Skip to main content

 

เมื่อพบแล้วย่อมมีพราก เมื่อเจอแล้วจำต้องจาก พรหมลิขิตบันดาลให้เราพบกัน แต่เมื่อถึงเวลาที่เราต้องไปตามทางชีวิตของใครของมัน ... เรากำหนดชีวิตของใครไม่ได้
\\/--break--\>
ฉันได้มีโอกาสรู้จักและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายคนหนึ่งในช่วงเลาสั้น ๆ เมื่อคราพักร้อนที่เมืองไทย เรารู้จักกันผ่านทางเพื่อนของเพื่อน แม้แต่เพื่อนของเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่า “ต้น” (นามสมมุติ) เป็น “เสือใบ” ฉันเป็นตัวฉันที่แสดงออก บ่งบอกให้โลกรู้ว่า เป็น “เกย์ตัวแม่” ตั้งแต่วันที่เราพบกันครั้งแรก

ความตื่นเต้น และลุ้นระทึกยิ่งกว่าศึกวันชิงชัย ก็เพราะว่า “ผู้ชายบางคนดูไม่ออก ปลอก(เปลือก)ไม่หมด” ยากยิ่งนักที่จะฟันธง หรือตัดสินว่าใครเป็นเกย์ เป็นเสือใบ เป็นเก้ง กวางหรือไม่ ดูกันวันเดียวไม่ออกหรอกค่ะ บางคนดูกันทั้งชีวิตยังตัดสินไม่ได้ เพิ่งจะรู้ว่า ...ที่แท้ก็คือไม้ป่าเดียวกัน ก็ตอนวันที่จับได้คาหนังคาเขา หรือไม่ก็ให้เขาสารภาพสถานะความชอบทางเพศเอง

ทฤษฎีนี้นำไปใช้ได้กับผู้ชายทุกคนในปัจจุบันไม่ว่าเค้าจะอยู่ในสังคม ชนชั้นไหน ลูกของใคร บางคนแค่ “เห็นแมวตีแมว เห็นหมาตีหมา” คือ รักสนุก...ร่วมรักทุกรูปแบบ หญิงก็ได้ชายก็ดีไม่มีเลือก แต่ปากก็ยังคงพร่ำพรรณนาว่า “ผมไม่เป็น” ...ก็ไม่เป็นไร

 


กลับมาเรื่อง คนที่ฉันคิดถึงเขาเหลือเกินดีกว่า ยังบอกกับตัวเองเสมอว่า โชคดีเหลือเกินที่ได้รู้จัก “เค้า” ชายที่เข้ามามีอิทธิพลกับหัวใจ ในช่วงสวรรค์ลิขิตรัก เรารู้จักและรักกันอย่างมีเงื่อนไขที่ไม่ผูกมัด และรู้สถานะของตัวเอง เพราะเค้าไม่อยากให้เราละเมิดก้าวก่าย ความเป็นส่วนตัว เกรงว่าเพื่อนคนอื่นจะรู้ ฉันจึงทำตามข้อตกลงและสัญญาใจ เพราะเชื่อว่า หากรักและหลงเค้าจริงๆ แล้ว อะไรก็ยอมหมดล่ะครับ และก็ไม่ควรที่จะให้เค้ามาเป็นนกในกรงทองของเราแต่ฝ่ายเดียว เพราะรักในความเป็นจริงของชีวิตเกย์ คือต้องเข้าใจในสัจธรรม ถ้าคนที่ใช่ก็คือใช่ แต่ถ้าไม่ก็อย่าได้ฝืน รู้จักให้มากกว่าขอและสะกดคำว่าพอดี ให้เกียรติซึ่งกันและกัน

เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แค่ช่วงเวลาที่เอื้ออำนวยของทั้งสองฝ่าย เหมือน “แฟนเก็บ” แต่ฉันก็ยังพร่ำบอกตัวเองเสมอว่า เราไม่ได้ทำผิดศีลธรรมแต่อย่างใด คำว่าแฟนเก็บในที่นี้อันหมายถึง รักกันอย่างปกปิด ไม่เปิดเผยให้ใครรู้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ฉันไปแย่งสามีชาวบ้านเค้ามาครอบครอง เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าเค้ายังโสด ไม่มีแฟน (หญิงจริงหรือชายแท้ ชายเทียม) เลยสักคน วันนี้เราจำพรากจากกัน...แสนไกล เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้น ณ เมืองไทย แต่วันนี้เราทั้งสองจำต้องจากแผ่นดินแม่ เค้าใช้ชีวิตเป็นนักเรียนอยู่อเมริกา ส่วนฉันเป็นแค่สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เข้าอเมริกาทุก ๆ สิบวัน มิหนำซ้ำอยู่กันคนละรัฐ เสมือนอยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า อากาศทางโน้นเหน็บหนาว ด้วยหิมะลงทุกวัน อากาศทางนี้ร้อนตับละลาย ไหม้เกรียม แต่อย่างน้อยเรายังมีโอกาสที่จะส่งอีเมล์เขียนถึงกัน และแชทกันตามเวลาเอื้ออำนวย

เมื่อหลายปีก่อนที่เคยมีแฟน ทำงานอยู่บนเรือด้วยกัน วันที่เขากลับบ้านก่อนกำหนด ด้วยความจำเป็น ฉันร้องไห้เสียน้ำตาไปหลายปี๊บ แม้กระทั่งกำลังเทคออร์เดอร์อาหารจากลูกค้า น้ำตาก็ไหลรินอย่างไม่รู้ตัว แค่มองหน้าเขา ก็ใจหายและเสียใจ เหมือนโลกกำลังจะหยุดหมุน จิตหดหู่ไม่รู้จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร

ฉันมีเพื่อนที่แสนดีและน่ารักคนหนึ่งที่บูชาความรักและศรัทธาเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน เค้าใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยา เกย์ชีวิตคู่ แต่ด้วยความโชคร้าย วันหนึ่งอีกฝ่ายจำต้องพรากจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยกรรมหมดสิ้นบนโลกใบนี้...

 

"เพิ่งรู้ว่าเหนื่อยแค่ไหนที่ต้องใช้ชีวิตลำพัง
ฟ้าทุกเช้ามันอ้างว้างตั้งแต่เธอจากไป
ชีวิตต้องเดินก็รู้ แต่ไม่รู้จะเดินเพื่อใคร
ดาวบนฟ้าคว้ามาได้ ใครจะร่วมชื่นชม
ยามค่ำคืนยังยืนมองขอบฟ้า
เธอสบตากับฉันบ้างหรือเปล่า
คิดถึงเธอ คนที่ดีที่สุด
ถึงแม้ได้พูดในวันที่มันสาย
ยังคงรักเธอ เธอได้ยินฉันไหม
อยู่แห่งไหน หัวใจมีแต่เธอ


เพิ่งรู้ว่าก่อนวันวาน เมื่อเธอนั้นไปไกลลับตา
ใช้ทั้งสองมือไขว่คว้าคงไม่มีค่าใด
ห้องน้อยของเธอกับฉัน ที่วันนั้นมันดูแคบไป
เพิ่งจะรู้มันกว้างใหญ่เกินจะนอนคนเดียว
ยามค่ำคืนยังยืนมองขอบฟ้า เธอสบตากับฉันบ้างหรือเปล่า
คิดถึงเธอ คนที่ดีที่สุด ถึงแม้ได้พูดในวันที่มันสาย
ยังคงรักเธอ เธอได้ยินฉันไหม
อยู่แห่งไหนหัวใจมีแต่เธอ"
(
เพลงเขียนถึงคนบนฟ้า ของ พิง ลำพระเพลิง)


จากวันนั้นถึงวันนี้ ห้าปีผ่านไป เพื่อนรักคนนนี้ยังไม่มีใครและคิดว่าคงจะไม่มีใครอีกต่อไป เส้นทางที่ทำให้เขามีความสุขได้คือ การหันหน้าเข้าหาธรรมะ ประโยคที่เขาบอกกับฉันว่า “อันที่จริงแล้ว ความสุขที่แท้จริงของคนเราไม่ได้อยู่ที่ รูป รส กลิ่น เสียง แต่อย่างใด หากแต่อยู่ที่จิตสงบ และเป็นสุขกับธรรมะที่ชี้แนวทางพ้นทุกข์ การอยู่คนเดียวจึงไม่ได้เป็นปัญหา เราต้องอยู่ด้วยตนเองได้”

ฉันเรียนรู้และศึกษาธรรมนำชีวิต แม้ตัวเองจะไม่หลุดพ้นห่วงวัฏจักรสงสาร แต่อย่างน้อยก็ช่วยเป็นหนทางบางครั้งที่เรามีทุกข์ แต่พยายามจะหาความสุขที่อยู่กับโลกของความจริง และสัจธรรม นี่ล่ะความรักของชีวิตเกย์...

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
สัปดาห์นี้ มีแขกพิเศษมาร่วมบันทึกเรื่องราวจากประสบการณ์จริงของผู้ชาย(ป้ายเหลือง) ที่ถ่ายทอดออกอย่างเป็นธรรมชาติผ่านตัวหนังสือ ชาน่ารู้จักน้อง Once in a blue moon เพราะเค้าเป็นแฟนหนังสือเล่มเก่า “เม้าท์แตก...ชาวเรา” จนเราสนิทสนมแชทคุยกันตลอด จึงอยากให้น้องถ่ายทอดเรื่องราว Untold story เพื่อเป็นอุทาหรณ์ สอนใจ กลั่นลึกจากห้วง ก้นบึ้ง เปิดให้รู้ลึก รู้สึกของชายกลุ่มหนึ่งที่ทำงาน อาชีพ... “ขายบริการ” บางประโยคอาจจะถ่ายทอดอย่างตรงเกินกว่าจะรับได้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเค้า และเค้าเหล่านั้น ลองอ่านดูฮ่ะ...
ชาน่า
เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสไปเข้าร่วมสัมมนาว่าด้วยเรื่อง “สื่อของเกย์และกะเทยในสังคมไทย” ณ ห้องกิ่งเพชร โรงแรมเอเซีย กรุงเทพฯ ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งนี้ได้รับการสนับสนุน โดยมูลนิธิไฮน์ริค เบิลล์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย และศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เริ่มกันตั้งแต่เช้าของวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 9.30 – 10.00 น. ได้เปิดลงทะเบียน รับเอกสาร รับประทานอาหารว่างหลังจากนั้นได้เริ่มแสดงวีดีโอ พรีเซ็นเทชั่น นำโดยคุณโสภิดา วีรกุลเทวัญ พิธีกรในงาน โดยมี ดร.ปีเตอร์ แจ็คสัน กล่าวเปิดงาน ต่อแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนมากมาย การสัมมนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากสื่อต่าง ๆ…
ชาน่า
เมื่อเดือนก่อน ข่าวฮอตสุดฮิตของคนในวงการบันเทิงปรี๊ดทะลุทะลวง เรื่องของ "อ้น" หนุ่มชวนฝันพระเอกช่องน้อยสี ตกเป็นข่าวคลิปฉาว คาวโลกีย์ ขณะร่วมรักกับหญิงสาว ได้ปรากฏสู่สายตามหาชนยิ่งกว่าเรียลลิตี้ทีวีโชว์(เอ็กซ์) "มันเป็นความไม่ตั้งใจ แค่อยากลองด้วยความคึกคะนองและถ่ายเก็บไว้" หรือว่า "ความลับ อาจรั่วไหลได้ ความลับของซูเปอร์สตาร์จะไม่มีในโลก" กรณีของอ้นเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า ความโชคร้ายบางครั้งเกิดเพียงเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความไม่ตั้งใจ ความจนใจเพราะมันแก้ไขอะไรไม่ได้ ไม่ได้เป็นเพราะอ้น ตั้งใจถ่ายทำเพื่อหารายได้มาเกี่ยวข้องแม้แต่นิด ซึ่งแตกต่างจากกรณีของการถ่ายหนังโป๊…
ชาน่า
การประกวดขวัญใจชาวเราหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการประกวดสาวงาม สาวประเภทสองเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายงานการประกวด ที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นสาวมั่น สาวเก่ง สาวร่างใหญ่ สาวไทย สาวเทศ หรือหนุ่มมาดมั่น หวานใจ กายกำยำ หล่อเร้าใจได้โล่ห์ จากหลากหลายสังกัด ผับ บาร์ ห้างร้าน บริษัทที่จัดขึ้น เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551 ชาน่าได้มีโอกาสได้ไปร่วมงานประกวดหนุ่มหล่อ อีกงานหนึ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับลูกค้าและชาวสีลม ซอย 4 นั่นคือ “มิสเตอร์สีลม ซอย 4” ซึ่งการประกวดนี้เค้าจัดขึ้นทุกปี ได้รับการสนับสนุนจากหลายผับ บาร์ในซอย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหา หนุ่มหล่อ ขวัญใจ ชาวสีลม ซอย 4…
ชาน่า
"ก็ฉันชอบเที่ยวมันผิดหรือไง ฉันรักในเสียงดนตรี เมื่อไรเจอจังหวะดี ดี หนึ่งสองสามสี่ถึงมีเฮ เย อี เย อี เย อีเย้ เย อี เย อี เย อี้ เย...." เสียงเพลง playgirl ของ ส้ม อมรา ก้านคอคลับ บ่งบอกให้รู้ว่า นักท่องราตรีหลายคนรักเที่ยวกลางคืน คนกลางคืนไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเป็นคนไม่ดี ด้วยหลากหลายจุดประสงค์ของนักเที่ยว บ้างชอบพบเพื่อนใหม่ บ้างชอบออกกำลังกาย บริการกล้ามเนื้อ เต้นออกเหงื่อ หรือแม้แต่ดูคนอื่นเต้น ชาน่าเป็นคนไม่ดื่ม ไม่เมาแต่ชอบเที่ยว เพราะคิดว่าเป็นอีกหนึ่งการผ่อนคลาย และอีกอย่างเราก็โตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน พักผ่อนหย่อนใจ ฟังเพลง ไม่เสียหายอะไร หรือแม้แต่น้องๆ…
ชาน่า
กลางเดือนสิงหาคม ชาน่าเดินทางถึงเมืองไทย เป็นการพักร้อนในช่วงฤดูฝนพรำ  น้ำท่วม  เศรษฐกิจยังทรุด การเมืองแรง ๆ เข้ามาแทรก  แต่ถึงกระนั้นก็ยังสวนกระแส ไม่ยอมแพ้ต่อสถานการณ์  ตั้งหน้าก้าวต่อไป จึงได้ฟอร์มกับเพื่อน ๆ ที่กรุงเทพฯ ว่าเราจะร่วมกันจัดทำหนังสือเล่มหนึ่ง หลังจากทำธุระกับต้นสังกัดงาน "เดินแบก" ต่างแดนเสร็จ  จึงเร่งรีบทำหนังสือเล่มนี้  "ใช่ว่าจะดอก...ท้อ" ให้จงได้  โดยจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่  ข่าวสาร ความรู้ ความบันเทิง ให้หลายกลุ่มโดยทั่วถึง   อีกอย่างพูดง่าย ๆ คือเป็นความต้องการส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งโครงการทำดีที่เราพอทำได้ …
ชาน่า
สองเดือนที่ผ่านมา ช่วงที่ชาน่ากลับมาพักร้อนเมืองไทย หยิบข่าวมาอ่าน ทั้งเรื่องข่าวบ้านการเมืองและเรื่องรักเรื่องใคร่ ข่าวทั่วไป เรื่องร้ายๆ แรงๆ พอทราบข่าวแล้วน่าเป็นห่วงสังคมไทยในปัจจุบัน นอกจากข่าวการเมืองจะหาที่ยุติไม่ได้ ข่าวร้ายของชาวรักร่วมเพศก็แรงไม่แพ้กัน จำได้ว่าผ่านไปสองเดือน มีข่าวอนาจาร ข่าวน่าสลดที่เกิดขึ้นกับเด็กชายถึงการเป็นเหยื่อหลายราย นสพ.หัวสีหลายเล่มประชันกันทำข่าวเกรียวกราวกันถ้วนหน้า วันนี้อดใจไม่ไหวขอหยิบข่าวหนึ่งที่ร้อนตอนนี้ ไม่แพ้กับข่าวการเมืองนั่นก็คือ เด็กนักเรียนชายโดนบังคับให้อมนกเขา ซึ่งผู้ต้องหานั้นใช่ใคร คือคุณครูของหนูนี่เอง
ชาน่า
ช่วงนี้ “งานเข้า” เรียกได้ว่าหลังจากปิดต้นฉบับหนังสือเรื่อง “ใช่ว่าจะดอก...ท้อ” จีบปากจีบคอ โดยอิชั้นเอง ชาน่า (จำง่าย ๆ กลับผวนได้ใจ หน้าชา ว่าซ้านนนนน) ก็มีงานรับเชิญจากพี่ๆ สื่อมวลชน องค์กร สมาคมและห้างร้านต่าง ๆ เพื่อไปร่วมงานของชาวเรา อันเกี่ยวข้องด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ชาน่าได้ไปร่วมชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า “xxy” ซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชฑูตอาร์เจนติน่าและสมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ องค์การยูเนสโก โครงการประกวดหนังสั้นสีรุ้ง สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย…
ชาน่า
สวีดัด สวัสดีค๊าคุณขา (ดัดเสียงให้สวนกระแสเรื่องเศร้าๆ ทางการเมืองนะฮ้า) กลับมาเมืองไทยนานทีปีละหนสองหน กลับมาคราวนี้มีหลายเรื่องต้องให้ติดตาม ข่าวบ้านการเมือง ร้ายๆ แรงๆ ยังไงๆ ชาน่าเป็นห่วงทุ๊กกกกกกกกกก ทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม ชาน่าอยู่ฝ่ายไทยเลือดไทยทั้งแท่ง... “ความรุนแรงไม่ได้เป็นทางออกของปัญหานะคะ” เลือดไทยด้วยกันอย่าทำร้ายทำลายกันเลยนะ .... แต่ถึงอย่างไรก็ตาม วิถีชีวิตของเราต้องดำเนินเดินทางต่อไปค่า เจตนารมย์และความมุ่งมั่นในการทำหนังสือเพื่อการกุศลของชาน่ากับเพื่อน ๆ นั้นยังไม่หยุด เราจะเดินหน้าต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม กลับมาเรื่องของชาวเรากันบ้าง (…
ชาน่า
ข่าวคาว มาเป็นคราว ๆ กับเรื่องรักน้ำเน่า เจ้านั่น หรือ พ่อคนนี้เป็น “แอ๊บจัง” เป็น “เกย์” หรือไม่ แฟนดารา คู่หมั้นนักร้องดัง อย่างทาทา มีประชาชนชาวไทยอยากรู้ถามไถ่ว่า ป้อจายที่หมายหมั้นแล้วถอนหมั้นคนนั้นเป็นหรือไม่... มากมายหลายคำถาม เพราะสังคมทุกวันนี้มีทางออกและทางเลือกมากมาย ชายใดไม่แต่งงาน บ้างก็ฟันธง “เป็นแน่ๆ เลยสู” ชายใด ชอบชาย อันนี้แน่นอน “เป็นแน่ๆ เลยตัว”
ชาน่า
ความเป็นอิสระเสรีของชีวิตเกย์ ไม่ว่าจะเกย์มีคู่ เกย์สันโดษ เกย์ไม่มีพันธะ จะสังเกตได้ว่า หลายคนชอบเดินทางเพื่อให้รางวัลของชีวิตหรือจะเป็น "การเดินทางที่แสนพิเศษ" เพื่อหลากหลายจุดประสงค์ก็ตาม "แหม..แก ตัวคนเดียว เที่ยวรอบโลก คิดอะไรมากไปเปิดหูเปิดตาซะมั่ง รึหล่อนจะเก็บเงินไว้ซื้อโลงศพฝังเพชรกระไดยิงกันยะ" เสียงของเพื่อนสาวขาเม้าท์แตก การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมที่รองรับเกย์ รักร่วมเพศ นักเดินทางมากมายทั่วทุกมุมโลกที่แสวงหาความสุขทางการเดินทางท่องเที่ยว
ชาน่า
ชาน่าไม่ได้อยู่เมืองไทยเป็นเวลาสิบปีแต่ทุกปีก็จะกลับมาพักร้อนที่เมืองไทย บางข่าวบางเรื่องราวแทบจะเรียกได้ว่า “ตกยุค” ไม่ค่อยอัพทูเดท กับความล้ำ และความแปลกใหม่หลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองไทยจนทำให้ชาวโลกต้องหันมามองถึงความเป็นไปได้ มีเยี่ยงนี้เชียวหรือ อือ...มันแปลกดีนา เมื่อคืนก่อนเห็นข่าวทางสำนักข่าว บีบีซี ถ่ายทำสกู๊ปเรื่อง “ห้องน้ำสีชมพู” ซึ่งเป็นห้องน้ำพิเศษแยกเพศที่สามไว้โดยเฉพาะ เรื่องนี้เกิดขึ้นในสถานศึกษา “ชาน่ารู้จัก ซีสะเก็ต (ศรีสะเกษ) เมื่อคืนฉันเห็นทีวีช่องข่าวบีบีซี น้องสาว (กะเทย) นักเรียนเต็มไปหมดเลย” เพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติถามยามเช้า “ไอ ซี ล้ำ…