลานเธอที่หลงอยู่ในวงจรแบบนี้ สุดท้ายส่งไปเรียนสิ่งที่ได้ บางรายโชคร้ายอาจรับเชื้อโรคร้ายกลับไป ได้ตั๋วนอนฟรี บ้านพร้อมที่ดิน ณ วัดพระบาทน้ำพุ ตลอดชีพ น่าเป็นห่วงยิ่งนัก พอช่วงทำงาน มีการใช้ชีวิตจากสังคมภายนอก ไม่ว่าจะอยู่เมืองไทย หรือต่างประเทศ ก็เห็นมีการซื้อขายบริการทางเพศของผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำตามสถานที่ บริษัท หรือแม้แต่ในซาวน่า (ในต่างแดน) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการหาลำไพ่พิเศษที่ทางผู้ขายบริการต้องการเงินด่วน โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายหลาย ๆ อย่างที่จะตามมา

เรื่องที่ดีของเกย์นั้นก็มีอยู่บ้าง เรื่องที่ร้ายเสียหายก็ช่วยกันแก้ไข อย่าปล่อยให้ปัญหาลุกลามเหมือนไฟลามทุ่ง หันมาใส่ใจร่วมกัน เพื่อสังคมไทยเราจะได้น่าอยู่ แม้คุณจะอยู่กับคนหลากเพศ จะซื้อจะขาย จะให้บริการทางเพศกับใครนั้นมันเป็นสิทธิส่วนบุคคล (ว่ากันไม่ได้ใช่มั้ยคะ) แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็คงต้องให้ถูกกาละและเทศะบ้างก็คงจะดีและถูกต้องตามกฏหมายบ้านเมืองนะฮะ

 

*ขอขอบคุณข่าวจาก ลานมะพร้าว , มติชน และกระทู้จาก โพสจัง
ภาพประกอบโดยชาน่า (ไม่เกี่ยวข้องกับสถานที่)

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…