Skip to main content

มวยตั้งกรรมการสอบวรพจน์ถ่ายนู๊ดลงนิตยสารเกย์ ทำเสียภาพพจน์ฮีโร่ มีเจตนาไล่พ้นทีมชาติ” จั่วหัวข้อข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง พร้อมด้วยบทสัมภาษณ์ของนายกสมาคมฯ

 

เป็นข่าวคราวฮือฮา หวือหวาดังได้อีก เมื่อทุกหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว รายการข่าวกีฬารายงานเรื่องของวรพจน์ เพชรขุ้ม ฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิก ปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ โดนหลอกถ่ายภาพนู๊ดให้กับหนังสือเกย์เล่มหนึ่งโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

ทางรายการเจาะใจจึงเชิญฮีโร่ มาเปลือยใจ ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านรายการเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิง ถามทุกประเด็น พอจะสรุปได้ว่า การถ่ายแบบครั้งนี้ ฮีโร่เข้าใจว่าไม่ได้เป็นการถ่ายนู๊ด แค่เป็นการถ่ายแฟชั่นที่ใส่กางเกงใน โชว์เรือนร่างกายกำยำ แมน เข้มเต็มรสชาติ สไตล์นักมวย ดีกรีฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิก

 

 

 

ด้วยเหตุผลหลักคือ เพียงเพราะเกรงใจ และอยากช่วยพี่(ทีมงานหนังสือ) ให้ได้ภาพสวย ๆ ตามคอนเซ็ปต์ ไม่ได้เป็นการถ่ายเพราะว่าไส้แห้ง หรือเป็นเกย์แต่อย่างใด

 “ผมไม่ได้ไส้แห้งเพราะว่าผมก็ยังมีธุรกิจ คือรีสอร์ทอยู่ที่จังหวัดสุราษฏร์ มีมอเตอร์ไซด์ 6-7 คัน แทบจะตั้งวินมอเตอร์ไซด์ได้ ไม่ได้ถ่ายเพื่อเงิน”

 

พิธีกรถามตรง ๆ ถึงค่าตอบแทนที่ได้จากการถ่ายแบบครั้งนี้ ฮีโร่วรพจน์ตอบอย่างชัดเจนว่า ได้แค่หมื่นห้าพันบาทเอง

 

ส่วนประเด็นออกมาว่าฮีโร่วรพจน์เป็นเกย์มั้ย ?

คือผมไม่ได้เป็นเกย์ แมนเต็มร้อย แฟนเป็นผู้หญิง ไม่มีแฟนเป็นผู้ชาย เพราะทุกคนเค้าเวลาซ้อมมวยด้วยกันก็รู้ว่าผมไม่ได้เป็นเกย์” คำตอบจากฮีโร่ผ่านทางรายการเจาะใจ

 

 

หลายคนอาจจะสงสัยว่า หากย้อนกลับไปตอนถ่ายคิดว่าจะเป็นเรื่องอย่างนี้หรือไม่ เจ้าตัวก็คิดเหมือนกัน ว่าสมาคมจะต่อต้านหรือไม่ อย่างไร หนึ่งเดือนหลังจากนั้นพอหนังสือออกมา เป็นแง่ลบมากกว่า (มันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ หนังสือเกย์นะคะ ไม่ใช่หนังสือชายหญิงทั่วไป)

 

เรื่องนี้นั้นทางนายกสมาคมฯ ก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ว่าจะลงโทษขั้นหนักหรือเบาอย่างไร โดยการตรวจสอบว่ามีเจตนาอะไรกันแน่ที่ถ่ายแบบให้กับวารสารเกย์เล่มนี้ โดยโทษขั้นเบาคือคาดโทษตักเตือน ถ้าโทษหนักคือถอดออกจากทีมชาติ “พัก” เลิกซ้อมมวยเป็นเวลาหนึ่งปี

 

ตอนนี้ผมอายุ 28 ปี หากหยุดซ้อมหนึ่งปีก็คงลำบาก กลับมาปีหน้าก็คงไม่ฟิตเต็มที่ ความหวังในการไปชิงแชมป์เหรียญกีฬาคงยาก แต่ถ้าหากโดนแบนจริง ๆก็คงต้อง กลับไปซ้อมเองหนึ่งปีช่วงที่รอ”

 

ก่อนจบรายการ ฮีโร่วรพจน์ ก็ยืนยัน อย่างเป็นทางการว่าไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายหนังสือลับเฉพาะแบบนี้และถือโอกาสฝากถึงแฟนกีฬาและผู้ชมทางบ้านว่า

 

ขอขอบคุณรายการเจาะใจที่ให้โอกาสได้มาพูดคุย และชี้แจงแฟน ๆ สิ่งที่ผ่านมาในการถ่ายลงหนังสือครั้งนี้ ถ้าหากแฟนไม่พอใจ ผมก็ต้องขอโทษ ครั้งต่อไปคงไม่มีอีกแล้ว แต่ก็จะรับใช้ชาติต่อไป เพราะผมเกิดมาเพื่อจะรับใช้ชาติ ความหวังคืออยากได้เหรียญทองโอลิมปิก แต่พลาดที่ทำเรื่องอย่างนี้ ผมต้องลุ้นให้ไปยืนเวทีโอลิมปิกเกมที่ลอนดอนให้ได้ ยังไงก็ต้องขอโทษอีกครั้ง”

 

โดยส่วนตัวของชาน่า ถือว่าการถ่ายแบบครั้งนี้นั้นคงจะไม่เป็นผลกระทบมากเท่าไหร่ หรือไม่มีผลกระทบอะไรเลยถ้าได้ถ่ายแบบให้กับนิตยสารทั่วไป แต่บังเอิญหรือเจตนาโดยไม่รู้ตัวที่นิตยสารเล่มนี้นั้นเป็นของเฉพาะกลุ่ม จึงทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ มีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน ชื่อเสียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ น่าเสียดายที่ฮีโร่ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือทำไปไม่คิดถึงผลกระทบข้างหน้า นี่ยังดีที่ไม่ถ่ายเปลือยหัวใจ และร่างกายให้เห็นอาวุธ ของลับเหมือนนักมวยรุ่นพี่บางคนที่ตอนนี้นอกจากจะเสียอนาคตเรื่องอื่นแล้ว ยังโดนข้อหาเสพและค้ายาเสพติด น่าเสียดายอนาคตที่คนอื่นเค้าไม่มีหรือมีไม่ได้เหมือนโอกาสของตัวเอง


คงเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ผู้ชายทั้งแท่ง หรือชายแอ๊บแมนทั้งหลาย ทุกวงการหากจะทำอะไรให้คำนึงถึงผลได้ผลเสีย ว่าหลังจากสิ่งที่เราตัดสินใจลงทำลงไปแล้ว ผลกระทบจะเป็นเช่นไร จะได้ไม่ต้องมานั่งแก้ข่าว แก้ตัว ให้เสียเวลา และเสียอนาคต

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…